แจกสูตรตารางฝึกร้องเพลง Show รายละเอียดหลักสูตรเรียนร้องเพลงออนไลน์ การเรียนรู้เพื่อจูนเสียงให้ไม่เพี้ยน อาจจะใช้เวลาหลายวัน หลายสัปดาห์ หรือเป็นเดือนๆ เพราะฉะนั้น นั้นเรียนจะต้องมีความตั้งใจ ตั้งเป้าหมาย และหมั่นขยันฝึกซ้อมให้มาก นักเรียนที่ผ่านกระบวนการฝึกแบบนี้ แทบจะไม่กลับไปร้องเพี้ยนอีกเลยถ้าผ่านขั้นตอนการฝึกนี้ไปได้ เพราะร่างกาย หู สมองของเราจะจดจำการทำงานที่ถูกต้องไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว วิธีการฝึกร้องเพลงที่ถูกต้อง จากเคล็ดของ อ.ดุษฎี พนมยงค์ บุญทัศนกุล ผู้มีข้อแนะนำวิธีการฝึกร้องเพลงด้วยตนเองง่ายๆดังนี้ 1. ฝึกการหายใจประกอบการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ – เหยียดแขนที่ประสานกันขึ้นเหนือศีรษะ หงายมือขึ้น – หายใจเข้าช้าๆอาจนับ 1 2 3 พร้อมกับเขย่งเท้าขึ้นช้าๆด้วย – กลั้นหายใจไว้ชั่วขณะในสภาพเขย่งเท้า – ค่อยๆผ่อนลมหายใจออกยาวๆนับ 1 2 3 4 5 6 – หายใจเข้าช้าๆ สบาย นับ 1 2 3 ช้าๆไว้ในใจ – ค่อยๆผ่อนลมหายใจออกทางจมูก โดยหุบปากเปล่งเสียง “ฮึ่ม!” – หายใจเข้าช้าๆอีก – คราวนี้จากเสียง “ฮึ่ม” สั้นๆเปลี่ยนเป็น “ฮึ่ม” – หาเพลงที่ท่านชอบมาฟังหลายๆเที่ยว – ลองฮัมตามทำนองเพลงให้ถูกทั้งทำนองและจังหวะ – ร้องด้วยคำว่า “ลา…..” ตามความสูงต่ำของเสียงเพลงตลอดทั้งเพลง – เมื่อแน่ใจแล้วก็ลองร้องทั้งเพลง เทคนิคการร้องเพลงให้เพราะอย่างมืออาชีพ_*_* ที่มา: หนังสือเพลง “มน” เล่ม 2 ปี 2518 เขียนโดย ผู้ใช้นามปากกา “โรส” เครื่องดนตรีใน ตัวมนุษย์ เมื่อลมหายใจออก ผ่านกล่องเสียงที่อยู่บริเวณลำคอ จะทำให้สายเสียงสั่น เสียงสูงๆต่ำๆ ที่เปล่งออกมาอย่างได้จังหวะนี้ เสียงที่เปล่งออกมาได้อย่างแจ่มใส ตรงโน้ต มีกังวานชวนฟังนั้น ในทางตรงข้ามถ้าลมไม่พอ เสียงที่ออกมาจะไม่สดใส บางทีอาจเพี้ยนไป การหายใจจึงเป็นเรื่องสำคัญ ไม่เพียงเป็นผู้ให้ชีวิตเท่านั้น การหายใจแบ่งอย่างคร่าวๆ ได้เป็น 2 ช่วง ช่วงแรก หายใจก่อนร้องเพลง เอาลมไปเก็บไว้ในช่องท้องและปอด การหายใจขณะร้องเพลงจึงเป็นเรื่องหนีไม่พ้น การฝึกการหายใจ แบ่งได้เป็น 3 จังหวะ จังหวะที่หนึ่ง สูดลมหายใจเข้า ให้ตรงดิ่งไปที่ช่องท้องก่อน จังหวะที่สอง เป็นการอัดลมในช่องท้องโดยการเกร็งกล้ามเนื้อที่หน้าท้อง จังหวะที่สาม เป็นการผ่อนลมหายใจ (ถ้าเป็นในขณะร้องเพลง จังหวะนี้จะเป็นจังหวะที่เสียงออกมา) ปัญหาที่มักพบกัน ก็คือปัญหาลมมาอัดอยู่ในคอจนเกิดอาการเกร็งร้องไม่ออก วิธีแก้ คือ ให้หมุนคอไปมา ลมจะออกมาบ้าง ช่วยให้สบายขึ้น การฝึกฝน การหายใจทั้ง 3 จังหวะนี้ ควรทำเป็นประจำทุกวัน เราควรเลือกหายใจตรงไหนดี บางคนเลือกหายใจทุกระยะที่รู้สึกติด ขัด คือลมหมดเมื่อไรก็หายใจเมื่อนั้น บางคนเลือกหายใจเอาที่ระยะหมดประโยคในเพลงซึ่งพอจะแก้ไข ข้อเสียของรายแรกได้ นักร้องที่ฉลาด จะหาจุดหายใจในเพลงของตัวก่อนอย่าง อื่น และซักซ้อมไว้ให้ดีจนคนฟังจับไม่ได้ บางท่านหยุดหายใจพวกคำตายต่างๆที่ต้องลงท้ายด้วยแม่ กก กด กบ อีกที่หนึ่ง ได้แก่บริเวณท้ายประโยคแต่ละตอนของเพลง การฝึกหายใจ เป็นหลักสำคัญ ในการร้องเพลง เพราะ นอกจากนี้การร้องเพลงให้ได้ดี ยังต้องอาศัยองค์ประกอบอื่นอีกมาก หูของตัวจะเป็นครูที่ดีบอกให้รู้ว่า เสียงที่ออกมานั้น มีคุณภาพแค่ไหน แต่แม้จะเตรียม ลูกเล่นไว้มากมาย ถ้าไม่หายใจเตรียมพลังเสียอย่าง ลูกเล่นก็หมดความหมาย จาก จขกท. : สำหรับเรา วิธที่ดีที่สุดคือ “การร้องเพลงออกมาจากใจ” ขอให้ทุกคนมีความสุขกับเสียงอันไพเราะของตัวเองนะครั Share this:Like this:Like Loading... เริ่มฝึกร้องเพลงยังไงเพลงอะไรก็ได้ครับ แต่เริ่มจากฟังให้ดี ฟังทีละเรื่อง เช่น เค้าหายใจยังไงนะ แล้วก็ฝึกตาม แกะเพลงเป็นท่อนๆ ทั้งเรื่อง โน้ต และ จังหวะ เพราะนี่คือพื้นฐานที่สำคัญที่สุด โน้ตถูกต้อง จังหวะไม่คร่อม เราเรียกว่า ร้องเพลงเป็นเพลง พอแม่นแล้วก็ลองร้องตามดูให้พอร้องได้ จะได้รู้ด้วยว่า Vocal Range ของเพลงนี้
พื้นฐานสำคัญของการฝึกร้องเพลงมีอะไรบ้าง✎ พื้นฐานการขับร้อง. ท่าทางการยืน – มีท่าทางที่ดี มั่นใจ ไม่เกรง ปล่อยตามสบาย แต่มั่งคง ซึ่งจะเอื้ออำนวยให้หายใจได้ถูกวิธีและร้องออกมาได้ดี. การหายใจและการควบคุมการใช้ลม – ซี่โครง (rib) ให้ขยายออกได้อย่างสบาย อกไม่ยุบเมื่อหายใจออก หายใจไม่มีเสียงดัง ควบคุมลมหายใจได้ดี และให้คงขยายซี่โครงไว้ตลอดเวลาในขณะร้องเพลง. การร้องเพลงที่ถูกต้องควรปฏิบัติอย่างไรในเวลาร้องเพลง ต้องอยู่ในลักษณะสงบ ไม่เอียงหน้าไปมาในขณะร้อง ไม่เอามือไขว้หลังหรือประสานมือไว้ข้างหน้า ผู้ที่ยังออกท่าทางไม่ได้ก็ควรออกความรู้สึกของบทเพลงบางตอนทางใบหน้าและสายตาเท่านั้นก็พอ หากบางเพลงจำเป็นต้องมีแอ็คชั่นก็ควรฝึกจากผู้สอนที่มีหลักวิธีจะทำให้ความหมายในบทเพลงดีขึ้น
การร้องเพลงมีกี่ขั้นตอน1. ต้องขับร้องเพลงให้มีระดับเสียงสูงต ่าตามและการเอื้อนให้ถูกต้องตามที่ผู้ประพันธ์ได้ประพันธ์ไว้ 2. จังหวะต้องถูกต้องและแม่นย า 3. ออกเสียงให้ถูกต้องตามอักขรวิธี 4. แบ่งวรรคตอนของเนื้อร้องให้ถูกต้องได้ความหมาย 5. ใส่อารมณ์ไปตามเนื้อร้องและท านองของเพลง 6. แสดงบุคลิกภาพและท่าทางให้เหมาะสม
|