Sandisk extreme กับ extreme pro ต่าง กัน อย่างไร

  • การ์ดหน่วยความจำ (Memory Card) คืออะไร ?
  • รูปแบบของ Memory Card ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน !
  • รีวิว Kingston Memory Card Micro SD SDXC Class 10
  • รีวิว Samsung Micro SDXC Card EVO Plus
  • รีวิว SanDisk Ultra MicroSDXC UHS-I 64GB
  • รีวิว SanDisk Extreme Pro microSDXC
  • รีวิว Lexar Micro SDXC Professional 1000x
  • รีวิว Lexar Professional 2000x UHS-II Cards อ่านเร็วถึง 300MB/s และเขียน 260MB/s
  • รีวิว Sony SDXC UHS-II G-Series TOUGH ความเร็วการอ่าน 300 MB/s และเขียน 299 MB/s
  • รีวิว Sony XQD Card G Series ความเร็วการอ่าน 440 MB/s และเขียน 400 MB/s
  • ตารางเปรียบเทียบ รีวิว SD Card /Micro SD Card ยี่ห้อไหนดี ปี 2022
  • การ์ดหน่วยความจำชนิดไหน ที่เหมาะกับคุณ ?
  • วิธีซื้อการ์ดหน่วยความจำที่ดีที่สุดสำหรับกล้องของคุณ
  • บทส่งท้าย

ในปัจจุบันเรามีอุปกรณ์มากมายที่จำเป็นจะต้องใช้หน่วยความจำขนาดเล็กมาเก็บข้อมูลครับ ไม่ว่าจะเป็นพวกกล้องถ่ายรูปต่าง ๆ เช่น กล้องดีเอสแอลอาร์, กล้องมิลเลอร์เลสกล้องถ่ายใต้น้ำกล้องแอคชั่นกล้องคอมแพค, กล้องโพลารอยด์หรือกล้องอินสแตนท์บางรุ่น เป็นต้น หรือพวกสมาร์ทโฟนก็ต้องใช้ โดยเฉพาะสมาร์ทโฟนฝั่ง Android ซึ่งในรุ่นท๊อปอาจไม่ต้องใช้ แต่สมาร์ทโฟนรุ่นเริ่มต้น อย่างรุ่นราคาไม่เกิน 3,000 บาท, 5,000 บาท หรือ 10,000 บาท แทบทุกรุ่นจะต้องใช้ เนื่องจากความจุที่ให้มามันน้อยครับ นอกจากนี้ก็ยังมีอุปกรณ์ประเภทอื่น ๆ อีกเยอะแยะมากมาย อาทิเช่น กล้องวงจรปิดไร้สาย, กล้องติดรถยนต์, โดรน, Nintendo Switch และอื่น ๆ ซึ่งอุปกรณ์ที่ยกตัวอย่างมาทั้งหมดนี้ต่างก็จำเป็นต้องใช้ การ์ดหน่วยความจำ (SD Card) เพื่อให้มันมีประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงขึ้นและสามารถเก็บข้อมูลได้มากขึ้นนั่นเอง

ในบทความนี้เราขอพาคุณไปดู การ์ดหน่วยความจำ (SD Card) ที่ดีที่สุด ตั้งแต่ราคาประหยัด ๆ ไปจนถึงราคาสูง ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งเหตุผลที่มีหลายราคานั่นก็เป็นเพราะว่า SD Card บางตัวมีการเขียนอ่านข้อมูลช้า ในขณะที่ SD Card บางตัวมีการเขียนอ่านข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังมีความทนทานที่เพิ่มขึ้นมาอีก ทำให้ราคามันแตกต่างกันมากนั่นเองครับ

การ์ดหน่วยความจำ (Memory Card) คืออะไร ?

การ์ดหน่วยความจำ (Memory Card) เป็นอุปกรณ์เก็บข้อมูลอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งหน้าที่ของมันก็จะคล้ายคลึงกับ ฮาร์ดดิสก์ของคอมพิวเตอร์ หรือฮาร์ดดิสก์แบบพกพาที่เราใช้ ๆ กันครับ การ์ดหน่วยความจำสมารถเก็บข้อมูลได้โดยไม่ต้องใช้แบตเตอรี่ ซึ่งส่วนที่ใช้บันทึกข้อมูลต่าง ๆ คือ Solid State Chips ครับ มันสามารถควบคุมการเขียน และอ่านข้อมูลได้ด้วยตัวเอง คุณสามารถใช้เก็บข้อมูลต่าง ๆ ที่ต้องการได้ เช่น ภาพถ่าย, วิดีโอ, ข้อมูล หรืออื่น ๆ ครับ

สำหรับ Memory Card ถือว่าเป็นหน่วยความจำที่ได้รับความนิยม เนื่องจากมันมีขนาดเล็ก สามารถเก็บขอมูลได้เยอะ ถ่ายโอนข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว และที่สำคัญมันมีราคาไม่สูง ทำให้ในหลายอุปกรณ์ ต่างก็รองรับหน่วยความจำชนิดนี้ อย่างในแล็ปท็อป, คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค หรือโน๊ตบุ๊คเกมมิ่ง หลาย ๆ รุ่นก็ยังคงมีพอร์ตสำหรับ Memory Card มาให้ ทำให้คุณ ไม่จำเป็นต้องใช้ SD Card Reader หรือ USB Hubs ในการเชื่อมต่อ

รูปแบบของ Memory Card ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน !

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันนี้จะมีเทคโนโลยีไร้สายต่าง ๆ ทำให้คุณถ่ายโอนไฟล์ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใด ๆ เลย อีกทั้งมันยังมีการเก็บข้อมูลบนระบบออนไลน์ได้อีกด้วย แล้วทำไมหลายอุปกรณ์ยังคงมีพอร์ต Memory Card มาให้ ? คำตอบก็ง่าย ๆ ครับ มันใช้งานได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องทำการจับคู่อุปกรณ์ให้ยุ่งยาก ไม่ต้องใช้แอปพลิเคชั่นใด ๆ เพียงแค่ถอด จากนั้นก็นำไปเสียบกับอุปกรณ์ที่คุณต้องการ คุณก็สามารถถ่ายโอนไฟล์ได้แล้ว ซึ่ง Memory Card ก็มีอยู่หลายรูปแบบให้คุณได้ใช้งาน แต่รูปแบบที่ได้รับความนิยมก็จะมีอยู่ 3 แบบ 3 ขนาด หลัก ๆ ดังนี้

Sandisk extreme กับ extreme pro ต่าง กัน อย่างไร
รูปแบบของ Memory Card ที่ได้รับความนิยม มีอยู่ 3 แบบ

SD Card : เป็นแบบที่ได้รับความนิยมสูง มักมีการนำไปใช้งานในกล้องถ่ายภาพ ประเภทต่าง ๆ โดรนถ่ายภาพ หรืออื่น ๆ ตัวการ์ดจะมีขนาดใหญ่ที่สุดหากเทียบกับอีกสองแบบ มีความบาง สามารถพกพาได้ง่าย พร้อมกันนั้นยังมีความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลที่สูงด้วย

Mini SD Card : เป็นรูปแบบที่เราไม่ค่อยได้พบเห็นกันสักเท่าไหร่นัก ซึ่งมันจะมีขนาดอยู่ตรงกลางระหว่าง SD Card กับ MicroSD card ซึ่งก็มักจะใช้กับพวกกล้องภ่ายภาพเช่นกันครับ ส่วนประสิทธิภาพก็ไม่ต่างไปจาก SD Card

MicroSD Card : เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมสูงสุด และจะมีขนาดที่เล็กที่สุดด้วย มักจะมีการนำไปใช้งานกับ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน, กล้องวงจรปิดภายใน, กล้องถ่ายภาพ และ อุปกรณ์อื่น ๆ อีกเยอะแยะมากมายครับ พร้อมกันนั้นมันก็ยังมีความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลไม่ต่างจากสองแบบก่อนหน้านี้

สำหรับ MicroSD Card ส่วนใหญ่มาพร้อมกับ MicroSD to SD card Adapter ซึ่งจะช่วยให้คุณนำไปใช้งานกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้หลากหลายขึ้นครับ สำหรับในวันนี้เราก็ได้รวมรวมเอา Memory Card หลาย ๆ รุ่นมารีวิว เพื่อให้คุณได้เปรียบเทียบ และเห็นถึงข้อแตกต่าง จะได้ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นครับ ซึ่งจะมีรุ่นอะไร ? ราคาเท่าไหร่บ้าง ? ตามไปดูกันเลยครับ

รีวิว Kingston Memory Card Micro SD SDXC Class 10

Sandisk extreme กับ extreme pro ต่าง กัน อย่างไร

รูปภาพจาก kingston.com

ราคา 78 บาท*

Kingston Micro SD SDXC Class 10 เป็นการ์ดที่เหมาะสำหรับเก็บไฟล์ทั่ว ๆ ไปครับ ได้ทั้งไฟล์งาน ไฟล์ภาพ ไฟล์เพลง หรือไฟล์วิดีโอทั่ว ๆ ไป สามารถเขียนอ่านไฟล์ได้อย่างรวดเร็ว โดยมีอัตราการถ่ายโอนข้อมูลขั้นต่ำอยู่ที่ 10MB/s ซึ่งการันตีด้วยแบรนด์คุณภาพอย่าง Kingston ที่มีชื่อเสียงในด้านมีมาอย่างยาวนาน และยังมีเทคโนโลยีที่ช่วยปกป้องข้อมูลของคุณ หมดห่วงเรื่องข้อมูลสูญหาย ให้คุณจัดเก็บไฟล์งานได้อย่างจุใจ ในราคาสุดประหยัด

ความจุ 2 /4 /8 /16 /32 /64 /128 /256GB
Speed Class C10
UHS ClassU1
VS Class -
ความเร็วการอ่าน 80MB/s
ความเร็วการเขียนไม่ระบุ

รีวิว Samsung Micro SDXC Card EVO Plus

Sandisk extreme กับ extreme pro ต่าง กัน อย่างไร

รูปภาพจาก samsung.com

ราคา 104 บาท*

Samsung EVO Plus การ์ดหน่วยความจำคุณภาพสูง สามารถนำไปใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ได้หลากหลาย สามารถเก็บไฟล์ได้ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น ไฟล์ภาพ ไฟล์เพลง ไฟล์วิดีโอ หรือไฟล์อื่น ๆ เขียนอ่านอย่างรวดเร็ว รุ่นนี้สามารถรองรับวิดีโอระดับ 4K /  UHD ได้ อแด็ปเตอร์ SD ที่ให้มารองรับอุปกรณ์ส่วนใหญ่ได้เกือบทุกยี่ห้อ พร้อมทั้งรักษาความเร็ว และประสิทธิภาพที่โดดเด่นของ EVO Plus ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ถือเป็นการ์ดที่ตอบโจทย์การใช้งานในทุกด้าน คุณภาพสูง ราคาคุ้มค่า

ความจุ 32 /64 /128GB
Speed Class C10
UHS ClassU1
VS Class-
ความเร็วการอ่าน 100MB/s
ความเร็วการเขียน 20MB/s

รีวิว SanDisk Ultra MicroSDXC UHS-I 64GB

Sandisk extreme กับ extreme pro ต่าง กัน อย่างไร

รูปภาพจาก th.sandisk.com

ราคา 275 บาท*

SanDisk Ultra MicroSDXC เป็นการ์ดความจุ 64GB ประสิทธิภาพสูง เหมาะสำหรับใช้ในการเก็บไฟล์ถ่ายภาพ ไฟล์วิดีโอที่มีคุณภาพสูง ๆ รวมถึงข้อมูลอื่น ๆ โดยตัวนี้มาพร้อมกับความเร็วในการถ่ายโอนที่รวดเร็วสูงถึง 120MB/วินาที ซึ่งมันถือว่ารวดเร็วมาก สามารถนำไปใช้งานกับสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตได้เป็นอย่างดี ช่วยให้คุณสามารถโหลดแอปพลิเคชั่นได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นด้วยประสิทธิภาพระดับ A1

ความจุ 64GB
Speed Class C10
UHS ClassU1
VS Class-
ความเร็วการอ่าน 120MB/s
ความเร็วการเขียนไม่ระบุ

รีวิว SanDisk Extreme Pro microSDXC

Sandisk extreme กับ extreme pro ต่าง กัน อย่างไร

รูปภาพจาก shop.westerndigital.com

ราคา 369 บาท*

SanDisk Extreme Pro microSDXC เป็นการ์ดที่สามารถมอบความเร็วสูงสุดในการถ่ายโอนข้อมูลให้แก่คุณโดยประสิทธิภาพมีพร้อมทุกด้านทั้งการทำงานของแอปพลิเคชั่นที่มีการจัดอันดับในระดับ A2 และรองรับ U3 กับ V30 ด้วย ช่วยคุณจัดการไฟล์วิดีโอระดับ 4K ได้อย่างง่ายดาย และรวดเร็ว เหมาะอย่างยิ่งกับทั้งสมาร์โฟน, กล้องแอคชั่น หรือโดรน สำหรับการ์ด microSD ประสิทธิภาพสูงนี้ สามารถบันทึกภาพวิดีโอได้ตั้งแต่ระดับ 4K ขึ้นไป ช่วยมอบภาพถ่ายความละเอียดสูง นอกจากนี้ microSDXC ของ SanDisk นี้ ยังมีความเร็วในการอ่านสูงสุด 170MB/วินาที และความเร็วในการเขียนสูงสุด 90MB/วินาที ดังนั้นคุณจะได้รับประสิทธิภาพการใช้งานที่รวดเร็ว ในราคาสุดคุ้มค่า

ความจุ 32 /64 /128/256GB
Speed Class -
UHS ClassU3
VS ClassV30
ความเร็วการอ่าน 170MB/s
ความเร็วการเขียน90MB/s

รีวิว Lexar Micro SDXC Professional 1000x

Sandisk extreme กับ extreme pro ต่าง กัน อย่างไร

รูปภาพจาก shopee.co.th

ราคา 910 บาท*

Lexar Professional 1000x เป็นการ์ด microSDHC/microSDXC USH-II ช่วยให้คุณสามารถจัดเก็บข้อมูล และถ่ายโอนไฟล์มัลติมีเดียได้อย่างรวดเร็ว รวมถึงวิดีโอระดับ 1080p full-HD, 3D ไปจนถึงระดับ 4K ด้วยความเร็วในการอ่านสูงถึง 150MB/s ไม่ว่าคุณจะถ่ายภาพเคลื่อนไหวด้วยกล้องถ่ายวิดีโอ กล้องถ่ายภาพ หรือโดรน คุณก็จะสามารถจับภาพและถ่ายโอนวิดีโอคุณภาพสูง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ตัวการ์ดใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี UHS-II ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพความเร็วในการทำงานสูงสุด และมี USB 3.0 Reader มาในชุดด้วย สำหรับการถ่ายโอนไฟล์ความเร็วสูงขึ้น ซึ่งจะช่วยเร่งเวิร์กโฟลว์ เมื่อใช้เครื่องอ่านที่มาพร้อมกับการ์ด คุณจะได้สัมผัสกับการถ่ายโอนไฟล์ที่ความเร็วสูง สิ่งนี้ช่วยเร่งขั้นตอนการทำงานตั้งแต่ต้นจนจบของคุณ ทำให้คุณมีเวลามากขึ้น

ความจุ 32GB
Speed Class C10
UHS Class U3
VS Class V90
ความเร็วการอ่าน 150MB/s
ความเร็วการเขียนไม่ระบุ

รีวิว Lexar Professional 2000x UHS-II Cards อ่านเร็วถึง 300MB/s และเขียน 260MB/s

Sandisk extreme กับ extreme pro ต่าง กัน อย่างไร

รูปภาพจาก lexar.com

ราคา 2,799 บาท*

Lexar Professional 2000x UHS-II Cards การ์ด SDHC/SDXC คุณภาพสูง มาพร้อมประสิทธิภาพการใช้งานระดับมืออาชีพ ที่คุณสามารถไว้วางใจได้ ช่วยให้คุณสามารถถ่ายโอนไฟล์คุณภาพสูงต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะไฟล์วิดีโอคุณภาพระดับ Full-HD และวิดีโอระดับ 4K ให้คุณใช้งานได้อย่างรวดเร็วด้วยความเร็วในการอ่านสูงถึง 300MB/s และมีความเร็วในการเขียนสูงถึง 260MB/s การ์ดตัวนี้จะช่วยให้คุณได้สัมผัสกับประโยชน์จากเทคโนโลยี UHS-II (UHS Speed ​​Class 3 (U3)) เพื่อมอบประสบการณ์ความเร็วสูงที่คุณไม่เคยพบมาก่อน ซึ่งถึงแม้จะมีราคาค่อนข้างสูง แต่เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพแล้วถือว่าคุ้มครับ

ความจุ 64GB
Speed Class C10
UHS Class U3
VS Class V90
ความเร็วการอ่าน 300MB/s
ความเร็วการเขียน 260MB/s

รีวิว Sony SDXC UHS-II G-Series TOUGH ความเร็วการอ่าน 300 MB/s และเขียน 299 MB/s

Sandisk extreme กับ extreme pro ต่าง กัน อย่างไร

รูปภาพจาก sony.co.th

ราคา 4,399 บาท*

Sony SDXC UHS-II G-Series TOUGH ถือเป็นการ์ด SD ที่มาพร้อมกับความแข็งแกร่งมากที่สุด มีการออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพระดับมืออาชีพโดยเฉพาะ มีการป้องกันการถูกบด การถูกกระแทก และขจัดความเสี่ยงในการแตกหักด้วยตัวการ์ดที่มีโครงสร้างที่หล่อแบบเป็นชิ้นเดียวกันเป็นครั้งแรกของโลก ทั้งยังมีการกันฝุ่นและน้ำในระดับสูงสุดถึง IP68 คุณสามารถมั่นใจในข้อมูลของคุณได้ว่ามันจะไม่เสียหาย หรือหายไปไหนอย่างแน่นอน สามารถรองรับได้ทุก ๆ การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นงานหนักแค่ไหน พร้อมทำงานด้วยความรวดเร็ว โดยความเร็วการเขียนของรุ่นนี้มันเคยเร็วที่สุดในโลกครับ ซึ่งอยู่ที่ 299MB/s และยังความเร็วการอ่าน 300 MB/s สำหรับการถ่ายภาพต่อเนื่องและความละเอียดสูง SD Scan Utility จะตรวจสอบสภาพการ์ดของคุณและแจ้งให้คุณทราบก่อนที่จะถึงขีดจำกัดรอบการเขียน การ์ดประสิทธิภาพสูง ตอบโจทย์ทุกงานของคุณ

ความจุ 64GB
Speed Class C10
UHS Class U3
VS Class V90
ความเร็วการอ่าน300MB/s
ความเร็วการเขียน299MB/s

รีวิว Sony XQD Card G Series ความเร็วการอ่าน 440 MB/s และเขียน 400 MB/s

Sandisk extreme กับ extreme pro ต่าง กัน อย่างไร

รูปภาพจาก sony-asia.com

ราคา 4,590 บาท*

Sony XQD Card G Series มาปิดท้ายกันที่เมมโมรีการ์ดตัวท๊อปสุด มาพร้อมกับคุณภาพที่สูง ใช้เทคโนโลยีใหม่ ซึ่งมันมีการออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพการทำงานระดับมืออาชีพโดยเฉพาะ ตัวบอดี้มาพร้อมโครงสร้างที่หล่อแบบเป็นชิ้นเดียวกัน ทำให้มีความแข็งแกร่งสูงมาก มีการป้องกันการถูกบด  ถูกกระแทก และขจัดความเสี่ยงในการแตกหักได้เป็นอย่างดี การันตีได้เลยว่าข้อมูลของคุณจะไม่มีการเสียหายหรือสูญหาย แต่ถ้ามีข้อผิดพลาดจริงๆ ทาง Sony ก็ยังมี File Rescue ซึ่งเป็นการกู้คืนข้อมูลที่เสียหายหรือสูญหาย โดยมีการใช้งานที่ง่ายพอสำหรับทุกคนที่จะใช้ ในด้านการใช้งานการ์ดตัวนี้ก็หมดห่วงครับ ด้วยความเร็วในการเขียนที่รวดเร็วมาก มันจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการถ่ายภาพต่อเนื่องด้วยกล้อง DSLR ระดับไฮเอนด์ ซึ่งจะจับภาพ RAW ได้มากถึง 200 ภาพแบบต่อเนื่อง และในการบันทึกวิดีโอ 4K ก็ยังมีความเสถียร ด้วยการสื่อสารสองทางบนตัวกล้องที่รองรับ เพื่อจัดการปัญหาคอขวด ช่วยให้คุณใช้งานได้อย่างลื่นไหล ด้วยความเร็วในการอ่านข้อมูลที่สูงถึง 440 MB/s และความเร็วในการเขียนที่สูงมากเช่นกันถึง 400 MB/s ทำให้การทำงานของคุณรวดเร็วขึ้น ให้ภาพราบรื่นขึ้น สามารถถ่ายวีดีโอ 4k ได้อย่างสบาย ไม่สดุด นอกจากนี้หากคุณใช้ร่วมกับเครื่องอ่านการ์ด XQD / SD รวมถึงอะแดปเตอร์ USB ของ Sony ด้วย จะทำให้การ์ดหน่วยความจำ G Series XQD สามารถถ่ายโอนข้อมูลด้วยความเร็วเป็นสองเท่า ของการ์ด Compact Flash ซึ่งถือว่าเร็วที่สุดแล้ว ซึ่งถึงแม้ว่ามันจะมีราคาที่สูงมาก แต่ถ้าเทียบกับประสิทธิภาพที่คุณจะรับมันถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ ครับ

ความจุ 64 /120GB
Speed Class C10
UHS Class U3
VS Class V30
ความเร็วการอ่าน440MB/s
ความเร็วการเขียน400MB/s

* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า

การ์ดหน่วยความจำชนิดไหน ที่เหมาะกับคุณ ?

ปัจจุบัน Memory Card ได้ถูกกำหนด ประเภทความจุการ์ด โดยหน่วยงาน SD Association ซึ่งสามารถแบ่งตามมาตรฐานได้ทั้งหมด 4 แบบด้วยกันครับ ประกอบด้วย SD, SDHC, SDXC และ SDUC ซึ่งประเภทความจุการ์ดเหล่านี้ จะถูกระบุอยู่ในส่วนด้านหน้าของตัวการ์ดแต่ละรุ่นครับ โดยมีสิ่งที่แตกต่างกันหลัก ๆ ก็คือ ความจุสูงสุด และอัตราการโอนถ่ายข้อมูลสูงสุดครับ ซึ่งแต่ละมาตรฐานก็จะมีความจุ และความเร็วการรับส่งข้อมูล ดังนี้

  • SD มีความจุสูงสุดอยู่ที่ 2 GB อัตราการโอนถ่ายข้อมูลสูงสุดอยู่ที่ 25MB/s
  • SDHC – มีความจุอยู่ระหว่าง 4 GB ถึง 32 GB อัตราการโอนถ่ายข้อมูลอยู่ระหว่าง 50 MB/s ถึง 150 MB/s
  • SDXC – มีความจุอยู่ระหว่าง 32 GB ถึง 200 GB อัตราการโอนถ่ายข้อมูลอยู่ระหว่าง 50 MB/s ถึง 312 MB/s
  • SDUC – มีความจุอยู่ระหว่าง 2TB ถึง 128TB ซึ่งแน่นอนว่ามันเกินความจำเป็นไปมากครับ ไม่เหมาะกับผู้ใช้ทั่วไป และที่สำคัญมันมีราคาที่สูงมากในปัจจุบัน

โดย ประเภทความจุการ์ด ทั้ง 4 แบบนี้ ก็จะอยู่ในรูปแบบของ Memory Card ทั้ง 3 แบบ ที่เราได้กล่าวไปในตอนต้น จึงทำให้มีหลาย ๆ คน เกิดความสับสน ดังนั้นก่อนที่คุณทำการเลือกซื้อ ให้คุณสักเกตุบริเวณด้านหน้าของการ์ดครับ มันจะมีสัญลักษณ์ที่ใช้ในการบ่งบอกถึงสเปคของ Memory Card รุ่นนั้น ๆ อยู่โดยสัญลักษณ์แต่ละอย่างก็จะมีความหมายแตกต่างกันไป ซึ่งเราก็ได้แนะนำวิธีการอ่านสเปค ในหัวข้อ วิธีซื้อการ์ดหน่วยความจำที่ดีที่สุดสำหรับกล้องของคุณ ไว้แล้วครับ

วิธีซื้อการ์ดหน่วยความจำที่ดีที่สุดสำหรับกล้องของคุณ

1. เลือกรูปแบบของการ์ดหน่วยความจำ

อย่างที่ได้บอกไปในตอนต้นครับว่า การ์ดหน่วยความจำ มีอยู่ 3 ขนาด หลัก ๆ ซึ่งอันดับแรกคุณก็ต้องเลือกรูปแบบของการ์ดหรือขนาดของการ์ดที่คุณต้องการก่อน เนื่องจากในการ์ดบางขนาดอาจจะไม่สามารถใช้กับอุปกรณ์ของคุณได้ ฉะนั้นคุณต้องรู้ก่อนว่าอุปกรณ์ที่คุณต้องการจะนำการ์ดไปใช้งานด้วยนั้น มันรองรับการประเภทใด ? เพื่อที่จะได้เลือกซื้อย่างถูกต้องครับ

2. เลือกประเภทความจุการ์ด

ประเภทความจุการ์ด ที่ประกอบด้วย SD, SDHC, SDXC และ SDUC จะมีการกำหนดขอบเขตไว้อย่างชัดเจนว่า แต่ละตัวมีความจุเท่าไหร่ถึงเท่าไหร่ และมีอัตราการโอนถ่ายข้อมูลมากน้อยขนาดไหน ดังนั้นวิธีการเลือกใช้ คุณจะต้องพิจารณาจากการใช้งานของคุณเองครับ อย่างเช่น หากคุณต้องการความจุ 128GB ก็ให้คุณมองหา SDXC ครับ แต่ถ้าคุณต้องการความจุเพียงแค่ 32GB คุณสามารถเลือกได้ทั้ง SDHC และ SDXC ครับ ซึ่งต้องดูต่อว่าคุณต้องการความเร็วการถ่ายโอนข้อมูลด้วยหรือไม่ หากต้องการความเร็วด้วย คุณก็ต้องเลือก SDXC ครับ ซึ่ง ณ ปัจจุบันนี้ ราคาของแต่ละตัวก็ไม่ได้ห่างกันมากนัก เว้นแต่ SDUC ที่เพิ่งออกมาใหม่ อาจมีราคาสูงขึ้นมาก ฉะนั้นเราขอแนะนำ SDXC ครับ เพราะมันมีทั้งความจุและความเร็วที่เหมาะสม เพียงพอต่อการใช้งานทั่ว ๆ ไปแล้ว และที่สำคัญมันมีราคาไม่สูงด้วย

3. วิธีการอ่านสัญลักษณ์ต่าง ๆ บน MicroSD Card

Sandisk extreme กับ extreme pro ต่าง กัน อย่างไร
การอ่านสัญลักษณ์ต่าง ๆ บน MicroSD Card

จากภาพ จะมีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกประสิทธิภาพของการ์ดรุ่นนั้น ๆ อยู่ทั้งหมด 3 ตัว ประกอบด้วย Speed Class, UHS Class และ VS Class ซึ่งนอกจากคุณจะเจอประเภทความจุการ์ดบน MicroSD Card รุ่นต่าง ๆ แล้ว คุณจะต้องเจอกับสัญลักษณ์ต่าง ๆ พวกนี้ด้วย โดยจะระบุอยู่ด้านหน้าของการ์ดเช่นกัน บางรุ่นอาจมีครบทั้ง 3 แบบ หรือบางรุ่นอาจมีแค่ 1 – 2 สัญลักษณ์ เท่านั้น ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของการ์ดตัวนั้น ๆ ครับ สำหรับความหมายของสัญลักษณ์ต่าง ๆ มีดังนี้

  1. Speed Class : จะบ่งบอกถึงความเร็วของการ์ดอย่างเช่น Class 2 หรือสัญลักษณ์เป็นตัว C มีเลข 2 อยู่ด้านใน ซึ่งจะบ่งบอกถึง ความเร็วในการเขียนข้อมูล โดยความเร็วต่ำสุดจะอยู่ที่ 2MB/s ครับ หากจะนำไปใช้กับวิดีโอก็จะสามารถรองรับได้แต่วิดีโอคุณภาพต่ำเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันเราขอแนะนำเป็น Class 10 ไปเลยดีกว่า ราคาไม่สูงมาก และเหมาะกับการใช้งานทั่ว ๆ ไป
  2. UHS Class : เป็นคลาสของมาตรฐาน MicroSDHC และ MicroSDXC ครับ UHS ย่อมาจาก Ultra High Speed ก็คือการแสดงถึงประสิทธิภาพในการรองรับข้อกำหนดของความเร็วการโอนถ่ายข้อมูลที่สูงขึ้น เช่น สัญลักษณ์ตัว U ที่มีเลข 1 อยู่ตรงกลาง ก็จะบอกถึงความเร็วในการเขียนข้อมูล โดยมีความเร็วในการเขียนขั้นต่ำที่ 10MB/s คุณสามารถใช้กับวิดีโอคุณภาพระดับ 4K / UHD ได้ 
  3. VS Class : ซึ่งย่ามาจาก Video Class ครับ เป็นการบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการจัดการกับวิดีโออย่างเช่น สัญลักษณ์ตัว V และมีเลข 6 อยู่ตรงกลางก็จะบอกถึงความเร็วในการเขียนข้อมูลโดยมีความเร็วในการเขียนขั้นต่ำที่ 6MB/s นั่นเอง ซึ่งในการจัดการวิดีโอ มันก็จะสามารถจัดการได้ตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงระดับ Full HD ครับ และ ณ ปัจจุบัน ได้ขยับไปถึง V90 แล้ว ซึ่งสามารถรองรับการบันทึกวิดีโอได้ในระดับสูงสุดถึง 8K เลยทีเดียว

คุณสามารถใช้สัญลักษณ์ทั้ง 3 ตัวนี้ ในการเลือกซื้อ MicroSD ที่เหมาะกับคุณได้ง่าย ๆ ครับ โดยเลือกจากจุดประสงค์ในการใช้งานของ หากคุณไม่ได้จะนำไปใช้เก็บไฟล์ที่มีขนาดใหญ่มาก คุณสามารถเลือก MicroSD C10 ตัวธรรมดาได้ครับ ซึ่งความเร็วในการเขียนหรืออ่านก็รวดเร็วแถมยังมีราคาไม่สูงอีกด้วย แต่ถ้าหากคุณต้องการไปใช้กับกล้องวิดีโอที่รองรับคุณภาพสูงๆ อย่างกล้องแอคชั่น คุณก็ต้องเลือกมาตรฐานที่สูงขึ้นมาหน่อย เพื่อประสิทธิภาพที่ดีกว่าครับ

4. ความจุ (Capacity)

เมื่อเลือกจากมาตรฐานได้แล้ว คุณก็ต้องมาพิจารณาที่ความจุครับ หากคุณซื้อ MicroSD Card ที่มีความจุต่ำๆ แล้วคุณมีกล้องที่ผลิตไฟล์ความละเอียดสูง MicroSD Card ของคุณก็จะเต็มอย่างรวดเร็ว และคุณจะต้องเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาบ่อย ๆ ดังนั้นถ้าหากคุณชอบถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอที่มีความละเอียดสูง ๆ คุณก็ควรซื้อ MicroSD Card ที่มีความจุสูง ๆ ไปเลยดีกว่าครับ ซึ่งก็มีให้เลือกตั้งแต่ 64GB ถึง 256GB เป็นช่วงความจุที่กำลังพอดี

บทส่งท้าย

MicroSD Card จะซื้อให้คุ้มต้องดูการใช้งานของคุณเองว่า ต้องการนำไปใช้ในด้านไหนเป็นหลัก หากใช้กับพวกสมาร์ทโฟน ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ MicroSD Card ที่มีอัตราการโอนถ่ายข้อมูลสูง ๆ หรือถ้าหากคุณจะนำไปใช้กับโดรนติดกล้องคุณก็ควรดูที่ความละเอียดของภาพที่ต้องการ ถ้าหากอยากได้ภาพความละเอียดสูง ๆ คุณก็ต้องเผื่อความจุไปหน่อยครับ และรวมถึงดูอัตราการโอนถ่ายข้อมูลสูง ๆ ด้วย เพื่อที่มันจะได้ช่วยให้การถ่ายโอนข้อมูลของคุณรวดเร็วยิ่งขึ้น สุดท้ายนี้เราก็หวังว่า ข้อมูลที่เราได้รวบรวมมาทั้งหมด มันสามารถทำให้คุณพิจารณาเลือก MicroSD Card ที่เหมาะกับคุณได้ง่ายขึ้นนะครับ