เมื่อ เราพูดถึงกระดาษขนาด 70 แกรม กับ 60 แกรม เราคงพอจะรู้กันว่ากระดาษที่มีจำนวนแกรมมากว่า คือกระดาษที่มีขนาดหนากว่ากันอยู่แล้วใช่ไหมครับ แต่เราเคยสงสัยกันมั้ยว่า แกรมที่ว่านี้ มันคืออะไรวัดกันยังไง จริง ๆ แล้ว คำว่าแกรมนี้ ก็คือกรัม (gram) นั่นเองครับ เป็นหน่วยที่เราใช้วัดมวลกระดาษว่า เมื่อนำกระดาษชนิดหนึ่ง ๆ ที่มีพื้นที่ 1 x 1 ตารางเมตรมาชั่งแล้ว จะมีน้ำหนักกี่กรัม (แกรม) ฉะนั้น กระดาษขนาด 120 แกรม จึงหมายถึงกระดาษขนาด ที่มีน้ำหนัก 120 กรัม / ตารางเมตร นั่นเอง Show
ใน ทางกระบวนการพิมพ์แล้ว กระดาษที่มีจำนวนแกรมน้อย (บาง) จะทำให้แสงส่องผ่านได้มากกว่า เมื่อทำการพิมพ์ไปแล้วจึงมีโอกาสเป็นไปได้มากที่จะมองทะลุไปเห็นหน้าตรงข้าม ทำให้ดูแล้วไม่สวยงามแล้วยังรบกวนการอ่านด้วยครับ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็จะต้อง balance เรื่องของความหนาให้เหมาะสมกับจำนวนหน้าและประเภทของหนังสือที่พิมพ์ให้ดี ด้วย หนังสือที่หนามากไม่ควรจะใช้กระดาษที่หนาเกินไป เพราะจะทำให้หนักและหนาไม่น่าอ่าน อีกทั้งยังส่งผลโดยตรงต่อราคาต้นทุนด้วยครับ ส่วนหนังสือที่มีจำนวนหน้าน้อย การใช้กระดาษที่หนาขึ้นมานิดนึง อาจจะทำให้ต้นทุนสูงขึ้นนิดหน่อย แต่ก็จะทำให้หนังสือไม่บางจนเกินไป ดูแล้วสวยงามไม่น่าเกลียดครับ แกรมที่เหมาะสมสำหรับการพิมพ์เนื้อหาด้านในคือ 70 – 80 แกรมครับ ส่วน การพิมพ์หน้าปกนั้น ต่างจากการพิมพ์เนื้อหาด้านในอยู่ เพราะปกเป็นสิ่งที่ห่อหุ้มไส้ในไว้ จึงจำเป็นจะต้องแข็งแรงและปกป้องอายุของหนังสือ ไว้ได้นานระดับหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นสิ่งแรกสุดที่ผู้อ่านเห็น หน้าปกที่สวยงามดึงดูดตาจึงเป็นสิ่งจำเป็น กระดาษที่ใช้จึงจะต้องหนาและเหมาะสมแก่การพิมพ์ปก ทางโรงพิมพ์แนะนำให้ใช้ 120 แกรมขึ้นไปสำหรับการพิมพ์ปกครับ จำนวนแกรมที่นิยมใช้ในงานต่าง ๆ จะเป็นประมาณนี้ครับ ชนิดของกระดาษ ชนิด ของกระดาษเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่แปรผันตรงกับต้นทุนการพิมพ์ครับ กระดาษที่ดีมีคุณภาพสูงจะให้งานที่ออกมาดูดี สวยงามและคงทน แต่ก็จะทำให้ต้นทุนสูงตามไปด้วย เหมาะกับงานที่ต้องการความประณีตสูง เก็บไว้ใช้งานได้นาน กระดาษคุณภาพรองลงมาอาจจะใช้สำหรับงานที่ไม่ต้องการความสวยงามมาก หรือไม่ต้องการเก็บไว้นาน เช่น ใบปลิว หนังสือพิมพ์ อะไรแบบนี้ครับ กระดาษอาร์ต +กระดาษอาร์ตมัน เนื้อกระดาษเรียบ เป็นมันเงา พิมพ์งานได้ใกล้เคียงกับสีจริง สามารถเคลือบเงาได้ดี ความหนาของกระดาษมีดังนี้ 85 แกรม, 90 แกรม, 100 แกรม, 105 แกรม,120 แกรม , 130 แกรม, 140 แกรม, 160 แกรม +กระดาษอาร์ตด้าน เนื้อกระดาษเรียบ แต่เนื้อไม่มัน พิมพ์งานสีจะซีดลงเล็กน้อย แต่ดูหรู ความหนาของกระดาษมีดังนี้ คือ 85 แกรม, 90 แกรม, 100 แกรม, 105 แกรม, 120 แกรม ,130 แกรม, 140 แกรม, 160 แกรม +กระดาษอาร์ตการ์ด 2 หน้า เป็นกระดาษอาร์ตที่หนาตั้งแต่ 190 แกรมขึ้นไป เหมาะสำหรับพิมพ์งานโปสเตอร์ โปสการ์ด ปกหนังสือ หรืองานต่างๆ ที่ต้องการความหนา +กระดาษอาร์ตการ์ด 1 หน้า เป็นกระดาษอาร์ตที่มีความแกร่งกว่ากระดาษอาร์ตการ์ด 2 หน้า หนาตั้งแต่ 190 แกรมขึ้นไป เหมาะสำหรับพิมพ์งานที่ต้องการพิมพ์แค่หน้าเดียว เช่น กล่องบรรจุสินค้าต่างๆ โปสเตอร์ โปสการ์ด ปกหนังสือ เป็นต้น กระดาษปอนด์ กระดาษปรู๊ฟ กระดาษแบงค์ กระดาษแอร์เมล์ เครดิต
“กระดาษ” เป็นสิ่งที่จำเป็นมากสำหรับงานเอกสารไม่ว่าจะเป็น แผ่นพับ รายงานการประชุม โบรชัวร์ เอกสารสำคัญต่าง ๆ ย่อมมีความจำเป็นเป็นต้องใช้สื่อกลางอย่างกระดาษกันทั้งนั้นค่ะ ถือเป็นผลิตภัณฑ์อย่างหนึ่งที่จะต้องใช้ในสำนักงาน เพื่อปริ้นข้อมูล/เอกสารสำคัญ นอกจากนั้นกระดาษ A4 ยังเป็นอะไรที่จำเป็นต่อนักเรียนและนักศึกษาอีกด้วย เพราะจะได้ใช้สำหรับการเขียนสรุปความรู้ด้วย ปากกาลูกลื่น, ปากกาเจล, ดินสอกด, ปากกาไวท์บอร์ด หรือ ปากกาเน้นข้อความ ลงบนกระดาษ ทั้งนี้กระดาษที่มีขนาดมาตรฐานอีกทั้งยังเป็นที่นิยมมากที่สุดก็คือกระดาษที่มีขนาด 8.27 x 11.69 นิ้ว หรือที่เราเรียกกันว่ากระดาษ A4 นั่นเองค่ะ โดยกระดาษ A4 เป็นกระดาษที่หลายคนมักจะซื้อกันไว้ทำงานแต่บางครั้งก็ไม่ได้คำนึงถึงขนาดความหนาของมันว่าจะเหมาะกับเครื่องพิมพ์ของเราหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องปริ้นเตอร์ทั่วไป หรือ เครื่องปริ้นเตอร์ไร้สาย อีกทั้งกระดาษบางยี่ห้อยังมีความหนืดและติดเครื่องพิมพ์ทำให้เครื่องพิมพ์เรามีปัญหาอยู่บ่อยครั้ง ปัญหาเหล่านี้จะหมดไปค่ะ เพราะวันนี้เรามีคำแนะนำในการเลือกกระดาษมาฝากกัน อีกทั้งยังมีกระดาษขนาด A4 หากหลายยี่ห้อมาแนะนำให้คุณได้เลือกซื้อกันอีกด้วย วิธีการเลือกกระดาษที่ดีที่สุดสำหรับคุณ1. ความสว่างของกระดาษแผ่นกระดาษสีขาวสดใสนั้นเรียบเนียนกว่าและไม่มีพื้นผิวทำให้เหมาะสำหรับการพิมพ์สองหน้าคุณภาพสูง ความสว่างของกระดาษทำให้มั่นใจได้ว่าสามารถพิมพ์ทั้งสองด้านได้โดยไม่ต้องมีหมึกไหลผ่านด้านอื่น 2. ความหนาของกระดาษกระดาษสำหรับพิมพ์ส่วนใหญ่จะมีขนาดแกรมระหว่าง 60 – 120 แกรม แต่ขนาด 80 แกรมเป็นขนาดของกระดาษแบบมาตรฐานซึ่งหลาย ๆ คนนิยมใช้กันมากที่สุด และจะมีกระดาษประเภทหนึ่งที่แตกต่างออกไปคือกระดาษ 160 แกรม กระดาษประเภทนี้จะเป็นกระดาษการ์ด ซึ่งเป็นกระดาษที่ให้คุณภาพของงานเอกสารได้สูงค่ะ แต่คุณเองก็ไม่ควรเลือกกระดาษที่มีขนาด 60 แกรมเพราะมันเป็นกระดาษที่บอบบางมากจนเกินไปและขาดง่ายนั่นเองค่ะ 3. สีของกระดาษสีก็เป็นปัจจัยหนึ่งในการเลือกกระดาษ เพราะหากคุณทำงานเอกสารสำนักงาน กระดาษ A4 สีขาวจะเหมาะกับคุณที่สุด แต่หากต้องการทำหน้าปกหรือการ์ด ควรเลือกกระดาษแบบสีหรือกระดาษการ์ดเพื่อช่วยให้งานของคุณดูโดดเด่นขึ้นนั่นเองค่ะ 4. ประเภทของเครื่องพิมพ์กระดาษมีหลายประเภทและถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างหลากหลายและเหมาะสำหรับเครื่องพิมพ์ประเภทต่าง ๆ ความแตกต่างที่สำคัญมีดังนี้
กระดาษที่คุณเลือกจะเป็นตัวกำหนดคุณภาพของเอกสารได้ และมันก็ค่อนข้างยากที่จะแยกแยะตัวเลือกต่าง ๆ เนื่องจากคุณไม่สามารถบอกความแตกต่างได้โดยการดูกระดาษด้วยตาเปล่า อย่างไรก็ดีข้อสำคัญเลยอย่างหนึ่งที่คุณสามารถเลือกได้นั่นคือการดูจากความหนาและชนิดของกระดาษที่เข้ากับเครื่องพิมพ์ของคุณได้ค่ะ ตอนนี้เราไปเลือกกระดาษที่เหมาะกับคุณกันค่ะ รีวิว กระดาษถ่ายเอกสาร A4 70 แกรม Copy Bossราคา 75 บาท* Copy Boss รุ่นนี้จะมาในความหนา 70 แกรม เมื่อคุณนำไปปริ้นแล้วจะได้ภาพและสีที่มีความคมชัด สามารถใช้ควบคู่ไปกับเครื่องพิมพ์ได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น เครื่อมพิมพ์ดีด, เครื่องอิงค์เจ็ท หรือเครื่องเลเซอร์ก็ปริ้นได้ทั้งหมด ในขณะเดียวกันกระดาษก็ช่วยทำให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย เพราะสามารถใช้ได้ทั้งสองหน้าและกระดาษก็ยังมีความแข็งแรงอีกด้วย
รีวิว กระดาษถ่ายเอกสาร A4 HP 70 แกรมราคา 78 บาท* กระดาษของทาง HP จะใช้ได้ทั้งสองหน้า โดยโครงสร้างของกระดาษจะดี มีทั้งความหนาและเรียบเนียน ไม่เกิดการฉีกขาดง่าย เนื่องจากกระบวนการผลิตกระดาษเป็นแบบพิเศษ เป็นสูตรของทาง HP โดยเฉพาะที่เรียกกันว่า Ultra Performance Formula ถ้าจะบอกว่าเป็นกระดาษเกรดระดับพรีเมี่ยมก็คงไม่ผิดครับ ใช้ได้ทั้งการทำงานและการเรียนการสอน
รีวิว Tiger กระดาษ A4ราคา 80 บาท* กระดาษจากยี่ห้อ Tiger รุ่นนี้เป็นกระดาษ A4 ซึ่งมีสีกระดาษขาวนวล ไม่สะท้อนแสง อ่านสบายตา เพื่องานคุณภาพ เนื้อกระดาษแข็งแรง ไม่โค้งงอ ลดปัญหากระดาษติดเครื่องถ่ายเอกสาร อีกทั้งยังสามารถถ่ายเอกสารได้ถึง 2 หน้า ถ่ายง่ายเพราะกระดาษมีความบาง อีกทั้งยังสามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย
ราคา 87 บาท* กระดาษชนิดนี้เป็นกระดาษการ์ด เนื้อกระดาษเนียน หนา คุณภาพดี ผิวเรียบสม่ำเสมอ กระดาษสีสวย เนียนสม่ำเสมอตลอดแผ่น สามารถใช้งานได้ทั้ง 2 หน้า เหมาะสำหรับพิมพ์การ์ดอวยพร นามบัตร ทำปกรายงาน ใบประกาศนียบัตร และงานศิลปะ ฯลฯ ใช้ได้ทั้งงานเขียน เครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท และเครื่องพิมพ์เลเซอร์
รีวิว Idea Max กระดาษถ่ายเอกสาร A4ราคา 94 บาท* ไอเดีย แมกซ์ เป็นกระดาษคุณภาพระดับพรีเมี่ยม ด้วย Ultra Performance Formula ใหม่ล่าสุดจาก SCG Paper ซึ่งช่วยลดปัญหาการมองทะลุหลังเมื่อพิมพ์ข้อความลงบนกระดาษทั้งสองหน้า ช่วยให้งานพิมพ์เรียบร้อย สวยงาม อ่านง่าย ไม่ลายตา จึงใช้งานกระดาษได้อย่างเต็มประสิทธิภาพทั้งสองหน้า ลดจำนวนการใช้กระดาษทึบแสงกว่า เนื้อกระดาษขาวกว่า หนา เรียบเนียนิใช้ได้กับเครื่องพิมพ์เลเซอร์ อิงค์เจ็ต และเหมาะกับอุปกรณ์สำนักงานทุกชนิด
รีวิว Idea Green กระดาษถ่ายเอกสาร A4ราคา 110 บาท* กระดาษไอเดีย กรีน มีนวัตกรรมกระดาษเพื่อสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำ EcoFiber มาเป็นส่วนประกอบในการผลิตแทนการใช้เยื่อจากต้นไม้ จึงช่วยลดการใช้ต้นไม้ใหม่ลงกว่า 40% และยังเป็นกระดาษถ่ายเอกสารระดับพรีเมี่ยมที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน “ฉลากเขียว” จากสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยเป็นรายแรก เนื้อกระดาษขาวสะอาด หนา เรียบเนียน คุณสมบัติเทียบเท่ากระดาษที่ผลิตจากเยื่อกระดาษใหม่ 100% สามารถใช้งานได้ทั้งสองหน้า ใช้ได้กับเครื่องพิมพ์เลเซอร์ อิงค์เจ็ต และเหมาะกับอุปกรณ์สำนักงานทุกชนิด ทางแบรนด์เคลมมาว่าผ่านการทดสอบแล้วว่าใช้ถ่ายเอกสารต่อเนื่องได้ถึง 10,000 แผ่น โดยไม่ติดเครื่อง
รีวิว Hi-Jet กระดาษเคลือบพิเศษผิวกึ่งมันเงากึ่งด้าน
ราคา 515 บาท* กระดาษจาก Hi - Jet รุ่นนี้เป็นกระดาษเคลือบพิเศษ ผิวกึ่งมันเงากึ่งด้าน เหมาะสำหรับใช้พิมพ์กับเครื่องพิมพ์ Inkjet เและหมาะสำหรับงานพิมพ์คุณภาพ ให้ภาพคมชัด สวยสดใสทุกเฉดสี ช่วยสร้างสรรด์ผลงาน จากฝีมือคุณเอง ด้านหลังกระดาษเคลือบเรซิน (RC Base) กันน้ำ และช่วยยืดอายุการใช้งานกระดาษให้มากขึ้น เหมาะสำหรับการพิมพ์ ภาพถ่ายทั่วไป งานโฆษณา งานกราฟิค พรีเซ็นเทชั่น โปสเตอร์ การ์ด นามบัตร ฯลฯ
รีวิว Double A กระดาษถ่ายเอกสารราคา 535 บาท* กระดาษยี่ห้อนี้เป็นยี่ห้อที่หลาย ๆ คนคุ้นเคยเป็นอย่างดีนั่นก็คือ กระดาษจาก Double A นั่นเองค่ะ กระดาษชนิดนี้มีคุณสมบัติพิเศษ 7 ประการ คือไม่ติดเครื่องถ่ายเอกสาร ให้ความคมชัดในการพิมพ์สูง สามารถถ่ายเอกสารได้ 2 ด้าน ตัวกระดาษมีสีขาวสว่าง สามารถช่วยยืดระยะเวลาของเอกสารอัดสำเนา กระดาษมีความเรียบลื่นติดหมึกได้ง่าย
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับกระดาษ A4 ที่เราได้แนะนำไปในวันนี้ เราหวังว่าทุกท่านคงจะสามารถเลือกใช้กระดาษได้อย่างเหมาะสมกับงานนั้น ๆ ได้นะคะ และก่อนจะจากกันวันนี้ เราก็มีเทคนิคในการดูแลกระดาษมาฝากกันค่ะ
ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นวิธีที่ง่ายมาก ๆ เลยใช่ใหม่คะ แล้วอย่าลืมเอาไปทำตามกันนะคะ เพื่อจะได้คงสภาพกระดาษของคุณไว้อย่างยาวนานนั่นเองค่ะ Hi everyone , I'm a graduate of Faculty of Humanities and Social Sciences, Thai major of Thaksin University. Let's enjoy to read. :) กระดาษ A4 70 แกรมคืออะไรถ้าถามว่ากระดาษถ่ายเอกสารทั่วไป หลายคนคงบอกได้ว่าเป็น A4 หนา 70 แกรม กับ 80 แกรม เราคงพอจะรู้กันว่ากระดาษที่มีจำนวนแกรมมากกว่า คือกระดาษที่มีขนาดหนากว่ากันอยู่แล้วใช่ไหมครับ แต่เราเคยสงสัยกันมั้ยว่า แกรมที่ว่านี้ มันคืออะไรวัดกันยังไง จริง ๆ แล้ว คำว่าแกรมนี้ ก็คือกรัม (gram) นั่นเองครับ เป็นหน่วยที่เราใช้วัดมวลกระดาษ ...
แกรมกระดาษต่างกันยังไง“แกรม” ไม่ใช่ความหนากระดาษ ที่จริงแกรม คือ น้ำหนักกรัมต่อกระดาษ 1 ตารางเมตร (gsm ย่อมากจาก gram per square meter) เช่น กระดาษ 350 แกรม คือ กระดาษขนาด 1 ตารางเมตร ที่มีน้ำหนัก 350 กรัม / กระดาษ 80 แกรม คือกระดาษ 1 ตารางเมตร ที่มีน้ำหนัก 80 กรัม เป็นต้น
กระดาษเอ4ปกติใช้กี่แกรมความหนาของกระดาษ : ความหนาของกระดาษมีหน่วยเป็นแกรม กระดาษถ่ายเอกสารที่ดี ควรมีความหนาอยู่ที่ประมาณ 70 – 80 แกรม จะเป็นมิตรกับเครื่องปริ้นและเครื่องถ่ายเอกสารมากที่สุด แต่ถ้าต้องการงานพิมพ์ที่มีคุณภาพ เช่น การพิมพ์ภาพถ่าย หรือภาพกราฟิก ก็สามารถเลือกกระดาษที่มีความหนามากกว่า 80 แกรม (90-120 แกรม) ก็ได้ แต่ต้องดูสเปคของ ...
80 แกรม คืออะไรกระดาษ 80gsm = กระดาษน้ำหนัก 80 กรัม/1 ตรม.
สาเหตุที่เราต้องมีหน่วยวัดน้ำหนักกระดาษ เพราะกระดาษแต่ละชนิดมีความบางมาก ทำให้การวัดความหนาค่อนข้างยาก เราจึงใช้การวัดน้ำหนักกระดาษแทน ตามหลักการที่กล่าวไปข้างต้น ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ด้วยว่า กระดาษหนาย่อมมีน้ำหนักมากกว่ากระดาษบาง จึงเป็นที่มาของคำว่า แกรม (gsm)
|