1) คำจำกัดความระเบียบบรรจุภัณฑ์ ฉบับใหม่ ได้ขยายความในความหมายของสิ่งที่ถือว่าเป็น “บรรจุภัณฑ์” มากขึ้น โดย Show คำว่า “บรรจุภัณฑ์” หมายถึง สินค้าทุกชนิดที่ทำจากวัสดุใดๆ ที่นำมาใช้สำหรับห่อหุ้ม ป้องกัน ลำเลียง จัดส่ง และนำเสนอสินค้า ตั้งแต่วัตถุดิบถึงสินค้าที่ผ่านการผลิต ตั้งแต่ผู้ผลิตถึงผู้ใช้หรือผู้บริโภค “บรรจุภัณฑ์” ประกอบด้วย:
การตีความหมายของคำว่า “บรรจุภัณฑ์” ให้ถือตามเกณฑ์ต่อไปนี้:
2) ข้อกำหนดของระเบียบบรรจุภัณฑ์ระเบียบบรรจุภัณฑ์ฯ มีข้อกำหนดหลัก 2 ด้านคือ 1)ข้อกำหนดด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์ และ 2) ข้อกำหนดด้านการจัดการซากบรรจุภัณฑ์ 1) ข้อกำหนดด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์1.1. บรรจุภัณฑ์ต้องปราศจากโลหะหนัก:บรรจุภัณฑ์ต้องปราศจากโลหะหนัก 4 ชนิดได้แก่ ตะกั่ว (Pb) ปรอท (Hg) แคดเมียม (Cd) และโครเมียมเฮกซะวาเลนซ์ (Cr+6) โดยยอมให้มี Pb, Hg, Cd, Cr+6 รวมกัน ในบรรจุภัณฑ์หรือส่วนประกอบของบรรจุภัณฑ์ต้องไม่เกิน 100ppm โดยน้ำหนัก ทั้งนี้ไม่รวมบรรจุภัณฑ์ที่วัสดุทั้งหมดทำจากแก้วคริสตัล-ตะกั่ว ระวัง!!! รายการสารต้องห้าม ระดับความเข้มข้น และวิธีคิดปริมาณสารต้องห้าม ของระเบียบบรรจุภัณฑ์ ไม่เหมือนกับ RoHS!1.2. ข้อกำหนดเฉพาะสำหรับการออกแบบบรรจุภัณฑ์
1.3. การทำเครื่องหมายระเบียบบรรจุภัณฑ์ กำหนดให้ทำเครื่องหมายระบุชนิดของวัสดุที่ใช้ทำบรรจุภัณฑ์ เพื่อช่วยในการจัดเก็บ-คัดแยก การใช้ซ้ำ และการรีไซเคิลขยะบรรจุภัณฑ์ โดยมีมติคณะกรรมาธิการที่ 97/129/EC กำหนดระบบการบ่งชี้วัสดุที่ใช้ในบรรจุภัณฑ์ ซึ่งเป็นระบบการชี้บ่งโดยใช้ตัวเลขชี้บ่งและชื่อย่อของวัสดุ เช่น หมายเลข 1-19 สำหรับพลาสติก 20-39 สำหรับกระดาษ กระดาษลูกฟูก 40-49 สำหรับโลหะ (40 สำหรับเหล็ก 41 สำหรับอลูมิเนียม) 60-69 สำหรับสิ่งทอ 70-79 สำหรับแก้ว เป็นต้น 2) การจัดการขยะบรรจุภัณฑ์2.1. การนำทรัพยากรกลับคืนและการรีไซเคิล:ระเบียบบรรจุภัณฑ์กำหนดให้ประเทศสมาชิกต้องจัดระบบสำหรับการรับคืน และ/หรือ เก็บคืนซากบรรจุภัณฑ์ที่ใช้แล้ว ในพรมแดนของตน โดยตั้งเป้าหมายขั้นต่ำ ในการนำทรัพยากรกลับคืน (Recovery) และการรีไซเคิลดังนี้:
หมายเหตุ: เป้าหมายที่ระบุเป็นเป้าหมายโดยน้ำหนักของขยะบรรจุภัณฑ์ 2.2 ความรับผิดชอบของผู้ผลิต:แต่ละประเทศสามารถเลือกใช้ระบบใด ในการบริหารจัดการขยะบรรจุภัณฑ์ เพื่อให้ได้ตามเป้าหมายที่กล่าวข้างต้นก็ได้ แต่ส่วนใหญ่แล้ว เกือบทุกประเทศเลือกระบบที่ให้ผู้ผลิตเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดหรือบางส่วน ผู้ประกอบการต้องทำให้มั่นใจได้ว่า ขยะบรรจุภัณฑ์ของตนจะถูกเก็บ คืนทรัพยากร และรีไซเคิล โดยส่วนใหญ่
ผู้ประกอบการมีทางเลือกในการปฏิบัติหน้าที่ของตนได้ 2 ทางคือ 3) แนวทางการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านการออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่นำเข้าตลาดสหภาพยุโรป ต้องได้ตามข้อบังคับการออกแบบที่กล่าวข้างต้น โดยทั่วไปแล้ว ผู้ประกอบการมีทางเลือก 3 ทางในการแสดงการเป็นไปตามข้อกำหนด แต่ไม่ว่าจะเลือกใช้ทางเลือกใด ผู้ประกอบการจะต้องเตรียมเอกสาร (Technical File) ไว้ให้พร้อม เพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ในกรณีถูกร้องขอ ทางเลือกที่ 1: ใช้ Harmonized Standards ของสหภาพยุโรป (มาตรฐาน EN) CEN (องค์กรการมาตรฐานของสหภาพยุโรป) ได้ออกมาตรฐานหลายฉบับ สำหรับประเมิน การเป็นไปตามข้อกำหนดของระเบียบบรรจุภัณฑ์ มาตรฐานเหล่านี้ได้ประกาศลงใน Official Journal of the European Union – Com 2005/C 44/13)
ซึ่งมีผลทำให้ บรรจุภัณฑ์ที่ได้ตามมาตรฐานเหล่านี้ มีลักษณะสมบัติได้ตามข้อกำหนดของระเบียบบรรจุภัณฑ์ และประเทศสมาชิกไม่สามารถกีดกัน ไม่ให้นำเข้าบรรจุภัณฑ์ที่ได้ตามมาตรฐานที่กล่าวนี้ได้ ปัจจุบัน มาตรฐานยุโรปที่เกี่ยวข้องกับข้อบังคับของระเบียบบรรจุภัณฑ์ มี 6 รายการดังนี้
ทางเลือกที่ 2: ใช้ มาตรฐานระดับประเทศ ผู้ประกอบการอาจเลือกใช้มาตรฐานระดับประเทศที่เกี่ยวข้องได้ แต่เนื่องจากมาตรฐานเหล่านี้ไม่ใช่ “Harmonized Standards” ในสหภาพยุโรป สินค้าที่เป็นไปตามมาตรฐานระดับประเทศจึงไม่ได้รับสิทธิในเรื่อง “Presumption of conformity” ทางเลือกที่ 3: ใช้ การสำแดงตนเอง ผู้ประกอบการสามารถเลือกสำแดงตนเองว่าบรรจุภัณฑ์ที่ผลิตได้ตามข้อกำหนดของระเบียบ บรรจุภัณฑ์ ก็ได้ แต่จำเป็นต้องมีการประเมินตนเองตามขั้นตอนที่ได้มาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับ หาข้อมูลเพิ่มเติม?
|