ข้อใดคือสิ่งที่ควรทำเพื่อความปลอดภัยจาก Malware

รับทำเว็บไซต์ ออกแบบจัดทำเว็บไซต์ ด้วยทีมงานมืออาชีพ‎

ข้อใดคือสิ่งที่ควรทำเพื่อความปลอดภัยจาก Malware

รับทำเว็บไซต์ ออกแบบจัดทำเว็บไซต์ ด้วยทีมงานมืออาชีพ‎

ข้อใดคือสิ่งที่ควรทำเพื่อความปลอดภัยจาก Malware

MALWARE คืออะไร ทำไมถึงอันตราย


ถึงแม้ว่าเราจะมีการใช้อินเทอร์เน็ตกันอย่างแพร่หลายในปัจจุบันแล้ว ความปลอดภัยในการใช้งานก็อาจมีเพิ่มมากขึ้นตามจำนวนการใช้งาน เพราะเป็นการการันตีว่าอินเทอร์เน็ตยังมีความปลอดภัย แต่ไม่วายที่กลุ่มคนร้ายหรือมิชฉาชีพนั้นจะแฝงเข้ามาในทุกสถานการณ์ เราจึงจำเป็นต้องระมัดระวังตัวและรักษาข้อมูลต่างๆ ไว้ให้ปลอดภัยที่สุด เพราะอินเทอร์เน็ตได้แสดงให้เราเห็นว่ามันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เราจึงจำเป้นต้องระมัดระวังตัวอย่าเฉยเมยกับสิ่งต่อไปนี้

โลกอินเทอร์เน็ตจะมีกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า Hacker ที่มีหน้าที่คอยเจาะเอาข้อมูลของผู้ใช้งานที่อยู่ในอินเทอร์เน็ต เจาะเอาข้อมูลของเครื่องคอมพิวเตอร์ และสิ่งที่แฮกเกอร์ได้ทำการสร้างขึ้นมาเพื่อล้วงเอาข้อมูลภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ มีชื่อเรียกว่า Malware

Malware : มัลแวร์
ย่อมาจากคำว่า Malicious Software คือโปรแกรมที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อมีวัตถุประสงค์ร้ายต่อเครื่องคอมพิวเตอร์และเป็นการล้วงข้อมูลสำคัญของผู้ใช้งาน และมัลแวร์ที่เราได้รู้จักกันดี และได้ยินชื่อคุ้นหูกันดีนั่นคือ ไวรัส (Virus), เวิร์ม (Worm), โทรจัน (Trojan Horse), สปายแวร์ (Spyware), คีย์ล็อกเกอร์ (Key Logger), คุกกี้ (Cookie), และการ Malicious Mobile Code (MMC) ที่อาศัยช่องโหว่งของโปรแกรมบราวเซอร์ และถ้าหากเกิดมัลแวร์ และมัลแวร์เหล่านี้ได้เข้ามาอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ก็จะส่งผลกระทบต่อคอมพิวเตอร์อย่างมากมาย และสิ่งที่เห็นได้ชัดคือ การทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์จะช้าลงอย่างเห็นได้ชัด มีการส่งข้อมูลผ่านอีเมลแบบที่ผู้ใช้งานไม่รู้ ซึ่งเหล่านี้เองเป็นเพราะว่ามัลแวร์ที่อยู่ภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรานั้นพยายามซ่อนตัวใน Registry ของระบบปฏิบัติการณ์ Operating System ขณะเดียวกันเมื่อเราถูกคุกคามโดยมัลแวร์ต่างๆ แล้วนั้นเราจึงจำเป็นที่จะต้องหาโปรแกรมมาป้องกันและกำจัดมัลแวร์เหล่านี้ให้ออกไปจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของเรา

Malware มีกี่ชนิด : มัลแวร์นั้นมีอยู่หลายชนิดด้วยกัน ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ 6 ชนิด ดังนี้
1.ไวรัส (Virus) โปรแกรมที่ติดต่อจากไฟล์หนึ่งไปไฟล์หนึ่งได้ สามารถส่งผ่านไฟล์ด้วยการแนบไวรัสไปกับไฟล์ที่เราส่งไปยังคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่ง โดยไวรัสนั้นจะทำลายทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ในเครื่องพร้อมกับไฟล์ที่ไวรัสแฝงตัวเองเพื่อแพร่กระจายไปสู่เครื่องอื่นๆ อีกด้วย
2.เวิร์ม (Worm) สามารถแพร่ขยายตัวเองได้โดยที่ไม่ต้องมีโปรแกรมอื่น โดยเป้าหมายของเวิร์มจะจ้องทำลายระบบเครือข่าย และแพร่กระจายไปยังคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ โดยส่งอีเมลหรือช่องโหว่ของระบบปฏิบัติการ
3.โทรจัน (Trojan Horse) เป้าหมายของมัลแวร์ตัวนี้จะคอยจ้องทำลายระบบและเปิดช่องโหว่ให้กับผู้ที่ไม่หวังดี เข้ามาทำลายระบบและควบคุมจากระยะไกล แต่ไม่แพร่กระจายไปยังไฟล์อื่น
4.สปายแวร์ (Spyware) จะไม่แพร่กระจายไปยังไฟล์อื่นเหมือนกับโทรจัน โดยเป้าหมายของสปายแวร์นั้นคือการรบกวนและละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้
5.Hybrid Malware / Blended Threats เป็นมัลแวร์ที่อันตรายมาก เพราะความสามารถของมัลแวร์ตัวนี้นั้นรวม ไวรัส เวิร์ม โทรจัน และสปายแวร์ เข้าด้วยกัน
6.Phishing เป็นมัลแวร์ที่จ้องจะขโมยข้อมูลทางการเงิน เช่น บัตรเครดิต หรือ Online bank account

อันตรายของมัลแวร์มีอะไรบ้าง
1.มัลแวร์จะทำลายเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ รวมไปถึงข้อมูลในเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดมัลแวร์ไปแล้ว
2.มัลแวร์จะพยายามทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดมัลแวร์เป็นตัวกระจายมัลแวร์สู่ผู้ใช้รายอื่น ด้วยการแอบใช้อีเมลเพื่อส่งไฟล์ไปยังรายชื่อผู้ติดต่อที่มีอยู่ในอีเมลของเรา
3.มัลแวร์จะล้วงข้อมูลที่เป็นความลับให้กับผู้ที่ไม่ประสงคืดี ด้วยการเปิดช่องโหว่ให้ผู้ที่ไม่ประสงค์ดีเข้ามาสู่ระบบปฏิบัติการณ์ได้ หรือการแอบส่งข้อมูลต่างๆ ผ่านอีเมล
4.มัลแวร์จะก่อความรำคาญให้กับผู้ใช้งานอยู่ตลอดเวลา

การที่เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราติดมัลแวร์นั้นไม่ใช่เรื่องที่ดี ส่วนวิธีแก้และวิธีป้องกันที่ดีที่สุดนั่นคือ การที่ไม่โหลดหรือรับอีเมลที่เราไม่รู้จัก ไม่แน่ใจ เพราะส่วนมากแล้วนั้นไวรัสกับเวิร์มจะแฝงตัวมากับอีเมลที่ส่งมาให้ และหากเป็นโทรจันกับสปายแวร์จะแฝงมากับโปรแกรมเถื่อนต่างๆ อาทิ Crack โปรแกรม เป็นต้น และสำหรับวิธีการป้องกันที่ดีที่สุดคือ เราควรติดตั้งโปรแกรมป้องกันมัลแวร์และใช้โปรแกรมที่มีความน่าเชื่อถือจากแหล่งที่เชื่อถือได้ด้วย เพียงเท่านี้คอมพิวเตอร์ของเราก็จะปราศจากมัลแวร์ตัวร้ายทั้งหลาย และใช้งานบนอินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัยหายห่วง

ที่มา : เกร็ดความรู้.net

ไวรัส มัลแวร์ และโทรจัน

ไวรัสและภัยคุกคามอื่นๆ จากแฮกเกอร์ เป็นอันตรายต่อผู้ใช้คอมพิวเตอร์ เข้าใจรูปแบบการทำงานของโปรแกรมที่เป็นภัยเหล่านี้ รวมถึงวิธีการปกป้องเครื่องคอมพิวเตอร์และข้อมูลส่วนตัวของคุณให้ปลอดภัยจากมิจฉาชีพ

มัลแวร์คืออะไร

มัลแวร์ หรือ Malicious Software คือ ซอฟท์แวร์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อแอบเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์โดยที่ผู้ใช้ไม่ได้อนุญาต มัลแวร์มีหลายชนิด ได้แก่ ไวรัสคอมพิวเตอร์ หนอน โทรจัน สปายแวร์ และซอฟท์แวร์อื่นๆ ที่เป็นอันตราย 

ไวรัสคอมพิวเตอร์ เป็นโปรแกรมที่สามารถเพิ่มจำนวนได้เอง และทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์มีปัญหา ไวรัสสามารถแพร่กระจายจากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังอีกเครื่องหนึ่ง เมื่อผู้ใช้ส่งข้อมูลผ่านระบบเครือข่ายหรืออินเทอร์เน็ต หรือไปกับซีดี ดีวีดี หรืออุปกรณ์เก็บข้อมูลแบบ USB 

หนอนคอมพิวเตอร์ เป็นโปรแกรมอันตรายที่แตกต่างจากไวรัสอื่นๆ เพราะมันสามารถแพร่กระจายได้โดยอัตโนมัติผ่านระบบเครือข่ายโดยที่ผู้ใช้ไม่รู้ตัว หนอนคอมพิวเตอร์ถูกออกแบบมาให้เพิ่มจำนวนและแพร่กระจายได้เอง จึงทำให้โปรแกรมประเภทนี้ลุกลามได้อย่างรวดเร็ว หนอนคอมพิวเตอร์หลายชนิดอาจทำให้การ
ดาวน์โหลดและการแสดงผลหน้าเว็บไซต์ช้ามาก เพราะโปรแกรมพวกนี้มักแทรกตัวเข้ามาพร้อมกันในปริมาณมากและส่งผลให้ระบบเครือข่ายถูกปิดกั้น 

โทรจัน เป็นมัลแวร์รูปแบบหนึ่งที่สามารถติดตั้งตัวเองได้อัตโนมัติในเครื่องคอมพิวเตอร์ จากนั้น แฮกเกอร์จะใช้โปรแกรมดังกล่าวเพื่อเข้าควบคุมคอมพิวเตอร์เครื่องนั้น 

โทรจันมักซ่อนมาพร้อมกับซอฟท์แวร์หรือไฟล์ที่ผู้ใช้ตั้งใจดาวน์โหลดหรือติดตั้ง โทรจันมักแฝงมาพร้อมกับ 

  • การดาวน์โหลดภาพยนตร์หรือซอฟท์แวอร์แบบเพื่อนถึงเพื่อน (Peer-to-Peer) ทางอินเทอร์เน็ต 
  • ซอฟท์แวร์ผิดกฎหมาย 
  • ไฟล์ที่มากับอีเมล 
  • ไฟล์ที่ส่งผ่านบริการข้อความออนไลน์หรือบริการพูดคุยผ่านอินเทอร์เน็ต 

โทรจันช่วยให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมเครื่องคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นผ่านระบบทางไกลและ 

  • ขโมยข้อมูลจากไฟล์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ (เช่น รหัสผ่าน ข้อมูลบัตรเครดิต) 
  • ดาวน์โหลดหรืออัพโหลดไฟล์ที่เป็นอันตรายอื่นๆ สู่เครื่องคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่น 
  • แก้ไขและลบไฟล์ 
  • บันทึกการใช้งานคีย์บอร์ด (เช่น บันทึกการกดปุ่มบนคีย์บอร์ดทั้งหมด จากนั้นจึงค้นหาข้อมูลประเภทพาสเวิร์ดของบริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ต) 
  • ช่วยให้แฮกเกอร์มองเห็นหน้าจอของบุคคลอื่น ซึ่งทำให้แฮกเกอร์สามารถเข้าถึงรหัสผ่านและชื่อผู้ใช้งาน ผ่านทางการใส่รหัสผ่านแบบคลิก 
  • ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ใช้งานไม่ได้ 
  • ใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เป็นส่วนหนึ่งในการส่งข้อมูลโฆษณาอัตโนมัติ (Automated Spamming Campaign) หรือลงทะเบียนที่เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาผิดกฎหมาย (จึงไม่สามารถแกะรอยแฮกเกอร์ได้) 

สปายแวร์  คือ ซอฟท์แวร์ที่แสดงโฆษณาหรือข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลลับ โดยเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์เมื่อติดตั้งโปรแกรมใหม่ (ส่วนมากจะดาวน์โหลดจากอินเทอร์เน็ต) สปายแวร์จะแอบขโมยข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้ และสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานช้าลงหรือมีปัญหาจนใช้งานไม่ได้ โปรแกรมเหล่านี้มักเปลี่ยนหน้าโฮมเพจหรือหน้าค้นหาข้อมูลของเว็บบราวเซอร์ด้วย 

ทำยังไงให้คอมปลอดภัย

ปกป้องคอมพิวเตอร์ที่บ้านของคุณให้ปลอดภัย.
ใช้ไฟร์วอลล์ ... .
ดูแลซอฟต์แวร์ทั้งหมดให้ทันสมัยอยู่เสมอ ... .
ใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและอัปเดตให้เป็นเวอร์ชันปัจจุบันเสมอ ... .
ตรวจสอบให้แน่ใจว่ารหัสผ่านของคุณได้รับการคัดเลือกและการป้องกันเป็นอย่างดี ... .
ไม่เปิดไฟล์แนบที่น่าสงสัยหรือคลิกลิงก์ที่ดูผิดปกติในข้อความ ... .
ท่องเว็บอย่างปลอดภัย.

การกระทำใดป้องกันความเสี่ยงต่อการโดนโจมตีด้วย Malware

ข้อแนะนำในการป้องกันการติดมัลแวร์ อัพเดทคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ในเครื่องสม่ำเสมอ ติดตั้งโปรแกรมป้องกันมัลแวร์ (Anti-malware) บนคอมพิวเตอร์ ระมัดระวังการใช้งานอุปกรณ์เชื่อมต่อทั้งหลาย เช่น แฟลชไดร์ฟ (USB) เป็นต้น ควรทำการสแกนไวรัสทุกครั้งก่อนใช้งาน

มัลแวร์ (Malware) คืออะไร พร้อมบอกวิธีป้องกัน *

MALWARE (มัลแวร์) นั้นย่อมาจาก MALicious และ SoftWARE หมายถึง โปรแกรมประสงค์ร้ายที่ถูกเขียนขึ้นมา เพื่อทำอันตรายกับข้อมูลในระบบ เช่น ทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานผิดปกติ ขโมยหรือทำลายข้อมูลหรืออาจจะเปิดช่องทางให้ผู้ไม่หวังดีเข้ามาควบคุมเครื่องของเราได้ ประเภทของมัลแวร์ เช่น

ในการใช้งานอินเทอร์เน็ตมักพบปัญหาจากมัลแวร์เราสามารถตรวจสอบได้อย่างไรบ้าง

ไปที่ google.com/webmasters และลงชื่อเข้าใช้ หากยังไม่เคยใช้ Search Console ให้ป้อนเว็บไซต์ของคุณลงในช่อง แล้วคลิกเพิ่มเว็บไซต์ โปรดทราบว่าระบบอาจขอให้คุณยืนยันว่าเป็นเจ้าของเว็บไซต์ดังกล่าวก่อน ตรวจสอบสถานะของเว็บไซต์ที่ปรากฏเพื่อดูว่าพบปัญหาใดบ้าง