ข้อใดคือตัวอักษรย่อของมาตรฐานสากล

เป็นรหัสที่กำหนดขึ้นให้ใช้กับสิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือทั่วไป กำหนดขึ้นให้ใช้กับสิ่งพิมพ์ประเภทหนังสือทั่วไป เพื่อให้เป็นเอกลักษณ์ของหนังสือแต่ละชื่อเรื่อง รวมไปถึงยังช่วยอำนวยความสะดวก ความรวดเร็วในการค้นหาหนังสือ และยังช่วยควบคุมความถูกต้องของข้อมูลสิ่งพิมพ์ในด้านการสั่งซื้อหรือการแลกเปลี่ยน ทั้งนี้เมื่อกำหนดให้หนังสือใดไปแล้ว ห้ามนำกลับมาใช้ซ้ำอีกโดยเด็ดขาด ทั้งนี้ในการขอ ISBN สามารถขอรับได้จากหอสมุดแห่งชาติ

ข้อใดคือตัวอักษรย่อของมาตรฐานสากล

thaibarcodes.com

ตัวเลข ISBN 

ก่อนหน้าตัวเลข ISBN มีตัวเลขเพียง 10 หลัก ต่อมาได้เพิ่มเป็น 13 หลัก เพื่อให้เพียงพอต่อทรัพยากรหนังสือ จึงแบ่งออกเป็น 5 ส่วน ดังนี้

1. เลข 3 หลักแรก (Prefix element) เป็นรหัสบาร์โค้ดแสดงสินค้า/ผลิตภัณฑ์
2. รหัสกลุ่มประเทศ (Registration group element)
3. รหัสสำนักพิมพ์ (Registrant element)
4. รหัสชื่อเรื่อง (Publication element) เป็นตัวเลขประจำสิ่งพิมพ์ที่ผลิตมาจากสำนักพิมพ์นั้น ๆ
5. เลขตรวจสอบ (Check digit) เป็นตัวเลขที่ได้จากการคำนวณเลข 12 หลักแรก ใช้สำหรับตรวจสอบความถูกต้อง

ข้อใดคือตัวอักษรย่อของมาตรฐานสากล

สิ่งพิมพ์ที่ขอเลข ISBN ได้

ประเภทสิ่งตีพิมพ์ ได้แก่ หนังสือทั่วไป สิ่งพิมพ์สื่อประสม (หนังสือ เทป หรือวิดีทัศน์) แผนที่ สิ่งพิมพ์อักษรเบรลล์

ประเภทสิ่งไม่ตีพิมพ์ ได้แก่ สิ่งพิมพ์ในรูปวัสดุย่อส่วน วิดีทัศน์ สิ่งพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ ซอฟต์แวร์ด้านการศึกษา

ข้อใดคือตัวอักษรย่อของมาตรฐานสากล

sites.google.com

การขอรับเลข ISBN

1. ขอรับได้จากหอสมุดแห่งชาติ โดยสำนักพิมพ์ โรงพิมพ์หรือหน่วยงานราชการ ต้องกรอกรายละเอียดของหนังสือในแบบฟอร์มการขอเลข ISBN ได้ 4 วิธี

  • ทางจดหมาย ถึง ผู้อำนวยการสำนักหอสมุดแห่งชาติ
  • ทางโทรสาร ที่หมายเลข 0-2281-5450, 0-2628-5175
  • ทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ ที่ E-mail : [email protected]
  • ติดต่อขอรับด้วยตนเอง ที่กลุ่มงานคัดเลือก และประเมินคุณภาพทรัพยากรห้องสมุด

2. ติดต่อขอใช้บริการ และสมัครด้วยตนเองผ่านระบบ e-Service ของสำนักหอสมุดแห่งชาติ ดังนี้

  1. เข้าเว็บไซต์สำนักหอสมุดแห่งชาติ http://www.e-service.nlt.go.th
  2. เลือก สมัครสมาชิก และกรอกข้อมูลรายละเอียดให้เรียบร้อย หลังจากจากนั้นยืนยันด้วยอีเมล
  3. ทำการ Login และยื่นคำร้องขอสมัคร ก็จะได้ เลข ISBN ในวันรุ่งขึ้น

นอกจากนี้หากท่านใดอยากทำหนังสือ สยามพริ้นท์ มีบริการพิมพ์หนังสือ ทุกแบบทุกประเภท โดยไม่จำกัดจำนวนขั้นต่ำ 1 เล่มก็สามารถพิมพ์ได้ เรายินดีให้คำปรึกษา พร้อมทีมกราฟิกที่จะช่วยออกแบบได้ตามที่คุณต้องการ และเรายังมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการพิมพ์ พร้อมด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ที่ทันสมัย รับประกันงานพิมพ์คุณภาพและการบริการที่รวดเร็ว

“มาตรฐานอุตสาหกรรมสากล” มีชื่อเรียกย่อๆ ว่า ISIC (International Standard Industrial Classification of All Economic Activities) เป็นมาตรฐานที่ก่อตั้งขึ้นโดยองค์การสหประชาชาติ (United Nations) โดยเครื่องหมาย CE ที่ระบุเอาไว้เป็นคำที่ย่อมาจากภาษาฝรั่งเศสคือ “Conformite Europeene” เป็นความหมายเช่นเดียวกันกับคำในภาษาอังกฤษคือ “European Conformity” ในอดีตเคยใช้เป็นเครื่องหมายตัวอักษรว่า EC แต่ในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงมาเป็นตัวอักษร CE แทน ซึ่งถูกนำมาใช้อย่างเป็นทางการเมื่อปี พ.ศ.2536

เครื่องหมาย CE ที่ปรากฏอยู่ตามสินค้าต่างๆ จะเป็นเครื่องหมายที่แสดงให้เห็นถึงการรับรองจากผู้ผลิต (Manufacturer’s Declaration) โดยหมายถึงสินค้าชิ้นนั้นๆ มีคุณสมบัติเป็นไปตามข้อกำหนดทางด้านสุขภาพ มีความปลอดภัย และยังไม่ก่อให้เกิดปัญหาทางด้านสภาพแวดล้อม เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เชื่อมโยงกับสหภาพยุโรป

การปรากฏอยู่ของเครื่องหมายดังกล่าวบนสินค้านั้น จะทำให้การเคลื่อนย้ายสินค้าไปวางจำหน่ายได้อย่างเป็นอิสรเสรีภายในเขตเศรษฐกิจยุโรป หรือที่เรียกกันว่า “EEA” (European Economic Area) โดยเขตเศรษฐกิจจะประกอบไปด้วยกลุ่มสหภาพยุโรป EU (European Community) และกลุ่มสมาคมการค้าเสรียุโรป “EFTA” (European Free Trade Association) ยกเว้นแค่ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์เท่านั้น โดยประเทศที่อยู่ในกลุ่มสมาชิก จะมีการดำเนินตามกฎหมายภายในประเทศ ด้วยความสอดคล้อง และเป็นระเบียบตามสหภาพยุโรป EC Directives ซึ่งสัมพันธ์กับเครื่องหมาย CE

สำหรับ ISO จะเป็นองค์การระหว่างประเทศที่ว่าด้วยเรื่องของมาตรฐานฐาน “International Standards Organization” มีการก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2590 สำนักงานใหญ่ขององค์การตั้งอยู่ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งเป้าหมายหลักของ ISO นั้นก็เพื่อช่วยส่งเสริมมาตรฐานการผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐานระหว่างประเทศ รวมถึงกิจกรรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะช่วยให้เกิดการพัฒนาทางด้านอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจที่ดีขึ้น แก้ปัญหาการถูกกีดกันทางการค้าระหว่างประเทศ อีกทั้งยังเป็นการร่วมมือช่วยพัฒนาที่เกิดขึ้นระหว่างประเทศ

ไม่ว่าจะเป็นในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งสรุปใจความได้ว่าองค์กรใดก็ตามที่ได้รับมาตรฐาน ISO จะสามารถมั่นใจได้ว่าสินค้าหรือบริการขององค์กรดังกล่าวได้รับมาตรฐานไว้วางใจในระดับสากล

โดยแต่ละ ISO จะมีมาตรฐานที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

  • ISO 9000 จะเป็นการจัดการระบบเพื่อบริหารเน้นประกันคุณภาพ สามารถตรวจสอบได้ผ่านทางระบบเอกสาร
  • ISO 9001 มาตรฐานระบบคุณภาพ ที่เน้นการดูแล ออกแบบ การติดตั้ง การบริการ และการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น
  • ISO 9002 เป็นมาตรฐานระบบคุณภาพ ที่เน้นดูแลเฉพาะการผลิต การบริการ และการติดตั้งเท่านั้น
  • ISO 9003 เป็นมาตรฐานระบบคุณภาพ ที่ใช้เน้นให้ความสำคัญในการดูแลเรื่องการตรวจสอบขั้นสุดท้าย
  • ISO 9004 เป็นแนวทางที่ช่วยให้เกิดการบริหารระบบงานอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดคุณภาพสูงสุด ซึ่งจะมีข้อแนะนำในการบริหารจัดการ มีการกำหนข้อย่อยๆ ในธุรกิจที่แตกต่างกันออกไป
  • ISO 14000 เป็นระบบมาตรฐานที่สนใจกับระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม เน้นให้ความสำคัญกับองค์กรในการพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง
  • ISO 18000 เป็นมาตรฐานการจัดการ ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย และอาชีวอนามัย
  • ISO/TS 16949 คือระบบมาตรฐานเกี่ยวกับอุตสาหกรรมยานยนต์

ส่วน UL certificate จะเป็นองค์กรอิสระไม่ขึ้นตรงกับใคร มีหน้าที่ให้ความรับรองเกี่ยวกับความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งเป็นของ Underwriters Laboratories Inc

ข้อใดคือตัวอักษรย่อของมาตรฐานสากล

มาตรฐานอุตสาหกรรม

  • British Standard (BS) เป็นมาตรฐานของประเทศอังกฤษ
  • German Industrial Standard (DIN) เป็นมาตรฐานของประเทศเยอรมัน
  • Japanese Industrial Standard (JIS) เป็นมาตรฐานของประเทศญี่ปุ่น
  • American National Standard Institute (ANSI) เป็นมาตรฐานของประเทศสหรัฐอเมริกา
  • Thailand Industrial Standard (TIS) เป็นมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ของประเทศไทย
  • Verband Deutscher Elektrotechniker (VDE) เป็นมาตรฐานของกลุ่มวิศวกรไฟฟ้าในประเทศเยอรมนี
  • Keuring van Elektrotechnische Materialen (KEMA) เป็นมาตรฐานการทดสอบของประเทศเนเธอร์แลนด์
  • International Electrotechnical Commission (IEC) เป็นมาตรฐานขององค์กรระหว่างประเทศที่จัดทำมาตรฐานทางด้านไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์
  • African Regional Standards Organization (ARSO ) เป็นองค์การมาตรฐานแห่งภูมิภาคแอฟริกา
  • RoHS (The Restriction of The Use of Certain Hazardous Substance In Electrical and Electronic Equipment) เป็นระเบียบของสหภาพยุโรปหรือ EU (The European Union) ว่าด้วยเรื่องของการห้ามใช้สารเคมีอันตรายในผลิตภัณฑ์ไฟฟฟ้าและเล็กทรอนิกส์
  • WEEE (Waste from Electrical and Electronic Equipment) เป็นมาตรฐานที่ว่าด้วยการกำจัดซากผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มีการห้ามนำเอาสารเคมีอันตราย 6 ชนิดเข้ามาใช้ในเครื่องใช้ไฟฟ้าและเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ คือ ปรอท (Hg) ตะกั่ว (Pb), แคดเมียม (Cd), โครเมียม เฮกซะวาเลนต์ (Cr(Vl) ), โพลิโบรมิเนต-ไบฟินิล (PBB) และโพลิโบรมิเนต-ไดฟินิล-อีเทอร์ (PBDE)

คำว่า BOI ย่อมาจาก Thailand Board of Investment เป็นสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่จะอยู่ภายใต้กระทรวงอุตสาหกรรม