--------����ͧ��͵觵�ҧ� �����㹡�÷� Animation �������������ͧ������ҧ�Ҿ������� ����Ҩ��������������ǡѺ�Ҿ�����˹��Դ��ҧ� �� Show
���������Ǫ�Դ�Ҿ����Ҿ (Frame By Frame Animation) -------���������Ǣͧ Animation �ѡɳй����ա�á�˹��ش�������㹡���ʴ��Ҿ�������������Ըա�äӹdz�ͧ Flash 㹡���ʴ��Ҿ��ҧ� �·���������ͧ����Ҿ�����§��͡ѹ �������ö�觡����������ѡɳй����� 2 �ѡɳС�ä�� บทที่ 5 ลำดับขั้นตอนการสร้างภาพเคลื่อนไหว
บทที่ 5
ลำดับขั้นตอนการสร้างภาพเคลื่อนไหว
ขั้นตอนการสร้างภาพเคลื่อนไหวหรือมูฟวี่ 4 ขั้นตอน
1. การวางโครงเรื่องชิ้นงาน
2. การจัดเตรียมองค์ประกอบชิ้นงาน
3. การสร้างชิ้นงานและทดสอบการทำงาน
4. การแปลไฟล์ชิ้นงานสำหรับการเผยแพร่ Advertisement Share this:Like this:Like Loading... “Animation” หรือ “ภาพเคลื่อนไหว” คือภาพที่สามารถเคลื่อนไหวได้ ซึ่งสร้างขึ้นโดยการนำภาพนิ่งหลาย ๆ ภาพมาฉายต่อเนื่องกันด้วยความเร็วสูง ทำให้เกิดภาพลวงตาของการเคลื่อนไหวออกมา โดยปกติความเร็วของภาพเคลื่อนไหวจะฉายด้วยความเร็วที่ต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของการแสดงผล โดยถ้าฉายเป็นภาพยนตร์จะฉายด้วยความเร็ว 24 เฟรมต่อวินาที ถ้าฉายในระบบ PAL จะฉายด้วยความเร็ว 25 เฟรมต่อวินาที แต่ในระบบ NTSC จะฉายด้วยความเร็ว 29.97 หรือ 30 เฟรมต่อวินาที “Anime” หรือ “อะนิเมะ” เป็นคำภาษาญี่ปุ่นที่มาจากภาษาอังกฤษว่า Animation ซึ่งมาจากภาษาฝรั่งเศส Anime และจากภาษาละติน Anime แปลว่าเคลื่อนไหวหรือภาพเคลื่อนไหว แต่ Anime กลับกลายเป็นคำคำเฉพาะของชาติญี่ปุ่นที่แปลว่า “ภาพยนตร์การ์ตูน” ภายนอกประเทศญี่ปุ่น Anime หมายถึง “ภาพยนตร์การ์ตูนสัญชาติญี่ปุ่น” ซึ่งส่วนใหญ่มีลักษณะทางศิลปะแตกต่างกับภาพยนตร์การ์ตูนจากแหล่งอื่น ๆ Anime ส่วนใหญ่จะวาดขึ้นด้วยมือ แต่ปัจจุบันมีการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยสร้าง Anime อย่างแพร่หลาย และกำเนิดออกมาหลากหลายประเภทตามรูปแบบนำไปใช้งานที่แตกต่างกัน การวาดภาพด้วยโปรแกรมแฟลต (flash) การวาดภาพจากโปรแกรมแฟลตเป็นการวาดภาพแบบเวกเตอร์(Vector) ซึ่งวิธีการสังเกตเมื่อมีการขยายภาพแล้ว ภาพจะไม่แตกเช่นเดียวกับโปรแกรมแบบ อิลลัสเตรเตอร์ (illustrator) หรือ คุณภาพของภาพจะยังคงคุณลักษณะเช่นเดียวกับภาพต้นฉบับ ภาพอีกประเภทหนึ่งเรียกว่าภาพแบบบิตแมป(Bitmap i mages) หรือภาพแบบราสเตอร์ (Raster Image) ตัวอย่างเช่น ภาพที่ถ่ายจากกล้องถ่ายภาพดิจิตอลแล้วนำภาพเข้าสู่โปรแกรมโฟโต้ชอป (Adobe Photoshop) แล้วทำการขยายภาพไปเรื่อยๆ สุดท้ายภาพจะแตกเป็นเม็ดสีเรียงติดกัน ภาพประเภทนี้จะจำกัดคุณภาพของภาพตามกล้องถ่ายรูปแบบดิจิตอลโดยมีการกำหนดเป็นจำนวนของพิกเซล (pixels) การวาดภาพในโปรแกรมแฟลตสามารถวาดได้หลายรูปทรง ไม่ได้จำกัดแต่เฉพาะรูปทรงที่เป็นเรขาคณิตเท่านั้น สามารถใส่สี แสง และเงาได้สวยงาม
ลักษณะของจอภาพ ส่วนประกอบของโปรแกรม ประกอบด้วย กล่องเครื่องมือ (Tool Box) และแถบคำสั่ง (Menu bar) การทำงานกับโปรแกรมแฟลต ผู้ใช้งานจำเป็นต้องรู้จักกล่องเครื่องมือ ซึ่งทำหน้าที่เก็บอุปกรณ์ต่างๆที่จำเป็นสำหรับการทำงานกับโปรแกรมแฟลต ซึ่งกล่องเครื่องมือแสดงดังภาพด้านล่าง กล่องเครื่องมือประกอบด้วย 5 กลุ่มคือ - การวาดและการตกแต่งภาพ (Drawing and painting) ประกอบด้วย 3D Rotation tool (w) - มุมมอง (View) ประกอบด้วย Hand tool (H) - สี (Color) ประกอบด้วย Stroke color - เพิ่มเติม (Option) ขึ้นอยู่กับเครื่องมือที่ทำการเลือกใช้ การสร้างภาพและข้อความ การสเก็ตภาพ (sketch) เพื่อใช้สร้างภาพร่าง โดยทั่วไปจะใช้อุปกรณ์เช่น เมาส์ปากกา หรือใช้วิธีการวาดภาพบนกระดาษก่อนแล้วทำการสแกนภาพเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ หรือวาดภาพบนกระดาษก่อนแล้วทำการถ่ายภาพจากกล้องดิจิตอลที่ติดมากับเครื่องโทรศัพท์มือถือ หรือถ่ายภาพจากกล้องดิจิตอลที่มีอยู่ จากนั้นทำการนำเข้าภาพเข้าสู่โปรแกรมแฟลตเพื่อสร้างเป็นภาพต้นแบบบนชั้นที่ 1เพื่อแสดงความต้องการของผู้ออกแบบว่ามีความต้องการภาพเป็นรูปแบบไหน จากนั้นอาจจะทำการสร้างเส้นโดยอาศัยภาพต้นแบบเพื่อตัดขอบให้สมบูรณ์อีกครั้งหนึ่งบนชั้นที่ 2 โดยเครื่องมือที่ใช้ในการวาดเส้นเพื่อตัดขอบประกอบด้วย 3 ชนิดคือ ดินสอ (Pencil tool) การวาดภาพโดยใช้เครื่องมือแบบวัตถุ (object tool) การลงสี (Paint tool) ซิมโบล (Symbol) และ อินสแตนซ์ (Instance) ซิมโบลคือ สัญลักษณ์ที่โปรแกรมแฟลตกำหนดขึ้นเพื่อใช้สำหรับสร้างวัตถุและการควบคุมวัตถุในการสร้างภาพเคลื่อนไหว โดยวัตถุที่ทำการสร้างขึ้นจะถูกจัดเก็บในส่วนของห้องสมุดของโปรแกรม ซิมโบลของโปรแกรมแฟลตมี 3 ชนิดประกอบด้วย กราฟิก (Graphic) สำหรับสร้างวัตถุทางด้านการวาดภาพกราฟิก จากตัวอย่างบนภาพจะมองเห็นว่า รูปกระต่ายเป็นซิมโบลแบบหนังสั้น เมื่อรูปกระต่ายถูกนำมาวางบนเวที รูปกระต่ายที่วางอยู่บนเวทีจะเป็นอินสแตนซ์ของหนังสั้น โดยผู้ใช้สามารถกำหนดชื่อของอินสแตนซ์ (Instance Name) ทางด้านซ้ายมือได้ โดยอินสแตนซ์จะมีการทำงานเหมือนกับซิมโบลทุกอย่าง การสร้างภาพเคลื่อนไหวมีอะไรบ้างขั้นที่ 1 นำวัตถุที่ต้องการสร้างภาพเคลื่อนไหวมาวางบนเวที ซึ่งตรงกับฉากลำดับที่ 1 ของเส้นเวลา ขั้นที่ 2 ทำการเลือกฉากที่ 2 ของเส้นเวลาจากนั้นทำการกด F6 เพื่อทำการ Insert key frame จากนั้นให้ทำการขยับรูปภาพที่ต้องการให้รูปมีการเคลื่อนไหวไปเล็กน้อย ขั้นที่ 3 ทำแบบขั้นตอนที่ 2 ไปจนกระทั่งครบ 5 ฉากก็จะได้ภาพเคลื่อนไหวดังภาพ
ภาพเคลื่อนไหว มีอะไรบ้างภาพเคลื่อนไหวแบ่งได้เป็น 2 ประเภทคือ
1.แบบ 2 มิติ (2D Animation) ภาพเคลื่อนไหวแบบ 2 มิติ มองเห็นได้ทั้งความสูงและความกว้าง ซึ่งจะมีความเหมือนจริงพอสมควรและการสร้างจะไม่สลับซับซ้อนมากนัก เช่น ภาพเคลื่อนไหวที่ปรากฏตามเว็บต่างๆ รวมทั้ง Gif Animation. 2.แบบ 3 มิติ (3D Animatio)
การสร้างภาพเคลื่อนไหว (Animation) คืออะไรแอนิเมชัน หรือ ชีวลักษณ์ (อังกฤษ: animation) หมายถึง การสร้างภาพเคลื่อนไหวโดยการฉายภาพนิ่งหลาย ๆ ภาพต่อเนื่องกันด้วยความเร็วสูงโดยการนำภาพนิ่งมาเรียงต่อกัน
ภาพเคลื่อนไหวมีประโยชน์อย่างไรข้อดีของการผลิตงานแบบ Animation
– ช่วยให้การอธิบายเรื่องที่ค่อนข้างซับซ้อนหรือยากจะเข้าใจให้กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้น – ช่วยให้เกิดการจินตนาการอย่างไร้ขอบเขต ไม่มีการปิดกั้นทางความคิด สามารถใช้ความคิดได้อย่างอิสรเสรี – ช่วยเน้นให้ส่วนสำคัญเกิดความกระจ่างและชัดเจนขึ้น เป็นการใช้ภาพอธิบายได้ดี
|