เครื่องมือที่มีชื่อว่า vertical type tool มีหน้าที่ทำอะไร

ในโปรแกรม Photoshop นอกจากผู้เรียนจะสามารถทำงานกับรูปภาพในรูปแบบต่าง ๆ ได้แล้ว ผู้เรียนยังสามารถที่จะใส่ข้อความทั้งภาษาอังกฤษ และ ภาษาไทยในโปรแกรมได้ โดยผู้เรียนสามารถที่สร้างข้อความในรูปแบบต่าง ๆ ที่สวยงาม แปลกตา และสามารถทำข้อความเป็นรูปภาพเพื่อนำไปใช้ในงานรูปแบบต่าง ๆ เช่น สร้างเว็บ , สร้างป้ายโฆษณา เป็นต้น โดยที่ข้อความนี้จะอยู่ในรูปแบบของรูปภาพ ซึ่งจะไม่มีปัญหาว่าเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่มีซอฟแวร์

ภาษาไทยจะไม่สามารถเปิดอ่านได้ เพราะข้อความได้ถูกแปลงเป็นรูปภาพรูปหนึ่ง ทำให้การสร้างข้อความจากโปรแกรม Photoshop เป็นที่นิยมอีกวิธีหนึ่งที่จะสร้างข้อความให้ทุกเครื่องสามารถอ่านได้

การสร้างข้อความ หรือ การพิมพ์ข้อความ จะเป็นการสร้างข้อความทั้งที่เป็นตัวอักษรตัวเดียวหรือเป็นประโยคก็ได้ โดยการสร้างข้อความในโปรแกรม Photoshop นี้จะใช้เครื่องมือ Type Tool

ในการสร้างข้อความรูปแบบต่าง ๆ เช่น การกำหนดรูปแบบตัวอักษร , ขนาดตัวอักษร รวมทั้งการจัดรูปแบบของย่อหน้า

โดยที่เครื่องมือ Type Tool จะมีเครื่องมือย่อยอยู่อีก 4 เครื่องมือ และทุกครั้งที่มีการสร้างข้อความโปรแกรมจะสร้างเลเยอร์ขึ้นใหม่ในทันที ซึ่งเลเยอร์นี้จะเป็นเลเยอร์ที่ใช้สำหรับการพิมพ์โดยเฉพาะ

เครื่องมือ Type Tool มีคำสั่งย่อยอยู่อีก 4 คำสั่ง ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้

Horizontal Type Tool สร้างข้อความแบบ Outline ในแนวนอน

Vertical Type Tool สร้างข้อความแบบ Outline ในแนวตั้ง

Horizontal Type Mask Tool สร้างข้อความแบบ Mask ในแนวนอน

Vertical Type Mask Tool สร้างข้อความแบบ Mask ในแนวตั้ง

เมื่อผู้เรียนได้เลือกเครื่องมือ Type Tool มาสร้างข้อความแล้ว ในส่วนของ Option bar จะปรากฏ Option ของเครื่องมือ Type Tool ดังนี้

Character Palette คือตัวควบคุมการพิมพ์ข้อความซึ่งประกอบด้วยการกำหนดรูปแบบตัวอักษรสไตล์ตัวอักษร , ขนาดตัวอักษร การเว้นระยะระหว่างบรรทัด หรือ สีของตัวอักษร เป็นต้น หรือถ้าไม่กำหนดจากพาแนลผู้เรียนสามารถกำหนดได้จาก Type Tool Option ในการเปิดพาแนลขึ้นมาใช้งานให้คลิกเมนูคำสั่ง Window คลิกเลือกพาแนลชื่อ Character จะปรากฏพาแนลชื่อ Character ดังรายละเอียดของพาแนล ดังนี้

รายละเอียดของคำสั่งใน Character Palette

1. รูปแบบตัวอักษร (Font) ประกอบด้วยตัวอักษรในลักษณะต่าง ๆ ที่โปรแกรมเตรียมไว้ให้ ซึ่ง เราสามารถติดตั้งเพิ่มภายหลังได้

2. ลักษณะสไตล์ตัวอักษร (Type Style) คือ กำหนดให้ตัวอักษรมีความเอียง , หนา หรือ ลักษณะอื่น ๆ

3. ขนาดตัวตัวอักษร (Size) สามารถคลิกเลือกจากรายการตัวอักษร ที่กำหนดไว้ให้ หรือ พิมพ์ค่าตัวเลขลงไป

4. ระยะห่างระหว่างบรรทัด (Leading) ใช้สำหรับกำหนดระยะห่างระหว่างบรรทัดไม่ให้ระหว่างบรรทัดอยู่ติดหรือห่างกันเกินไป

5. ปรับช่องไฟ (Kerning) ใช้ปรับช่องไฟระหว่างตัวอักษรซึ่งตั้งค่าเว้นช่องไฟของตัวอักษรได้อย่างเหมาะสม

6. เว้นช่องไฟ (Tracking) เว้นช่องไฟเช่นเดียวกับ Kerning แต่เน้นในการเว้นช่องไฟเฉพาะตัวที่
เลือกด้วยวิธีการดรากส์เมาส์แล้วจึงกำหนดค่า

7. กำหนดความสูงตัวอักษร (Vertically Scale) กำหนดความสูงของตัวอักษร โดยพิมพ์ค่าที่ ต้องการลงไปได้เลยทันที

8. กำหนดความกว้างระหว่างตัวอักษร (Horizontally Scale) กำหนดความกว้างของตัวอักษร
โดยพิมพ์ค่าที่ต้องการลงไปได้เลยทันที

9. กำหนดระยะห่างระหว่างตัวอักษร (Baseline) กำหนดระยะห่างของตัวอักษร เมื่อเทียบกับเส้น
ของตัวอักษรซึ่งสามารถพิมพ์ข้อความประเภทตัวยก หรือตัวห้อยได้อย่างถูกต้อง   โดยหาก
กำหนดค่ามากกว่า 0 จะเป็นการกำหนดให้เป็นตัวยก   และค่าเท่ากับ 0 เป็นค่าปกติ แต่ถ้า
กำหนดค่าน้อยกว่า 0 จะเป็นการกำหนดให้ข้อความแสดงเป็นตัวห้อย

10. กำหนดสีของตัวอักษร (Color) เลือกสีที่นำมาใช้พิมพ์ข้อความ

11. กำหนดลักษณะของตัวอักษร เลือกลักษณะตัวพิมพ์อักษรภาษาอังกฤษ ให้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ ,
ตัวพิมพ์เล็ก รวมทั้ง ตัวยก , ตัวห้อย หรือขีดเส้นใต้

12. เลือกภาษา (Language) กำหนดภาษาที่จะนำมาใช้พิมพ์ข้อความ

13. ตกแต่งขอบตัวอักษร (Anti - Alias) ตกแต่งขอบของอักษรให้เรียบเนียน ซึ่งประกอบด้วย

      - None                        ไม่ทำการปรับแต่งตัวอักษร

      - Sharp                      แสดงตัวอักษรให้ดูคมชัดมากที่สุด

      - Crisp                       แสดงตัวอักษรให้ดูคมขึ้น

      - Strong                     แสดงตัวอักษรโดยเน้นให้เห็นถึงน้ำหนักของแต่ละตัวอักษร

การพิมพ์ข้อความด้วยเครื่องมือประเภท Type Tool คือ การใช้เครื่องมือประเภท Horizontal Type Tool คือการสร้างข้อความแบบปกติในแนวนอน และ Vertical Type Tool

คือการสร้างข้อความแบบปกติในแนวตั้ง โดยโปรแกรมจะสร้างเลเยอร์ใหม่ขึ้นมาทันทีหลังจากที่เลือกเครื่องมือแล้ว พร้อมกับมีพาแนล Character ถ้าไม่มีพาแนลให้เปิดใช้จากคำสั่ง Windows

ขั้นตอนการพิมพ์ข้อความแบบแนวนอน มีดังนี้

1. ให้ผู้เรียนคลิกเมาส์ที่เครื่องมือ Type Too
แล้วเลือกเครื่องมือย่อย

จาก Toolbox หลังจากนั้นให้คลิกเมาส์ที่พื้นที่ของกระดาษทำการ จะปรากฏเคอร์เซอร์กระพริบซึ่งเป็นตำแหน่งที่สามารถพิมพ์ข้อความได้ โดยสามารถเปลี่ยนภาษาที่ใช้ในการพิมพ์ได้ทั้งภาษาอังกฤษ และ ภาษาไทย (เฉพาะ Font ที่สามารถแสดงภาษาไทยได้เท่านั้น)

2. เมื่อพิมพ์ข้อความและกำหนดรายละเอียดต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว และต้องการหยุดการพิมพ์เพื่อทำให้กรอบข้อความนี้เป็นวัตถุที่สามารถเคลื่อนย้ายเหมือนวัตถุอื่น ๆ ทั่วไปให้คลิกเมาส์ที่ไอคอน

บน Option bar หรือสามารถคลิกเมาส์ที่เครื่องมือ Move Tool บน Toolbox โดยสังเกตว่ากรอบข้อความจะมีเส้นประล้อมรอบ ถ้าผู้เรียนต้องการย้ายวัตถุไปยังตำแหน่งที่ต้องการให้คลิกเมาส์ที่วัตถุแล้วลากไปวางยังตำแหน่งใหม่ที่ต้องการ

ขั้นตอนการพิมพ์ข้อความแบบแนวตั้ง มีดังนี้

1. ให้ผู้เรียนคลิกเมาส์ที่เครื่องมือ Type Tool
แล้วเลือกเครื่องมือย่อย

บน Option bar หรือสามารถคลิกเมาส์ที่เครื่องมือ Move Tool บน Toolbox ข้อความที่ได้จะเป็นแนวตั้งเรียงจากด้านบนลงล่าง

ขั้นตอนการปรับแต่งข้อความ มีดังนี้

หลังจากที่ผู้เรียนได้สร้างข้อความแล้ว และต้องการที่จะปรับแต่งหรือเปลี่ยนข้อความใหม่สามารถทำได้โดย

1. ให้ผู้เรียนคลิกเมาส์ที่เครื่องมือ Type Tool
แล้วเลือกรูปแบบของเครื่องมือย่อยให้เหมือนกับข้อความเดิมที่ได้สร้างไปแล้ว จากนั้นนำเมาส์คลิกที่ข้อความเพื่อให้เกิดเคอร์เซอร์ในตำแหน่งเดิมของข้อความ ซึ่งผู้เรียนสามารถลบ หรือ แก้ไขข้อความได้เหมือนกับการพิมพ์ทั่วไป

2. ถ้าต้องการปรับแต่งข้อความ เช่น เปลี่ยนลักษณะตัวอักษร , เปลี่ยนสี หรือกำหนดรายละเอียดอื่น ๆ หลังจากที่ได้พิมพ์ข้อความไปแล้วให้ผู้เรียนคลิกเมาส์ที่เครื่องมือ Type Tool
แล้วเลือกรูปแบบของเครื่องมือย่อยให้เหมือนกับข้อความเดิมที่ได้สร้างไปแล้ว จากนั้นนำเมาส์คลิกที่ข้อความเพื่อให้เกิดเคอร์เซอร์ในตำแหน่งเดิมของข้อความแล้วทำการดรากส์ข้อความให้มีแถบสีดำคลุมข้อความนั้น จากนั้นจึงเปลี่ยนรูปแบบต่าง ๆ จาก Option bar หรือพาแนล Character

ขั้นตอนการพิมพ์ข้อความแบบ Type Mask Tool

Type Mask Tool เป็นเครื่องมือสำหรับพิมพ์ข้อความประเภทหนึ่งแต่มีความพิเศษอยู่ตรงที่ข้อความที่ได้จะมีเส้นประล้อมรอบ คือ เป็นเส้น Selection ซึ่งสามารถเติมสี หรือนำภาพทั่วไปมาใส่ในพื้นที่ Selection นี้ได้ โดยที่ข้อความ จะยังไม่ถูกจัดวางในพาแนล Layer จนกว่าจะได้ตกแต่งรูปแบบอื่น ๆ ก่อน ซึ่งการพิมพ์ในรูปแบบนี้จะมีทั้งแบบแนวนอน คือ Horizontal Type Mask Tool และ แบบแนวนอน คือ Vertical Type Mask Tool โดยมีขั้นตอนการพิมพ์ข้อความ ดังนี้

1. ให้ผู้เรียนคลิกเมาส์ที่เครื่องมือ Type Tool

แล้วเลือกเครื่องมือย่อย

หรือ

จาก Toolbox หลังจากนั้นให้คลิกเมาส์ที่พื้นที่ของกระดาษทำการจะปรากฏเคอร์เซอร์กระพริบซึ่งเป็นตำแหน่งที่สามารถพิมพ์ข้อความได้ สังเกตว่าพื้นหลังของหน้ากระดาษจะเปลี่ยนเป็นสีชมพูและมีตัวอักษรที่พิมพ์เป็นสีขาวแทน โดยสามารถเปลี่ยนภาษาที่ใช้ในการพิมพ์ได้ทั้งภาษาอังกฤษ และ ภาษาไทย (เฉพาะ Font ที่สามารถแสดงภาษาไทยได้เท่านั้น)

2. เมื่อพิมพ์ข้อความและกำหนดรายละเอียดต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ให้คลิกเมาส์ที่ไอคอน

บน Option bar หรือสามารถคลิกเมาส์ที่เครื่องมือ Move Tool บน Toolbox ข้อความที่ได้จะเป็นเส้น Selection

3. ผู้เรียนสามารถตกแต่งเส้นประของ Selection นี้ได้โดยการเติมสี หรือ การไล่เฉดสี ได้ (จากตัวอย่างจะเป็นการไล่เฉดสี โดยการใช้เครื่องมือ Gradient Tool )

การสร้างข้อความให้เป็นรูปแบบอิสระโดยการใช้เส้น Path มาช่วยในการวาดโครงร่างของเส้น จะทำให้การสร้างข้อความนั้นมีหลากหลายรูปแบบและตรงกับความต้องการใช้งานได้มากที่สุด โดยที่ผู้เรียนสามารถสร้างเส้นพาธด้วยวิธีการต่าง ๆ ตามที่ได้ศึกษามาแล้วในเรื่องการสร้างเส้นพาธกับรูปภาพ วิธีการสร้างข้อความตามแนวเส้น Path มีดังนี้

1. สร้างเส้นพาธโดยคลิกเลือกเครื่องมือ Path Tool บน Toolbox

2. คลิกเครื่องมือ Type Tool บน Toolbox (สามารถเลือกได้ทุกรูปแบบ) จากนั้นนำเมาส์ไปคลิกบนเส้นพาธ สังเกตว่าจะมีเคอร์เซอร์กระพริบบนเส้นพาธแล้วพิมพ์ข้อความที่ต้องการ โดยข้อความจะถูกวางไว้บนเส้นพาธตามที่เราสร้าง

3. เมื่อพิมพ์ข้อความที่ต้องการได้ให้นำเส้นพาธออกเพื่อจะได้เฉพาะข้อความที่ไม่มีเส้นพาธติดมาด้วย โดยคลิกเลือกเครื่องมือ Direct Selection Tool บน Toolbox แล้วนำไปคลิกที่เส้นพาธและกดปุ่ม Enter เส้นพาธจะถูกลบออกไปเหลือแต่ข้อความที่สร้างเป็นลักษณะโค้งตามต้องการ

วิธีการจัดวางข้อความแบบพิเศษนี้จะเป็นการปรับแต่งให้ข้อความมีความพลิ้วไหว หรือสร้างเป็นรูปโค้งเว้าชนิดต่าง ๆ โดยที่จะปรับแต่งรูปแบบกับข้อความที่เราได้สร้างไปแล้ว ซึ่งรูปแบบนั้นจะไม่สามารถกำหนดได้เองอย่างอิสระเหมือนเส้นพาธแต่จะเป็นรูปแบบตามที่โปรแกรมกำหนดมาให้ ซึ่งเราจะปรับแต่งรูปแบบย่อย ๆ ได้ตามที่กำหนดมาให้เท่านั้น วิธีการปรับแต่งข้อความให้มีความพริ้วไหว มีดังนี้

1. สร้างข้อความที่ต้องการ จากนั้นทำการเลือกข้อความที่สร้างไว้

2. คลิกเครื่องมือ Type Tool บน Toolbox โดยที่จะมี Option bar ของ Type Tool ปรากฏขึ้น ให้คลิกเมาส์ที่ไอคอน

จะปรากฏไดอะล็อกซ์บล็อกซ์ Warp Text สำหรับการปรับแต่ง

3. คลิกเลือกรูปแบบของการจัดวางข้อความแบบพิเศษจากช่อง Style และ เลือกการจัดวางข้อความในแนวนอนโดยคลิกคำสั่ง Horizontal และวางข้อความในแนวตั้งคลิก Vertical

4. กำหนดค่าต่าง ๆ เพิ่มเติมดังนี้

- Bend กำหนดความโค้งงอตามความต้องการอย่างอิสระ

- Horizontal Distortion กำหนดระยะของการจัดวางในแนวนอน

- Vertical Distortion กำหนดระยะของการจัดวางในแนวตั้ง

Layer Style เป็นการใส่เอฟเฟกต์พิเศษ ได้แก่ การใส่เงา , การทำให้ข้อความดูนูนขึ้นมา หรือทำให้ดูลึกลงไป เป็นต้น ซึ่งการตกแต่งให้กับข้อความนี้จะเป็นการใส่เอฟเฟกต์ที่สำเร็จรูปที่โปรแกรม Photoshop มีมาให้ หากมีการปรับแต่งก็จะปรับแต่งในหัวข้อตามที่โปรแกรมให้มาเท่านั้น วิธีการปรับแต่งข้อความด้วย Layer Style มีดังนี้

1. สร้างข้อความที่ต้องการ จากนั้นทำการเลือกข้อความที่สร้างไว้

2. คลิกเลือกเมนูคำสั่ง Layer เลือกคำสั่ง Layer Style จะมีรูปแบบของเอฟเฟ็กต์ให้ผู้เรียนเลือกอีกหลายรูปแบบ คลิกเลือกรูปแบบที่ต้องการ จากนั้นจะปรากฏไดอะล็อกซ์บล็อกซ์ของ Layer Style ให้ปรับแต่งรูปแบบชนิดต่าง ๆ

3. ดูรูปแบบตัวอย่างได้จากช่อง Preview และถ้ากำหนดรายละเอียดแล้วให้คลิกปุ่ม OK. จะได้ข้อความที่มีการปรับแต่งในเรื่องของ Layer Style

Style Palette คือกลุ่มรูปแบบพิเศษที่ใช้ในการตกแต่งรูปภาพ , วัตถุ หรือข้อความ ที่อยู่ในแต่ละเลเยอร์ ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้ข้อความที่พิมพ์ลงไปนั้นมีความสวยงามน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดย Style Palette สามารถใช้ทั้งเครื่องมือ Type Tool และ Type Mask Tool อีกทั้งรูปแบบของ Style Palette ยังสามารถติดตั้งเพิ่มเติมในโปรแกรม Photoshop CS5 ได้นอกเหนือจากโปรแกรมที่กำหนดมาให้ หากไม่พบพาแนล Style ให้เปิดใช้พาแนลโดยใช้คำสั่ง Windows เลือกพาแนล โดยคลิกเมาส์ที่หน้าชื่อพาแนล Styles โดยวิธีการปรับแต่งข้อความด้วย Style Palette มีดังนี้

1. สร้างข้อความที่ต้องการ จากนั้นทำการเลือกข้อความที่สร้างไว้

2. เลือกรูปแบบของ Style ที่ต้องการในพาแนลซึ่งมีรูปแบบสำเร็จรูปที่โปรแกรมสร้างมาให้ แต่ถ้าต้องการเลือกรูปแบบ Style ที่เพิ่มมากขึ้น ให้คลิกเมาส์ที่ปุ่ม

บนพาแนล จากนั้นเลือกรูปแบบที่แบ่งเป็นชุด ๆ ของ Style ซึ่งเมื่อเลือกชุดไหนโปรแกรมจะขึ้นกรอบคำสั่งถามว่าต้องการให้ Style ใหม่แทนที่รูปแบบเดิมหรือไม่ ถ้าไม่ต้องการให้แทนที่รูปแบบเดิมให้เลือกคำสั่ง Append เพื่อให้รูปแบบใหม่ต่อจากรูปแบบเดิม

3. คลิกเลือกรูปแบบ Style บนพาแนล โดยสังเกตว่าข้อความจะเปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อย ๆ ตาม Style ที่เลือกในพาแนล ให้ผู้เรียนเลือกรูปแบบที่ต้องการจนกว่าจะได้รูปแบบที่ต้องการ ซึ่งข้อความจะเปลี่ยนเป็นรูปแบบที่โปรแกรมมีให้

Paragraph เป็นการพิมพ์ข้อความที่มีหลาย ๆ บรรทัดอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมเดียวกัน หรือ เป็นวัตถุเดียวกัน ซึ่งเราเรียกข้อความหลายบรรทัดว่า ย่อหน้า (Paragraph) โดยเมื่อผู้เรียนสร้างข้อความที่เป็นย่อหน้านี้จะปรากฏพาแนลที่ควบคุมการทำงานมีชื่อว่า Paragraph Palette ซึ่งใช้ควบคุมการทำงานของย่อหน้าทั้งหมด ซึ่งหากไม่ปรากฏพาแนลนี้หลังจากเรียกใช้เครื่องมือให้คลิกที่เมนู

คำสั่ง Windows เลือกหัวข้อ พาแนลชื่อ Paragraph วิธีการสร้างย่อหน้ามีดังนี้

1. คลิกที่เครื่องมือ Type Tool บน Toolbox

2. ดรากส์เมาส์บนพื้นที่ว่างของกระดาษทำการเพื่อวาดขอบเขตของพื้นที่ที่จะสร้างเป็นย่อหน้า โดยจะแสดงเป็นกรอบสี่เหลี่ยม และเมื่อปล่อยเมาส์แล้วจะมีเคอร์เซอร์กระพริบให้พิมพ์ข้อความตามที่ต้องการหากข้อความที่พิมพ์ไปแสดงไม่พอใน 1 บรรทัดโปรแกรมจะทำการขึ้นบรรทัดให้ใหม่โดยอัตโนมัติ ซึ่งผู้เรียนสามารถพิมพ์ข้อความไปเรื่อย ๆ จนจบข้อความ หรือสามารถกดแป้น Enter เพื่อขึ้นบรรทัดใหม่ก็ได้เช่นเดียวกัน

3. เมื่อสร้างย่อหน้าเสร็จแล้วให้คลิกเมาส์ที่เครื่องมือ Move Tool

หรือปุ่ม

และหากต้องการปรับขนาดของย่อหน้าให้ผู้เรียนคลิกเมาส์ที่ปุ่มสี่เหลี่ยมของย่อหน้าจากนั้นลากเมาส์เข้าเพื่อย่อขนาดของย่อหน้า หรือลากเมาส์เพื่อขยายย่อหน้าออก