สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์ (Creative Commons Licence: CC) เป็นสัญญาอนุญาตทางลิขสิทธิ์ประเภทหนึ่งพัฒนาโดย Hewlett Foundation study องค์กรไม่แสวงกำไรองค์กรหนึ่งที่เน้นงานด้านกฏหมาย Show วัตถุประสงค์ของสัญญานี้เพื่อให้เจ้าของผลงานอันมีลิขสิทธิ์สามารถแสดงข้อความอันอำนวยความสะดวกให้สาธารณชนรู้ถึงสิทธิ์ในผลงาน และทราบว่าจะนำงานอันมีลิขสิทธ์ของตนไปใช้ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตและไม่ถือว่าเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ โดยผู้ที่นำผลงานไปใช้ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ เช่น อ้างอิงแหล่งที่มา ไม่ใช่เพื่อการค้า ไม่ดัดแปลงต้นฉบับ เป็นต้น รายละเอียดของแต่ละสัญญาอนุญาตนั้น ขึ้นอยู่กับรุ่นของสัญญา และประกอบไปด้วยตัวเลือกจากเงื่อนไข 4 เงื่อนไข โดยได้มีการจัดทำสัญลักษณ์เงื่อนไขเป็น 4 ประเภท ซึ่งเครือข่ายครีเอทีฟคอมมอนส์ประเทศไทย (http://cc.in.th) ได้ถอดความและนำสัญลักษณ์ 4 เงื่อนไขนั้นมากำหนดสัญญาอนุญาต ทำได้โดยการระบุเงื่อนไงร่วมกันได้ใน 6 แบบ ดังนี้
แหล่งข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติมเข้าได้ที่ http://creativecommons.org/about/downloads Related content:
ผลงานทั้งหมดที่ถูกสร้างขึ้นมาล้วนแต่มีการคุ้มครองลิขสิทธิ์กับเจ้าของผลงาน หรือที่เรียกว่า Copyright (©) ซึ่งหากผู้อื่นจะนำผลงานนั้นไปใช้ก็ต้องมีการขออนุญาตจากเจ้าของผลงานก่อน หากมีการนำงานมาใช้โดยไม่ขออนุญาตก็จะละเมิดลิขสิทธิ์กับเจ้าของผลงาน ตรงนี้เองทำให้เกิดข้อจำกัดในการนำทรัพยากรมาใช้ประโยชน์ร่วมกัน จึงได้เกิดแนวคิดที่เรียกว่า Creative Commons ก่อนอื่นเลยนะครับ เรามาทำความรู้จักกันคำว่า “Creative Common” กันก่อนดีกว่า Creative Commons หรือแปลเป็นภาษาไทยได้ว่า “สัญญาอนุญาตแบบเปิด” เป็นลิขสิทธิ์ประเภทหนึ่งที่เปิดโอกาสให้นำผลงานไปใช้ได้โดยไม่ต้องขออนุญาต และไม่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ แต่ผู้ที่นำผลงานไปใช้จะต้องทำตามเงื่อนไข ดังนี้ 1) Attribution – สามารถทำซ้ำ/แจกจ่าย/ดัดแปลงได้ แต่ต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มา ใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ 2) Non Commercial – สามารถทำซ้ำ/แจกจ่าย/ดัดแปลงได้ แต่ห้ามใช้ในเชิงพาณิชย์ 3) No Derivatives – สามารถทำซ้ำ/แจกจ่าย แต่ห้ามดัดแปลงเว้นแต่จะขออนุญาตก่อนดัดแปลง 4) Share Alike – สามารถทำซ้ำ/แจกจ่าย/ดัดแปลงได้ แต่ต้องขออนุญาต ใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ 5) Public Domain Dedication – สามารถทำซ้ำ/แจกจ่าย/ดัดแปลงได้โดยไม่ต้องให้เครดิตหรือแสดงแหล่งที่มา ใช้ในเชิงพาณิชย์ได้ ในการสร้างสื่อเราจำเป็นต้องหารูปภาพ หรือองค์ประกอบต่าง ๆ จากหลากหลายเว็บไซต์ เพื่อนำมาสร้างตามวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น เพื่อการค้า การศึกษา หรือการประชาสัมพันธ์ ฯลฯ และวันนี้ผมจะมาแนะนำ 5 เว็บไซต์ที่เป็นแหล่งรวมรวมรูปภาพ หรือองค์ประกอบที่ใช้ในการสร้างสื่อแบบถูกกฎหมาย และไม่ติดลิขสิทธิ์ มาให้ทุกคนได้รู้และสามารถทำไปใช้ได้เลย โดยไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าของผลงาน จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลยครับ 1. Pexels สำหรับใครกำลังมองหาภาพแนว Street แนวฮิปสเตอร์ หรือภาพคูล ๆ ไว้ตกแต่งเว็บไซต์ รับรองได้เลยว่ามาเว็บนี้ถูกใจแน่นอน เพราะภาพถ่ายส่วนใหญ่ในนี้ค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก ส่วนเงื่อนไขไม่มีข้อห้ามอะไรเลย สามารถใช้ได้ตามสะดวก และสามารถค้นหาเป็นภาษาไทยได้อีกด้วย 2. Freepik เป็นเว็บยอดฮิตที่หลาย ๆ คนชอบใช้กัน โดยจะมี source แบบไม่ติดลิขสิทธิ์ให้เลือกทั้งรูปภาพ, ไอคอน, PSD และเวกเตอร์ แต่ส่วนที่เด่นที่สุดน่าจะเป็นเวกเตอร์ที่มีแบบสวย ๆ ให้เลือกมากมาย สิทธิ์ในการใช้งานมีดังต่อไปนี้ 3. Canva อีกหนึ่งเว็บไซต์ที่อยากจะแนะนำ เพราะ Canva นั้น เรียกได้ว่าเป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว !! เพราะว่านอกจากจะขึ้นชื่อในเรื่องของ Templates ที่มีให้ผู้ใช้ได้เลือกเข้าไปใช้งาน สร้างสรรค์ปก หนังสือ นิตยสาร เว็บไซต์ รวมไปถึงเรซูมเม่ แล้วนั้น ก็มีรูปภาพฟรีให้ดาวน์โหลดไปใช้งานด้วย แถมภาพที่ทางเว็บไซต์เปิดให้ Download ฟรี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น Canva ก็ไม่ได้เปิดให้ดาวน์โหลดไปใช้งานฟรีกันได้ทุกรูป บางภาพก็อาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายด้วยเช่นกัน แต่โดยรวมแล้ว ภาพที่เปิดให้ดาวน์โหลดไปใช้งานกันได้ฟรี ๆ นั้นก็มีให้เลือกเยอะมากมาย และเพียงพอต่อการใช้งานครับ 4. flaticon เป็นเว็บไซต์ของนักออกแบบ UX/UI หรือ Graphic Designer ที่ต้องการไอคอน หรือสัญลักษณ์ต่าง ๆ ไปปรับใช้กับรูปภาพหรือทำ Infographic สวย ๆ ซึ่งเว็บนี้มีให้เลือกทั้งแบบฟรี และแบบเสียเงินครับ 5. Pixabay Pixabay มีภาพให้เลือกมากว่า 300,000 ภาพ โดยส่วนมากจะเป็นภาพที่ไว้ใช้ในการโฆษณาหรือภาพแบบปกติทั่วไป ไม่ใส่สี ฟิลเตอร์ หรือย้อมสีภาพ เป็นเว็บไซต์ยอดนิยมสำหรับการค้นหาภาพแบบไม่ติดลิขสิทธิ์ ซึ่งแต่ละรูปบอกได้เลยว่าสวยงามไม่แพ้กับเว็บไซต์ที่เสียเงินเลยจริง ๆ จุดเด่นของเว็บนี้อยู่ที่ภาพถ่ายเป็นหลัก ผู้ใช้สามารถนำไปใช้ประกอบการโฆษณา/แก้ไข/ตัดต่อ หรือตกแต่งได้เลย ส่วนเวกเตอร์ และภาพประกอบต่าง ๆ ก็มีให้เลือกเช่นเดียวกัน ส่วนข้อห้ามมีไม่กี่อย่าง ดังนี้ ดังนั้น ก่อนนำผลงานไปใช้ อยากให้เราตรวจสอบเรื่องลิขสิทธิ์ในผลงานก่อนสักนิด ถึงแม้ว่าจะเป็น Creative Commons เองก็ตาม ก็ยังคงมีเงื่อนไขบางอย่างที่คนนำผลงานไปใช้ต้องระวังและปฏิบัติตามเช่นกัน โปรดศึกษาเงื่อนไขของเว็บไซต์ให้ดีก่อนใช้กันด้วยนะครับ ขอบคุณครับ :) Creative Commons มีความหมายว่าอะไรครีเอทีฟคอมมอนส์ (Creative Commons: CC) เป็นองค์กรไม่แสวง กำไรที่สนับสนุนการใช้เนื้อหาโดยไม่ถูกจำกัดจากสัญญาอนุญาต สัญญา อนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์จะเอื้อให้มีการใช้สื่อทั้งทางภาพ เสียง ข้อมูล โดยการแบ่งแยกสัญญาอนุญาตย่อยออกสำหรับการแจกจ่ายและการ ใช้ข้อมูล โดยการอ้างอิงถึงเจ้าของลิขสิทธิ์เดิม
เงื่อนไขในการให้อนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์ ดังต่อไปนี้ หมายถึงอะไรโดยเงื่อนไขในการให้อนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์มีอยู่ 4 เงื่อนไข คือ อ้างอิงแหล่งที่มา (BY) หมายถึงการนำไปใช้จะต้องอ้างอิงกลับมาถึงผู้เขียน ให้อนุญาตต่อไปแบบเดียวกัน (SA) คือยินยอมให้มีการดัดแปลงงานได้โดยต้องมอบความยินยอมต่อไปด้วย ห้ามนำไปใช้เพื่อการค้า (NC)
Creative Common มีประโยชน์อย่างไรเหตุผลการมีอยู่ของ Creative Commons (CC) ก็เพื่อช่วยให้เจ้าของสามารถบอกให้คนทั่วไปรู้ว่า ผลงานของตัวเขาสามารถนำไปใช้งานในลักษณะใดต่อได้บ้างอย่างง่ายๆ นอกจากนี้ Creative Commons ยังช่วยปกป้องผู้ใช้ทั่วไปให้ไม่ต้องกังวลว่าจะเผลอไปละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ตราบใดที่เขาทำถูกต้องตามเงื่อนไขที่กำหนด
Creative Commons License มีอะไรบ้างครีเอทีฟคอมมอนส์ (Creative Commons License). 1. Attribution (BY) สัญลักษณ์ที่แสดงว่า อนุญาตให้ผู้อื่นสามารถนำผลงานไปใช้ ทำซ้ำ แจกจ่าย หรือดัดแปลงงานนั้นได้ แต่ต้องให้เครดิตที่มาของเจ้าของผลงานนั้น. 2. NonCommercial (NC) ... . 3. NoDerivatives (ND) ... . 4. ShareAlike (SA). |