Electronic Commerce หรือ การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์หมายถึงการทำธุรกรรมทางเศรษฐกิจที่ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
เช่น อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศประกอบด้วย ระบบสื่อสารโทรคมนาคม ระบบคอมพิวเตอร์และระบบฐานข้อมูล ระบบสื่อสารอาจเป็นระบบพื้นฐานทั่วไป เช่นระบบโทรศัพท์ โทรสาร หรือวิทยุ โทรทัศน์ แต่ระบบอินเทอร์เน็ตซึ่งเชื่อมโยงถึงกันได้ทั่วโลก เป็นระบบเปิดกว้าง โดยเป็นระบบเครือข่ายของเครือข่าย ที่เรียกว่า world wide web มาจากความเป็นเอกลักษณ์คือสามารถสร้างให้มี hyperlink จากหน้าหนึ่งไปอีกหน้าหนึ่ง ไป webpage อื่น หรือไป website อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังสามารถสื่อได้ทั้งภาพ เสียง และภาษาหนังสือที่หลากหลายซับซ้อน สามารถมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกันได้ทันทีทันใด ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์สามารถบันทึกเก็บไว้หรือนำใช้ต่อเนื่องได้ การประยุกต์ใช้ และกระแสตอบรับธุรกิจบนอินเทอร์เน็ตจึงแพร่หลายภายในระยะเวลาอันสั้น E-Commerce ใช้ติดต่อกับลูกค้าได้หลายระดับ ธุรกิจกับลูกค้า ธุรกิจกับธุรกิจ ธุรกิจกับภาครัฐ ฯ สาระของการติดต่อจะมี 4-5 ประการ คือ
เนื่องจากการทำธุรกิจดังกล่าวมีการแข่งขันกันร้อนแรง
ส่วนใหญ่อยู่ในรูปข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์โดยเป็นไปได้ที่คู่ค้าอาจไม่เคยรู้จักติดต่อกันมาก่อน ปัจจัยสนับสนุนสำคัญจากภาครัฐได้แก่ แผนกลยุทธ์การค้าอิเล็กทรอนิกส์ของประเทศ เพื่อมิให้เสียเปรียบเชิง ระบบความปลอดภัยนับเป็นเรื่องที่โดดเด่นที่สุด และมีเทคโนโลยีความปลอดภัยคือ Public Key ซึ่งมีองค์กรรับรองความถูกต้องเรียกว่า CA (Certification Authority)
ระบบนี้ใช้หลักคณิตศาสตร์คำนวณรหัสคุมข้อความจากผู้ส่งและผู้รับอย่างเฉพาะเจาะจงได้จึงสามารถพิสูจน์ตัวตนของผู้รับผู้ส่ง (Authentication) รักษาความปลอดภัยของข้อมูล (Confidentiality) ความถูกต้องไม่ การชำระเงินบน E-Commerce จากผลการวิจัยพบว่า วิธีการชำระเงินที่สำคัญสำหรับกรณีธุรกิจกับธุรกิจ ร้อยละ 70 ใช้วิธีหักบัญชีธนาคาร ขณะที่ ธุรกิจกับ Credit : www.bot.or.th ธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) คือ ธุรกิจที่ดำเนินการซื้อขายบนอินเทอร์เน็ตอย่างเป็นระบบและเป็นการดำเนินธุรกิจที่น่าเชื่อถือมาก ซึ่งวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจภานิชย์อิเล็กทรอนิกส์มีดังนี้ 1. เพื่อเพิ่มช่องทางในการทำการตลาดเเละขยายช่องทางในการจัดจำหน่ายสินค้าหรืบริการให้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น โดยเฉพราะลูกค้าในต่างประเทศ 2. เป็นการประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการ ให้เป็นที่รุ้จักแพร่หลายมากยิ่งขึ้น 3. เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคโดยไม่ต้องเสียเวลา อย่างไรก็ตาม พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่สรุปได้ดังนี้ ข้อดี 1. สามารถดำเนินการได้ 24 ชั่วโมง 2. ดำเนินการค้าอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว 3. สามารถประชาสัมพัธน์สินค้า หรือบริการได้ทั่วโลกโดยใช้งบประมาณทุนน้อย 4. ลดปัญหาในกการเดินทาง ข้อเสีย 1. ผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้และมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต 2. ประเทศของผู้ซื้อและผู้ขายจะต้องมีกฎหมายรับรองอย่างมีประสิทธิภาพ 3. ต้องมีระบบรักษาความปลอดภัยที่น่าเชื่อถืือและไว้วางใจได้ 4. สินค้าที่แสดงบนอินเทอร์เน็ตอาจจะไม่ตรงตามความเป็นจริง |