คุณสมบัติทั่วไปของพนักงานขาย Show 1. บุคลิกภาพ (Personality) หมายถึง คุณลักษณะเฉพาะตัวของแต่ละบุคคลซึ่งไม่เหมือนกัน ได้แก่ รูปร่าง หน้าตา กิริยา ท่าทาง การพูด การแต่งกาย บุคลิกภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะความประทับใจที่ลูกค้าได้รับก่อนสิ่งใดคือบุคลิกภาพของพนักงานขายนั่นเอง พนักงานขายจึงควรเอาใจใส่และปรับปรุงบุคลิกภาพของตนเองให้ดียิ่งขึ้น ดังนี้
คุณสมบัติที่ดีของพนักงานขายที่นายจ้างพึงปรารถนา พนักงานขายมีส่วนสำคัญที่จะเป็นผู้นำเสนอให้กับลูกค้า ดังนั้น พนักงานขายที่นายจ้างพึงปรารถนาโดยทั่วไป จึงมีคุณสมบัติดังนี้ สำหรับองค์กรที่ต้องการขยายธุรกิจให้ใหญ่โตยิ่งขึ้นหลังจากที่มีเงินทุนและประสบการณ์ในตลาดอยู่พอสมควรแล้ว ตำแหน่งโดยตรงที่จะสามารถสร้างรายได้และส่วนแบ่งตลาดของคุณได้ก็คือการจ้างตำแหน่งนักขายให้เพิ่มขึ้นนี่เองครับ รับรองว่ายอดขายเพิ่มขึ้นแน่ๆ (ในกรณีที่พวกเขาทำได้ดีน่ะนะ) พูดน่ะมันง่ายครับ ก็ในเมื่อคุณคัดกรองผู้สมัครได้เพียงแค่เรซูเม่ หรือไม่ก็การสัมภาษณ์งานไม่กี่รอบเท่านั้นเอง จะรู้ได้อย่างไรว่าคนที่คัดมานั้นเป็นคนที่เก่ง เป็นคนดี และพร้อมที่จะลงเรือไปพร้อมกับคุณ ที่สำคัญคือค่าตัวจะต้องสมเหตุสมผลด้วยนะ ผมจึงมีวิธีดีๆ ในการคัดเลือกคนที่ใช่มาฝากคุณกันครับ 1. ความทรหดอดทนและความขยันหมั่นเพียร (GRIT) จะดีมากถ้าภูมิหลังของคนที่คุณสัมภาษณ์มีอะไรที่ออกแนว “คนสู้ชีวิต” มาก่อน พูดง่ายๆ ก็คือไม่ได้เป็นลูกคนรวยที่ทำอะไรก็ดูง่ายไปหมด คนเหล่านี้ย่อมรู้ดีกว่ากว่าจะผ่านความยากลำบากทั้งการเรียน การใช้ชีวิต และการเอาตัวรอด วิธีเช็คก็ง่ายๆ ด้วยการดูเรซูเม่ว่าจบไหนมา จากนั้นก็เอาชื่อ นามสกุลไปค้นในกูเกิ้ล เฟซบุ้คก็จะพอรู้ไลฟ์สไตล์ของคนประเภทนี้ คนกลุ่มนี้แหละที่พร้อมเรียนรู้การเป็นนักขายมือทองอย่างถวายชีวิตเพราะพวกเขารู้ว่าอาชีพนี้จะช่วยพลิกชีวิตของเขาได้ 2. เป็นคนขี้สงสัย (Curiosity) ธรรมชาติของคนขี้สงสัย (ขี้เสือก) เป็นสิ่งดีกับอาชีพนักขายครับ โดยเฉพาะการเสือกหรือสงสัย “ลูกค้า” ว่าพวกเขาทำธุรกิจอะไร งบการเงินมากแค่ไหน มีชีวิตและมีปัญหาอย่างไร ฯลฯ หรือสงสัยในเรื่องที่ควรสงสัยอย่างสินค้าที่ขายมีคุณสมบัติตอบโจทย์หรือไม่ สงสัยว่าปัญหาทางธุรกิจมีอะไร แล้วลงมือแก้ไขปัญหานั้นอย่างเต็มที่ 3. มีวินัย (Conscientiousness) เรื่องนี้สำคัญยิ่งกว่านักขายที่พูดเก่ง มีความมั่นใจในตัวเองสูง อัธยาศัยดี เฟรนลี่ อะไรทำนองนี้เสียอีกครับ คือผมไม่ได้บอกว่าคนที่มีบุคลิกหรือนิสัยตามที่กล่าวมานั้นไม่ดีนะครับ แต่มันวัดผลไม่ได้ครับ สุดยอดแห่งความสำเร็จของนักขายมือทองคือวินัยครับ เพราะความมีวินัยสามารถทำให้การทำงานเป็นระบบได้อย่างดีเยี่ยม วางแผนการติดตามงานได้สม่ำเสมอ สามารถแบ่งเวลาในการทำงานโดยเฉพาะการเข้าพบลูกค้าได้อย่างทั่วถึง นักขายที่ปากหรือบุคลิกดีแค่ไหนก็ไม่เจ๋งเท่ากับคนที่ทำงานอย่างมีวินัยครับ 4. ความหิวกระหาย (Hunger) นักขายที่ไม่กระหายความสำเร็จหรือทำงานแบบมนุษย์เงินเดือนนั้นมีอยู่มากมาย ทำให้พวกเขาไม่สามารถก้าวข้ามเรื่องฐานะหรือชนชั้นและตำแหน่งหน้าที่การงาน ทั้งๆ ที่อาชีพนี้ตั้งอยู่ในคอนเซ็ป “ทำมากได้มาก” ดังนั้นนักขายที่ประสบความสำเร็จจะต้องตั้งอยู่บนความหิวกระหายต่ออำนาจและเงินตรา ย้ำนะครับว่าถ้าไม่อยากรวยก็ไปทำงานเซเว่นหรือเคเอฟซีเถอะ แต่ที่ผมจะบอกคือต้องกระหายอำนาจและเงินตราในทางที่สุจริต มีจริยธรรมที่ดี ซื่อสัตย์ และไม่เอารัดเอาเปรียบผู้อื่นนั่นเองครับ 5. ความรับผิดชอบ (Responsibility) ความรับผิดชอบสำคัญมากเพราะการทำผิดแต่ไม่รับผิดชอบย่อมเสียหายต่อเครดิตและความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ความรับผิดชอบจึงไม่ใช่เพียงแค่ทำงานและส่งมอบตามที่ได้รับเท่านั้นนะครับ แต่ต้องรับผิดชอบเวลาที่มีข้อผิดพลาดหรือต้องแก้ปัญหาให้สำเร็จ ไม่โทษคนอื่น กล้าที่จะยืดอกรับ นี่แหละคือความรับผิดชอบที่แท้จริงของนักขายมือทองครับ 6. มีความเห็นอกเห็นใจ (Empathy) เห็นอกเห็นใจที่แท้จริงมาจากการฟังและคิดตามว่าถ้าคุณเป็นคนนั้นแล้วจะรู้สึกอย่างไร โดยจะต้องเห็นอกเห็นใจทั้งลูกค้า เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย และทุกคนที่เกี่ยวข้อง (Stakeholder) เพราะอาชีพนี้จะต้องเน้นการพูดคุยและสื่อสารกับคนหลายๆ ฝ่าย การเป็นคนที่เห็นอกเห็นใจคนอื่นจึงทำให้เป็นคนที่ยืดหยุ่น (Resilient) ไม่เถรตรงหรือตามระเบียบเป๊ะไปซะทุกอย่าง คนที่เถรตรง เจ้าระเบียบ ควรไปเป็นนักบัญชีหรือทหารมากกว่านักขาย 7. สอนได้ เป็นน้ำไม่เต็มแก้ว (Coachability) นักขายปากดี มั่นใจในตัวเองสูง จอมเก๋า (แต่ตำแหน่งไม่โตซักที) มักไม่ค่อยเปิดรับอะไรใหม่ๆ ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว พูดง่ายๆ ก็คือสอนยาก ไม้แก่ดัดยาก จึงยึดติดแต่อะไรเดิมๆ และไม่เก่งไปกว่านี้ ในทางตรงกันข้ามสำหรับนักขายที่สอนอะไรก็รับแต่สิ่งดีๆ แล้วลงมือทำทันที คนกลุ่มนี้จะเป็นคนหัวก้าวหน้า เปิดรับสิ่งใหม่และปรับปรุงการทำงานให้ดียิ่งขึ้น แถมเจ้านายยังรักอีกด้วย 8. มีทักษะการขายที่ดี (Selling Aptitude) ขอพูดถึงทักษะการขายแบบเน้นๆ ไปเลยที่ต้องมีและต้องเก่ง ไล่ตั้งแต่ – บุคลิกภาพ การแต่งกายที่ดี 9. ปรับตัวเก่ง (Adaptability) การปรับตัวไม่ใช่แค่อารมณ์ทำงานที่ไหนก็ได้แบบนี้นะครับ แต่ต้องปรับตัวได้ตามกลยุทธขององค์กร การปรับทีม การขอให้ขายสินค้าใหม่ก็ทำได้ การย้ายเขตหรือมอบหมายลูกค้าใหม่ให้ดูแลก็สามารถทำได้ คนเหล่านี้ถือว่ามีคุณสมบัตินักขายมือทองที่ปรับตัวเก่งครับ 10. มีเกียรติประวัติ (Record of Success) นักขายมือทองต้องมีถ้วยการันตี มีรางวัลท็อปเซลล์อะไรทำนองนี้ใส่ในเรซูเม่เพื่อเป็นเกียรติประวัติของตัวเองและวงศ์ตระกูล แถมยังเอาไว้อัพค่าตัวหรือเรียกเงินเดือนเพิ่มได้ด้วย การขายที่ดีควรมีลักษณะอย่างไร การขายแบบให้ความช่วยเหลือลูกค้า (Selling is Providing Service) ... . การขายแบบการชักจูงใจลูกค้า (Selling is Using Persuasion) ... . การขายแบบการติดต่อสื่อสาร (Selling is Communication) ... . การขายแบบการแก้ปัญหาให้กับลูกค้า (Selling is Problem Solving) ... . การขายคืออาการให้ความรู้แก่ลูกค้า(Selling is Educating). บุคลิกภาพของพนักงานขายที่ดีควรเป็นอย่างไรบทความวิชาการ. มีความซื่อตรง (Conscientiousness) ... . มีความเคารพนับถือผู้อื่น (Respectful) ... . มีความคิดริเริ่มในการลงมือทำเสมอ (Initiative) ... . เป็นนักฟังที่ดี (Listener) ... . มีความเพียร (Persistent) ... . มีความว่านอนสอนง่าย (Coachable) ... . เป็นคนคิดบวก (Positive) ... . มีไหวพริบที่ดี (Resourceful). ผู้ขายสินค้าที่ดีควรปฏิบัติตนอย่างไรมีความซื่อสัตย์สุจริตต่อลูกค้า เพื่อนร่วมอาชีพ และบริษัท เสนอขายอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจถึงข้อเท็จจริงอย่างถูกต้อง ให้บริการที่ดีสม่ำเสมอ ชี้แจงให้ลูกค้าทราบถึงสิทธิ และสิ่งที่ควรปฏิบัติ เพื่อรักษาผลประโยชน์ของลูกค้า หมั่นเยี่ยมเยียนลูกค้าเสมอ ทั้งด้วยตนเอง โทรศัพท์ จดหมาย บัตรอวยพรต่าง ๆ
ลักษณะการขายมีกี่ประเภทงานขายแบ่งตามลักษณะงาน แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ - การโฆษณา (Advertising) - การจัดนิทรรศการหรือการจัดแสดงสินค้า (Exhibition or Display) - การส่งเสริมการขาย (Promotion) - การบริการตนเอง (Self Service) 2.2 งานขายที่ไม่ใช้พนักงานขาย (Non-Personal Selling)
|