สอบความสามารถพิเศษ มีอะไรบ้าง

หัวข้อในการคุย msn ของพี่มิ้งเมื่อวานคือ ไล่ถามเพื่อนๆ ว่า "คิดว่าตัวเองมีความสามารถพิเศษอะไร"

 คำตอบที่ได้รับคือ ภาษาเกาหลี, กรี๊ดดัง, ก็ต้องวาดรูปอยู่แล้ว, เป่าขลุ่ย และไม่มี

     พี่มิ้งมีความเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า มนุษย์ทุกคนมีความสามารถพิเศษเฉพาะตัวด้วยกันทั้งนั้น บางคนอาจจะอยู่ตื้น จนฉายออกมาให้เห็นกันชัดๆ บางคนอยู่ลึกจนอยู่ลึกจนตัวเองก็ยังหาไม่เจอ ใครที่เจอแล้ว นำมาใช้ในทางที่ดี เป็นประโยชน์ ก็สามารถที่จะประสบความสำเร็จได้โดยง่าย (ดังนั้นนอกจากจะหาแล้ว ต้องใช้ให้เหมาะสมด้วยนะครับ)

     ความสามารถที่สูง แปลได้คล้ายๆ กับคำว่าความเก่ง ซึ่งความเก่งก็แบ่งออกเป็นด้านต่างๆ หลายด้านครับ ความเก่งด้านกีฬา
ความเก่งด้านความจำ ความเก่งด้านความคิด  ความเก่งด้านการพูด ความเกงด้านการแสดง ฯลฯ ซึ่งหาได้ยากที่ใครจะรวบรวมความเก่งถึงขั้นเชี่ยวชาญ เอาไว้ในคนเดียว

     ดังนั้นใครเรียนไม่เก่ง หรืออ่อนด้านกีฬา ก็อย่าเพิ่งเซ็ง เฝ้าโทษตัวเอง เพราะเราอาจถูกสร้างมาเพื่อมีความสามารถ ความถนัด
ในด้านอื่นครับ อธิบายไปแล้ว น้องๆ หลายคนคงอยากลุกขึ้นมาค้นหาความสามารถของตัวเองบ้าง

     พี่มิ้งแนะนำว่า ลองสำรวจด้วยวิธีเหล่านี้ดูครับ

     - ทำแล้วมีความสุข
     - ทำได้ง่ายดาย ขณะที่คนอื่นทำอย่างยากเย็น
     - ทำได้เป็นเวลานานๆ
     - ทำเป็นได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้เวลาฝึกฝน

    
     ลองใช้ความรู้สึกค้นหาดูนะครับ ยิ่งน้องๆ วัยมัธยม วัยแห่งการค้นหาตัวเอง ยิ่งหาเจอเร็วเท่าไร ยิ่งได้เปรียบครับ เพราะจะเป็นประโยชน์มาก ในตอนเลือกคณะ เข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัย

พี่มิ้งเชื่อครับ และอยากให้น้องทุกคนเชื่อ ว่า"มนุษย์ทุกคนมีความสามารถพิเศษ"ครับ

เมื่อคุณได้ เขียนเรซูเม่ มาจนถึงในส่วนของความสามารถพิเศษแล้วล่ะก็ หลาย ๆ คนก็จะมีคำถามขึ้นมาว่า เอ เราควรจะใส่ความสามารถพิเศษอะไรลงไปในเรซูเม่บ้างดีนะ ถ้าใส่มากเกินไปมันจะดูรก และมากเกินไปหรือเปล่า หรือถ้าใส่ลงไปน้อยเกินไป มันจะดูว่าเราไม่มีอะไรน่าสนใจหรือเปล่า ในวันนี้พวกเราชาว เรซูเม่ในไทย จะมาตีแผ่กันอย่างละเอียดเลย

ความสามารถพิเศษ (Skills) คือสิ่งที่เราสามารถทำได้ดีกว่า หรือเหนือกว่าคนอื่น ๆ รอบตัว เป็นเสมือนจุดเด่นของตัวเอง ซึ่งเวลาที่ใส่ความสามารถพิเศษลงในเรซูเม่ ก็จะมีจุดที่ต้องสนใจอยู่ด้วยกัน 7 จุดต่อไปนี้

1. ความสามารถพิเศษด้านภาษา

ความสามารถพิเศษด้านภาษา คือการที่คุณสามารถสื่อสารกับผู้อื่นได้หลายภาษานั่นเอง โดยพื้นฐานแล้วภาษาอังกฤษนับเป็นภาษากลาง ที่ทุกคนในประเทศที่เรียนจบมาในระดับมหาวิทยาลัย สามารถใช้สื่อสารกันได้ ก็เราเรียนมาตั้งเป็นสิบปีแล้วนี่นะ ถึงจะไม่เก่งอังกฤษ ยังไงก็ต้องได้บ้างล่ะ

ถ้าหากคุณสามารถสื่อสารได้ 3 ภาษาขึ้นไป หรือสามารถสื่อสารได้มากกว่าภาษาไทยและภาษาอังกฤษล่ะก็ คุณก็จะสามารถสมัครงานบางประเภทได้ และได้เปรียบคนอื่น ๆ เป็นอย่างมากเลยล่ะ

ภาษาที่ 3 ที่สำคัญที่สุดตอนนี้คือ ภาษาจีนกลาง ซึ่งถ้าคุณได้ภาษาจีนด้วยแล้วล่ะก็ โอกาสของคุณจะเปิดกว้างขึ้นอีกเยอะมากเลย รองลงมาก็จะเป็นภาษายอดนิยมในยุโรปอย่างภาษาสเปน อิตาเลี่ยน เยอรมัน ฝรั่งเศส มาจนถึงภาษาเพื่อนบ้านอย่างลาวและพม่า

2. ความสามารถพิเศษด้านคอมพิวเตอร์

ความสามารถพิเศษด้านคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงการใช้งานคอมพิวเตอร์โดยรวมทั่ว ๆ ไปในระดับเริ่มต้น ลงไปลึกจนถึงการใช้งานคอมพิวเตอร์ในระดับที่ซับซ้อนได้ ความสามารถพิเศษด้านคอมพิวเตอร์มีความสำคัญเป็นอย่างมากโดยเฉพาะสำหรับพนักงานออฟฟิศ เพราะงานแทบจะทั้งหมดมีคอมพิวเตอร์เข้ามาช่วยทำงาน เพื่อให้เกิดการทำงานที่ถูกต้อง และรวดเร็วขึ้น

โดยทั่ว ๆ ไปแล้วผู้สมัครงานทุกคนควรที่จะใช้โปรแกรมที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายอย่าง Microsoft Windows, Microsoft Word, Microsoft Excel, Microsoft Powerpoint, และ Email ได้

ส่วนถ้าคุณสมัครงานทางด้านคอมพิวเตอร์กราฟฟิก คุณก็จะต้องได้โปรแกรมประเภท Adobe Photoshop และ Adobe Illustrator ส่วนถ้าคุณทำทางด้านงานสามมิติ ก็ใส่โปรแกรม Maya, Houdini, Cinema 4D หรือโปรแกรมอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อตำแหน่งงานที่คุณกำลังสมัครอยู่

ความสามารถพิเศษด้านคอมพิวเตอร์ รวมไปถึงตำแหน่งงาน โปรแกรมเมอร์ ที่จะต้องสามารถเขียนโปรแกรมได้ด้วยภาษาที่ต้องใช้งานในตำแหน่งงานนั้น ๆ ถ้าคุณเขียนภาษา C++ หรือ JAVA ได้ก็ให้ใส่มันลงไปให้หมด รวมไปถึงเครื่องมือที่คุณใช้งานเป็นด้วย อ่านบทความเรื่อง การเขียนเรซูม่ของสายไอที เพิ่มเติมได้ในเว็บของเราเลยครับ

3. ความสามารถพิเศษด้านการสื่อสารอย่างเป็นทางการ

การสื่อสารอย่างเป็นทางการ จะใช้คำที่สุภาพในการสื่อสารเป็นหลัก มักจะใช้กันมากผ่านการสื่อสารด้วย Email ที่เป็นช่องทางสื่อสารหลักขององค์กรส่วนใหญ่ในโลกนี้

นอกจากคุณจะใส่ความสามารถนี้ลงในเรซูเม่แล้ว ก็ขอให้แสดงให้ฝ่ายสรรหาบุคลากรเห็นด้วยว่าคุณสามารถสื่อสารอย่างเป็นทางการได้ดีจริง ๆ ให้ครบตลอดขั้นตอนการสมัครงาน เริ่มตั้งแต่เวลาที่คุณเขียน Email ส่งเรซูเม่ให้เขา และเวลาที่นัดหมายการสัมภาษณ์ ไปจนถึงขั้นตอนสุดท้ายคือการเซ็นต์สัญญาเข้าทำงาน

4. ความคิดสร้างสรรค์

มีตำแหน่งงานมากมายที่คุณจะได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองในการทำงาน และความคิดสร้างสรรค์เองก็เป็นสิ่งที่สามารถช่วยให้คุณมีโอกาสได้งานมากขึ้นได้ ให้ใส่ความคิดสร้างสรรค์ลงไปในเรซูเม่ด้วยนะครับ

5. การควบคุมอารมณ์

คุณรู้ไหมว่าออฟฟิศที่มีปัญหากันภายใน ส่วนหนึ่งมาจากการที่พนักงานทะเลาะกันเอง และเป็นสิ่งที่ทำให้ฝ่ายสรรหาบุคลากรต้องปวดหัวเป็นอย่างมาก ดังนั้นพวกเขาจะให้ความสนใจกับผู้สมัครงานที่มีความเป็นผู้ใหญ่ และสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ ซึ่งก็ไม่จำเป็นจะต้องถึงระดับได้โล่ห์อะไรหรอก แค่อยู่ในระดับที่สูงกว่าคนทั่วไปก็เพียงพอแล้ว

6. ความสามารถในการทำงานเป็นทีม

ผู้สมัครงานที่สามารถทำงานร่วมกันเป็นทีมได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้าทีม หรือลูกทีม ถือว่าเป็นสิ่งที่องค์กรต้องการเป็นอย่างมาก ดังนั้นถ้าคุณเล่นกีฬาประเภททีม ตั้งวงดนตรี หรือมีกิจกรรมกลุ่มที่คุณมีบทบาทในกลุ่มนั้น ๆ ก็อาจจะพิจารณาใส่กิจกรรมเหล่านั้นลงไปในเรซูเม่ได้

ถ้าคุณใช้ระบบสร้างเรซูเม่ของเว็บ Resume.in.th อยู่แล้วล่ะก็ ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะครับ เพราะว่าพวกเราใส่ความสามารถพิเศษทั้งหมดที่สำคัญเหล่านี้ ลงไปในระบบสร้างเรซูเม่ของเราอยู่แล้ว สิ่งที่คุณจะทำก็แค่ติ๊กเลือกว่าคุณมีความสามารถอะไรบ้างเท่านั้นเอง

สรุป

ความสามารถพิเศษเหล่านี้จะช่วยให้เรซูเม่ของคุณดูดีขึ้นเป็นอย่างมาก แต่ไม่ใช่ว่าทุกอันจะมีความสำคัญเท่ากันไปหมด ให้คุณเลือกมาไม่เกิน 2-3 อย่างที่คุณคิดว่าตัวเองแกร่งที่สุด หรือเหมาะสมกับตำแหน่งงานที่คุณสมัครเท่านั้น และใส่มันลงไปในเรซูเม่ของคุณ และขอให้ดูเรื่องพื้นที่ของการเขียนเรซูเม่ด้วย เพราะเรซูเม่คือเอกสารสรุป ที่ควรจะเขียนให้จบได้ภายในความยาว 1 หน้าเท่านั้น และจะต้องสั้น กระชับ ได้ใจความครบถ้วน

ถ้าการที่คุณเขียนความสามารถพิเศษเหล่านี้ลงไป แล้วทำให้เรซูเม่ของคุณยาวเกินกว่า 1 หน้า ก็จะไม่ค่อยคุ้มกันสักเท่าไหร่ เพราะความสามารถพิเศษนี้มีความสำคัญน้อยกว่า ประสบการณ์ทำงานของคุณ ถ้าคุณมีประสบการณ์ด้านอื่นที่สำคัญกว่า ก็อย่าเสียสละพื้นที่อันมีค่าของคุณมาใส่ความสามารถพิเศษนี้เยอะมากนัก