สำหรับยอดการใช้จ่ายเดือน พ.ย. 2565 กรมบัญชีกลางได้เบิกจ่ายเงินให้แก่ร้านค้าที่ผู้มีสิทธินำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปชำระค่าสินค้าอุปโภคบริโภค ค่าเดินทาง และค่าก๊าซหุงต้ม ตั้งแต่วันที่ 1 - 30 พ.ย. 2565 Show
กรมบัญชีกลางอัปเดต บัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน เดือนธันวาคม 2565 โอนเงินให้กับผู้ถือบัตร 13.17 ล้านราย อ่านรายละเอียดที่นี่วันที่ 1 ธันวาคม 2565 กรมบัญชีกลาง สังกัดกระทรวงการคลัง ได้วางแผนโอนเงินบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน โดยโอนเงินให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐบัตรคนจน ที่มีจำนวน 13.17 ล้านราย ล่าสุด กรมบัญชีกลางอัปเดตแผนการจ่ายเงินบัตรคนจนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐประจำเดือนธันวาคม 2565 ดังนี้ ทุกวันที่ 1 ของเดือน (ไม่สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และไม่สะสมในเดือนถัดไป)
ทุกวันที่ 18 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
ทุกวันที่ 22 ของเดือน (สามารถถอนเป็นเงินสดได้ และสะสมในเดือนถัดไปได้)
นางสาววารี แว่นแก้ว รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า สำหรับเดือนพฤศจิกายน 2565 กรมบัญชีกลางได้เบิกจ่ายเงินให้แก่ร้านค้าที่ผู้มีสิทธินำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปชำระค่าสินค้าอุปโภคบริโภค ค่าเดินทาง และค่าก๊าซหุงต้ม ดังนี้ (ข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 - 30 พฤศจิกายน 2565) ลำดับ สวัสดิการ จำนวนเงิน (บาท) 1. สวัสดิการที่ให้เป็นวงเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1.1 วงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภค 3,531,410,208.25 1.2 วงเงินส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้ม 50,215,302.00 1.3 วงเงินค่าโดยสาร ขสมก./BTS/MRT/Airport rail link 22,755,057.58 1.4 วงเงินค่าโดยสารรถบริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) 7,988,400.00 1.5 วงเงินค่าโดยสารรถไฟ 18,791,227.88 รวมจำนวนเงิน (1) 3,631,160,195.71 2. สวัสดิการที่ให้ผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (e-Money) 2.1 มาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ระยะที่ 1-2) 157,400.00 2.2 มาตรการสนับสนุนค่าใช่จ่ายช่วงปลายปี 191,500.00 2.3 มาตรการช่วยเหลือค่าเช่าบ้านสำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย 18,400.00 2.4 มาตรการช่วยเหลือค่าเดินทางไปรับการรักษาพยาบาลฯ 31,000.00 2.5 มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้า 168,399,508.38 2.6 มาตรการบรรเทาภาระค่าน้ำประปา 17,523,580.81 2.7 มาตรการชดเชยเงินให้แก่ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยใช้ข้อมูลจากจำนวนภาษีมูลค่าเพิ่มฯ (ระยะที่ 1 - 2) 1,007.24 2.8 มาตรการเพิ่มเบี้ยคนพิการ 32,600.00 2.9 มาตรการบรรเทาภาระค่าครองชีพให้แก่เกษตรกร 88,000.00 2.10 มาตรการบรรเทาค่าใช้จ่ายของพ่อแม่ช่วงเปิดปีการศึกษา 52,000.00 2.11 มาตรการพยุงการบริโภคของผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 1,119,500.00 2.12 มาตรการมอบเงินช่วยเหลือสำหรับผู้สูงอายุ 82,500.00 2.13 มาตรการช่วยเหลือการเลี้ยงดูบุตรแก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 20,100.00 2.14 การเติมเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ในบัตรวงเงินค่าซื้อสินค้าอุปโภคที่จำเป็น 325,100.00 2.15 มาตรการเงินเพิ่มเบี้ยความพิการ ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 28 ม.ค. 2563 215,702,600.00 รวมจำนวนเงิน (2) 403,744,796.43 รวมจำนวนเงินทั้งสิ้น (1)+(2) 4,034,904,992.14 “ทั้งนี้ สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 0 2109 2345 หรือ Call Center กรมบัญชีกลาง 0 2270 6400 ในวัน เวลาราชการ" โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าว ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ 2565 หากเกิดอุบัติเหตุแล้วเราเป็นฝ่ายถูกสามารถเรียกร้องได้จากประกันของคู่กรณี กำหนดอัตราเคลมขั้นต่ำไว้ที่ 500 บาทต่อวัน หากเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน สิ่งหนึ่งที่คนใช้รถต้องทำก็คือติดต่อหาบริษัท ประกันภัยรถยนต์ของตัวเอง เพื่อให้เจ้าหน้าที่มาประเมินความเสียหาย เจรจาไกล่เกลี่ยว่าใครเป็นฝ่ายถูกหรือผิด และออกใบเคลม ซึ่งหลายคนอาจเข้าใจว่าขั้นตอนทุกอย่างจบลงเพียงแค่นี้ แต่จริง ๆ แล้วยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่บริษัทประกันรถยนต์มักไม่ค่อยบอก โดยเฉพาะสำหรับคู่กรณีที่เป็นฝ่ายถูก นั่นคือเรื่อง “ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ” ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คืออะไร ? ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คือ เงินสินไหมที่ทางบริษัทประกันภัยของผู้ขับขี่ที่เป็นฝ่ายผิดจะมีหน้าที่รับผิดชอบแทนตัวผู้ขับขี่ต่อคู่กรณีที่เป็นฝ่ายถูก ในระหว่างที่รถยนต์ต้องเข้าซ่อม หรือไม่สามารถใช้งานรถยนต์ได้ โดยผู้ที่เป็นฝ่ายถูกสามารถนำบิล ใบเสร็จค่าใช้จ่ายในการเดินทาง เช่น ค่าแท็กซี่, ค่ารถเมล์ หรือค่ารถไฟฟ้า ในระหว่างที่ใช้งานรถยนต์ไม่ได้ มาทำเรื่องเบิกกับบริษัทประกันของคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิดได้ ซึ่งทางสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้กำหนดอัตราค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ 2565 ของรถยนต์แต่ละประเภทไว้ ซึ่งหากเราเป็นฝ่ายถูกสามารถเรียกร้องจากประกันภาคสมัครใจ (ประกันชั้น 1-3) ได้ดังนี้ ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ 1. รถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง กำหนดอัตราไม่น้อยกว่าวันละ 500 บาท 2. รถยนต์รับจ้างสาธารณะขนาดไม่เกิน 7 ที่นั่ง กำหนดอัตราไม่น้อยกว่าวันละ 700 บาท 3. รถยนต์ขนาดเกินกว่า 7 ที่นั่ง กำหนดอัตราไม่น้อยกว่าวันละ 1,000 บาท 4. รถประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ได้เป็นไปตามข้อ 1-3 เช่น "รถจักรยานยนต์" ให้เป็นไปตามข้อเรียกร้องและตกลงกันได้ โดยพิจารณาหลักฐานเป็นกรณีไป ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ใช้เอกสารใดบ้าง ?
หมายเหตุ บริษัทประกันภัยบางที่อาจใช้หรือไม่ใช้เอกสารบางอย่าง แต่ในเบื้องต้นควรเตรียมไปให้พร้อมทุกอย่าง จะได้ไม่เป็นการเสียเวลาในการติดต่อดำเนินการ ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ
ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ถ้าทำเฉพาะประกันภัย พ.ร.บ. จะเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้ไหม ?
เพราะเหตุใด คปภ. ถึงต้องกำหนดค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถขั้นต่ำ ?
ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถขั้นต่ำ หมายถึง ?
ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถอยู่ในกฎหมายใด พ.ร.บ. อะไรและมาตราไหน ?
รถใช้เวลาในการซ่อมอู่ในเครือบริษัทเป็นเวลาทั้งหมด 107 วัน แต่ได้รับชดเชยเพียง 25 วัน ?
ตัวอย่างแบบฟอร์มคำร้อง อย่างไรก็ตาม การเรียกร้องต้องไม่ลืมว่าค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถสามารถดำเนินการได้สำหรับผู้ที่เป็นฝ่ายถูกเมื่อเกิดอุบัติเหตุเท่านั้น ผู้ที่เป็นฝ่ายผิดไม่สามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากบริษัทประกันภัยของอีกฝ่ายได้ และหากใครที่แจ้งความประสงค์เรียกร้องค่าขาดประโยชน์จาการใช้รถ แล้วถูกบริษัทประกันภัยบ่ายเบี่ยงหรือปฏิเสธการจ่ายสินไหม สามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงาน คปภ. เบิกค่าเช่าบ้านได้ตอนไหน(๑) ตนเอง หรือคู่สมรส ได้ท าการผ่อนช าระค่าเช่าซื้อหรือผ่อนช าระเงินกู้เพื่อช าระ ราคาบ้านในท้องที่นั้น จะเบิกจ่ายได้เฉพาะบ้านหลังแรกเท่านั้น เว้นแต่บ้าน หลังที่เคยใช้สิทธิถูกทาลายหรือเสียหายเนื่องจากภัยพิบัติจนไม่สามารถพัก อาศัยอยู่ได้ ม. ๑๗ (๑)
การเบิกค่าเช่าบ้านมีกี่ประเภทการเบิกเงินค่าเช่าบ้าน มี3 ประเภท ได้แก่ 1. เช่าบ้าน 2. เช่าซื้อบ้าน 3. ผ่อนชําระเงินกู้เพื่อชําระราคาบ้าน(ซื้อบ้าน/ปลูกสร้างบ้าน) จํานวนเงินที่สามารถเบิกได้= ราคาบ้านพร้อมที่ดิน x อัตราการผ่อนชําระเงินกู้ต่อเดือน วงเงินกู้ทั้งหมด Page 3 163 การใช้สิทธิในการเบิกเงินค่าเช่าบ้าน 1. กรณีเช่าบ้าน
เบิกค่าเช่าซื้อบ้าน ได้กี่หลัง2. กรณีเช่าซื้อหรือผ่อนชําระเงินกู้เพื่อชําระค่าบ้าน
- กรณีที่ตนเองหรือคู่สมรสเช่าซื้อบ้านหรือผ่อนชําระเงินกู้ เพื่อชําระราคาบ้านในท้องที่ เดียวกัน จะเบิกจ่ายได้เพียงหลังเดียวเท่านั้น เว้นแต่ บ้านที่เคยใช้สิทธิถูกทําลายหรือเสียหายเนื่องจากภัย พิบัติ
ข้าราชการสามารถเบิกค่าเช่าบ้านได้ไหมมาตรา ๑๔ ให้ข้าราชการมีสิทธิได้รับเงินค่าเช่าบ้านข้าราชการตั้งแต่วันที่ข้าราชการ ผู้นั้นได้เช่าอยู่จริง แต่ไม่ก่อนวันที่รายงานตัวเพื่อเข้ารับหน้าที่ และให้สิ้นสุดในวันที่ขาดจากอัตรา เงินเดือนหรือวันที่อยู่ในข่ายหมดสิทธิได้รับค่าเช่าบ้านข้าราชการตามพระราชกฤษฎีกานี้ ถ้าผู้ซึ่งได้รับ แต่งตั้งให้ไปรับราชการในท้องที่อื่นไม่ ...
|