หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคของภาคเอกชนมีหน่วยงานใดบ้าง

โครงสร้าง​

หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคของภาคเอกชนมีหน่วยงานใดบ้าง

หน้าที่รับผิดชอบของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา

      

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเป็นส่วนราชการมีฐานะการปกป้องและคุ้มครองสุขภาพประชาชนจากการบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพโดยผลิตภัณฑ์สุขภาพเหล่านั้นต้องมีคุณภาพมาตรฐานและปลอดภัย  มีการส่งเสริมพฤติกรรมการบริโภคที่ถูกต้องด้วยข้อมูลวิชาการที่มีหลักฐานเชื่อถือได้และมีความเหมาะสม  เพื่อให้ประชาชนได้บริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ปลอดภัยและสมประโยชน์  โดยมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้

        1.  ดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยอาหาร กฎหมายว่าด้วยยา กฎหมายว่าด้วยเครื่องสำอาง กฎหมายว่าด้วยวัตถุอันตราย กฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ กฎหมายว่าด้วยเครื่องมือแพทย์ กฎหมายว่าด้วยการป้องกันการใช้สารระเหย และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
        2.  พัฒนาระบบและกลไก เพื่อให้มีการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบ
        3.  เฝ้าระวังกำกับและตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานของผลิตภัณฑ์สถานประกอบการ และการโฆษณา รวมทั้งผลอันไม่พึงประสงค์ของผลิตภัณฑ์ตลอดจนมีการติดตามหรือเฝ้าระวังข้อมูลข่าวสารด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพจากภายในประเทศและภายนอกประเทศ
        4.  ศึกษา วิเคราะห์ วิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ เทคโนโลยี และระบบงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
        5.  ส่งเสริมและพัฒนาผู้บริโภคให้มีศักยภาพในการเลือกบริโภคผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ถูกต้อง เหมาะสม ปลอดภัย และคุ้มค่า รวมทั้งเพื่อให้ผู้บริโภคนั้นมีการร้องเรียน เพื่อปกป้องสิทธิของตนได้
        6.  พัฒนาและส่งเสริมการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคด้านผลิตภัณฑ์สุขภาพ  โดยการมีส่วนร่วมของภาครัฐ  ภาคเอกชน ประชาชน และเครือข่ายประชาคมสุขภาพ
        7.  ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาหรือตามที่กระทรวงหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย


           จากอำนาจหน้าที่ที่กล่าวมาข้างต้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายจำนวน 8 ฉบับ และอนุสัญญาและข้อตกลงระหว่างประเทศ อีกจำนวน 4 ฉบับ ได้แก่


กฎหมาย

พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522
พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 และแก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2518) ฉบับที่ 3 (พ.ศ.2522) ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2528) และฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2530)
พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2535
พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535
พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 และแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2528) ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2535) และฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2543)
พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 และแก้ไข้เพิ่มเติม ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2528) ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2530) และฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2543)
พระราชบัญญัติเครื่องมือแพทย์ พ.ศ. 2531
พระราชกำหนดป้องกันการใช้สารระเหย พ.ศ. 2533 และแก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2543)

  อนุสัญญาและข้อตกลงระหว่างประเทศ
The Single Convention on Narcotic Drug 1961
The Convention on Psychotropic Substance 1971
The International Code of Marketing of Breast-milk Substitute 1981
The United Nation Convention Against Illicit Traffic in Narcotic Drugs and Psychotropic Substances 1988

      

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาดำเนินการภายใต้กฎหมายทั้ง 8 ฉบับนี้ คณะกรรมการดังกล่าว ได้แก่
1. คณะกรรมการอาหาร
2. คณะกรรมการยา
3. คณะกรรมการเครื่องสำอาง
4. คณะกรรมการวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท
5. คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดให้โทษ
6. คณะกรรมการเครื่องมือแพทย์
7. คณะกรรมการป้องกันการใช้สารระเหย

         นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรียังได้แต่งตั้งคณะกรรมการเพื่อกำหนดนโยบายสนับสนุน ส่งเสริมการพัฒนาด้านยา อาหารและเคมีวัตถุ เป็นกลไกประสานงานกับหน่วยงานอื่น คณะกรรมการดังกล่าว ได้แก่

คณะกรรมการแห่งชาติทางด้านยา คณะกรรมการแห่งชาติด้านอาหาร คณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยความปลอดภัยทางด้านเคมีวัตถุ        การดำเนินงานควบคุมทางด้านต่างๆ จะต้องดำเนินให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ และมติของ คณะกรรมการตามกฏหมายดังกล่าวข้างต้น และเลขาธิการฯ รองเลขาธิการฯ เจ้าหน้าที่ของกองที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ในส่วนภูมิภาค ได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัด  นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด เภสัชกรกลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของ กทม. ที่ อย. ได้มอบให้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ในการดำเนินการคุ้มครองผู้บริโภคด้านอาหารตาม พรบ.อาหาร พ.ศ. 2522 เพื่อสามารถตรวจสอบดูแลคุณภาพมาตรฐานและความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์อาหารที่จำหน่ายในท้องตลาด และทำหน้าที่เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ที่จะปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายและมติของคณะกรรมการดังกล่าวข้างต้น   

​​​​​​

​​​

องค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภคมีหน่วยงานใดบ้าง

หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับงานคุ้มครองสิทธิผู้บริโภค ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี 2. สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) สังกัดกระทรวงสาธารณสุข 3. สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สังกัดกระทรวงอุตสาหกรรม

หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคมีหน่วยงานใดบ้าง

สคบ. เป็นหน่วยงานในสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดย ทำหน้าที่เป็นหน่วยงานที่ตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒ เพื่อช่วยเหลือผู้บริโภค ในการรับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายจากการกระทำของผู้ประกอบการ ในด้านโฆษณา ฉลาก สัญญา สินค้าที่อาจเป็นอันตราย เรื่องของธุรกิจขายตรงและตลาด ...

หน่วยงานใดมีหน้าที่รับผิดชอบคุ้มครองผู้บริโภคโดยตรงที่สุด

สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เป็นหน่วยงานภาครัฐ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติภารกิจหลักเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคโดยตรง และมีหน้าที่ในการกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจมิให้ ประกอบธุรกิจที่เป็นการละเมิดสิทธิผู้บริโภค นอกจากนี้ ยังเป็นหน่วยงานกลางในการประสานการปฏิบัติงาน

หน่วยงานใดที่มีหน้าที่รับผิดชอบตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคโดยตรงเมื่อผู้บริโภคถูกละเมิดสิทธิ

เมื่อผู้บริโภคถูกละเมิดสิทธิหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมจากผู้ประกอบธุรกิจเนื่องจากการใช้สินค้าหรือบริการ ผู้บริโภคย่อมได้ รับความคุ้มครอง ตามกฎหมายโดยผู้บริโภคสามารถร้องเรียนได้ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคคณะกรรมการคุ้มครองผู้ บริโภคคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ...

องค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภคมีหน่วยงานใดบ้าง หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคมีหน่วยงานใดบ้าง หน่วยงานใดมีหน้าที่รับผิดชอบคุ้มครองผู้บริโภคโดยตรงที่สุด หน่วยงานใดที่มีหน้าที่รับผิดชอบตามกฎหมายคุ้มครองผู้บริโภคโดยตรงเมื่อผู้บริโภคถูกละเมิดสิทธิ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค ได้แก่หน่วยงานใดบ้าง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค 9 หน่วยงาน องค์กรเอกชนเพื่อผู้บริโภค มีอะไรบ้าง หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภค มีกี่หน่วยงาน หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคภาครัฐ มีอะไรบ้าง งานคุ้มครองผู้บริโภคมีอะไรบ้าง หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภค หน้าที่