ความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีทั้งความสัมพันธ์ระหว่างกลุ่มสิ่งมีชีวิตด้วยกันเอง และระหว่างกลุ่มสิ่งมีชีวิตกับสิ่งแวดล้อม โดยมีองค์ประกอบสำคัญ 2 ส่วน คือ Show
เมื่อหลายระบบนิเวศจำนวนมากถูกเชื่อมโยงเข้าไว้ด้วยกัน ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน กลายเป็นโลกของระบบนิเวศที่มีขนาดใหญ่ที่สุด หรือที่เรียกกันว่า “ชีวมณฑล” (Biosphere) 🌳คำศัพท์สำคัญ
🌳บทบาทของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ มี 3 หน้าที่1.ผู้ผลิต (producer) หมายถึง สิ่งมีชีวิตที่สามารถสร้างอาหารได้ด้วยการสังเคราะห์แสง เช่น พืช สาหร่าย แบคทีเรียบางชนิด สาหร่ายสีเขียวแกมน้ำเงิน (ไซยาโนแบคทีเรีย) 2.ผู้บริโภค (consumer) หมายถึง สิ่งมีชีวิตที่สร้างอาหารเองไม่ได้ จำเป็นต้องกินสิ่งมีชีวิตอื่นเป็นอาหาร ผู้บริโภค มี 4 ประเภท ได้แก่
3.ผู้ย่อยสลาย (decomposer) สิ่งมีชีวิตไม่มีระบบย่อยอาหาร ทำหน้าที่ย่อยสลายสิ่งมีชีวิตที่ตายลง ด้วยการดูดซึมพลังงานไปใช้บางส่วน และส่วนที่เหลือกลายเป็นแร่ธาตุต่าง ๆ หมุนเวียนกลับคืนสู่ระบบนิเวศ ซึ่งผู้ผลิตสามารถนำไปใช้เพื่อดำรงชีวิตต่อไปได้ เช่น เห็ด รา แบคทีเรีย 🌳รูปแบบความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศ โดยพื้นฐานมี 6 แบบ1.แบบพึ่งพากัน (Mutualism : + , +) เธอได้ประโยชน์จากฉัน ฉันได้ประโยชน์จากเธอ เรียกง่าย ๆ ว่า ขาดกันไม่ได้ ต้องอยู่ด้วยกัน เมื่อไหร่แยกออกจากกัน สิ่งมีชีวิตนั้นจะตาย เช่น
2.แบบได้ประโยชน์ร่วมกัน (Protocooperation : + , + ) การอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิต 2 ชนิด โดยก็ได้รับประโยชน์ซึ่งกันและกัน แม้แยกกันอยู่ก็สามารถดำรงชีวิตต่อไปได้ ได้ประโยชน์ทั้งคู่ แยกออกจากกันได้ เช่น
3.แบบอิงอาศัย (Commensalism : + , 0) หมายถึง การอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิต 2 ชนิด โดยฝ่ายหนึ่งได้ประโยชน์ อีกฝ่ายหนึ่งไม่ได้และไม่เสียประโยชน์ เช่น
4.แบบล่าเหยื่อ (Predation : + , -) หมายถึง การอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตโดยฝ่ายหนึ่งจับอีกฝ่ายหนึ่งเป็นอาหาร เรียกว่า ผู้ล่า (predator) ส่วนอีกฝ่ายถูกจับเป็นอาหารหรือถูกล่า เรียกว่า เหยื่อ (prey) ฝ่ายหนึ่งได้ประโยชน์ ฝ่ายหนึ่งเสียประโยชน์ เช่น
5.แบบปรสิต (Parasitism : + , -) หมายถึง การอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิต 2 ชนิด ฝ่ายหนึ่งได้ประโยชน์ เรียกว่า ปรสิต (parasite) อีกฝ่ายหนึ่งเสียผลประโยชน์ เรียกว่า ผู้ถูกอาศัย (host) ไม่สามารถหลบหลีกได้ เช่น
6.แบบแข่งขัน (Competition : - ,-) การอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตที่มีการแย่งปัจจัยในการดำรงชีพเหมือนกันจึงทำให้เสียประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ต่างฝ่ายต่างเสียประโยชน์ เช่น
🌳การถ่ายทอดพลังงานในระบบนิเวศห่วงโซ่อาหาร (food chain) หมายถึง การกินเป็นทอด ๆ ไป ลักษณะการกินแบบ 1 ต่อ 1 ทุกครั้งที่มีการกินในแต่ละขั้น จะมีการถ่ายทอดพลังงานเกิดขึ้น ถ่ายทอดพลังงานแค่ 10% เท่านั้น ดังนั้นผู้ผลิตควรมีพลังงานมากที่สุดในห่วงโซ่อาหาร ส่วนผู้บริโภคลำดับสุดท้ายจะได้รับพลังงานน้อยที่สุด แต่การถ่ายทอดสารพิษในโซ่อาหารจะถ่ายทอดได้ 100% ดังนั้นสารพิษจะสะสมมากที่สุดในผู้บริโภคลำดับสุดท้าย เช่น
สายใยอาหาร food web หมายถึง ความสัมพันธ์ของหลาย ๆ ห่วงโซ่อาหารในกลุ่มสิ่งมีชีวิต (community) กลายเป็นการกินที่ซับซ้อน มีห่วงโซ่อาหารเกิดขึ้นหลายสาย แต่ละห่วงโซ่อาจเกี่ยวพันกัน กลุ่มสิ่งมีชีวิตในระบบนิเวศหมายถึงอะไรกลุ่มสิ่งมีชีวิต หมายถึง การอยู่ร่วมกันในบริเวณแหล่งที่อยู่เดียวกันของสิ่งมีชีวิตตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป ซึ่งสิ่งมีชีวิตนั้นหมายรวมถึง สัตว์, พืช, เห็ดรา ไปจนถึงจุลินทรีย์ต่าง ๆ ต่างจากสิ่งไม่มีชีวิต เช่น ดิน, หิน, น้ำ, อากาศ หรือสภาพแวดล้อม ซึ่งเมื่อรวมทั้งสองส่วนเข้าด้วยกัน เราจะเรียกว่า ระบบนิเวศ (Ecosystem)
ระบบนิเวศมีความสําคัญอย่างไรหน้าที่ของระบบนิเวศ (Ecosystem function) มีส่วนสนับสนุนความสมดุลของสิ่งมีชีวิตที่อยู่ในระบบนิเวศ ในระบบนิเวศ (Ecosystem) . การอยู่ร่วมกันของสิ่งมีชีวิตที่หลากหลาย ทั้งกลุ่มผู้ผลิต ผู้บริโภคและผู้ย่อยสลาย ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่สลับซับซ้อนระหว่างสิ่งมีชีวิตด้วยกันเอง และปฏิสัมพันธ์ต่อสภาพแวดล้อม ซึ่งส่งผลให้เกิด
สิ่งที่มีชีวิตมีอะไรบ้างการจำแนกอาณาจักรสิ่งมีชีวิต ออกเป็น 5 อาณาจักรดังนี้. อาณาจักรมอเนอรา (Kingdom Monera). อาณาจักรเห็ดรา (Kingdom Fungi). อาณาจักรโพรทิสตา (Kingdom Protista). อาณาจักรพืช (Kingdom Plantae). อาณาจักรสัตว์ (Kingdom Animalia). องค์ประกอบของสิ่งมีชีวิตที่ไม่มีชีวิตในระบบนิเวศได้แก่อะไรบ้าง1. ส่วนประกอบที่ไม่มีชีวิต (abiotic component ) ประกอบด้วย อนินทรียสาร ได้แก่ ไนโตรเจน คาร์บอนไดออกไซด์ ออกซิเจน น้ำ และคาร์บอน อินทรียสาร ได้แก่ คาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน ฯลฯ สภาพแวดล้อมทางกายภาพ ได้แก่ อุณหภูมิ แสง ความเป็นกรด เป็นด่าง ความเค็มและความชื้น
|