ข้อจำกัดของการสำรวจผ่านแบบสอบถามคืออะไร

1. เกิดการเบี่ยงเบนของกลุ่มตัวอย่าง   (selection bias)  อันเกิดจากการตัดสินใจว่าจะตอบหรือไม่ตอบแบบสอบถาม  มีผลทำให้ข้อมูลไม่เป็นแบบสุ่ม (non-random sampling)    ในทางเทคนิคเรียกว่า self-selection   อัตราการเลือกที่จะไม่ตอบจะสูงมากสำหรับกรณีแบบสอบถามทางอินเตอร์เน็ตหรือทางโทรศัพท์ ผลการศึกษาที่ได้จะเบี่ยงเบนเข้าหากลุ่มที่นิยมไปในทางเดียวกันมากเกินไป   เกิดการ overestimate หรือ underestimate  ไปข้างใดข้างหนึ่งอย่างรุนแรง

ยกตัวอย่างหนึ่ง เช่น  คนที่ตอบแบบสอบถามมักจะเป็นกลุ่มที่ไม่พอใจการให้บริการอยู่เป็นทุนเดิมแล้ว ก็จะเข้ามาตอบเพื่อด่าว่าหรือตำหนิ   หากมีการประเมินอะไรก็จะประเมินต่ำไว้ หรือประเมินไปในทางลบ   ส่วนคนที่พอใจการให้บริการอยู่แล้วมักจะไม่เข้ามาตอบ    หรือมักจะเมินเฉยไป   เพราะถือว่าไม่มีผลกระทบอะไรกับพวกเขามากนัก   ผลการศึกษาออกมาก็จะลู่ไปในทางลบมาก ๆ  ซึ่งบริการจริง ๆ อาจจะไม่แย่อย่างนั้นก็ได้

ในปัจจุบันมีวิธีการทางเศรษฐมิติที่พอจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้บ้าง คือ Heckman selection model และ Heckmand probit selection model แต่เราจำเป็นต้องมีข้อมูลบางอย่างของคนที่เป็นกลุ่มเป้าหมายแต่ไม่ยอมเข้ามาตอบแบบสอบถามด้วย  ซึ่งถ้าไม่มี  ก็แก้ไขปัญหานี้ไม่ได้  ดังนั้นอย่างไรก็ไม่ดีเท่ากับการได้ข้อมูลมาแบบสุ่มจริง ๆ

https://www.facebook.com/surveycan
http://www.surveycan.com/
02-583-9992 # 1535
บริษัท ลิทเทิล บิ๊ก ลิ้งค์ส จำกัด
99/31 ม.4 อาคารซอฟแวร์ปาร์ค ชั้น 5 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120

 

2. เกิดการเบี่ยงเบนของกลุ่มตัวอย่าง   (bias)  อันเกิดจากการใช้หรือไม่ใช้คอมพิวเตอร์    คือ     แม้ว่าคนทุกคนที่เห็นแบบสอบถามออนไลน์จะยินดีตอบ แต่ไม่ใช่ว่ากลุ่มเป้าหมายทุกคนจะใช้อินเตอร์เน็ต เราจึงจะได้เฉพาะคนที่ใช้อินเตอร์เน็ตเป็นประจำเท่านั้น     เรื่องนี้ยังมีข้อปลีกย่อยคือ ประเภทของการใช้อินเตอร์เน็ต ระหว่างคนที่ใช้เป็นประจำแต่ใช้ที่บ้าน (หรือที่ส่วนตัว) กับคนที่ใช้เป็นประจำแต่ใช้ที่สำนักงาน (หรือที่ไม่ส่วนตัว) พฤติกรรมของแต่ละกลุ่มก็ไม่เหมือนกัน ไม่สามารถเหมารวมได้    และทั้งสองกลุ่มก็ไม่ได้แยกกันอย่างสิ้นเชิง   และไม่ได้รวมกันอย่างสิ้นเชิง   ปัญหาว่าส่วนที่ intersection กันมีมากเท่าไร   ข้อนี้แบบสอบถามทางอินเตอร์เน็ตไม่ค่อยให้ความระมัดระวัง โดยพยายามแบ่งกลุ่มอย่างชัดเจนว่า ตกลงแล้วคุณคือคนกลุ่มไหน ซึ่งจริง ๆ มันไม่สามารถแบ่งได้ชัดเหมือนน้ำกับน้ำมันอย่างนั้น
3. แม้ว่าทุกคนจะตอบและสามารถแบ่งแยกคนเล่นอินเตอร์เน็ตที่ใช้งานประเภทต่าง ๆ ได้ชัดเจน     ก็ไม่มีทางแน่ใจว่าคำตอบที่ได้จะถูกต้อง   เพราะว่าไม่มีการเห็นหน้ากันระหว่างเจ้าหน้าที่กับผู้ตอบ     ผู้ตอบอาจจะตอบเท็จแม้แต่เรื่องเพศ  อายุ  รายได้  หรือเรื่องอื่น ๆ ทั้งหมด    ผลก็คือทางโครงการต้องเสียเวลาคัดกรองข้อมูลที่คาดว่าจะตอบผิดออกส่วนหนึ่ง   (เช่นการเช็คตรรกะ)   ซึ่งมีผลทำให้ข้อมูลที่ได้เกิด bias อยู่ดี   ปัญหา bias จึงเลี่ยงไม่พ้น    แล้วยิ่งถ้าหากไม่คัดกรองก็ยิ่งแย่ไปกันใหญ่  เพราะว่าจะเข้าหลัก    Garbage in, garbage out

แบบสอบถามออนไลน์ประเภทที่สอง: แบบสอบถามที่ตอบผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ซึ่งตั้งอยู่บนแท่น

ผู้ตอบต้องปรากฎตัวในที่ที่กำหนด   มีการพบปะกับเจ้าหน้าที่แบบซึ่งหน้า    แล้วเจ้าหน้าที่จะเชื้อเชิญให้ตอบ       โดยผู้ตอบจะอ่านคำถามผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ แล้วตอบไปโดยการคลิ๊กเม้าส์ หรือสัมผัสหน้าจอคอมพิวเตอร์ด้วยตัวเอง    เจ้าหน้าที่จะปล่อยให้ผู้ตอบใช้เวลาได้นานเท่าที่ต้องการโดยไม่รบกวน

ข้อดี

1. มีการเห็นหน้าระหว่างผู้ตอบแบบสอบถามและเจ้าหน้าที่ ทำให้ผู้ตอบแบบสอบถามมักจะตอบตามความเป็นจริงมากกว่า
2. ประหยัดเวลาของเจ้าหน้าที่ที่จะคอยดูแลผู้ตอบแบบสอบถาม   เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่เชิญผู้ตอบไปยังจอมอนิเตอร์แล้ว   ก็สามารถทำหน้าที่เชิญคนอื่นต่อไปได้   ทำให้สถานีอาจจะใช้เจ้าหน้าที่เพียงคนเดียวในช่วงเวลาหนึ่ง
3. ประหยัดเวลาในการกรอกข้อมูลจากกระดาษลงคอมพิวเตอร์
4. สามารถใส่คำถามที่เป็นรูปภาพหรือกราฟฟิคได้
5. ไม่เปลืองกระดาษ ปากกา และดินสอ

ข้อเสีย

1. เจ้าหน้าที่เก็บข้อมูลไม่สามารถอ่านคำตอบได้   ทำให้ไม่ทราบว่าผู้ตอบตอบถูกต้องหรือไม่

2. ต้องจ้างเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์เพิ่มเข้ามาสำหรับทำงานในฝ่ายประมวลผลข้อมูลประจำวัน เพื่อที่จะคอยติดตามดูว่าสัดส่วนของผู้ตอบแบบสอบถามเป็นอย่างไร เพื่อจะบอกว่าวันต่อไปต้องการเพิ่มหรือลดกลุ่มเป้าหมายไหน   จากนั้นต้องสื่อสารมายังเจ้าหน้าที่ประจำสถานีให้รับทราบวันต่อวัน     หากเป็นการเก็บข้อมูลด้วยกระดาษ     ไม่จำเป็นต้องจ้างเจ้าหน้าที่เพิ่ม          เพราะเจ้าหน้าที่ประจำสถานีสามารถประมวลผลด้วยมือแล้วเปรียบเทียบกับเป้าหมายที่กำหนดได้โดยตรง

3. โดยปกติผู้ตอบแบบสอบถามมักต้องยืนอยู่หน้าแท่นที่ติดตั้งจอมอนิเตอร์เป็นเวลานาน ๆ   ทำให้เหนื่อย    ยิ่งหากจำนวนคำถามมีมาก ๆ   ผู้ตอบจะเร่งตอบข้อท้าย ๆ ให้เสร็จ ๆ ไป ซึ่งไม่แน่นอนว่าจะเป็นความจริงหรือไม่

4.   ต้องลงทุนกับเครื่องคอมพิวเตอร์ โปรแกรม และจอมอนิเตอร์

5.   มีข้อจำกัดเรื่องปริมาณผู้ตอบแบบสอบถามต่อชั่วโมง จากข้อจำกัดของปริมาณจอมอนิเตอร์

6.   หากเจ้าหน้าที่ไม่อยู่ประจำสถานี   ก็ไม่มีใครมาตอบแบบสอบถามเองกับเครื่อง   ดังนั้นระบบนี้ต้องมีเจ้าหน้าที่ผลัดเปลี่ยนกันมาอยู่ประจำสถานีเสมอ

7.   ไม่สามารถป้องกันหรือตรวจสอบว่าเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้กรอกแบบสอบถามเองได้ เพราะไม่มีสิ่งบ่งชี้ใด ๆ ว่าผู้ตอบแบบสอบถามเป็นผู้อื่นที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่

8.   ต้องใช้ไฟฟ้า   หากไฟดับ หรือหาที่ต่อสายไฟไม่ได้ ก็จบกัน

9.  สถานีเก็บแบบสอบถามมักจะตั้งอยู่ในที่ที่คนเดินผ่านไปผ่านมาอย่างรวดเร็ว ทำให้คนจำนวนมากปฏิเสธที่จะตอบแบบสอบถาม      เพราะว่ากำลังรีบเดินทางจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่ง ส่งผลให้เกิด bias ของกลุ่มตัวอย่างได้   เช่น เราจะได้เฉพาะคนที่เดินช้า ๆ และไม่รีบไปไหนเท่านั้น

แบบสอบถามออนไลน์ประเภทที่สาม: แบบสอบถามที่ตอบผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์แบบพกพา

ผู้ตอบและเจ้าหน้าที่พบกันซึ่งหน้า   เจ้าหน้าที่เป็นผู้ถามคำถามและเป็นผู้สัมผัสหน้าจอเพื่อกรอกข้อมูลให้ด้วย

ข้อดี
1. ใช้ง่าย พกพาไปได้สะดวก
2. ไม่ต้องใช้คนป้อนข้อมูลจากกระดาษเข้าคอมพิวเตอร์
3. ไม่เปลืองกระดาษ ดินสอ ปากกา

ข้อเสีย

1.   เจ้าหน้าที่หนึ่งคนต้องมีเครื่องหนึ่งเครื่อง   จึงจะต้องลงทุนมาก
2.   ไม่มีสิ่งบ่งบอกใด ๆ ได้ว่าเจ้าหน้าที่จะเป็นผู้ถามเองตอบเองหรือไม่
3.   เจ้าหน้าที่ต้องอ่านคำถามให้ฟังตลอด   ทำให้คอแห้ง   ทำงานได้ไม่นานก็ต้องหยุดดื่มน้ำ
4.   ผู้ตอบก็ต้องทำความเข้าใจจากการฟังคำถาม คิด แล้วตอบ อาจจะเข้าใจจริง ๆ หรือไม่ก็ไม่แน่   และอาจจะตอบจริงจังหรือตอบไปอย่างนั้นก็ได้   เพราะเวลาในการตอบมีจำกัด หากตอบช้าก็เกรงใจเจ้าหน้าที่ที่รอถามคำถามต่อไป
5.   เจ้าหน้าที่ก็ยิ่งจะรีบถามให้เสร็จ ๆ ไป ยิ่งจะบีบบังคับให้ผู้ตอบต้องรีบตอบไปอีก
6.   คำถามยาวมากหรือมีจำนวนมากเกินไปก็ไม่ได้ เพราะว่าต้องอ่านทุกข้อ เหนื่อยแน่ ๆ
7.   ถ้าแบตเตอรี่หมด ก็จบกัน

ที่มา : http://www.tourismlogistics.com

Advertisement

SurveyCan ตัวช่วยสำคัญสำหรับการสำรวจการพัฒนาองค์การภาครัฐ Organization Development Survey

การสำรวจการพัฒนาองค์การ (Organization Development Survey)

การทำการสำรวจความพึงพอใจต่อการให้บริการภาครัฐนั้น มีความสำคัญมากขึ้นในการบริหารจัดการคุณภาพบริการของภาครัฐ ภาครัฐโดยสำนักงาน ก.พ.ร.ได้กำหนดกรอบหลักเกณฑ์ในการยกระดับคุณภาพการให้บริการและได้มีการติดตามประเมินผลในส่วนของมิติภายใน ด้านการพัฒนาองค์การด้วยตัวชี้วัดระดับความสำเร็จของการพัฒนาปรับปรุงสารสนเทศ และตัวชี้วัดระดับความสำเร็จของการพัฒนาปรับปรุงวัฒนธรรมองค์การ โดยใช้แบบสำรวจการพัฒนาองค์การ (Organization Development Survey) ผ่านระบบออนไลน์

ข้อจำกัดของการสำรวจผ่านแบบสอบถามคืออะไร

แบบสอบถามออนไลน์Surveycan

หน่วยงานภาครัฐจึงต้องยึดถือความต้องการของผู้รับบริการและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นสำคัญ การสำรวจความพึงพอใจจึงมีบทบาทสำคัญในการวิเคราะห์ความต้องการดังกล่าวเพื่อนำไปวางแผนการพัฒนาองค์การ เพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ขององค์การ และปรับกระบวนการปฏิบัติงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นต่อไป นอกเหนือจากการสำรวจผ่านระบบออนไลน์โดย สำนักงาน กพร. แล้ว หน่วยงานภาครัฐมีความจำเป็นที่จัดการสำรวจขึ้นมาเพื่อวิเคราะห์ถึงสาเหตุด้วย

การใช้นวัตกรรมใหม่ผ่าน Cloud-based ไปใช้สร้างแบบฟอร์มและแบบสอบถามออนไลน์

การจัดการสำรวจในองค์การสามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน แต่วิธีที่สามารถที่มีประสิทธิภาพสูงคือการจัดเป็นลักษณะของการตอบออนไลน์ขึ้น ซึ่งนอกจากจะเป็นการประหยัดกระดาษด้วยแล้ว จะยังสามารถทราบผลการสำรวจได้แบบ Real-Time ไม่ต้องมีกระบวนการการลงรหัส คีย์ข้อมูลเข้า หรือตรวจทานความถูกต้องของข้อมูลแต่อย่างใด

SurveyCan เป็นระบบบริหารจัดการแบบสอบถามและแบบฟอร์มออนไลน์ในลักษณะ Software as a Service ให้ผู้ใช้งานสามารถสร้าง เผยแพร่ และดูผลสรุปได้ผ่านบน Cloud ผู้ใช้งานสามารถเข้าใช้ระบบได้ผ่าน Web Application เพียงเชื่อมต่อ Internet ก็สามารถใช้งานได้ทุกที่ ทุกเวลา ทำให้องค์กร

  • ไม่มีความจำเป็นต้องจัดซื้อซอฟท์แวร์ในราคาที่สูงมาติดตั้ง
  • ไม่จำเป็นต้องบำรุงรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่าย
  • ไม่จำเป็นต้องจัดสรรบุคลากรด้าน IT มาดูแลระบบ
  • สามารถลดต้นทุนในการบริหารจัดการได้เป็นอย่างมาก

การนำ SurveyCan ไปประยุกต์ใช้กับหน่วยงานภาครัฐ

นอกจากการนำไปออกแบบและสร้างแบบสำรวจขึ้นมาใช้ในองค์เองแล้ว SurveyCan สามารถตอบโจทย์การนำไปออกแบบให้รองรับการสำรวจแยกเป็น ‘ระดับความเห็น’ และ ‘ระดับความสำคัญ’ ในหัวข้อต่าง ๆ ลักษณะเดียวกันกับของ สำนักงาน กพร. ด้วย (รูปแบบอาจจะต่างกันแต่สามารถรองรับการสำรวจไม่ต่างกันเนื่องแบบออนไลน์จะไม่ถูกจำกัดด้วยพื้นที่ ทำให้การออกแบบนั้นง่ายต่อการตอบได้มากขึ้น) ตัวอย่างการออกแบบการสำรวจการพัฒนาองค์การด้วย SurveyCan ตามลิงค์ด้านล่างนี้

http://www.surveycan.com/survey103400

ทั้งนี้หน่วยงานสามารถปรับแต่งรูปแบบ สีสัน ใส่โลโก้ ให้เป็นลักษณะขององค์กรได้โดยง่าย SurveyCan สามารถช่วยท่านสร้างแบบสอบถามลักษณะเดียวกันนี้ได้โดยง่าย

จากกระดาษ …..

ข้อจำกัดของการสำรวจผ่านแบบสอบถามคืออะไร

แบบสอบถามออนไลน์Surveycan

แปลงมาเป็นแบบ online ……

ข้อจำกัดของการสำรวจผ่านแบบสอบถามคืออะไร

แบบสอบถามออนไลน์Surveycan

 

กรณีศึกษากับการใช้ SurveyCan ในหน่วยงานภาครัฐ

กรมการบินพลเรือน กระทรวงคมนาคม ได้จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ โดยได้ให้ข้าราชการทุกคนเข้าร่วมรับฟัง และในระหว่างการประชุมได้จัดให้มีการทำการสำรวจการพัฒนาองค์การตามตัวชี้วัด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหาสาเหตุของความไม่พึงพอใจในแต่ละหัวข้อเพื่อจะได้นำมาจัดทำเป็นแผนการพัฒนาองค์การต่อไป กรมการบินพลเรือนได้เลือกใช้การสำรวจแบบออนไลน์เพื่อความสะดวกและให้ได้ผลลัพธ์อย่างรวดเร็ว

ข้อจำกัดของการสำรวจผ่านแบบสอบถามคืออะไร

แบบสอบถามออนไลน์Surveycan

ผลของแบบสำรวจสามารถนำมาใช้วิเคราะห์ต่อได้ในทันที ไม่จำเป็นต้องมีช่วงเวลาหยุดไปนำเข้าข้อมูลแต่อย่างใด

ข้อจำกัดของการสำรวจผ่านแบบสอบถามคืออะไร

แบบสอบถามออนไลน์Surveycan

หากท่านคิดว่า SurveyCan จะมีส่วนช่วยท่านและหน่วยงานของท่าน สามารถติดต่อมาได้ที่ [email protected] หรือ โทร. 02-583-9992 # 1535 เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ หรือเริ่มใช้ได้ด้วยตนเองที่ http://www.surveycan.com