กรณีลูกจ้างประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงานให้นายจ้างจ่ายค่ารักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นไม่เกิน 50,000 บาท และถ้าในกรณีที่ลูกจ้างเป็นผู้ป่วยใน มีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับค่าห้อง ค่าอาหาร ค่าบริการพยาบาลและค่าบริการทั่วไป ให้นายจ้างจ่ายค่าใช้จ่ายดังกล่าว เท่าที่จ่ายจริงแต่ไม่เกินวันละ 1,300 บาท ทั้งหมดนี้ถือเป็นกฎหมายแรงงาน น่ารู้ขั้นพื้นฐานที่ผู้ประกอบการหน้าใหม่ต้องใส่ใจจะละเลยไม่ได้ ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการทำตามกฎระเบียบตามที่กฎหมายกำหนด และส่วนหนึ่งก็เพื่อเป็นหลักประกันให้ลูกจ้างทำงานได้อย่างมีความสุขเพราะมีหลักประกันว่านายจ้างทำถูกกฎหมายเรียกได้ว่าสบายใจกันทั้งสองฝ่ายทั้งตัวนายจ้างเองและตัวลูกจ้างเองด้วย Show
⚡ ค้นหาคนที่ใช่ด้วยโซลูชันการสรรหาบุคลากรแบบครบวงจรกับ JobsDB ⚡ ★ เข้าถึงโปรไฟล์ผู้สมัครงานคุณภาพมากกว่า 2.6 ล้านคนในประเทศไทย ★ ผู้สมัครงานพบงานที่ใช่มากขึ้น 6 เท่า ผู้ประกอบการได้ใบสมัครตรงใจมากขึ้น ★ ที่เว็บไซต์หางานอันดับ 1 ครองใจผู้สมัครงานคุณภาพ ลงทะเบียนเพื่อสรรหาผู้สมัครงาน ที่นี่ ★ Loading…
เรื่องอื่น ๆ ที่น่าสนใจ ประกันสังคมน่ารู้สำหรับผู้ประกอบการมือใหม่ ขั้นตอนการขอยกเลิกกิจการให้ชอบด้วยกฎหมาย กฎหมายแรงงาน กฎหมายแรงงานของผู้ประกอบการ กฎหมายแรงงานควรรู้ กฎหมายแรงงานน่ารู้ กฎหมายแรงงานสำหรับผู้ประกอบการ บทความยอดนิยม 9 เทรนด์การทำงานในอนาคตสำหรับปี 2023กฎหมายแรงงานที่ผู้ประกอบการมือใหม่ควรรู้ Test case คืออะไรทำไม Tester จำเป็นต้องทำ? ในสายงานการพัฒนาแอปพลิเคชั่น ซอฟท์แวร์ หรือโปรแกรมต่าง ๆ นอกจากอาชีพชูโรงอย่าง Developer แล้ว ยังมีตำแหน่งยิบย่อยอื่น ๆ... ChatGPT คืออะไรทำไมเราถึงควรต้องทำความรู้จัก เราอาจคุ้นเคยกับเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) หรือระบบปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งก็คือความฉลาดของคอมพิวเตอร์กันมา... Work From Home vs. Hybrid Work องค์กรใหญ่ควรเลือกระบบไหนในปี 2023 ใครจะไปคิดว่าวันหนึ่งโลกของเราจะเกิดโรคระบาดอย่างโควิด-19 ขึ้นมา แล้วส่งผลกระทบแบบเป็นวงกว้างไปทั่วโลก สร้างปัญหาให้กับท... ลูกจ้างเฮ…. พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน ฉบับที่ 7 พ.ศ.2562 ประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาแล้ว และจะมีผลในอีก 30 วันนับแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา (วันที่ 5 เมษายน 2562) ประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาแล้ว สำหรับพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน ฉบับที่ 7 พ.ศ.2562 และจะมีผลในอีก 30 วันนับแต่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา (วันที่ 5 เมษายน 2562) พระราชบัญญัติฉบับใหม่นี้มีการปรับเปลี่ยนเรื่องสิทธิประโยชน์สำคัญของลูกจ้างดังต่อไปนี้
1.หากมีการเปลี่ยนแปลงนายจ้างทำให้ต้องไปเป็นลูกจ้างของนายจ้างใหม่ ต้องได้รับความยินยอมจากลูกจ้างเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงนายจ้าง หรือกรณีนายจ้างเป็นนิติบุคคลแล้วมีการจดทะเบียนเปลี่ยนแปลง โอน หรือควบรวมกับนิติบุคคลใด มีผลให้ต้องไปเป็นลูกจ้างของนายจ้างใหม่ ต้องได้รับความยินยอมจากลูกจ้าง สำหรับสิทธิต่าง ๆ ของลูกจ้างที่มีอยู่ต่อนายจ้างยังคงสิทธิต่อไปโดยนายจ้างใหม่ต้องรับไป
2.มีสิทธิลาเพื่อกิจธุระจำเป็น โดยนายจ้างจ่ายค่าจ้างตามปกติปีละไม่เกิน 3 วันทำงานจากเดิมมาตรา 34 ให้ลูกจ้างมีสิทธิลาเพื่อกิจธุระอันจําเป็นได้ตามข้อบังคับเกี่ยวกับการทํางาน แต่ไม่มีมีการกำหนดจำนวนวันและการจ่ายค่าจ้างไว้
3.ลูกจ้างหญิงลาคลอดบุตรและลาตรวจครรภ์ก่อนคลอดได้ 98 วันลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์สามารถลาเพื่อตรวจครรภ์ก่อนคลอดบุตรได้ ให้ถือเป็นวันลาเพื่อคลอดบุตรได้ไม่เกิน 98 วัน โดยให้นับรวมวันหยุดช่วงลาที่ลาด้วย สำหรับค่าจ้างจะได้รับจากนายจ้างไม่เกิน 45 วัน
4.เพิ่มอัตราค่าชดเชยให้ลูกจ้างที่ทำงานครบ 20 ปีขึ้นไป โดยได้รับค่าชดเชยเท่ากับอัตราค่าจ้างสุดท้าย 400 วันอัตราชดเชยการเลิกจ้างโดยลูกจ้างไม่มีความผิด มีดังนี้
5.การย้ายสถานประกอบกิจการใหม่ หากลูกจ้างไม่ต้องการไปทำงานที่ใหม่ตามนายจ้าง สามารถยกเลิกสัญญาจ้างได้ โดยได้รับค่าชดเชยตามสิทธิ
6.กรณีจ่ายค่าตอบแทนเกินเวลาปกติ นายจ้างต้องเสียดอกเบี้ย 15% ต่อปีหากนายจ้างคืนเงินหลักประกัน จ่ายเงินบอกเลิกสัญญาจ้าง เงินค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าชดเชย และตอบแทนต่าง ๆ เกินเวลาปกติ นายจ้างต้องเสียดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดให้กับลูกจ้าง 15% ต่อปี
7.ค่าตอบแทนลูกจ้างชาย-หญิงเท่ากันให้นายจ้างกำหนดค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุด ในอัตราเท่ากันทั้งลูกจ้างชายและหญิงสำหรับงานที่มีค่าเท่าเทียมกัน |