ข้อเสียของการขาดมนุษยสัมพันธ์เป็นอย่างไร

รอบข้างอยากเข้ามาชิดใกล้ และปรารถนาจะร่วมงานด้วย การสร้างเสน่ห์สามารถ
ทำได้โดย การใช้น้ำเสียงหรือคำพูด การแสดงออกทางร่างกาย การใช้ภาษากาย

- การสร้างความสัมพันธ์กับผู้ใต้บังคับบัญชา การปฏิบัติงานในองค์กรผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชาจำเป็นต้องการการสื่อสารเพื่อร่วมกันดำเนินงานให้บรรลุภารกิจขององค์กร 

จะใช้หลัก 3 ประสานก็คือ มือดี ใจดี ความคิดดีซึ่งมือดีก็คือมีความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ บุคลิกภาพและลักษณะท่าทางดีใจดีก็คือมีความมั่นคงทางจิตใจ

หลักการสร้างมนุษยสัมพันธ์ 10 ข้อพอสรุปได้ดังนี้ คือ
       1. บุคคลย่อมมีความแตกต่างกัน 

       บุคคลโดยทั่วไปนั้นถ้าพิจารณาอย่างผิวเผินแล้วจะเห็นว่าเหมือนๆกัน

แต่แท้จริงแล้วบุคคลแต่ละคนมีลักษณะพิเศษเฉพาะตัว (Uniqueness)   

แต่ละคนย่อมแตกต่างไปจากบุคคลอื่น ไม่ว่าจะเป็นทางด้านสิ่งแวดล้อม พันธุกรรม 

สติปัญญา อารมณ์ เจตคติ ค่านิยม อุดมคติ วัฒนธรรม ความคิด ความเชื่อ 

นิสัยใจคอ วินัยจรรยา การศึกษาที่มีมาตลอดชีวิต หรือกระบวนการเรียนรู้

ทางสังคม
         2. การพิจารณาศึกษาบุคคลต้องดูทั้งหมดในฐานะที่บุคคลนั้น

เป็นบุคคลคนหนึ่ง 

          ในการสร้างความสัมพันธ์กับบุคคลหนึ่งบุคคลใดนั้น เราต้องพึงระลึก

เสมอว่า เราได้เข้ามามีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับบุคคลนั้นทั้งคน เรามิได้เลือก

ติดต่อสัมพันธ์กับเรื่องหนึ่งเรื่องใด            

           3. พฤติกรรมของบุคคลแต่ละคนต้องมีสาเหตุ 
           บุคคลอาจได้รับการจูงใจเหตุนี้เราจึงจำเป็นต้องเรียนรู้ถึงสาเหตุของพฤติกรรม อันได้แก่เรื่องความต้องการทั้งทางร่างกายและจิตใจของบุคคล การที่บุคคลจะได้รับการจูงใจให้ทำงานเขาจะต้องสร้างพฤติกรรมขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการของเขาด้วยความคิดของเขาเอง มิใช่สร้างพฤติกรรม

ตามความคิดของผู้อื่น 
           4. บุคคลทุกคนมีศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์เสมอกัน

         เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับทางปรัชญามากกว่าเรื่องทางวิทยาศาสตร์ มนุษย์นับเป็นสัตว์ประเสริฐที่มีความคิด มีสมอง  มีความรู้ผิดชอบชั่วดี มีวัฒนธรรม 

มีสามัญสำนึก เป็นสิ่งที่อยู่เหนือสรรพสัตว์ทั้งหลายดังนั้นการติดต่อสัมพันธ์กับมนุษย์ด้วยกัน จึงต้องปฏิบัติต่อกันด้วยความเคารพ และตระหนักในศักดิ์ศรีของความ

เป็นมนุษย์ของเขา ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร มีสถานภาพหรือฐานะอย่างไร

เขาก็เป็นมนุษย์เหมือนกับเรา 

           5. มนุษย์ทุกคนมีแรงจูงใจ 

           ต้องจูงใจผู้อื่นให้มีเจตคติตรงกัน มีจุดหมายร่วมกัน เพื่อจุดประสงค์

ในการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนมีการจูงใจตนเองให้มีระเบียบ

และความรับผิดชอบเรื่องต่างๆ 

          6. บุคคลต้องการที่จะติดต่อสื่อสาร 

           ได้แก่ การศึกษาวิธีการติดต่อสื่อสารเพื่อทำให้เกิดความสัมพันธ์อันดี

ในกลุ่ม ให้กลุ่มได้มีความเห็นสอดคล้องกัน และมีความเข้าในตรงกันการสื่อสาร

เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในองค์การ             

         7. บุคคลมีความรับผิดชอบ 

         พื้นฐานความรับผิดชอบในงานองค์การก็คือ การทำให้งานสำเร็จโดยความพยายามร่วมกันของผู้ร่วมงาน
         8. บุคคลต้องการเอาใจเขามาใส่ใจเรา

          คือ ความสามารถที่จะทำตัวของเขาให้รู้สึกเหมือนอยู่ในสภาพของผู้อื่น

และรู้สึกเห็นใจต่อทัศนะการจูงใจของคน การขาดการเอาใจเขามาใส่ใจเราเป็นสาเหตุแรกของการขัดแย้งในองค์การ การเอาใจเขามาใส่ใจเราเป็นคุณสมบัติสำคัญของ

ผู้ไกล่เกลี่ยความแตกร้าวของการขัดแย้งกันทางแรงงาน การรู้จักเอาใจเขา

มาใส่ใจเรา ต้องศึกษาความแตกต่างของแต่ละบุคคลและตระหนักถึงปัญหา

ของแต่ละคนซึ่งไม่เหมือนกัน
          9. บุคคลต้องการผลประโยชน์ซึ่งกันและกัน 

          หมายถึง ผลประโยชน์ของคนที่ทำงานในองค์การ กับผลประโยชน์ของ

องค์การนั้นๆ ซึ่งการที่คนจะเข้าไปทำงานในองค์การใดหรือการที่องค์การใด

จะรับคนเข้าไปทำงานนั้น ก็ขึ้นอยู่กับความรู้สึกหรือความเชื่อว่าตนจะได้ประโยชน์

จากอีกฝ่ายหนึ่ง
      10. บุคคลต้องการพัฒนาศักยภาพของตนให้ถึงขีดสุด

       ได้แก่ การศึกษาพัฒนาตนเองตามศักยภาพให้ดีที่สุดทั้งทางร่างกาย จิตใจ 

และบุคลิกภาพ เพื่อให้ตนเป็นสมาชิกที่มีประสิทธิภาพของสังคมและเป็นประโยชน์

ต่อผู้อื่น และสังคมโดยส่วนร่วม รวมทั้งการดำรงชีวิตอย่างสันติสุขของตนเอง

การวัดความชอบพอระหว่างบุคคลสามารถถามได้หลายวิธีเช่น
            1. ถามความรู้สึก การถามที่ง่ายที่สุดและถามตรงไปตรงมาที่สุดให้ผู้ตอบเลือกตัวเลือกใดตัวเลือกหนึ่งซึ่งตรงกับความรู้สึกของตนเองที่มีต่ออีกคนหนึ่ง ดังนี้
                 ..............ฉันรู้สึกจะชอบเขามาก
                 ..............ฉันรู้สึกจะชอบเขา
                 ..............ฉันรู้สึกค่อนข้างจะจะชอบเขา
                 ..............ฉันรู้สึกเฉยๆ
                 ..............ฉันรู้สึกค่อนข้างไม่ชอบเขา
                 ..............ฉันรู้สึกไม่ชอบเขา
                 ..............ฉันรู้สึกไม่ชอบเขามาก
การถามลักษณะเช่นนี้อย่าให้ตรงเกินไปนักเพราะผู้ตอบอาจตอบไม่ตรง 
แต่ถ้าผู้ตอบสามารถตอบได้ตรงๆ คงไม่มีปัญหาอะไร        

มนุษย์สัมพันธ์มีอิทธิพลต่อบุคคลมากเพราะอะไร

"มนุษยสัมพันธ์" เป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการทำงาน และการอยู่ร่วมกันเป็นสังคม เพราะช่วยให้มนุษย์เรียนรู้ ที่จะยอมรับ ความคิดเห็นของผู้อื่น และปรับตัวปรับใจ ให้ร่วมสังคม และร่วมกิจกรรมกันอย่างสันติสุข มนุษยสัมพันธ์เป็นเสมือน มนต์ขลัง ช่วยลดความเกลียดชัง แม้ศัตรูผู้มีผลประโยชน์ขัดกับเรา ก็จะกลับกลายไปในรูป เห็นอกเห็นใจ เป็น ...

ความสําคัญของมนุษยสัมพันธ์ทําให้เกิดผลดีต่อเศรษฐกิจอย่างไร

2. เศรษฐกิจ มนุษยสัมพันธ์เพิ่มผลผลิตได้ เพราะมนุษย์มีจิตใจปกติและเป็นสุข ย่อมสร้างงานอย่างมีประสิทธิผล นั่นคือการมีมนุษยสัมพันธ์จะช่วยเหลือในด้านเศรษฐกิจได้ 3. ความว้าเหว่ เพราะว่ามนุษย์เป็นสัตว์สังคม จะอยู่คนเดียวในโลกไม่ได้ จะรู้สึกเหงา จึงต้องสร้างและใช้มนุษยสัมพันธ์โดยการคบเพื่อน เพื่อให้คลายเหงา

มนุษยสัมพันธ์ในการทํางานมีความสำคัญอย่างไร

มนุษยสัมพันธ์ (Human Relation) เป็นเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้ทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างปกติสุข เกิดความร่วมแรงร่วมใจ ทำงานราบรื่นไม่เกิดปัญหา ทำให้องค์กรประสบความสำเร็จ การสร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดีในองค์กรได้จะต้องอยู่บนองค์ประกอบที่ เข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อื่น และยอมรับความแตกต่างระหว่างกันได้

หลักของการสร้างมนุษย์สัมพันธ์คือข้อใด

หลักของมนุษยสัมพันธ์คือ การตอบสนองความต้องการของมนุษย์ โดยใช้หลักปฏิบัติที่ว่า เมื่อเราต้องการสิ่งใด ผู้อื่นก็มีความต้องการสิ่งนั้นเช่นกัน ส่วนในด้านจิตใจก็ให้ยึดหลักที่ว่าเอาใจเขามา ใส่ใจเรา โดยมนุษยสัมพันธ์นั้นเกี่ยวข้องศาสตร์สาขาต่างๆเช่น วิทยาศาสตร์การแพทย์ จิตวิทยา จิตวิเคราะห์ และความแตกต่างระหว่างบุคคล