Web browser 2022 ที่นิยม 5 อัน มีอะไรบ้าง

การใช้งาน web browser นั้นถือว่าเป็นก้าวแรกของการเดินเข้าสู่โลกออนไลน์ และแน่นอน ใครๆก็อยากได้ประสบการณ์ดีๆในการใช้งานอินเตอร์เน็ต ถ้าคุณเพิ่งจะเริ่มใช้งานคอมพิวเตอร์ หรือถ้าคุณย้อนกลับไปตอนที่คุณใช้คอมครั้งแรก คุณจะต้องเคยได้ยินประโยคนี้จากคนที่สอนคุณใช้คอมครั้งแรกว่า “ถ้าจะเข้าเน็ตให้กดที่ตัว E ตัวนั้น”

Internet Explorer หรือที่เรียกสั้นๆว่า IE เป็น web browser ที่ติดเครื่องมากับ Windows ทุกรุ่นซึ่งทุกคนน่าจะรู้จักและเคยผ่านมันมาแล้ว แต่รู้หรือไม่ว่า IE เป็น browser ที่ห่วยแตกที่สุดแล้ว 😒 และด้วยเหตุนี้ วันนี้ผมจึงมาแนะนำ browser ตัวอื่นๆที่จะนำมาใช้งานแทน IE กันครับ โดยในที่นี้ผมจะขอพูดถึงแค่ browser ที่ใช้งานบน desktop หรือ laptop เท่านั้น ไม่รวมถึง mobile browser ครับ

Google Chrome — ถ้ายังไม่มีก็ไปโหลดเดี๋ยวนี้

อันนี้ไม่ต้องมีคำอธิบายอะไรมากมาย เพราะ Google Chrome เป็น web browser ที่นิยมมากที่สุดในโลก ณ ขนะนี้ ทำไมนะรึ? ก็เพราะมันดีไงละ 👍 โหลดเว็บเร็ว UI คลีน เข้าใจง่าย ใช้งานง่าย มี extension มากมาย

แต่ก็ใช่ว่ามันดีซะทุกอย่างนะ ข้อเสียคือแม่ง “แดกแรม” เอามากๆ 😆 ถ้าเครื่องใครมีแรมน้อยแล้วชอบดอง tab ไว้เยอะๆนี่มีค้างเหมือนกัน ปกติผมเป็นคนไม่ดอง tab อยู่แล้วเลยไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้าคุณเป็นหนึ่งในนั้น ผมแนะนำให้ลองใช้ Toby ซึ่งเป็น extension ที่ช่วยจัดการ tab นั่นเอง

Mozilla Firefox — เบื่อ Chrome หรือคอมแรมน้อย

Firefox ในช่วงปีที่ผ่านมานั้นค่อนข้างล้าหลังไปหลายด้านทำให้ Chrome แซงหน้าหลายๆอย่างไป แต่เมื่อปีที่แล้วทีมีการอัพเดทครั้งใหญ่ในชื่อ Firefox Quantum ทำให้อะไรหลายๆอย่างดีขึ้นมากๆ ดีในระดับที่จะเอามาแทน Chrome ได้เลย เช่นเรื่องความเร็วทีพอๆกับ Chrome แต่เหนือกว่าด้วยการจัดการและบริโภคทรัพยากร์ (หรือการแดกแรม) ที่ใช้น้อยกว่า Chrome ถึงจะเปิด tab เยอะๆก็ไม่สะท้าน

ถ้าใครเบื่อ Chrome หรือไม่ได้ใช้บริการของ Google ละก็ Firefox น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด โดยเฉพาะถ้าเครื่องคุณมีแรมน้อยแล้วชอบเปิด tab ค้างไว้เยอะๆ

Opera — ถ้าคุณเป็นคนอินดี้

ถือเป็น browser ชื่อดัง แต่มีคนใช้น้อย จริงๆแล้วผมว่ามันก็เหมือนกับตัว browser อื่นๆนะ บวกกับมี feature เล็กๆน้อยๆเพิ่มเข้ามา เพียงแต่ว่า feature พวกนี้ช่วงหลังๆ Chrome ก็สามารถทำได้เหมือนกัน เลยรู้สึกว่ามันไม่ค่อยมีอะไรเด่น

Feature หลักๆที่ต่างไปจาก Chrome ก็เช่นตัว Sidebar ที่เราสามารถเพิ่มหน้าเว็บหรือพวก messenger อย่าง Facebook Messenger หรือ WhatsApp เป็นแถบค้างไว้ได้ ส่วนตัวมองว่าอันนี้ดี ตามทฤษฎีน่าจะสะดวก แต่ก็ไม่ได้ดีเท่าโหลดแอปจาก Windows Store มาติดตั้งเป็นเรื่องเป็นราวไว้ในเครื่องเลย

ส่วนอีกตัวคือ Turbo Mode ซึ่งจริงๆเป็น feature ที่ดีมาก หลักการคือเราจะเชื่อมต่อกับ VPN ของ Opera ที่จะช่วยบีบอัดข้อมูลก่อนส่งมาให้เรา ถ้าใช้เน็ตบ้านอันนี้อาจจะไม่มีผลอะไร แต่ถ้ามีเหตุการที่ต้องออกไปทำงานข้างนอกแล้วต้องต่อเน็ตมือถือ ตัวนี้จะช่วยลดการโหลดข้อมูลทำให้ไม่เปลืองเน็ตเรานั่นเอง

แต่สุดท้าย Chrome ก็ทำได้เหมือนกัน ด้วยการติดตั้ง extension ที่ชื่อว่า Data Saver ซึ่งใช้หลักการเดียวเปะ ผมและหลายๆคนก็เลยไม่มีเหตุผลที่จะต้องใช้ browser ตัวนี้ ใช้ Chrome หรือ Firefox ดีกว่า แต่ถ้าใครอินดี้อยากจะลองก็ไม่ได้ห้ามนะจ๊ะ

Safari — สำหรับสาวก Apple

โดย Apple เพื่อแฟน Apple เพราะใช้ได้บนอุปกรณ์ของ Apple เท่านั้น 🍎 จริงๆแล้ว Safari เคยมี version สำหรับ Windows เมื่อนานมาแล้ว แต่ Apple หยุดพัฒนาไปทำให้ตอนนี้จะใช้ได้แค่บน macOS กับ iOS เท่านั้น เพราะฉะนั้นใครที่ใช้ Windows ก็ข้ามไปได้เลย แต่ถ้าใครที่ใช้ mac ผมว่าก็น่าจะใช้กันอยู่แล้ว เพราะมันจะสามารถเชื่อมต่อกับอะไรต่างๆนานาของ Apple เช่น iCloud หรือ AirDrop

ส่วนตัวตอนนี้ไม่ได้ใช้แล้วเพราะผมไม่ได้ใช้ mac แต่เมื่อก่อนเคยใช้อยู่ช่วงหนึ่ง ถ้าใช้สำหรับเล่นเว็บส่วนตัวทั่วไปก็ถือว่าโอเค ชอบที่ animation มันลื่นไหลสบายตาดี แต่ถ้าใช้ทำงานผมว่าก็ยังต้อง Chrome เนื่องจากผมต้องใช้พวก platform โฆษณาซึ่งมักจะเจ๊งกับ browser อื่นๆ (ต่อให้ใช้ mac ก็ต้องโหลด Chrome มาใช้อยู่ดี) แต่ถ้าคุณไม่ได้ใช้อะไรพวกนี้และใช้ mac อยู่แล้วก็ใช้กันต่อไป

Microsoft Edge — ทางเลือกของผู้มีความอดทน

เป็น browser ที่ติดเครื่องมากับ Windows 10 และสามารถใช้บน Windows 10 เท่านั้น (เก่ากว่านี้ต้องไปใช้ Internet Explorer นะจ๊ะ) ถูกพัฒนาต่อมาจาก IE ซึ่งเพิ่ม feature ต่างๆให้ทันสมัยมากขึ้น เช่น การใช้งานแบบ tablet mode หรือการเชื่อมต่อกับแอปอื่นๆของ Microsoft อย่าง Cortana หรือ OneNote รวมทั้งหน้าตาก็ถูกปรับไปในสไตล์ของ Windows 10 มันก็จะเหลี่ยมๆหน่อย

หลังจากที่ผมได้ลองใช้อย่างจริงจัง ถึงขั้นเลิกใช้ Chrome แล้วเปลี่ยนมาใช้ Edge ทั้งหมดเป็นเวลาประมาณเกือบเดือนเลยทีเดียว เพราะผมมีความหวังว่าครั้งนี้ Microsoft อาจจะทำมาดีแล้วก็ได้ (หลังจากด่า IE กันมาอย่างยาวนาน) ผมขอบอกเลยครับว่า ประโยชน์ของ Microsoft Edge มีเพียงหนึ่งเดียวนั่นคือ… “เอาไว้โหลด Chrome”🤣

ตอนใช้แรกๆผมรู้สึกว่ามันค่อนข้างโอเคเลยนะ โหลดหน้าเว็บเร็ว ลื่นไหล และที่ชอบมากทึ่สุดคือ Reading View ที่เอาไว้อ่านพวกบทความแบบคลีนๆไม่มีโฆษณา แต่สุดท้ายมาตกม้าตายตอนที่โหลดเว็บไม่ขึ้นนี่แหละ หน้าขาวบ้าง เด้งปิดเองบ้าง แรกๆผมก็พอทนได้ แต่นานๆเข้าแล้วมันไม่มีการแก้ไขสักทีก็เลยตัดสินใจเปลี่ยนกลับไปใช้ Chrome เหมือนเดิมในที่สุด

ถ้าหากใครที่ชอบตัว Reading View ผมแนะนำให้ใช้ Mercury Reader บน Chrome แทนจะดีกว่า

Vivaldi — เหมือน Opera แต่เหนือกว่าเล็กน้อย

Browser น้องใหม่ที่ถูกพัฒนาโดย co-founder ของ Opera ก็เลยทำออกมาคล้ายๆ Opera แต่มีอิสระในการปรับแต่งหน้าตามากกว่า เช่น มีระบบ theme เปลี่ยนสีได้ เลื่อนตำแหน่ง tab ที่เปิดอยู่ไปไว้ด้านซ้ายหรือขวา (ปกติอยู่ด้านบน) สามารถตั้ง keyboard shortcut หรือ mouse gesture ให้ทำตามคำสั่งที่ตั้งไว้ได้

สำหรับผมถ้าใครที่ชอบอะไรแปลกใหม่ ชอบปรับนู่นปรับนี่ให้เขากับสไตล์การใช้งานของตัวเอง Vivaldi นี่โอเคเลย พูดง่ายๆมันก็คือ Opera ที่มีของเด็ดคือตัว Sidebar แต่เพิ่มลูกเล่นการปรับแต่งเข้าไปได้ดูเก๋ไก๋ไปอีก ต้องยอมรับว่าระบบ theme ของ Vivaldi ดูดีกว่าของ Chrome มากๆ (คือของ Chrome มันเละเทะลิเกอย่างบอกไม่ถูก)

Brave — ถ้าคุณกลัวโดนขโมยข้อมูล

เป็น browser ที่เน้นเรื่องความเป็นส่วนตัวเป็นอันดับแรก โดยมี ad blocker ติดมาแต่แรกที่จะช่วยเรื่องการซ่อนโฆษณาในหน้าเว็บ รวมถึง tracking blocker ที่จะช่วยบล็อคไม่ให้เว็บไซต์เก็บบันทึกพฤติกรรมการใช้งานได้ แต่ด้วยเรื่องความเป็นส่วนตัวนี้เอง ทำให้มีข้อจำกัดเช่น ไม่มีระบบ sync ระหว่างบัญชี ถ้าใครที่ชอบใช้งานข้ามเครื่อง เช่น เล่นบนมือถือแล้วข้ามไปอ่านต่อบนคอม อันนี้ทำไม่ได้นะเธอ

และด้วยความที่เป็น browser ที่พัฒนาต่อจากโค๊ดของ Chrome ทำให้มีความรู้สึกเหมือนใช้ Chrome มากๆ ถ้ารับข้อเสียเรื่อง sync ได้แล้วอยากได้ความเป็นส่วนตัว บวกกับใช้ Chrome อยู่ก่อนหน้าอยู่แล้ว Brave Browser ก็เป็นตัวเลือกที่ดี

ตัวผู้พัฒนาอ้างว่า browser ตัวนี้สามารถโหลดหน้าเว็บได้เร็วกว่า Chrome 2–8 เท่า แต่เท่าที่ลองใช้มาผมรู้สึกว่าไม่ต่างกันมากนัก อาจเป็นเพราะ Chrome มันก็เร็วอยู่แล้ว Brave อาจจะเร็วกว่าไม่กี่เสี้ยววินาทีเลยทำให้รู้สึกว่าไม่ต่างกัน

ส่วนตัว ad blocker นี้ถือว่าบล็อคได้จริง แต่มันจะเป็นช่องว่างสีขาวสีเทา ที่บางทีผมว่ามีโฆษณาไว้จะดูดีกว่า แต่ถ้าอยากได้จริงๆใน Chrome ก็มีเป็น extension ให้โหลดใช้งานกันได้ชื่อ AdBlock

สรุป

แล้วคุณควรจะใช้ตัวไหนดีล่ะ ผมแนะนำ Chrome หรือ Firefox ครับ น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับใครหลายๆคน แต่ถ้ายังไม่ถูกใจผมก็แนะนำให้ลองโหลด browser ตัวอื่นๆมาลองใช้งานดู บางทีคุณอาจจะชอบมากกว่าก็ได้