ทั้งนี้ ผู้ที่เคยใช้สิทธิคนละครึ่ง เฟส 4 สามารถกดยืนยันรับสิทธิคนละครึ่ง เฟส 5 ได้ตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม 2565 เป็นต้นไป และต้องใช้จ่ายครั้งแรกภายในวันที่ 14 กันยายน 2565 ไม่เช่นนั้นจะถูกตัดสิทธิ ส่วนใครที่มีปัญหาและข้อสงสัยใด ๆ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Krungthai Contact Center 0-2111-1122 ทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง "คนละครึ่งเฟส 5" ปชช.ลงทะเบียนครบจำนวนที่รับแล้ว ใครลงทะเบียนแล้วดูวิธียืนยันตัวตน-ยืนยันสิทธิได้เลยที่นี่ความคืบหน้า คนละครึ่ง เฟส 5 ตามที่คณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้อนุมัติโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 เพื่อเป็นโครงการที่ช่วยแบ่งเบาภาระและเหลือรักษากำลังซื้อของประชาชนตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตั้งแต่วันพรุ่งนี้(19 ส.ค.) เป็นต้นไปกระทรวงการคลังจะเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน/ยืนยันการรับสิทธิเพื่อเข้าร่วมโครงการฯ ทั้งนี้ การเข้าร่วมโครงการระยะที่ 5 นี้จะแบ่งการดำเนินการเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มที่ 1 สำหรับผู้ที่ไม่เคยเข้าร่วมโครงการมาก่อน จะต้องลงทะเบียนใหม่โดยสามารถลงทะเบียนได้ 2 ช่องทาง ทั้งเว็บไซต์ www.คนละครึ่ง.com และแอปพลิเคชันเป๋าตัง กลุ่มที่ 2 ผู้เคยได้รับสิทธิอยู่แล้ว ไม่ต้องลงทะเบียนใหม่แต่ต้องดำเนินการ แต่ต้องกดยืนยันสิทธิ ผ่านนแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง
ล่าสุด มีประชาชนสนใจลงทะเบียนคนละครึ่งครบ 2.3 แสนคนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ภาพจา กคนละครึ่ง
ขั้นตอนการยืนยันสิทธิคนละครึ่งเฟส 5 -เข้า แอปเป๋าตัง -กด G – Wallet -กดแถบคนละครึ่ง -กดยอมรับเงื่อนไข และรับสิทธิ -แสดงผลการรับสิทธิสำเร็จ สำหรับประชาชนที่ได้รับการยืนยันสิทธิจากการลงทะเบียน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2565 เป็นต้นไป จะต้องใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 โดยการซื้อสินค้าหรือบริการในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ครั้งแรกผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" ภายใน 14 วัน นับแต่วันที่ได้รับข้อความผ่านแอปพลิเคชัน "เป๋าตัง" หรือข้อความสั้น (SMS) แจ้งยืนยันสิทธิในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 ซึ่งหากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าว จะถูกตัดสิทธิในโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 5 เงื่อนไขการลงทะเบียน "คนละครึ่ง เฟส 5" เฉพาะรายใหม่ ที่ยังไม่เคยใช้สิทธิโครงการคนละครึ่งเฟส 4 เริ่มลงทะเบียนผ่าน www.คนละครึ่ง.com ได้ตั้งแต่วันที่ 19 ส.ค. 65 เป็นต้นไป ตั้งแต่เวลา 6:00-22.00 น. -มีบัตรประจำตัวประชาชนและเป็นบุคคลสัญชาติไทย -อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน -ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (ตามฐานข้อมูลกระทรวงการคลัง ณ วันที่ 15 สิงหาคม 2565) * ผู้ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถตรวจสอบมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติมจากภาครัฐฯ ได้ที่ www.cgd.go.th -ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ (ผ่านบัตรประชาชน) ระยะที่ 3 โดยสามารถตรวจสอบสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. 65 * ตรวจสอบผู้ได้รับสิทธิผ่านบัตรประชาชนได้จาก https://เพิ่มกำลังซื้อ.คนละครึ่ง.com จำนวน 26.5 ล้านคน หรือจนกว่าสิทธิจะหมด * ผู้ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถตรวจสอบมาตรการสนับสนุนเพิ่มเติมจากภาครัฐฯ ได้ที่ www.cgd.go.th วิธีการยืนยันตนผ่านแอปเป๋าตัง -เลือก "สมัครใช้และบริการ" -ยินยอม การจัดการข้อมูล ยืนยันตัวตน -เตรียมถ่ายบัตรประชาชน -ถ่ายบัตรประชาชน -กรอกข้อมูลบัตรประชาชน -กรอกข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติม -กรอกข้อมูล CDD -เลือกวิธีการยืนยันตัวตนด้วยแอปฯ Krungthai NEXT หรือสแกนใบหน้า ยืนยันตัวตนด้วยบัญชี Krungthai NEXT -เข้าสู่ Krungthai NEXT -ระบุรหัส PIN Krungthai NEXT -กดปุ่มดำเนินการบนแอปฯ เป๋าตัง -กรอกรหัส OTP จะถูกส่งไปที่เบอร์โทรศัพท์ที่ผูกกับ Krungthai NEXT -ตั้งค่ารหัส PIN -ยืนยันรหัส PIN ยืนยันตัวตนด้วย การสแกนใบหน้า -สแกนใบหน้า สามารถข้ามได้ หากโทรศัพท์ไม่มีกล้อง/ชำรุด -ตั้งค่ารหัส PIN -ยืนยันรหัส PIN -เปิดการใช้งานระบบสแกนใบหน้า หรือ สแกนลายนิ้วมือ -ยอมรับ เงื่อนไขการใช้งานแอปฯเป๋าตัง *ผู้ขอใช้บริการต้องยอมรับเท่านั้น -ขณะระบบตรวจสอบข้อมูลผู้ใช้งาน จะพบข้อความบนการ์ดว่า "กำลังตรวจสอบข้อมูล" -หากลงทะเบียนสำเร็จ จะแสดงการ์ด wallet ดังภาพ เพื่อให้สมัครใช้บริการ กรณียืนยันตัวตนไม่ผ่าน -สแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน -ถือค้างไว้เพื่อสแกนใบหน้ายืนยันตัวตน -ค้นหาจุดบริการยืนยันตัวต้นใกล้คุณ -เลือกเมนู “ยืนยันตัวตน”(ไม่ต้องใช้บัตร ATM) -รับรองในการ Dip Chip เพื่อทำการพิสูจน์ตัวตน -ยินยอมให้ เก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการพิสูจน์ตัวตน -ทำความสะอาดชิปบนบัตรประชาชนของท่านก่อนเสียบบัตร -เสียบบัตรประชาชน กดปุ่มตกลง และรอระบบตรวจสอบข้อมูล เพื่อยืนยันตัวตนของท่าน -เมื่อระบบตรวจสอบเสร็จ นำบัตรประชาชนออก กดปุ่ม จบการทำรายการยืนยันตัวตน ทั้งนี้ ภายหลังลงทะเบียน/ยืนยันรับสิทธิแล้ว ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการสามารถเริ่มใช้สิทธิเพื่อใช้จ่ายได้ตั้งแต่ วันที่ 1 ก.ย.-31 ต.ค. 2565 โดยมีวงเงิน 800 บาทต่อคนตลอดโครงการ ใช้จ่ายต่อวันไม่เกิน 150 บาท และต้องใช้สิทธิในการซื้อสินค้าหรือบริการครั้งแรกภายในวันที่ 14 ก.ย. 2565 หากพ้นกำหนดวันดังกล่าวจะถูกตัดสิทธิตามโครงการ |