ทักษะการส่งบอลสองมือ ด้าน ล่าง

การส่ง ในบาสเกตบอลนั้นมีความสำคัญเป็นอันดับ 2 ในกีฬาชนิดนี้ก็ว่าได้ ไม่เกินเลย เพราะ ต่อให้คุณวิ่งเร็วแค่ไหน คุณก็ไม่มีทางวิ่งเร็วกว่าลูกบาสเกตบอลที่ถูกส่งออกไปด้วยความแรงและเร็วไปได้เลย

และยิ่งคุณส่งบอลได้ดีเท่าไหร่ บอลมูฟเม้นในระบบ ดีเท่าไหร่ การทำแต้มจะยิ่งง่ายดายมากขึ้นเท่านั้น เพราะ คุณจะมีพื้นที่เปิดโล่งๆให้ทำแต้มได้ ทั้งบอลใต้แป้น หรือบอลสามคะแนน

แต่ปัญหาใหญ่สำหรับผู้เล่นหน้าใหม่ คือการส่งสองมือระดับอกนั้น ใช้กำลังมาก ในขณะที่ผู้เล่นหน้าใหม่ยังมีกำลังไม่มากพอ สิ่งที่เกิดขึ้นคือ

ส่งสั้น

ส่งหย่อน

ส่งโด่งเกิน

เพื่อนรับยาก ก็เล่นต่อยาก ในหลายๆครั้งถึงขั้น เสียเทินโอเวอร์ ได้เลย

วันนี้เลยจะมาแนะนำ 5 ขั้นตอนในการส่งสองมือระดับ ครับ

ขั้นตอนแรก คุณต้องอ่านสถานการณ์ตรงหน้าให้ออก

ข้อได้เปรียบที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ทำให้การส่งสองมือระดับอกดีกว่าการส่งบอลประเภทอื่น ๆ คือความเร็ว!

เนื่องจากเส้นทางของมันเป็นเส้นตรงจึงเป็นวิธีที่เร็วที่สุดในการส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีม

อย่างไรก็ตามการส่งบอลแบบนี้ก็ไม่ได้ไม่มีข้อบกพร่องอะนะ

ในเมื่อการส่งลักษณะนี้มีลักษณะการเดินทางของบอลเป็นเส้นตรง ทำให้ง่ายในการตัดบอลของทีมรับ ทั้งยังไม่เหมาะสำหรับการเล่นลูกลักไก่ และการส่งในระยะประชิด (ใกล้กันมากๆ) ดังนั้น คุณต้องอ่านสถานการณ์ตรงหน้าให้ออก ด้วย

ขั้นตอนที่สอง คุณต้องส่งบอลในท่าทางที่ถูกต้อง

แล้วยังไงคือท่าที่ถูกต้อง?

  • ยืนเท้าขนานกัน กว้างประมานระยะหัวไหล่
  • จับบอลไว้ระดับหน้าอก มืออยู่ในลักษณะกางศอกออกข้างลำตัว
  • (คนถนัดขวา) สืบเท้าขวาเดินหน้า พร้อมผลักบอลออกจากหน้าอก ใช้ศอกดันไปด้านหน้า สุดจังหวะก็สบัดข้อมือ ให้นิ้วโป้งชี้ลงพื้นสนาม

ขั้นตอนที่สาม คุณต้องส่งให้ถูกที่และถูกเวลา

นี่จะเป็นเรื่องง่ายหากเป้าหมายของคุณหยุดนิ่ง … แต่สิ่งต่างๆจะซับซ้อนขึ้นเล็กน้อยหากเพื่อนร่วมทีมของคุณกำลังเคลื่อนที่

บ่อยครั้งที่ผมได้บอลย้อนหลัง

บ่อยครั้งที่ผมไปไม่ถึงบอล ส่งเผื่อไปเยอะ!

บ่อยครั้งที่ผมต้องก้ม เพื่อช้อนบอลที่ส่งมาต่ำเกิน และ

บ่อยครั้งที่ผมต้องกระโดดสุดตัว เพื่อจะคว้าบอลที่โด่งจัดดดดดดดดดดด (สึด ส่งดีดีดิวะ!)

เหล่านี้คือปัญหาของการส่งไม่ถูกที่ถูกเวลา ไทม์มิ่งในการส่งบอลนั้นสำคัญมากครับ บอลมาก่อนก็รับไม่ทัน และบอลมาทีหลัง เราก็วิ่งเลยมันไปซะละ

ย้อนกลับไปที่ข้อแรก อ่านสถานะการณ์ ให้ออก จะส่งเผื่อแค่ไหน เพื่อนถึงไปทัน จะส่งแรงแค่ไหนเพื่อนถึงรับได้ง่าย

เคยเจอคนส่งแนวนักกล้าม บ้าพลังมาแล้ว แม่งส่งสุดแรงทุกลูก ตูยืนห่างแค่สามก้าว พ่อล่อสุดแรง รับทีมือแหกกกกกกกกกกก

ขั้นตอนที่สี่ ส่งบอลหมุนๆด้วย

การใช้ฟอลโล่ทรูในการส่งนั้น จะทำให้บอลที่เราส่งออกไปเกิดการหมุนแหวกอากาศไปนิ่งๆ รับง่ายๆ

ต่างจากการส่งที่บอลไม่หมุน พอบอลไม่หมุน บอลมันจะส่ายไปมาในอากาศ รับโคตรยาก ให้ท่านึกภาพ นักฟุตบอลแตะบอลเข้าประตูสุดแรง บอลมันจะส่ายไปมาและแหวกอากาศด้วยความแรงทำให้ผู้รักาาประตูรับได้ยาก แต่เราต้องการบอลที่รับได้ง่ายๆ ดังนั้น ส่งบอลหมุนๆกันนะครับ

ขั้นตอนที่ห้า ส่งบอลแบบหลอดด้วยสายตา

ปกติ การส่งต้องมองเป้าหมาย แต่ในการแข่งขัน เราต้องมีชั้นเชิงที่มากกว่านั้น หนึ่งในการส่งที่ทำกันก็คือ การส่งโดยไม่ต้องมองเป้าหมาย – No Look Pass –

ส่งแบบไม่มอง ผู้เล่นหน้าใหม่ต้องฝึกไปเรื่อยๆครับ มันไม่สามารถส่งได้เลยในครั้งแรก ก็เหมือนการฝึกทักษะอื่นๆ มันไม่มีทางลัด ทางตรงนี่แหละลัดที่สุด

ส่วนมากผู้เล่นทีมรับจะจับตาดูคูณว่าคุณจะส่งไปทางไหน แล้วคอยดักตัดบอลไป หากคุณใช้สายตาหลอกส่ง มันก็ทำให้ทีมรับเดาทางส่งคุณได้ยากขึ้นไปอีกระดับ

ข้อควรระวังคือ ทีมรับเก๋าๆ เค้ามองออกว่าคุณหลอกส่ง ทำไมเป็นแบบนั้น!

ทีมรับเก่งๆเค้าไม่ได้มองคุณอย่างเดียว เค้ามองไปรอบๆสนามด้วย และเค้าเห็นแล้วว่าทางขวาไม่มีคนอยู่ แต่คุณหลอกมองขวาแล้วส่งซ้าย ซึ่งขวาไม่มีคน ทีมรับก็รู้อะดิว่าคุณจะส่งซ้ายแน่นอน

เป็นการส่งบอลที่นิยมใช้กันเป็นอย่างมากเนื่องจากเป็นพื้นฐานใน การส่งบอล ใช้เมื่อไม่มีผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามโดยส่งบอลไป-มาระหว่างผู้เล่นข องทีม วิธีการฝึก ให้ถือลูกบอลสองมือระดับอกดึงบอลเข้าหาลำตัว,เก็บศอก,กางนิ้วมือออก ขณะปล่อยลูกบอลแขนและมือเหยียดออกและสลัดข้อมือเพื่อช่วยส่งแรง

การส่งบอลสองมือกระดอนพื้น ( The Two-Handed Bounce Pas )

เป็นวิธีการส่งบอลขั้นพื้นฐาน ใช้เมื่อส่งบอลให้เพื่อนร่วมทีมที่ถูกป้องกันทางด้านหลัง หรือผู้เล่นฝ่ายป้องกันพยายามแย่งบอลจากด้านหน้า หรือขณะที่การส่งบอลสองมือระดับไม่สามารถใช้ได้ 

การส่งบอลสองมือเหนือศีรษะ ( The Two-Handed Overhead Pass )

เป็นการส่งบอลให้กับผู้เล่นตำแหน่งเสาหลัก (Post ) ล่างและบน บางครั้งใช้กับการเล่นลูกเร็ว ( Fast Break ) หรือการส่งบอลเข้าเล่น

การส่งบอลมือเดียวเหนือไหล่ ( The One-Hand (Baseball) Pass )

เป็นการส่งบอลที่มีระยะไกลประมาณครึ่งสนามซึ่งปกติการส่งสองมือ ไม่สามารถส่งได้ แต่ไม่เหมาะกับการส่งบอลที่มีระยะไกลมากเกินไป ใช้ประโยชน์สำหรับการส่งบอลเร็ว ( Fast Break ) 

การส่งบอลมือเดียวด้วยการผลัก ( The One-Hand (Push) Passv )

เป็นการผลักลูกบอลอย่างรวดเร็ว ใช้สำหรับระยะสั้น ๆ วิธีฝึก ให้ลูกบอลอยู่บริเวณระดับหู งอศอกเพื่อให้เกิดแรงส่ง เป็นการส่งบอลแนวตรงและสามารถหลอกฝ่ายตรงข้ามได้

ทักษะการส่งบอลสองมือ ด้าน ล่าง

      การส่งลูกบาสเกตบอล  
           การส่งลูกบาสเกตบอลมีอยู่ด้วยกันหลายแบบ ซึ่งแต่ละแบบนำมาใช้ในการเล่นบาสเกตบอลได้เป็นอย่างดี
จะใช้แบบไหนช่วงไหนก็อยู่ที่สถานการณ์ของการเล่น  ประกอบด้วยแบบการส่งลูกบาสเกตบอล ดังนี้ (กรมพลศึกษา,
2539 : 96)
            1.  การส่งแบบสองมือระดับอก  (Two Hands Chest Pass) 
                  การส่งลูกบาสเกตบอลสองมือระดับอก  เป็นวิธีการส่งที่ใช้กันมากที่สุดในการแข่งขัน  จึงนับได้ว่า
การส่งลูกบอลแบบนี้เป็นหัวใจของการส่งลูกบอล   เพราะส่งได้รวดเร็วและแม่นยำทั้งในระยะใกล้และระยะห่างกัน
ปานกลาง  มีวิธีปฏิบัติดังนี้
                 1.1  เริ่มจากท่ายืนทรงตัว
                 1.2  จับลูกบอลด้วยมือทั้งสองระดับอกห่างตัวเล็กน้อย
                 1.3  นิ้วมือทั้งห้ากางออกแนบข้างลูกบอล  หัวแม่มือทั้งสองอยู่ด้านหลังทแยงมุมซึ่งกันและกัน
                 1.4  ศอกทั้งสองข้างเฉียงลงข้างลำตัวไม่เกร็ง
                 1.5  หักข้อมือทั้งสองขึ้นเล็กน้อย
                 1.6  ผลักบอลด้วยการเหยียดแขนและตวัดข้อมือลง  ผลักด้วยปลายนิ้ว
                 1.7  สืบเท้าข้างหนึ่งไปสู่ทิศทางที่ส่งบอล  ยกส้นเท้าหลังขึ้นจะช่วยทำให้ลูกบอลพุ่งแรงและเร็วขึ้น

การส่งลูกบาสเกตบอล     

               2.  การส่งแบบสองมือกระดอนพื้น (Bounce  Pass)
              การส่งลูกกระดอนพื้นนี้ใช้เพื่อหลบหลีกจากฝ่ายที่พยายามเข้ามาสกัดกั้นและแย่งลูกบอลไปครอบครอง
การส่งแบบนี้ทำคล้ายกับการส่งลูกแบบสองมือระดับอก จะต่างกันก็ตรงที่วิธีนี้จะต้องส่งลูกบอลลงไปกระทบพื้นหนึ่งครั้ง
ก่อนจะกระดอนขึ้นไปยังผู้รับ  การส่งลูกบอลวิธีนี้ จะสามารถผ่านการป้องกันของฝ่ายตรงข้ามได้ เพราะการส่งลูกแบบ
กระดอนพื้นเป็นการส่งที่คู่ต่อสู้ป้องกันได้ยาก  มักจะใช้กันบริเวณใกล้ห่วงประตู  มีวิธีการปฏิบัติดังนี้
(สุนทร กายประจักษ์, 2536 : 21)
               2.1  เริ่มจากท่ายืนทรงตัว
               2.2  จับลูกบอลด้วยมือทั้งสองระดับอกห่างตัวเล็กน้อย
               2.3  นิ้วมือทั้งห้ากางออกแนบข้างลูกบอล  หัวแม่มือทั้งสองอยู่ด้านหลังทแยงมุมซึ่งกันและกัน
               2.4  ศอกทั้งสองเฉียงลงข้างลำตัวไม่เกร็ง
               2.5  หักข้อมือทั้งสองขึ้นเล็กน้อย
               2.6  ผลักลูกบอลด้วยการเหยียดแขนและตวัดข้อมือลง  ผลักด้วยปลายนิ้วให้กระทบพื้นสองในสามของ
ระยะทางให้กระดอนขึ้นระดับดับอกของผู้รับ
               2.7  สืบเท้าข้างหนึ่งไปสู่ทิศทางที่ส่งลูกบอล  ยกส้นเท้าหลังช่วยจะทำให้ลูกบอลพุ่งแรงและเร็วขึ้น

3.  การส่งแบบสองมือเหนือศีรษะ (Two Hands Overhead  Pass)
                 การส่งลูกแบบสองมือเหนือศีรษะ  เป็นการส่งลูกบอลในระดับสูงผ่านคนป้องกัน  โดยเฉพาะการเล่น
ป้องกันแบบเป็นเขต (Zone) ตำแหน่งลูกบอลสามารถส่งได้หลายทิศทางโดยมีเป้าหมายส่งไปยังบริเวณศีรษะผู้รับ
ลูกบอล   ซึ่งมีวิธีปฏิบัติดังนี้
                 3.1  จับลูกบอลด้วยมือทั้งสอง  นิ้วกางออก  ยกขึ้นเหนือศีรษะ  หักข้อมือหงายขึ้น  งอศอกเล็กน้อย
                 3.2  ตวัดลูกบอลไปสู่ระดับอกของผู้รับด้วยการเหยียดแขน  ข้อศอกตึง  ส่งไปข้างหน้า
                 3.3  กดข้อมือพร้อมกับดีดส่งด้วยนิ้วมือ   เมื่อลูกบอลพ้นมือไปให้เหยียดแขนตาลูกบอลไปด้วย
                 3.4  อาจก้าวเท้าใดเท้าหนึ่งไปข้างหน้า  เพื่อเพิ่มแรงส่งก็ได้

4. การส่งแบบมือเดียวเหนือไหล่  (Base Ball Pass)
                เฉลี่ย พิมพ์พันธุ์ (2537 : 74)  กล่าวถึง  การส่งลูกแบบมือเดียวเหนือไหล่ว่าเหมาะสำหรับการส่ง
ระยะไกล   มีลักษณะเป็นการขว้างด้วยมือเดียว โดยมืออีกข้างหนึ่งคอยประคองลูกบอลจนอยู่ในตำแหน่งพร้อมที่จะ
ส่งลูกไปยังเป้าหมาย การส่งลูกแบบมือเดียวเหนือไหล่ด้วยมือขวา  มีวิธีปฏิบัติดังนี้
                 4.1.  เริ่มจากท่ายืนทรงตัว
                 4.2  ยกลูกบอลขึ้นเหนือไหล่ขวาเอนตัวไปด้านหลังพร้อมลูกบอลใช้มือซ้ายช่วยประคอง
                 4.3  มือขวาจับด้านหลังลูกบอล  หงายข้อมือขึ้นเล็กน้อย
                 4.4  ตามองที่หมาย  ก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้า  ปล่อยมือซ้าย  บิดข้อศอกและไหล่ขวากลับมาหาผู้รับ
ส่งลูกบอลด้วยมือขวา  เหยียดแขน  ตวัดข้อมือลง  และดีดส่งด้วยนิ้วมือ   เหยียดแขนตามลูกบอล
                หมายเหตุ   การส่งลูกแบบมือเดียวเหนือไหล่ด้วยมือซ้ายให้ปฏิบัติตรงข้ามกับมือขวา

5.  การส่งลูกแบบอื่นๆ
                  การส่งลูกแบบอื่นๆ   คือ  การส่งลูกบาสเกตบอลที่นอกเหนือจากวิธีการส่งทั้ง 4 แบบข้างต้น มักจะ
ใช้แก้ไขสถานการณ์ที่จำเป็นบางครั้งประกอบด้วย
               5.1  การส่งแบบตวัดด้านข้าง (Push  Pass) การส่งแบบนี้จะทำได้ทั้งแบบสองมือและแบบ
มือเดียว ใช้ในโอกาสที่ฝ่ายป้องกันอยู่ระหว่างผู้รับกับผู้ส่ง เป็นการส่งที่รวดเร็วผ่านผู้ป้องกันการส่งจะส่งแบบระดับอก
หรือกระดอนก็ได้  โดยตวัดผ่านด้านข้างลำตัวเหนือหรือต่ำกว่าแขนของผู้ป้องกันที่ไปกีดขวางทิศทางการส่ง   ซึ่งมี
วิธีปฏิบัติดังนี้
                     5.1.1  จับลูกบอลทั้งสองมือยกขึ้นในระดับเหนือเอว  เหยียดแขนออกจนสุดพร้อมกับบิดไหล่ไป
ในทิศทางที่จะส่ง
                     5.1.2  ก้าวเท้าด้านตรงข้ามกับทิศทางที่จะส่งย่อเข่าเล็กน้อย น้ำหนักตัวอยู่ระหว่างเท้าสองข้าง
                     5.1.3  ผลักลูกบอลไปยังผู้รับด้วยกำลังแขนและข้อมือทั้งสอง
                     5.1.4  ก่อนที่ลูกบอลจะพ้นจากมือ   ให้ยกข้อมือ  ส่งลูกบอลไปยังเป้าหมายเหยียดแขนตาม
ลูกบอล 

                5.2  การส่งแบบตวัดด้านหลัง (Back Push Pass) เป็นการส่งลูกแบบพลิกแพลงจะทำได้ดี

และแม่นยำนั้น  ต้องมีความชำนาญและคุ้นเคยกับการส่งแบบต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วเป็นอย่างดี บางครั้งต้องอาศัย
ความรวดเร็ว  ซึ่งผู้รับผู้ส่งจะต้องมีความเข้าใจซึ่งกันและกันมาก่อน  การส่งลูกแบบพลิกแพลงอาจมีการทักษะผสม
ต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วเข้าด้วยกัน  หรือเป็นการส่งที่ไม่มีแบบแผนก็ได้  การส่งลูกพลิกแพลงมีหลายแบบ  วิธีนี้ไม่ใช่
วิธีที่ดีเพราะมักจะขาดความแม่นยำ  แต่ต้องกระทำเพราะไม่มีวิธีอื่นเนื่องจากการป้องกันเหนียวแน่น ก่อนส่งจึงควร
หลอกล่อให้ผู้อื่นถลำตัวเสียก่อน  และยิ่งกว่านั้นผู้รับจะต้องเข้าใจกันด้วย การส่งลูกตวัดด้านหลังอาจส่งผ่านด้านหลัง
ระดับเอวหรือผ่านด้านหลังอ้อมศีรษะก็ได้ลูกบอล

                5.3  การส่งลูกแบบตวัดด้านบน (Hook  Pass)  ชัยนันท์ วงษ์มีพันธุ์ (2540 : 10)
การส่งแบบตวัดด้านบนหรือการส่งแบบลูกฮุค  จะใช้เมื่อผู้เล่นที่ครอบครองลูกบอลถูกประกบแบบประชิดตัวจนไม่
สามารถจับบอลเพื่อส่งแบบระดับอกได้  ผู้เล่นนั้นจะบิดไหล่และลำตัวเข้าหาคู่ต่อสู้  จับลูกบอลให้อยู่ที่มือด้านตรงข้าม
ชูลูกบอลขึ้นสูงเหนือศีรษะ  สายตามองผ่านไหล่ด้านตรงข้ามเพื่อการมองเห็น ยกเข่าด้านตรงข้ามขึ้นเล็กน้อย เพื่อ
การทรงตัว  ปล่อยลูกบอลด้วยการตวัดแขนและข้อมือ   บังคับลูกบอลไปตามทิศทางด้วยปลายนิ้ว

ข้อควรปฏิบัติในการส่งลูกบาสเกตบอล
     1.  อย่าส่งลูกบอลให้กับผู้ที่กำลังหันหลังให้หรือมีผู้ป้องกันอย่างเหนียวแน่น
     2.  อย่าให้คู่ต่อสู้รู้ว่าจะส่งลูกบอลไปทิศทางใด
     3.  การส่งลูกบอลอย่าส่งย้อนหลังผู้รับ  และอย่าส่งแรงเกินไป
     การส่งและการรับลูกบอลแบบต่างๆ นั้น  เราจะเห็นว่ามีมากมายหลายแบบด้วยกัน ดังนั้นการฝึกฝนจำเป็นต้อง
ฝึกทุกรูปแบบ  ถึงแม้ว่าการรับและส่งบางแบบอาจจะใช้ได้น้อยครั้งตามสถานการณ์ แต่การใช้ที่ได้ผลน้อยครั้งนั้นอาจ
เป็นการนำผลสำเร็จมาสู่ทีมก็ได้  ทักษะการรับและส่งลูกบอลจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจของทุกคน  เพราะ
การฝึกการรับและการส่งลูกบอลจะฝึกลำพังคนเดียวไม่ได้  เพราะทำให้ขาดความสนุกสนานและน่าเบื่อ ดังนั้นการฝึก
การรับและการส่งลูกบาสเกตบอลจึงจำเป็นต้องอาศัยการร่วมมือจากทุกคน  ซึ่งเป็นพื้นฐานสร้างความสัมพันธ์ของ
การเล่นเป็นทีมได้เป็นอย่างดี

                5.4  การส่งแบบมือเดียวด้านข้าง (One Hand Side Arm Pass)  ให้ถือลูกบอลสองมือ
ด้านข้าง  ถือลูกบอลอยู่เหนือไหล่ข้างใดข้างหนึ่ง   ขณะส่งให้ก้าวเท้าเฉียงไปทางด้านที่ถือลูกบอล  โดยวิธีการก้าว
เท้า 2 วิธี   คือ  วิธีแรกใช้เท้าข้างเดียวกับมือที่ถือลูกเหนือไหล่ก้าวเฉียงออกไป  และอีกวิธีหนึ่งคือ  ใช้เท้าที่อยู่
ตรงกันข้ามกับมือที่ถือลูกบอลเหนือไหล่  ก้าวเท้าเฉียงไขว้ไปทางด้านที่ถือลูกบอล  การส่งแบบนี้ใช้ขณะที่ผู้ส่งมีคู่
ต่อสู้ยืนป้องกันอยู่ข้างหน้า  หรือหลบหลีกมือของคู่ต่อสู้ขณะที่ป้องกันการส่งลูกบอล

                5.5   การส่งแบบมือเดียวด้านล่าง (One Hand Underhand Pass) 
         เสกสรร  ห้วยอำพัน, ศิริวรรณ สังขพันธุ์, และยุทธนา วงศ์วิรัติ (2532: 35) ได้บอกวิธีปฏิบัติว่าถ้าต้องการ
ส่งด้วยมือขวา  ให้ใช้มือขวาจับลูกบอลด้านหลังลูก  มือซ้ายประคองลูกบอลอยู่ข้างหน้าแล้วดึงลูกบอลไปข้างหลังทาง
ขวาชิดลำตัว   เวลาส่งให้ก้าวเท้าซ้ายไปข้างหน้าพร้อมกับใช้มือขวาผลักลูกบอลไปในลักษณะหงายมือ  ในขณะที่
ลูกบอลหลุดออกจากมือ  ให้ตวัดนิ้วมือขึ้นเหยียดแขนไปตามทิศทางลูกบอลเป้าหมายอยู่ที่ระดับอกของผู้รับ  และขณะที่ลูกบอลถูกส่งลอยไปในอากาศ  ลูกบอลต้องหมุนตามเข็มนาฬิกา