ยาง ไฟ ร์ ส โตน กับ แม็ ก ซิ ส

เอาจริงๆ ที่คิดทำคอนเท้นต์นี้ขึ้นมาเพราะรู้สึกกังวัลเรื่องความปลอดภัยของคนใช้รถใช้ถนนในช่วงเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง เนื่องจากมีคนมาปรึกษาเรื่องยางรถของเขาว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้ว แต่ช่วงนี้การเงินไม่อำนวย จะไปซื้อยางเปอร์เซ็นต์มาใส่เลือกยังไงดี?? ผมก็เลยบอกไปว่า ถ้าจำเป็นต้องเลือกใช้จริงๆ ก็ให้ดูปีที่ผลิต ความนิ่มของเนื้อยาง และดอกยางว่ายังลึกอยู่ไหม แต่ถ้ายังพอมีกำลังกลั้นใจจ่ายแพงขึ้นได้อีกนิด ลองมาเลือกดูยางใหม่ที่ราคาไม่แพงดูไหม?? ปลอดภัยกว่า ... ซึ่งนี่ก็คือต้นเหตุที่ทำให้ผมคิดทำคอนเท้นต์นี้ขึ้นมา และผมก็ได้รวบรวมยางแบรนด์ประหยัด ที่ราคาไม่แพง แถมให้ความปลอดภัยมาให้ ... ซึ่งเชื่อเถอะบางแบรนด์คุณอาจจะเซอร์ไพร์สกับราคาแบบคาดไม่ถึงก็ได้!!!

CONTINENTAL

เริ่มต้นก็เซอร์ไพร์สกันเลยกับยางคุณภาพสัญชาติเยอรมัน ที่แต่ก่อนนำเข้าโดยตรงจากยุโรปทำให้มีราคาค่อนข้างสูง แต่ตอนนี้มีโรงงานผลิตอยู่ที่เมืองไทยและมาเลเซีย ทำให้สามารถทำราคาได้ต่ำลง อย่างรุ่น Comfort Contact CC6 ขนาด 185/60 R15 ทำราคาอยู่เส้นละ 2 พันกว่าบาท หรือจะเป็นรุ่น Ultra Contact UC6 ไซส์ใหญ่ขึ้นมาหน่อยอย่าง 215/55 R17 ก็ตกอยู่เส้นละ 3 พันบาทนิดๆ โดยยางแบรนด์นี้ถือเป็นยางเกรดดี ที่เน้นเรื่องความนุ่มเงียบเป็นสำคัญ

PIRELLI

เซอร์ไพร์สกันต่อกับยางชั้นนำจากเมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ที่ตอนนี้มีโรงงานกว่า 21 แห่งทั่วโลก ซึ่งไม่น่าเชื่อใช่ไหมล่ะครับ ว่าแบรนด์นี้จะติดอยู่ในลิสต์ยางแบรนด์ประหยัด เพราะยางพีแรลลี่ จัดเป็นยางมาตรฐานติดรถยนต์ยี่ห้อชั้นนำ อาทิ Lamborghini, Mercedes-Benz, Volvo รวมไปถึง Audi นอกจากนี้ยังถูกเลือกให้เป็นยางสำหรับรถแข่งฟอร์มูล่า1 แต่ปัจจุบันที่นำเข้ามาขายในไทย บางรุ่นนำเข้ามาจากโรงงานที่ประเทศจีน อย่างรุ่น Cinturato P-1 ขนาด 215/55 R17 ราคาก็ตกอยู่ประมาณเส้นละ 3 พันกว่าบาทนิดๆ ซึ่งก็ใกล้เคียงกับตัว Ultra Contact UC6 ของ Continental

DUNLOP

อีกแบรนด์ที่ทำราคาได้เซอร์ไพร์สกับยางแบรนด์ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศไอร์แลนด์ สำหรับยางดันลอปที่ถือเป็นแบรนด์ระดับท็อปๆ ในตลาด แต่ปัจจุบันไม่ได้ทำตลาดในราคาที่สูงมากนัก อย่างรุ่น SP Sport LM704 ขนาด 195/50 R15 ราคาก็ขายกันอยู่เส้นละไม่ถึง 2 พันบาทเท่านั้นเอง

NEXEN

สลับมายางทางแถบทวีปเอเชียกันบ้าง กับยางคุณภาพระดับกลาง จากประเทศเกาหลี สำหรับ Nexen Tyre ได้ผลิตที่โรงงานในเกาหลีใต้ โดยมีรุ่นประหยัดที่น่าสนใจ อย่างรุ่น SU4 ขนาด 215/55 R17 ราคาก็อยู่เส้นละประมาณ 2 พันบาทนิดๆ หรือขนาดยอดนิยมอย่าง 185/60 R15 ราคาเส้นละพันกว่าบาทกลางๆ เท่านั้นเอง

KINTO

เอาใจสายกระบะกันบาง สำหรับยางจีนที่ใช้เทคโนโลยีจากญี่ปุ่น และกำลังมาแรงในกลุ่มรถกระบะเมืองไทย ด้วยลายดอกยางที่สวย ทำให้ถูกใจเหล่านักซิ่งสายกระบะเมืองไทยอย่างมาก โดยเฉพาะรุ่น SC-900 ซึ่งหากดูที่ขนาด 215/55 R17 ราคานี่เห็นแล้วตกใจเลย ตกเส้นละไม่ถึง 2 พันบาทเท่านั้นเอง

HANKOOK

ยางคุณภาพจากประเทศเกาหลีอีกแบรนด์หนึ่ง ที่ในประเทศไทยมี บริษัท ฮันกุกไทร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย แม้ปัจจุบันจะมีไปผลิตที่ประเทศอินโดนีเซียบ้างในบางรุ่น แต่ก็ยังการันตีคุณภาพการผลิตจากเกาหลี อย่างรุ่น Ventus V2 ขนาด 195/55 R15 ราคาอยู่เส้นละไม่ถึง 2 พันบาทเท่านั้น

FIRESTONE

ยางแบรนด์ลูกของ Bridgestone ที่ผลิตในโรงงานเดียวกัน แต่วางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ไว้ต่ำกว่า เน้นขายรถกลุ่มตลาดใหญ่ ในราคาที่คุ้มค่า เราเอารุ่นสปอร์ตอย่าง FIREHAWK Sport T-01 ขนาด 195/55 R15 ราคาอยู่เส้นละไม่ถึง 2 พันบาท

DAYTON

ยางรถยนต์แบรนด์ลูกอีกหนึ่งแบรนด์ของ Bridgestone ที่นำเสนอออกมาเพื่อตอบโจทย์สภาพเศรษฐกิจ ให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายกว่า ทั้งแบรนด์ Bridgestone และ Firestone แต่ยังให้ความปลอดภัย ที่คุ้มค่าคุ้มราคา โดย Dayton เดิมทีเดียวเป็นบริษัทยางที่มีถิ่นกำเนิดในสหรัฐอเมริกา ต่อมาได้มีการควบรวมบริษัทกับ Bridgestone สำหรับยาง Dayton ที่ขายในไทย ปัจจุบันผลิตในโรงงาน Bridgestone Thailand ใช้น้ำยางไทย ใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยี อันล้ำสมัยมาตรฐานเดียวกับ Bridgestone ส่วนราคานั้นก็อย่างรุ่น DT30 ขนาด 195/65R15 ราคาต่อเส้นสตาร์ทเริ่มต้นเพียงพันกว่าบาท

ALLIANCE

ยางแบรนด์ลูกของ Yokohama มาตรฐานญี่ปุ่น ที่ทำมาเป็น Flighting Brand ในราคาประหยัด มีคุณสมบัติเด่นเรื่องการประหยัดน้ำมันได้มากขึ้น และความทนทาน ให้ช่วยยืดอายุการใช้งานของยางไปได้มากขึ้น อย่างรุ่น AL30 ขนาด 215/45 R17 ราคาต่อเส้นอยู่เกิน 2 พันบาทไปนิดเดียว

KUMHO

ยางสัญชาติเกาหลี และเป็นที่ยอมรับในวงการมอเตอร์สปอร์ต โดยเป็นยางคุณภาพที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นยางติดรถใหม่ของเกาหลีเกือบทุกยี่ห้อ โดยยางคัมโฮ อย่างรุ่น ECSTA PS31 ขนาด 215/45R17 ราคาขายเส้นละไม่ถึง 2 พันบาท

NANKANG

ยางจากประเทศไต้หวัน ผลิตที่ไต้หวัน โดยการนำเข้ามาจำหน่ายของ บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเจ้าเดียวกับยาง Toyo และ Nitto โดยราคายาง Nankang อย่างรุ่น NS20 ขนาด 195/55 R15 ราคาตกเส้นละพันกว่าบาทกลางๆ เท่านั้น

MAXXIS

แบรนด์ยางจากประเทศไต้หวัน ที่อยู่อันดับต้นๆ ของโลก ด้วยการผลิตที่รองรับถึง 180 ประเทศ โดย MAXXIS เป็นยางที่โดดเด่นในตลาดประเทศไทยด้วยคุณสมบัติที่ทนทาน และคุ้มค่ากับราคา อย่างรุ่น ME-3 ขนาด 185/65 R15 ตกเส้นละเพียงพันกว่าบาทกลางๆ

APOLLO

ปิดท้ายด้วยยางอันดับ 1 ของประเทศอินเดีย ที่ปัจจุบันมีการผลิตทั้งจากประเทศอินเดีย และประเทศไทย โดยจุดเด่นของยาง Apollo คือมีดอกยางที่สวยงาม แต่ราคาประหยัด อย่างรุ่น Aspire4G ขนาด 215/45R17 ราคาขายต่อเส้นอยู่ประมาณ 2 พันบาทเท่านั้นเอง

สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณข้อมูลจากศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร MMS CAR SERVICE ซึ่งที่นี่นอกจากจะมียางราคาโปรโมชั่นแล้ว ยังสามารถผ่อน 0% ได้สูงสุดถึง 10 เดือน รวมถึงมีรับประกันคุณภาพยาง หากใครสนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร.1396 ครับ