วิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการ (การทำในใจให้แยบคาย) Show 1.วิธีคิดแบบสืบสาวเหตุปัจจัย (สืบสวน)
7. วิธีคิดแบบรู้คุณค่าแท้ - คุณค่าเทียม (แท้ - เทียม) ตัวอย่างเช่น การคิดถึงความตายแล้วคิดไม่ถูกวิธี
ก็จะเกิดอกุศลธรรมขึ้นเกิดสลดหดหู่ เศร้า วิภัชช แปลว่า แยกแยะ แบ่งออก จำแนก หรือแจกแจง หรือวิเคราะห์ วาทแปลว่า การกล่าว การพูด การแสดงคำสอน ดังนั้น วิภัชชวาท จึงแปลว่า การพูดแยกแยะ พูดจำแนก หรือพูดแจกแจง หรือแสดงคำสอนแบบวิเคราะห์ 1) จำแนกโดยแง่ด้านของความจริง มี 2 อย่างดังนี้ 1.1 จำแนกตามแง่ด้านต่าง ๆ ตามที่เป็นจริงของสิ่งนั้น คือมองความจริงให้ตรงตามที่เป็น 2) จำแนกโดยส่วนประกอบ 3) จำแนกโดยลำดับขณะ 4) จำแนกโดยความสัมพันธ์แห่งเหตุปัจจัย
1. การนำเอาเรื่องราวอื่นๆ นอกกรณีมาปะปน สับสนกับเหตุปัจจัยเฉพาะกรณี เช่นคนทำดี วิธีคิดแบบสามัญลักษณะตามหลักโยนิโสมนสิการตรงกับความหมายในข้อใด3. วิธีแบบสามัญลักษณะ คือ คิดแบบไตรลักษณ์ (อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา) คือคิดแบบรู้เท่าทันธรรมดา ชีวิตของคนเราก็เป็นเช่นนี้เอง เป็นอนิจจัง ไม่เที่ยงแท้ เป็นทุกขัง มีแต่ความทุกข์ เป็นอนัตตา ไม่มีตัวตนที่แน่นอน
ข้อใดเกี่ยวข้องกับวิธีคิดแบบโยนิโสมนสิการโยนิโสมนสิการ คือ วิธีคิดแบบคุณค่าแท้-คุณค่าเทียม และวิธีคิดแบบคุณ-โทษ และทางออกหรือการพัฒนาจิตตามแนวทางของศาสนาที่ตนนับถือ สาระสำคัญ โยนิโสมนสิการ เป็นวิธีคิดตามหลักพระพุทธศาสนาที่สอนให้คิดพิจารณาอย่างถ่องแท้ แยบคาย และรอบคอบก่อนการตัดสินใจกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งด้วยความมีสติ
การคิดแบบอรรถธรรมสัมพันธ์มีความหมายตรงกับข้อใดวิธีคิดแบบอรรถธรรมสัมพันธ์ คือ การคิดที่เป็นเหตุเป็นผลกันของหลักการและผลของการกระทำนั้นๆ ว่า การกระทำดังกล่าว ทำเพื่อใครหรืออะไร แล้วผลที่ตามมาของการกระทำนั้นคืออะไร เป็นประโยชน์หรือเป็นโทษอย่างไร
วิธีคิดแบบแยกแยะองค์ประกอบ แยกอะไร แยกแบบไหนวิธีคิดแบบแยกแยะองค์ประกอบ เป็นวิธีคิดที่กระจายเนื้อหาที่มุ่งเพื่อเข้าใจสิ่งต่างๆ ตามสภาวะ ของมัน ตามธรรมดา สิ่งทั้งหลายก็ดี ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ก็ดีเรื่องราวต่าง ๆ ที่อุบัติขึ้นก็ดี เกิดจาก ส่วนประกอบย่อยๆมารวมกันเข้า เมื่อแยกแยะกระจายออกไปให้เห็นองค์ประกอบย่อยๆ ต่าง ๆ ได้แล้ว จึงจะ รู้จักสิ่งนั้น เรื่องราวนั้น ๆได้ถูก ...
|