การ นํา เทคโนโลยีมาใช้ในการตลาด

หนว่ ยท่ี 9 การนาเทคโนโลยมี าประยุกต์ ใชใ้ นงานด้านการตลาด

เทคโนโลยที างการตลาด (Technology Marketing) เทคโนโลยี (Technology) หมายถึง การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์ มาใช้ใหเ้ กิดประโยชน์ สารสนเทศ (Information) หมายถึง ข้อมูลข่าวสาร ความรู้ต่าง ๆ ท่ีได้รับการ สรุป จนเปน็ ความรู้เพือ่ นามาเผยแพรแ่ ละใชป้ ระโยชน์ในงานดา้ นตา่ ง ๆ

เทคโนโลยีทางการตลาด (Technology Marketing) เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology : IT) หรอื เทคโนโลยีสารสนเทศ และการส่ือสาร (Information and Communication Technologies : ICT) คือ เทคโนโลยีระบบคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสอ่ื สารโทรคมนาคมท่ีผนวกเขา้ ด้วยกัน เพื่อใช้ในกระบวนการจดั หา จดั เก็บ สร้าง และเผยแพร่สารสนเทศ เพือ่ เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพ ความถกู ต้อง ความแมน่ ยา และความรวดเรว็ ใหท้ ันต่อการนาไปใช้ประโยชน์

ประเภทของเทคโนโลยที างการตลาด แบ่งเปน็ 6 ประเภท 1. โปรแกรมสาเร็จรปู ดา้ นการตลาด คือ ซอฟตแ์ วร์เชงิ พาณชิ ยท์ ่ีพัฒนาขึ้นใช้กบั งานดา้ นการตลาด มี 3 ชนดิ 1.1 โปรแกรมสาเรจ็ รปู ดา้ นการขาย อาศัยการทางานร่วมกนั ของฮารด์ แวร์และ ซอฟต์แวร์ ระบบการขายและระบบการชาระเงนิ

ประเภทของเทคโนโลยที างการตลาด 1.2 โปรแกรมจดั การลูกค้าสมั พนั ธ์ ใช้เก็บขอ้ มูลเกยี่ วกบั ลกู ค้า เพ่อื สรา้ ง ความสมั พันธ์กบั ลูกคา้ ในระยะยาว มวี ตั ถุประสงคเ์ พือ่ เพ่ิมรายได้และสรา้ ง ความเช่อื มั่นแก่ลกู ค้า

ประเภทของเทคโนโลยีทางการตลาด 1.3 โปรแกรมบริหารการขนส่ง จะต้องมีการจดั การโลจสิ ตกิ สด์ ้านขาออก โดยเลอื กเส้นทางจดั สง่ สนิ ค้าถงึ มือลูกคา้ เรว็ ทส่ี ุด และประหยัดต้นทุนมากทส่ี ุด

ประเภทของเทคโนโลยที างการตลาด 2. นวตั กรรมร้านค้าปลีก ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศชว่ ยอานวยความสะดวกดา้ น การเลอื กซื้อสินค้า ไดแ้ ก่ 2.1 จดั หาเครื่องกราดตรวจรหสั แทง่ แบบมอื ถอื ไร้สายไวใ้ นรา้ น

ประเภทของเทคโนโลยที างการตลาด 2.2 ร้านค้าแบบคอิ อส มคี อมพิวเตอร์แบบมอื ถอื สาหรบั ลูกค้าค้นหาขอ้ มลู สนิ คา้ ภายในรา้ น

ประเภทของเทคโนโลยีทางการตลาด 2.3 ติดต้งั ระบบวีดิทศั น์ภายในร้านคา้ โดยเนน้ การเกบ็ ข้อมลู พฤตกิ รรมการซ้อื ของลกู คา้

ประเภทของเทคโนโลยที างการตลาด 2.4 ร้านค้าท่ีมรี ะบบการรับชาระเงินโดยใช้เชค็ ตดิ ตัง้ ระบบบันทึกการรบั เชค็ เมื่อลูกคา้ ซือ้ สนิ ค้าแล้วก็ยื่นแบบฟอรม์ เปล่า ขอเชค็ ใหพ้ นักงานรับเงนิ เพอื่ จบั ค่กู ับขอ้ มูล การซอ้ื ของลูกค้าในเครอ่ื งบนั ทึกรับเงินสดอตั โนมตั ิ ระบบจะพมิ พ์ชื่อผถู้ ูกสง่ั จ่าย พรอ้ ม ทงั้ จานวนเงินจา่ ยค่าสินคา้ ลงบนเชค็ และส่งใหล้ กู ค้าลงนามในตั๋วเงนิ จา่ ย ระบบจะ ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง และหกั บญั ชีธนาคารลูกค้าทนั ที ก่อนลูกคา้ ออกจากร้าน

ประเภทของเทคโนโลยีทางการตลาด 2.5 รา้ นค้าปลกี อาจตดิ ต้งั เครอ่ื งรบั ชาระค่าสินคา้ อตั โนมัตภิ ายในรา้ นคา้ ใหล้ กู คา้ ชาระค่าซือ้ สินคา้ ดว้ ยตนเอง

ประเภทของเทคโนโลยที างการตลาด 3. หน่วยขายอัตโนมัติ (Sale Force Automation) โดยใชเ้ ครื่องมือเคลอ่ื นทท่ี ี่ สามารถใชเ้ ขา้ ถึงขอ้ มลู ในฐานข้อมูลบริษทั ได้ ชว่ ยเพม่ิ ประสิทธิภาพในด้านการปดิ การขาย

ประเภทของเทคโนโลยที างการตลาด 4. การใชง้ านอินทราเน็ต โดยนาเทคโนโลยอี นิ เตอร์เน็ตมาประยกุ ต์ ใชภ้ ายใน องค์การ สาหรับหน้าทงี่ านด้านการบรหิ ารการขายและการตลาด

ประเภทของเทคโนโลยที างการตลาด 5. การใช้งานอินเตอร์เน็ต สาหรับการโฆษณา ลูกค้าสามารถส่ังซื้อสินค้าบนเว็บ ใช้ได้ทุกสถานที่ และใช้สาหรับสร้างโอกาสทางธุรกิจด้านการขายผลิตภัณฑ์ในทุกพื้นท่ี ทั่วโลก

ประเภทของเทคโนโลยที างการตลาด 6. การทาเหมืองขอ้ มลู ทางการตลาด ระบบสารสนเทศทีด่ อี าจช่วยตอบคาถามได้ เพยี งบางคาถามเท่านน้ั เนื่องจากมีการจดั เกบ็ ข้อมลู ในอดีตที่เกย่ี วขอ้ งกับการขายและ ลูกค้า

สารสนเทศทางการตลาด (Marketing Information) หมายถึง ระบบที่ประกอบด้วย คน เครื่องมือ อุปกรณ์และกระบวนการเก็บรวบรวม ตลอดจนการแจกจ่ายสารสนเทศท่ีถกู ตอ้ ง แมน่ ยา ทันเวลา และตรงตามทต่ี อ้ งการ

ระบบสารสนเทศทางการตลาด (Business Information System) 1. การปฏิบัตงิ าน (Operations) 2. การวจิ ัยตลาด (Market Research) 3. คแู่ ข่ง (Competitor) 4. กลยุทธ์ขององค์การ (Corporate strategy) 5. ขอ้ มลู ภายนอก ( External Data)

ข้อแตกตา่ งของสารสนเทศของธรุ กิจแตล่ ะประเภท 1. ระบบสารสนเทศการขาย แบง่ เปน็ ระบบยอ่ ย 3 ระบบ 1.1 ระบบสารสนเทศสาหรบั สนับสนุนการขาย 1.2 ระบบสารสนเทศสาหรับวิเคราะหก์ ารขาย 1.3 ระบบสารสนเทศการวเิ คราะห์ลูกคา้

ขอ้ แตกตา่ งของสารสนเทศของธรุ กิจแต่ละประเภท 2. ระบบสารสนเทศการวจิ ยั ตลาด แบง่ เป็นระบบยอ่ ย 2 ระบบ 2.1 ระบบสารสนเทศสาหรับการวิจยั ลกู คา้ 2.2 ระบบสารสนเทศการวิจัยตลาด

ขอ้ แตกต่างของสารสนเทศของธรุ กจิ แต่ละประเภท 3. ระบบสารสนเทศการส่งเสริมการขาย 4. ระบบสารสนเทศการพฒั นาผลติ ภัณฑ์ และบรกิ าร 5. ระบบสารสนเทศพยากรณก์ ารขาย 6. ระบบสารสนเทศการวางแผนกาไร 7. ระบบสารสนเทศการกาหนดราคา 8. ระบบสารสนเทศการควบคมุ คา่ ใช้จา่ ย

อินเทอรเ์ นต็ (Internet) บริการอนิ เทอรเ์ นต็ ท่เี ก่ียวกับขอ้ งกับการตลาด ได้แก่ 1. Telnet หรือ SSH คือ เครื่องมือพ้ืนฐานทใ่ี ช้ติดต่อเครื่องบริการ เพ่ือเข้าควบคุม การทางานของเครอ่ื ง 2. อีเมล (E-mail หรือ Electronic Mail) คือบริการให้ผู้ใช้สามารถรับ-ส่งอีเมลใน อินเทอร์เนต็ เพือ่ สื่อสาร 3. USENET News หรือ News Group สามารถส่งคาถามเข้าไปตอบคาถาม แสดง ความคิดเห็น

อนิ เทอรเ์ น็ต (Internet) 4. FTP (File Transfer Protocal) บริการโอนยา้ ยข้อมูล 5. WWW (World Wide Web) เปิดดขู ้อมลู จากเวบ็ ไซตห์ รือโฮมเพจ 6. Skype, Net2Phone, Cattelecom.com บรกิ ารโทรศพั ทจ์ ากคอมพิวเตอร์ไป ยังเคร่ืองรบั โทรศัพท์ที่บา้ น 7. IRC (Internet Relay Chat) เม่ือเปิดเคร่ือง โปรแกรมจะแสดงสถานะของคู่ สนทนาใน List ทนั ทีวา่ มาแล้วและพร้อมจะสนทนาด้วยหรือไม่

อินเทอรเ์ นต็ (Internet) 8. Software Updating สามารถ Download ขอ้ มูลไปปรบั ปรุง เพือ่ ตอ่ สู้ไวรสั ตวั ใหม่ 9. Palm หรือ Pocket PC ทาหน้าท่ีส่ง Mail ให้อัตโนมัติ เข้าไปใน Palm ทาให้ สามารถอา่ น Mail ได้ 10. WAP (Wireless Application Protocal) ทาให้โทรศัพท์สามารถเปดิ เว็บเพจ ปัจจบุ นั เขา้ เว็บไซตโ์ ดยตรงผา่ นบริการ GPRS

พาณิชยอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ (E-Commerce) 1. ธุรกิจกบั ธรุ กจิ (Business to Business : B2B) หมายถงึ ธรุ กจิ ที่มุ่งเน้นการ ใหบ้ ริการแก่ผู้ประกอบการด้วยกัน

พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) 2. ธุรกจิ กับผู้บริโภค (Business to Consumer : B2C) หมายถงึ ธุรกจิ ที่มุ่งเน้นการ ใหบ้ ริการกับลกู ค้าหรือผู้บรโิ ภค

พาณิชยอ์ เิ ล็กทรอนิกส์ (E-Commerce) 3. ธุรกิจกบั รัฐบาล (Business to Government : B2G) หมายถึง ธรุ กิจการ บรหิ ารการค้าของประเทศ เพื่อเนน้ การบริหารการจดั การที่ดีของรฐั บาล

พาณิชยอ์ เิ ล็กทรอนกิ ส์ (E-Commerce) 4. ผู้บริโภคกับผู้บริโภค (Consumer to Consumer : C2C) หมายถงึ ธุรกิจ ระหว่างผบู้ ริโภคกับผู้บรโิ ภค ซง่ึ เปน็ การค้ารายยอ่ ย

อุปสรรคที่มผี ลกระทบต่อการตลาดออนไลน์ 1. ใชส้ อ่ื ออนไลนช์ นิดเดียวส่ือสารกบั กลมุ่ เป้าหมาย 2. ไมม่ ีนโยบายชัดเจนในการสร้างเวบ็ ไซตเ์ พ่อื ใชง้ านของกจิ การ 3. ขาดความรู้ ความชานาญ และประสบการณ์ 4. กลยุทธ์ทางการตลาดมีความลา้ สมยั 5. ให้ความสาคญั กับเทคโนโลยมี ากกวา่ ความสาคญั ทางการตลาด 6. ใหก้ ารตลาดแบบเหวี่ยงแห แทนการตลาดเฉพาะกลุม่ 7. มีข้อมลู มากเกินไป

รูปแบบธุรกิจในตลาดอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (E-Marketing Business Model) 1. ออนไลนแ์ ค็ตตาลอ็ ก (Online Catalogue)

รูปแบบธรุ กจิ ในตลาดอิเลก็ ทรอนิกส์ (E-Marketing Business Model) 2. ร้านค้าปลกี ออนไลน์ (E-Tailing)

รูปแบบธรุ กจิ ในตลาดอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (E-Marketing Business Model) 3. การประมูลออนไลน์ (Auction Online)

รปู แบบธุรกิจในตลาดอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (E-Marketing Business Model) 4. กระท้สู นทนา (Web Board)

รูปแบบธุรกิจในตลาดอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (E-Marketing Business Model) 5. ตลาดกลางซื้อขายแลกเปล่ยี น (E-Marketplace)

รูปแบบธุรกจิ ในตลาดอเิ ล็กทรอนิกส์ (E-Marketing Business Model) 6. ผ้ใู หบ้ ริการจดั ซื้อ จัดหาสนิ คา้ หรอื บริการ (B2B Supply Chain)

รปู แบบธรุ กจิ ในตลาดอิเลก็ ทรอนิกส์ (E-Marketing Business Model) 7. ผใู้ ห้บริการขนสง่ (Logistics Service)

การบริหารลูกค้าสัมพันธ์ การจัดการลูกค้าสมั พันธ์ (Customer Relationship Management หรือ CRM) คอื การสรา้ งความสมั พันธ์กบั ลกู ค้า โดยการใชเ้ ทคโนโลยีและการใชบ้ ุคลากรอยา่ งมี หลกั การที่จะสร้างความพอใจให้แกล่ ูกคา้

ประโยชน์ของการบริหารลกู คา้ สัมพนั ธ์ 1. มีรายละเอยี ดข้อมูลของลกู คา้ ในด้านต่าง ๆ 2. วางแผนทางดา้ นการตลาดและการขายอย่างเหมาะสม 3. ใช้กลยทุ ธใ์ นการตลาดและการขายไดอ้ ย่างรวดเรว็ 4. เพมิ่ และรักษาส่วนแบง่ ตลาดของธรุ กจิ 5. ลดการทางานที่ซบั ซอ้ น

กลยุทธ์การสรา้ งความสัมพนั ธล์ กู คา้ ออนไลน์ (e-CRM) ระบบการบรหิ ารลูกคา้ สมั พันธท์ ีส่ าคัญ คอื การดแู ลลูกค้า (Customer Care Service) 1. เลอื กกลยทุ ธเ์ พ่อื สรา้ งการติดตอ่ ครั้งแรกใหเ้ ว็บไซต์ 2. เลอื กกลยุทธเ์ พือ่ ที่จะทาให้ผ้เู ขา้ ชมกลับมาทีเ่ ว็บไซต์อีกครง้ั