จอมอนิเตอร์ (Monitor) คืออะไร?Monitor หรือที่เรียกอีกอย่างว่า VDU ที่ย่อมาจาก Visual Display Unit เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ซึ่งทำหน้าที่แสดงผลลัพธ์ที่ได้จากการประมวลผลของคอมพิวเตอร์ โดยรับข้อมูลแล้วแปลงออกมาเป็นสัญญาณภาพ ไม่ว่าจะเป็นภาพ
ตัวอักษร ตัวเลข สัญลักษณ์ รวมไปถึงสีสันต่าง ๆ ด้วย ซึ่งผลลัพธ์ที่ถูกแสดงออกมานั้นจะเปลี่ยนแปลงไปตามข้อมูลที่คอมพิวเตอร์ได้รับนั่นเอง Show ประเภทของจอมอนิเตอร์ (Monitor) จอมอนิเตอร์สามารถจำแนกประเภทได้จากแผง Panel (แผงหน้าปัด) ของจอ Monitor โดยแผง Panel ที่ปัจจุบันนิยมใช้มีด้วยกัน 3 ประเภท ได้แก่แบบ TN, แบบ VA และแบบ IPS ดังนี้ 1. จอมอนิเตอร์ แบบ TN (Twisted Nematic) จอมอนิเตอร์แบบ TN เป็นจอคอมพิวเตอร์ที่มีจุดเด่นสำคัญคือเวลาตอบสนองที่รวดเร็ว สามารถทำอัตรารีเฟรชถึง 240 Hz และที่สำคัญคือ ราคาหน้าจอมอนิเตอร์ประเภทนี้ถูกกว่าประเภทอื่น ทำให้จอแบบ TN
เป็นหนึ่งในตัวเลือกของเกมเมอร์หลายคนที่ให้ความสำคัญกับความเร็วของภาพ 2. จอมอนิเตอร์ แบบ VA ( Vertical Alignment) จอมอนิเตอร์แบบ VA เป็นจอคอมพิวเตอร์ที่มีจุดเด่นคือค่า Contrast Ratio หรืออัตราส่วนความแตกต่างของสีขาวกับสีดำ ยิ่งมีค่ามาก ความคมชัดก็จะมากขึ้นตาม โดยจอภาพแบบ TN และ IPS มีค่า Contrast Ratio อยู่ที่ 1000 : 1 แต่ หน้าจอแบบ VA มีค่า Contrast Ratio ถึง 2000 : 1 หรือถ้าเป็นรุ่นที่สเปคสูงขึ้นก็อาจมีค่านี้สูงไปถึง 4500 : 1 หรือ 6000 : 1 เลยทีเดียว 3. จอมอนิเตอร์ แบบ IPS (In-Plane Switching) จอมอนิเตอร์แบบ IPS เป็นจอคอมพิวเตอร์ที่มีจุดเด่นในด้านของภาพและสี เพราะให้มุมมองกว้างที่สุด และสีเพี้ยนน้อยจนแทบไม่เพี้ยนเลย ซึ่งเหมาะอย่างมากกับการใช้งานเกี่ยวกับภาพและสีที่ต้องการรายละเอียดและความแม่นยำสูง เช่น การทำกราฟิก วิธีวัดประสิทธิภาพของหน้าจอมอนิเตอร์ (Monitor) การวัดประสิทธิภาพของจอภาพคอมพิวเตอร์ สามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีนั้นก็จะมีการวัดที่แตกต่างกันไป ดังนี้ 1. ความสว่างของหน้าจอ วิธีแรกคือการวัดความสว่างของหน้าจอ โดยค่ามาตรฐานมักจะอยู่ที่ประมาณ 120 – 500 cd/m2 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานและแสงสว่างจากภายนอก และความสว่างก็ไม่ควรจะน้อยหรือมากเกินไปด้วย 2. ขนาดของจอภาพ ขนาดของจอภาพก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ เพราะขนาดของหน้าจอคอมพิวเตอร์จะสัมพันธ์กันกับลักษณะการใช้งาน หากจอภาพมีขนาดที่ไม่เหมาะกับการใช้งานแล้ว ก็อาจทำให้ประสิทธิภาพในการใช้งานของคอมพิวเตอร์ลดน้อยลงไปด้วย 3. อัตราส่วนของจอภาพ จอมอนิเตอร์ในปัจจุบันจะมีอัตราส่วนของจอภาพหลัก ๆ 3 อัตราส่วน ได้แก่ 4 : 3 ซึ่งจะเป็นหน้าจอคอมพิวเตอร์แบบทั่วไป ส่วน 16 : 9 และ 16 : 10 จะเป็นหน้าจอแบบกว้างหรือที่เรียกว่า Wide Screen ซึ่งหน้าจอในลักษณะนี้เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความกว้างของหน้าจอ เช่น การดูหนัง การทำกราฟิก หรือการตัดต่อวีดิโอ เป็นต้น 4. ความละเอียดของจอภาพ ความละเอียดของจอภาพเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยวัดประสิทธิภาพหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยวัดจากจำนวนพิกเซลตามความกว้างและความสูงที่สามารถแสดงผลได้ ได้แก่ Full HD คือความละเอียดของจอภาพ 1920 x 1080 (1080p), 2K (QUD) คือความละเอียดของจอภาพ 2560 x 1440 (1440p) และ 4K (UHD) คือความละเอียดของจอภาพ 4096 x 2160 และ 3840 x 2160 5. ระดับพิกเซล ความคมชัดของจอคอมพิวเตอร์สามารถวัดได้ด้วยระยะห่างของพิกเซลสีเดียวกัน (ในหน่วยมิลลิเมตร) หรือเรียกว่าระดับพิกเซล ซึ่งระดับพิกเซลจะแปรผกผันกับความคมชัด คือยิ่งระดับพิกเซลมีค่าน้อย ความคมชัดของภาพก็จะยิ่งมากขึ้น 6. อัตรารีเฟรช อัตรารีเฟรช หรือ Refresh Rate คือจำนวนครั้งที่ภาพถูกฉายบนจอมอนิเตอร์ภายใน 1 วินาที ฉะนั้นหากค่าอัตรารีเฟรชยิ่งมากก็จะยิ่งทำให้การแสดงผลของหน้าจอคอมพิวเตอร์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง 7. เวลาตอบสนอง เวลาตอบสนองคือเวลาที่ใช้ขณะพิกเซลเปลี่ยนจากสีดำเป็นขาว และเปลี่ยนกลับมาเป็นสีดำอีกครั้ง ภายในมิลลิวินาที โดยเวลาตอบสนองนี้ยิ่งน้อยก็จะยิ่งทำให้การแสดงผลของจอภาพคอมพิวเตอร์มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 8. อัตราส่วนความแตกต่าง อัตราส่วนความแตกต่าง หรือ Contrast Ratio คืออัตราส่วนความแตกต่างของสีขาว (สีที่ส่องสว่างที่สุด) กับสีดำ (สีที่มืดที่สุด) โดยยิ่งค่านี้สูงมากขึ้น ก็ทำให้หน้าจอคอมพิวเตอร์แสดงสีที่จัดจ้านและคมชัดมากยิ่งขึ้นไปด้วย 9. การใช้พลังงาน นอกจากการแสดงภาพออกมาได้คมชัดและรวดเร็วแล้ว อีกหนึ่งปัจจัยคือการใช้พลังงานที่พอดี ไม่ควรจะใช้พลังงานมากเกินไป เพราะจะทำให้กินไฟมาก จึงทำให้ปัจจุบันมีหน้าจอคอมหลายรุ่นที่สามารถควบคุมการใช้งานไม่ให้ใช้พลังงานมากเกินไปนั่นเอง 10. มุมในการมอง จอคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพนั้นจะต้องแสดงภาพที่ปรากฏบนหน้าจอได้อย่างชัดเจนรอบด้าน แม้จะอยู่ในมุมที่หันเหหน้าจอออกไปแล้วคุณภาพก็ยังไม่ลดลง โดยจอมอนิเตอร์บางประเภทนั้นมีมุมมองที่กว้างที่สุดประมาณ 178 องศา ซึ่งจะทำให้เราเห็นภาพบนจอภาพคอมพิวเตอร์ได้อย่างชัดเจน ข้อควรรู้ในการเลือกซื้อหน้าจอมอนิเตอร์ (Monitor) การเลือกซื้อจอคอมพิวเตอร์ในแต่ละครั้ง มีสิ่งที่ควรรู้และคำนึงถึงเพื่อให้ได้จอมอนิเตอร์ที่มีประสิทธิภาพ และสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานให้คุ้มกับราคาที่จ่าย โดยข้อควรรู้หลัก ๆ ที่ควรคำนึงถึงมีดังนี้ 1. เลือกจากการใช้งานเป็นหลัก จอภาพคอมพิวเตอร์ทั้ง 3 ประเภทที่ได้กล่าวไปมีจุดเด่นในการใช้งานที่ต่างกัน เพื่อให้ใช้งานอย่างคุ้มค่า ควรรู้ก่อนว่าต้องการใช้งานแบบไหนเป็นหลัก อย่างจอมอนิเตอร์แบบ TN เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ส่วนจอแบบ VA เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความคมชัดของภาพเช่นการดูหนัง และจอภาพแบบ IPS เหมาะกับการใช้งานกราฟิกหรืองานที่ต้องการคุณภาพของภาพและสีที่สูงนั่นเอง 2. เลือกจากประสิทธิภาพของหน้าจอที่ต้องการ จอคอมพิวเตอร์แต่ละประเภทมีประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน เพื่อให้ได้จอมอนิเตอร์ที่ตรงกับความต้องการใช้งานมากที่สุด จึงควรทราบถึงรูปแบบการใช้งานหลักของเราเสียก่อน จะช่วยให้เลือกจอภาพคอมพิวเตอร์ที่ถูกใจและมีประสิทธิภาพตรงกับการใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น 3. เลือกตามงบประมาณที่กำหนดไว้ ราคาจอคอมพิวเตอร์นั้นมีหลากหลายแตกต่างกันไปตามสเปคและประสิทธิภาพ หากเรารู้การใช้งานและประสิทธิภาพที่ต้องการแล้ว ก็จะช่วยให้กำหนดราคาจอคอมพิวเตอร์ให้อยู่ในงบประมาณได้ โดยไม่ต้องซื้อหน้าจอราคาสูงจนเกินความจำเป็น 4. เลือกจากประสบการณ์การใช้งาน นอกจากข้อควรรู้ในการเลือกทั้ง 3 ข้อที่กล่าวไปแล้ว เราอาจจะนำประสบการณ์การใช้จอคอมพิวเตอร์เครื่องเก่ามาเปรียบเทียบด้วยว่ามีจุดเด่นจุดด้อยอย่างไร เพื่อให้ได้หน้าจอใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม ไม่เจอกับปัญหาเก่า ๆ ที่เคยพบมา และอาจเลือกซื้อเผื่อการใช้ในอนาคตเล็กน้อย เพื่อให้เราสามารถใช้งานจอมอนิเตอร์ได้ยาวนานและคุ้มค่ามากที่สุด ทำไมต้องซื้อจอมอนิเตอร์กับ Compute And More? เลือกซื้อจอมอนิเตอร์กับ Compute And More ผู้เชี่ยวชาญเรื่องอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่เป็นมืออาชีพมานานกว่า 20 ปี มีบริการให้คำปรึกษา สามารถแนะนำหน้าจอและอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ทุกชนิด
นอกจากนี้ยังพร้อมด้วยสินค้าคุณภาพจากหลากหลายแบรนด์ให้เลือกซื้อได้เลยทุกชิ้นส่วน เพื่อให้ได้คอมพิวเตอร์ที่มีคุณภาพ คุ้มค่า ราคาดี และตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ จอคอม ใช้ ทำอะไรได้บ้างจอภาพ หรือ วีดียู (อังกฤษ: visual display unit: VDU) หรือชื่ออื่นเช่น จอคอมพิวเตอร์ จอคอม จอมอนิเตอร์ มอนิเตอร์ จอแสดงผล จอภาพแสดงผล จอภาพแสดงผลคอมพิวเตอร์ จอทีวี จอโทรทัศน์ ฯลฯ คือส่วนหนึ่งของเครื่องใช้ไฟฟ้าที่แสดงรูปภาพให้เห็นจากอุปกรณ์ที่สามารถส่งออกวิดีโอ เช่นคอมพิวเตอร์หรือโทรทัศน์ ซึ่งรูปภาพที่ปรากฏสามารถ ...
จอภาพมีหน้าที่เป็นหน่วยใด4. หน่วยแสดงผล (Output Unit) 4.1 จอภาพ (Monitor) ใช้แสดงข้อมูลหรือผลลัพธ์ให้ผู้ใช้เห็นได้ทันที มีรูปร่างคล้ายจอภาพของโทรทัศน์ บนจอภาพประกอบด้วยจุดจำนวนมากมาย เรียกจุดเหล่านั้นว่า พิกเซล (pixel) ถ้ามีพิเซลจำนวนมากก็จะทำให้ผู้ใช้มาองเห็นภาพบนจอได้ชัดเจนมากขึ้น CRT (Cathode Ray Tubes)
จอคอมมีประโยชน์อย่างไร1. เห็นภาพชัดเจน จดคอมที่ดีจะทำให้เราเห็นภาพชัดเจนลดโอกาสเสี่ยงต่าง ๆ ได้ เช่น การทำงานเกี่ยวกับการเงินและตัวเลข ถ้าจอคอมพิวเตอร์ประมวลผลออกมาผิดพลาดอาจจะส่งผลต่อธุระกิจนั้นได้เลยนะครับ อาจจะขาดทุนได้เพราะการคำนวนผิดพลาดจากจอคอมพิวเตอร์
จอภาพMonitorทำหน้าที่คล้ายอุปกรณ์ใดจอภาพ หรือ monitor เป็นอุปกรณ์การแสดงผลที่สำคัญที่สุด จะเป็นส่วนที่ติดต่อกับผู้ใช้โดยตรง เพราะเราสามารถมองเห็นข้อมูลที่ที่แสดงผลได้โดยผ่านจอภาพของเรา จอภาพของคอมพิวเตอร์มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือจอแบบซีอาร์ที และจอแบบแอลซีดี ซึ่งจอภาพ 2 แบบนี้มีลักษณะที่แตกต่างกันในเรื่องของรูปแบบ นั้นก็คือจอแบบซีอาร์ที (CRT) ส่วนใหญ่เป็น ...
|