3.2 การอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง การเเบ่งจังหวะวรรคในการอ่าน มีดังนี้ Show วรรคละ ๖ คำ อ่าน ๒/๒/๒ OO/OO/OO ตัวอย่าง การเเบ่งจังหวะวรรคละ ๖ คำ การเเบ่งจังหวะวรรคละ ๘ คำ กาพย์ยานี ๑๑ มีจำนวนคำ ๑๑ คำ นิยมอ่านเสียงสูงกว่าปกติจึงจะเกิดความไพเราะ การเเบ่งจังหวะวรรดในการอ่าน มีดังนี้ ตัวอย่าง การเเบ่งจังหวะกาพย์ยานี ๑๑ เรื่อยเรื่อย/มารอนรอน// ทิพากร/จะตกต่ำ// การอ่านบทร้อยกรองที่ถูกต้องควรอ่านแบบใด1. อ่านออกเสียงธรรมดา เป็นการอ่านออกเสียงพูด ตามปกติเหมือนกับอ่าน ร้อยแก้ว แต่มีจังหวะวรรคตอน 2. อ่านเป็นทานองเสนาะ เป็นการอ่านมีสาเนียงสูง ต่า หนัก เบา ยาว สั้น เป็นทานองเหมือนเสียงดนตรีมีการเอื้อนเสียง เน้นสัมผัส ตามจังหวะ ลีลาและ ท่วงทานองตามลักษณะบังคับของบทประพันธ์ให้ชัดเจนเเละเหมาะสม
ลีลาการอ่านใดต้องใช้บ่อยที่สุดในการอ่านบทร้อยกรองหลักในการอ่านออกเสียงบทร้อยกรอง 1. อ่านให้ถูกต้องตามลักษณะบังคับของคำประพันธ์ ศึกษาการแบ่งวรรคตอน จำนวนคำ เสียงวรรณยุกต์ เสียงหนักเบา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของคำประพันธ์แต่ละประเภท 2. อ่านให้มีลีลา รู้จักใช้เสียงเอื้อนและรู้จักทอดจังหวะให้เกิดความไพเราะ การอ่านคำประพันธ์ประเภทโคลง
การอ่านบทร้อยกรอง อ่านได้ ทั้งหมดกี่แบบการอ่านบทร้อยกรอง อ่านได้ ๒ แบบ
๑. อ่านแบบธรรมดา เป็นการอ่านออกเสียงพูดธรรมดา ไม่มีทานองเหมือนอ่านร้อยแก้ว แต่มีการ แบ่งจังหวะวรรคตอนให้ถูกต้องตามชนิดของคาประพันธ์ ๒. อ่านแบบทานองเสนาะ เป็นการอ่านออกเสียงที่มีทานองอย่างไพเราะ มีเอื้อนเสียง เน้นสัมผัส แบ่งจังหวะจานวนคา การอ่านตามฉันทลักษณ์บังคับของคาประพันธ์
สิ่งใดสำคัญที่สุดในการอ่านออกเสียง *หลักในการอ่านออกเสียง
- อ่านด้วยความดังที่เหมาะสมไม่ดังหรือเบาเกินไป - อ่านถูกต้องตามอักขระวิธี - แบ่งวรรคตอนในการอ่านให้ถูกต้อง - อ่านให้ชัดเจน
|