Show
ทวีปยุโรปเป็นทวีปที่มีการเปลี่ยนแปลงประชากรเพิ่มขึ้นไม่มากนัก พ.ศ. 2544 ทวีปยุโรปมีจำนวนประชากรประมาณ 727 ล้านคน และใน พ. ศ. 2559 ทวีปยุโรปมีประชากรประมาณ 707 ล้านคน เป็นทวีปที่มีจำนวนประชากรมากเป็นลำดับที่ 3 ของโลก รองจากทวีปเอเชีย และทวีปแอฟริกา แต่เป็นทวีปที่มีความหนาแน่นของประชากรมากที่สุดในโลกประมาณ 84 คน ต่อตารางกิโลเมตร ซึ่งประชากรยุโรปอาศัยอยู่ตามภูมิภาคต่างๆ ดังนี้ ประชากรยุโรปอาศัยอยู่กันอย่างหนาแน่นทางแถบพื้นที่ยุโรปตะวันตก ยุโรปตอนกลาง ยุโรปใต้ และบางส่วนของยุโรปตะวันออก หรือในเขตพื้นที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เบลเยียม เยอรมนี เกาะเกรตบริเตน ทางเหนือของประเทศฝรั่งเศส ผ่านที่ราบใหญ่ของยุโรปไปทางตะวันออกสู่สาธารณะรัฐเช็ก ทางตอนใต้ของประเทศโปแลนด์ ยูเครน ด้านตะวันตกของสหพันธรัฐรัสเซีย ส่วนทางตอนใต้จะหนาแน่นที่สุดบริเวณคาบสมุทรอิตาลีและบริเวณชายฝั่งทางใต้ของประเทศสเปน นอกจากนี้ ประชากรยุโรปอย่างตั้งถิ่นฐานอยู่ตามริมแม่น้ำสายสำคัญๆ ซึ่งได้กลายเป็นย่านชุมชนมาตั้งแต่ครั้งอดีตโดยเป็นแหล่งเกษตรกรรมและพาณิชยกรรม อาทิ พื้นที่บริเวณกลุ่มแม่น้ำไรน์ วอลกา ดานูบ ลัวร์ นีเปอร์ โอเดอร์ เป็นต้น สำหรับเขตประชากรเบาบาง ได้แก่ บริเวณคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย บริเวณตอนเหนือของทวีป ทางด้านตะวันออกในเขตไซบีเรียของสหพันธรัฐรัสเซียซึ่งมีอากาศหนาวเย็นเกือบตลอดปี ไม่สามารถทำการเกษตร ได้นอกจากนี้มีบริเวณทางตอนเหนือของทะเลแคสเปียนซึ่งมีลักษณะภูมิอากาศกึ่งแห้งแล้ง รวมทั้งบริเวณเทือกเขาสูงและที่ราบสูงในบริเวณตอนกลางและตอนใต้ของทวีปที่มีความทุรกันดาร และสภาพภูมิประเทศไม่เหมาะสมต่อการตั้งถิ่นฐาน การเคลื่อนย้ายของประชากร เนื่องจากสภาพปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ และการรวมกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป ส่งผลให้มีประชากรบางส่วนจากยุโรปตะวันออกโดยเฉพาะสหพันธรัฐรัสเซีย ยูเครน เบลารุส โปแลนด์ ย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐานและหางานทำในพื้นที่แถบตอนกลางและตอนใต้ของยุโรปที่มีเศรษฐกิจดีกว่าและมีความเจริญมากกว่า นอกจากนี้ ปัญหาความไม่สงบของบางประเทศในบริเวณคาบสมุทรบอลข่าน ทำให้ประชากรบางส่วนอพยพเข้าไปตั้งถิ่นฐานในคาบสมุทรอิตาลีด้วย เนื่องจากยุโรปเป็นทวีปที่มีอัตราการเพิ่มของประชากรต่ำ ทำให้ขาดแคลนแรงงานในบางสาขาอาชีพ จึงมีชาวแอฟริกัน ชาวเอเชีย และชาอเมริกาใต้ เข้าไปเป็นแรงงาน โดยเฉพาะงานทางด้านอุตสาหกรรม การบริการ และภาคเกษตรกรรม ใน พ. ศ. 2559 ทวีปยุโรปมีอัตราเกิด อัตราตาย และการย้ายถิ่นสุทธิโดยแบ่งตามภูมิภาค ดังนี้ จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี ยุโรป
ยุโรป (อังกฤษ: Europe; อ่านว่า "ยุ-โหฺรบ") เป็นทวีปที่ตั้งอยู่ในซีกโลกเหนือและส่วนมากอยู่ในซีกโลกตะวันออก ทางทิศเหนือติดกับมหาสมุทรอาร์กติก ทางทิศใต้ติดกับทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ทางทิศตะวันออกติดกับทวีปเอเชีย ทางทิศตะวันตกติดกับมหาสมุทรแอตแลนติก เป็นอนุทวีปทางด้านตะวันตกของทวีปยูเรเชีย ตั้งแต่ประมาณ 1850 การแบ่งยุโรปกับเอเชียมักยึดตามสันปันน้ำของเทือกเขายูรัลและเทือกเขาคอเคซัส แม่น้ำยูรัล ทะเลแคสเปียน ทะเลดำและช่องแคบตุรกี[9] แม้คำว่า "ทวีป" จะหมายถึงภูมิศาสตร์กายภาพของผืนดินขนาดใหญ่ที่ไม่มีการแบ่งอย่างแน่นอนและชัดเจน จึงมีการโยกย้ายติดต่อกันในช่วงสมัยคลาสสิก ทำให้บริเวณชายแดนยุโรปกับเอเชียของยูเรเชียนั้นแสดงให้เห็นความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรม ภาษา ความแตกต่างทางชาติพันธุ์ของตะวันออกกับตะวันตกและแบ่งจากกันอย่างเด่นชัดกว่าการขีดเส้นแบ่งเขตแดน เส้นแบ่งเขตแดนของทวีปไม่ได้แบ่งตามเส้นแบ่งเขตแดนทางการเมืองทำให้ตุรกี รัสเซียและคาซัคสถานเป็นประเทศข้ามทวีป ยุโรปมีพื้นที่ประมาณ 10,180,000 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 2% ของผิวโลก (6.8% ของผืนดิน) ในทางการเมืองยุโรปมีรัฐอธิปไตยและเขตปกครองกว่า 50 รัฐ ซึ่งมีรัสเซียเป็นประเทศที่ใหญ่และมีประชากรมากที่สุด โดยกินพื้นที่ทวีปยุโรป 39% และมีประชากรทั้งหมด 15% ของทวีป ใน พ.ศ. 2560 ยุโรปมีประชากรประมาณ 741 ล้านคน[2] (หรือ 11% ของประชากรโลก) ภูมิอากาศยุโรปส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากกระแสน้ำอุ่นในมหาสมุทรแอตแลนติกทำให้ภายในทวีปจะมีอากาศหนาวจัดในฤดูหนาวและร้อนในฤดูร้อนแม้ในละติจูดเดียวกันในเอเชียกับอเมริกาเหนือจะมีสภาพอากาศที่รุนแรง ยุโรปภาคพื้นทวีปจะเห็นความแตกต่างตามฤดูกาลได้ชัดเจนกว่าบริเวณชายฝั่ง ทวีปยุโรปโดยเฉพาะกรีซโบราณเป็นแหล่งกำเนิดวัฒนธรรมตะวันตก[10][11][12] การล่มสลายของจักรวรรดิโรมันตะวันตกใน ค.ศ 476 และสมัยการย้ายถิ่นช่วงต่อมา เป็นจุดจบของสมัยโบราณและเป็นจุดเริ่มต้นของสมัยกลาง มนุษยนิยมสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา ยุคแห่งการสำรวจ ศิลปะและวิทยาศาสตร์อันเป็นเป็นรากฐานนำไปสู่สมัยใหม่ ตั้งแต่ยุคแห่งการสำรวจเป็นต้นมานั้นยุโรปมีบทบาทสำคัญระดับโลกในด้านเศรษฐกิจ ระหว่างศตวรรษที่ 16 ถึง 20 ประเทศในยุโรปมีอำนาจปกครองหลาย ๆ ครั้งในทวีปอเมริกา เกือบทั้งหมดของแอฟริกาและโอเชียเนียร่วมถึงพื้นที่ส่วนใหญ่ของเอเชีย ยุคเรืองปัญญาหลังจากการปฏิวัติฝรั่งเศสและสงครามนโปเลียนส่งผลให้เกิดการปฏิรูปวัฒนธรรม การเมืองและเศรษฐกิจในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 ถึงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 19 การปฏิวัติอุตสาหกรรมในสหราชอาณาจักรช่วงปลายศตวรรษที่ 18 ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและสังคมเป็นอย่างมากในยุโรปตะวันตกและขยายไปทั่วทั้งโลกในเวลาต่อมา สงครามโลกทั้ง 2 ครั้งมีสมรภูมิส่วนใหญ่อยู่ในทวีปยุโรปนั้น ทำให้ช่วงกลางศตวรรษที่ 20 สหภาพโซเวียตและสหรัฐขึ้นมามีอำนาจในขณะที่ประเทศยุโรปตะวันตกส่วนใหญ่มีอำนาจลดลง[13] ระหว่างสงครามเย็นยุโรปถูกแบ่งด้วยม่านเหล็กระหว่างเนโททางตะวันตกกับกติกาสัญญาวอร์ซอในตะวันออก จนกระทั่งสิ้นสุดลงหลังการปฏิวัติ ค.ศ. 1989และการล่มสลายของกำแพงเบอร์ลิน ใน ค.ศ. 1949 สภายุโรปก่อตั้งขึ้นตามคำปราศรัยของ เซอร์ วินสตัน เชอร์ชิล ซึ่งมีแนวคิดในการรวมยุโรปเพื่อให้บรรลุเป้าหมายร่วมกัน ทุกประเทศในยุโรปเป็นสมาชิกยกเว้นเบลารุส คาซัคสถานและนครรัฐวาติกัน การบูรณาการยุโรปอื่น ๆ อย่างการรวมกลุ่มโดยบางประเทศนำไปสู่การก่อตั้งสหภาพยุโรป (อียู) ซึ่งเป็นสหภาพทางเศรษฐกิจและการเมืองซึ่งมีรูปแบบสมาพันธรัฐและสหพันธรัฐ[14] สหภาพยุโรปก่อตั้งขึ้นในยุโรปตะวันตกแต่เริ่มเพิ่มสมาชิกในยุโรปตะวันออกตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียตในปี 1991 ประเทศที่เป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปส่วนใหญ่ใช้สกุลเงินยูโรซึ่งชาวยุโรปนิยมใช้กันทั่วไป; และในเขตเชงเก้นของอียูจะยกเลิกการควบคุมชายแดนและการอพยพระหว่างประเทศสมาชิก เพลงประจำสหภาพยุโรปคือ "ปีติศังสกานท์"และมีวันยุโรปเพื่อการเฉลิมฉลองสันติภาพและเอกภาพประจำปีในทวีปยุโรป ประวัติศาสตร์[แก้]ประเทศ[แก้]ดูบทความหลักที่: ประเทศในทวีปยุโรป
ภูมิศาสตร์[แก้]ดูบทความหลักที่: ภูมิศาสตร์ยุโรป ภูมิประเทศ[แก้]แผนที่ดาวเทียมแสดงส่วนประกอบทางภูมิศาสตร์ของทวีปยุโรป ลักษณะภูมิประเทศที่สำคัญของทวีปยุโรป ได้แก่ ทางตะวันตกของฝรั่งเศส ทางตะวันออกของเกาะอังกฤษ เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ และเดนมาร์ก
ภูมิอากาศ[แก้]เขตอากาศของทวีปยุโรป สามารถแบ่งเป็น 7 เขตดังนี้
ภูมิภาค[แก้]การแบ่งภูมิภาคของทวีปยุโรป: ทวีปยุโรป แบ่งออกเป็น 4 ภูมิภาคใหญ่ ๆ ได้แก่
เมืองสำคัญ[แก้]ทวีปยุโรปมีหลายเมืองที่เป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลก ทวีปยุโรปจึงเป็นทวีปที่มีการคมนาคมที่สะดวกสบายเป็นอย่างมาก การคมนาคมส่วนใหญ่จะเป็นระบบราง เช่น รถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน และรถไฟความเร็วสูง ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของการคมนาคมระหว่างเมืองและระหว่างประเทศ โครงสร้างพื้นฐาน[แก้]
เศรษฐกิจ[แก้]ทวีปยุโรปมีความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจรุ่งเรืองมาก โดยมีการรวมกลุ่มเป็นประชาคมเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก เรียกว่า กลุ่มสหภาพยุโรป ซึ่งมีบทบาทมากต่อเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ สมาชิกจี 8 จำนวน 8 ประเทศ มีสมาชิกอยู่ในทวีปยุโรปมากถึง 5 ประเทศ คือ รัสเซีย เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และสหราชอาณาจักร หลังเกิดวิกฤตการเงินโลก 2010 ที่ประเทศกรีซ ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกดิ่งลงเหวอย่างหนัก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มสหภาพยุโรปเริ่มขาดสภาพคล่องทางการเงินจากปัญหาหนี้สินเพิ่มมากขึ้น
ตัมเปเรในฟินแลนด์เป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ทางตอนเหนือของยุโรป อ้างอิง[แก้]
ข้อมูล[แก้]
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
แผนที่ในอดีต
บริเวณใดของทวีปยุโรปที่มีประชากรอาศัยอยู่หนาแน่นบริเวณที่มีประชากรอาศัยหนาแน่นมาก ส่วนใหญ่อยู่ ในบริเวณภูมิภาคยุโรปตะวันตก ยุโรปใต้ และบางส่วน ของยุโรปตะวันออก เนื่องจากเป็นที่ราบ เมืองใหญ่ ที่มีประชากรอาศัยอย่างหนาแน่น เช่น กรุง ปารีส กรุงลอนดอน กรุงอัมสเตอร์ดัม กรุงโรม กรุง
บริเวณใดของทวีปยุโรปที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นเพราะเหตุใดที่ราบใหญ่ภาคกลางเป็นเขตที่มีความส าคัญมากที่สุดทางด้านเศรษฐกิจของทวีปยุโรปและมีประชากร อาศัยอยู่หนาแน่น เพราะมีพื้นที่เป็นที่ราบขนาดใหญ่สร้างเส้นทางคมนาคมทางบกได้ง่าย และมีแม่น้าสายยาว ไหลผ่านที่ราบนี้หลายสาย ได้แก่แม่น้าแซน ไรน์เอลเบอ โอเดอร์และ วิสตูลา ใช้ในการขนส่งได้ดีและท าให้มี ดินและน้าที่อุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การ ...
บริเวณใดของทวีปยุโรปที่มีประชากร เบาบางมากที่สุดลักษณะความหนาแน่นของประชากร
- ประชากรอาศัยอยู่อย่างหน้าแน่นบริเวณยุโรปตะวันตก ยุโรปใต้และบางส่วนของยุโรปตะวันออก เช่น พื้นที่ประเทศ เนเธอร์แลนด์ ประเทศอังกฤษ เยอรมนี ตอนเหนือของ ฝรั่งเศส และเลียบไปทางตะวันออกของทวีป - ประชากรอาศัยอยู่อย่างเบาบาง ได้แก่ บริเวณ คาบสมุทรสแกนดิเนเวีย คาบสมุทรไอบีเรีย และ สหพันธรัฐรัสเซีย
บริเวณใดของทวีปยุโรปที่มีประชากรตั้งถิ่นฐานอยู่เบาบาง2. บริเวณใดที่ประชากรของทวีปยุโรปอาศัยอยู่เบาบาง บริเวณคาบสมุทรสแกนดิเนเวีย บริเวณตอนเหนือของทวีป ทางด้านตะวันออกในเขตไซบีเรีย ของรัสเซีย ตอนเหนือของทะเลแคสเปียน บริเวณเทือกเขาสูง และที่ราบสูงในบริเวณตอนกลาง และตอนใต้ของทวีปที่มีความ ทุรกันดาร
|