นิยาย ลูกแฝด สาม ธัญ วลัย จบแล้ว

บ้านวิริยะไพศาล


     สามีหนุ่มตื่นขึ้นมาเช้ามืดเมียรักยังซุกซบอยู่กับอกอุ่นของเขา วารัตดาหลับอย่างเป็นสุขทุกคืนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ผู้ชายคนนี้ มีอะไรหลายอย่างที่ทำให้เธอทึ่ง

      เขารักลูกเมื่อก่อนว่าเมียมาเป็นที่ 1 ตอนนี้เมียตกอันดับลงไปแต่เธอก็ดีใจที่เขาเป็นห่วงเป็นใยเธอตลอดเสมอไม่เคยเปลี่ยน

      "เช้าแล้วเรอะคะ เมื่อคืนนอนดึกรดาเลยตื่นสายขอโทษนะคะพี่ธาร"เธอทำท่าจะลุกจากที่นอนสามีรั้งไว้

      "รดา ๆเป็นแม่ของลูก รดาเป็นเมียพี่แล้วตอนนี้เจ้าตัวเล็กก็อยู่ในท้อง รดาจะทำอะไรต้องระวังหน่อย อย่ารีบร้อน พี่รักรดารักลูกของเรา ถึงจะมีลูกแต่พี่ก็ยังรักหนูเหมือนเดิม ขอบคุณนะเมียจ๋าที่มาเติมเต็มทุกอย่างให้พี่ ๆรักหนูที่สุด ไม่เคยเปลี่ยน"เธอซุกหน้าลงกับอกอุ่นของเขาอีกครั้งหนึ่ง

       "ขอบคุณนะคะที่รักรดา ขอบคุณจริงๆค่ะพี่ธาร รดาไม่ต้องการอะไรอีกแล้วนอกจาก ลูกและความอบอุ่นในครอบครัว รดามีทุกอย่างแล้วค่ะ รดาจะไมาแสวงหาอะไรอีก เพราะสามีคนนี้มอบให้รดาแล้วทุกอย่างขอบคุณ คุณพ่อคุณแม่ด้วยที่ไม่เคยรังเกียจว่ารดาต่ำต้อย อุ๊บ!"ปากอบอุ่นจนร้อนปิดปากนุ่มนิ่มของเธอไว้ บดคลึงเคล้าอย่างเสน่หา วารัตดาคล้อยตามสามีหนุ่มที่ทำอารมณ์ของเธอให้เตลิดเปิดเปิงไปไกล

       "พอเถอะที่รักอย่าพูดเรื่องนี้อีก รดาเป็นวิริยะไพศาล นะครับเมียจ๋า รดาเป็นเมียพี่และอย่าพูดเรื่องนี้อีก ไม่งั้นพี่จะโกรธเมียมากๆนอนเถอะยังเช้าอยู่ ฟอด ฟอด หอมจังขอเข้าไปคุยกับตัวเล็กหน่อยนะครับเมียจ๋า"

       "จะกี่ปีกี่ชาติ ความหื่นไม่เคยลดเลยนะคะ นี่คุณพ่อ อายุเท่าไหร่แล้วคะ"เขาคิดตามไปด้วย

       "สำคัญอะไรกับอายุ มีเมียเด็กต้องหมั่นตรวจเช็คร่างกาย "เขาฮัมเพลงลูกทุ่งเบาๆเล่นเอาคนข้างๆขำก๊ากออกมา

       "อื้อ"

         บทรักยามเช้าดำเนินไปอย่างหวานฉ่ำก่อนจะเร่าร้อนตามมา สองร่างเปล่าเปลือยผลัดกันรุกผลัดกันรับ โลดแล่นกับไปด้วยกัน เหยียบย่างขอบสวรรค์ในเวลาต่อมา

       "อ้ะ"

       "ซีดดดส์ อ้าส์"สองร่างกระตุกพร้อมกันอย่างสุขสม

       "อืมม!"ธารนทีจุมพิตปากบางของเมียรักอีกครั้งอบ่างแผ่วเบาก่อนจะผละออก หยิบชุดนอนตัวสวยมาสวมให้เธอจนเรียบร้อย จูบกระหม่อมอีกทีก่อนจะรั้งร่างอวบอิ่มเข้ามากอดอีกครั้งหนึ่ง

       "มาทายดูว่าวันนี้เจ้าตัวแสบจะโผล่เข้ามามั้ย??"ธารนทีคุยกับเมียรักถึงลูกสาวตัวแสบ

       "คุณพ่อ!"

        "เจ้าตัวแสบมาได้ไงลูกแล้วทำไมตื่นเช้าจังเพิ่งจะตี 5 เอง มานอนตรงนี้เลยมาข้างขวาพ่อ ข้างซ้ายแม่ ลูกอยู่ตรงกลาง แต่ความรักของเราไม่มีใครมาแบ่งได้นะ ระหว่างกับแม่หนูรักใครมากที่สุด ให้เวลา 2 นาที ตอบให้พ่อชื่นใจหน่อยนะคะ"

       "หนูต้องใช้ความคิดค่ะ  ชู๊ว์ๆๆๆๆ อย่าเสียงดังค่ะ"หนูน้อยทำท่าคิดพ่อกับแม่รอคำตอบจากลูกสาว

      "หนูรักคุณพ่อกับคุณแม่เท่ากันค่ะ..แล้วหนูก็จะรักน้องด้วยค่ะ ฟอด ฟอด พ่อขาวันนี้ พ่อ นัด หนู จะไปกินไอติม อย่าลืมนะคะ"

      "ครับลูก แต่ลูกต้องเป็นเด็กดีนะ ต้องเป็นเด็กน่ารัก กับคุณย่า คุณปู่ ด้วยนะครับ"

      "ค่ะคุณพ่อ แม่ขาหนูอยากหอมน้องจัง พี่แทมมี่ขอหอมหน่อยน้า"หนูน้อยเอาหน้าแนบตรงท้องแม่ของเธอทำจมูกฟุตฟิต

      "ได้ยินอะไรมั้ยคะ"วารัตดาถามลูกสาวตัวน้อย

       "สงสัยน้องจะหลับ หนูกรักแม่ค่ะ"เด็กน้อยซบหน้ากับอกแม่วารัตดาลูบผมนุ่มนิ่มของลูกน้อย ที่ทำท่าจะหลับเอาตอนเช้ามืด

      "ลูกจ๋า พ่อกับแม่ก็รักลูกที่สุดเลยรู้มั้ยคะ งั้นเราลงไปข้างล่างไปดูอาหารเช้าดีกว่านะ ว่ามีอะไรให้หนูทานบ้างน้า??แล้ววันนี้หนูจะนอนห้องใครจำได้มั้ยเอ่ย??"วารัตดาถามลูกสาว หนูน้อยเป็นขวัญใจของคนทั้งบ้าน นอกจากจะช่างพูดแล้วยัง ฉลาดซักถามทุกเรื่องที่อยากรู้

     "วันนี้หนูจะนอนห่องคุณยายอังค่ะ เพราะ คุณยายจะเล่านิทานให้หนูฟัง แม่ขา!หนูอยากให้น้องออกมาเร็วๆ หนูจะได้มีเพื่อนเล่นค่ะ"ธารนทีลูบผมยาวสลวยของลูกน้อยกอดเธอไว้แนบอก

      "ตอนนี้น้องเพื่องจะเดือนกว่าเองครับลูก รอตอนน้องคลอดหนูก็โตพอดี ถึงตอนนั้นลูกก็เลี้ยงน้องได้ไงครับจริงมั้ย??"ไม่มีเสียงตอบรับ ร่างน้อยโงนเงนไปมา หลับไปเรียบร้อยเขาอุ้มลูกน้อยออกมาวางที่โซฟาห้องรับแขก

      "ธาร!ยัยหนูลูก โธ่เอ้ย!หลานย่า บอกย่าว่าปวดฉี่อยากเข้าห้องน้ำ แม่ก็พาเข้าเผลอแป๊บเดียวหายไปแม่ก็ตามไปเห็นเปิดประตูห้องพ่อแม่ แล้วไงล่ะง่วงสิท่า เมื่อคืนกว่าหลับ เล่านิทานเกือบทุกเรื่อง ส่งมาให้แม่เถอะ รดาเข้าครัวอีกแล้วสิ?? บอกก็ไม่ฟัง แล้ววันนี้เขาจะทำอะไรเป็นอาหารเช้าล่ะ?"

      "งั้นผมไปดูดีกว่า ป้าอังน่าจะตื่นแล้ว "

       "ไปเถอะลูก แม่จะพายัยหนูไปอาบน้ำแต่งตัว น่าสงสารจริงสงสัยต้องกินข้าวในรถอีกแล้วมั้ง เฮอ!นี่และน้าชีวิตคนกรุงเทพฯต้องแข่งกัน ผัวเมียลูกเต้าแทบหาเวลากินข้าวพร้อมกันไม่ได้ ธาร!อีกหน่อยเมียท้องโตอย่าให้เขาไปทำงานเลยนะ แม่สงสาร จะว่าไปก็ดื้อรั้นใช่ย่อยนะ แม่รู้แล้วว่ายัยหนูเหมือนใคร นิ่งๆแต่ดื้อเอาการ นี่ละเลือดแม่เขาเต็มตัว หยิ่งๆบางครั้งแต่นิ่งๆจนดูไม่ออกว่าเขาคิดอะไร แล้วก็ถามทุกเรื่อง ช่างซักช่างถาม เรื่องน้องนี่ถามทุกคืน บางทีถามจนหลับไปก็มี"ย่าศจีคุยกับลูกชายธารนทีเองก็รู้ว่าลูกตัวน้อยเป็นแบบนั้นจริงๆ เพราะในแต่วันตอบคำถามไม่หวาดไม่ไหว

    คฤหาสน์อันเดรส


    "ว่าอะไรนะหนูอิง??"อันนาถามลูกสะใภ้

     "คืออิงบอกว่าอิงท้องค่ะคุณแม่ วันนี้พี่กัสจะพาไปฝากท้อง และอิงก็มั่นใจว่าลูกจะเป็นแฝดค่ะคุณแม่"กัสมาโอบไหล่เมียมาชิดจูบหน้าผากเนียนทีหนึ่ง

       "หนูอิงว่าไงนะปู่ได้ยินไม่ถนัด"คุณปู่โจนาธารถามหลานสะใภ้ว่าสิ่งที่ได้ยินมาเมื่อสักครู่มันคืือเรื่องจริง

      "ค่ะคุณปู่ อิงบอกว่าอิงท้องค่ะแล้วหมอที่โน่นก็ยืนยันว่าน่าจะเป็นแฝดค่ะ แต่อิงก็ไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่เดี๋ยววันนี้สายๆพี่กัสจะพาไปหาหมออีกทีค่ะคุณปู่ๆดีใจมั้ยคะ??"อิงถามคุณปู่ของสามีในใจลุ้นคำตอบว่าท่านจะบอกว่าอะไร

      "ดีใจสิลูก แฝด 3 เราก็เคยมีมาแล้ว แฝดชายๆ เราก็มีมาแล้ว ต่อไปปู่ขอแฝดชายหญิงได้มั้ยเจ้ากัส หรือว่าไงจะว่าไปตระกูลเรานี่จะได้แฝดเยอะไปนะปู่ว่า ตอนนี้นายโจนาธานมีหลานทั้งหมด 9 คน รวมลูกของเจ้ากัสอีกก็ 11 พอดี เลขสวยๆ"คุณปู่ถามหลานชายพร้อมกับเล่าเรื่องหลานแฝดให้อิงดาวฟัง

      "ต้องลุ้นครับคุณปู่ พ่อกับแม่ครับงั้นวันนี้ขอพักผ่อนก่อนนะครับ ขอพักสักอาทิตย์หนึ่งดีกว่านะครับ กัสยังไม่ชินเวลา ตอนนี้เริ่มง่วงแล้วล่ะ แม่ครับ อยู่กับกัสนานๆนะครับเพราะกัสจะมีลูกแฝดให้พ่อกับแม่เลี้ยงอีกหลายคู่เลยล่ะครับ จริงมั้ยครับเมียจ๋า" อิงดาวหยิกต้นขาสามีหนุ่มเบาๆ อีกคนสะดุ้งเพราะยิ่งกว่าแมลงต่อยอีก เขาลูบขาป้อยๆ

     ที่บ้านวิริยะไพศาล   เย็นวันเดียวกัน


      "คุณย่า!หนูกลับมาแล้วค่ะ"เด็กน้อยวิ่งเข้าบ้าน ทันทีที่รถจอด

      "ช้าๆลูกเดี๋ยวล้ม ทะโมนจริงๆหลานย่า"

      "ก็หนูคิดถึงคุณ ย่า นี่ คะ"เด็กน้อยพูดเป็นต่อยหอยหายใจหอบแฮกๆอยู่กับอกคุณย่า

      "ฟอด ย่าก็คิดถึงลูกเหมือนกัน"

      "แล้วคุณยายอังล่ะคะ วันนี้คุณครูให้วาดรูปญาติผู้ใหญ่ในบ้าน หนก็วาดรูปคุณยายอัง คุณย่า แล้วก็คุณปู่ นี่ค่ะหนูจะเอาให้ดู" หนูน้อยล้วงเข้าไปในกระเป๋าเป้หยิบกระดาษที่มีรูปวาดให้คุณย่าดู คุณศจีถึงกับน้ำตาคลอ ภาพที่เห็นเขียนด้วยลายมือขยุกขยิก คุณยาย คุณย่า คุณปู่ คุณย่าจับมือคุณยาย

       "ทำไมคุณย่าต้องจับมือคุณยายด้วยล่ะลูก"ย่าศจีถาม

       "ก็คุณยายกับคุณย่าเป็นคนที่หนูรักมากค่ะ แล้วคุณปู่ก็ด้วย หนูอยากกินหนมอ่ะ!งั้นเราไปหาคุณยายกันนะคะ"เด็กน้อยดึงมือผู้เป็นย่าเดินเข้าครัวไป

       "คุณยายขา หนูมาแล้วค่ะ"

       "เหรอลูกคิดถึงจังมาหอมก่อน ฟอดเอยายว่ากลิ่นแปลกๆนะนี่เล่นมากใช่มั้ย?อาบน้ำแล้วก็สระผมดีมั้ยลูก?แล้วมากินหนมวันนี้ยายทำข้าวเกรียบปากหม้อให้กิน ไปอาบน้ำก่อนนะคนเก่ง"ผู้สูงวัยสองคนบีบมือกันแน่น

       "เราต้องอยู่กันนานๆนะแม่อังฉันอยากจะส่งเขาให้ถึงฝั่ง เขาทำให้ฉันอยากมีชีวิตยืนยาวอีกต่อๆไปหลายๆปี"

      "ได้สิแต่มีข้อแม้...เธอต้องอยู่กับฉันเพื่อลูกหลานของเราแม่ศจี ขอบคุณเธอกับคุณสาโรจน์และทุกๆคนในบ้านนี้ที่ทำให้ฉันรู้ว่าเพื่อนหาเมื่อไหร่ก็ได้แต่เพื่อนแท้หายากยิ่งกว่า เงินทองอาจซื้อได้ทุกอย่าง ยกเว้น 'มิตรแท้ 'มีเงินมากเท่าไหร่ก็ซื้อคำนี้ไม่ได้แน่นอน

       สามคนพ่อ แม่ ลูก มองภาพตรงหน้าอย่างตื้นตันใจเพราะควาสุขที่แท้จริงมันเกิดที่ได้พบคนดี ได้มิตรที่ดี แม้มีเงินมากมากมายก็ไม่อาจซื้อหาความสุขที่จีรังยั่งยืนได้ เพราะในสังคม'คนรวยนั้นมีมาก แต่คนที่หายากคือคนดี'

-สวัสดีค่ะ-