รายละเอียด: Show
ประเทศไทยมีความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาครัฐต้องนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อใช้ใน การคมนาคมขนส่งสูงเพิ่มมากขึ้นด้วย ประกอบกับสถานการณ์ราคาน้ำมันในประเทศมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตามราคาตลาดโลก ก่อให้เกิดภาระทางการเงินของประเทศ อีกทั้งการใช้พลังงานดังกล่าวนี้ในภาคคมนาคมขนส่งยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและการพึ่งพิงพลังงานจากแหล่งฟอสซิล กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) เห็นความสำคัญของพลังงานทางเลือกที่มีบทบาทอย่างยิ่งในการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ให้มีความก้าวหน้ามากขึ้น โดยก้าวไปสู่เทคโนโลยีขับเคลื่อนที่ไม่ต้องอาศัยการเผาไหม้จากน้ำมันเชื้อเพลิง จึงริเริ่มโครงการศึกษาแนวทางการนำยานยนต์พลังงานสะอาดมาใช้ในประเทศไทย ซึ่งรายงานฉบับนี้ ประกอบด้วย เทคโนโลยียานยนต์พลังงานสะอาดรูปแบบต่าง ๆ รูปแบบโครงสร้างพื้นฐานการใช้งาน ปัญหาการจัดการด้านการขนส่งที่เกิดขึ้นและแนวทางการแก้ไขปัญหา การวิเคราะห์เทคโนโลยีที่เหมาะสม ข้อจำกัด โอกาส จุดอ่อน จุดแข็งและกฎระเบียบการขนส่งในประเทศ เพื่อใช้ในการวางโครงสร้างพื้นฐานและวางแผนการจัดการระบบการขนส่ง (Logistic system) เพื่อรองรับการนำยานยนต์พลังงานสะอาดมาใช้ในประเทศไทย รวมถึงการกำหนดพื้นที่และรูปแบบเทคโนโลยีเพื่อสาธิตการนำร่องการนำยานยนต์พลังงานสะอาดมาใช้ พร้อมทั้งศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลด้านเศรษฐศาสตร์ และการจัดการระบบการขนส่ง ซึ่งจะช่วยให้ภาครัฐและเอกชนได้เห็นถึงรูปแบบการนำเทคโนโลยียานยนต์สะอาดมาใช้ในพื้นที่ที่มีศักยภาพอย่างน้อย 2 พื้นที่ เพื่อประกอบการพิจารณาวางแผนในด้านโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่จะรองรับการใช้ยานยนต์พลังงานสะอาดได้อย่างเหมาะสม และมีประสิทธิภาพ หน่วยงานที่ดำเนินโครงการ: เครือข่าย/หน่ายงานรับผิดชอบโครงการ: htg1จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี รถสามล้อหรือรถตุ๊กตุ๊ก รูปแบบการขนส่งอย่างหนึ่ง การขนส่งในประเทศไทย มีความหลากหลายและยังไม่มีความเป็นระเบียบ การขนส่งแต่ละประเภทไม่มีความโดดเด่นมากนัก ได้แก่ ระบบการขนส่งทางถนน ที่เป็นหลักของการขนส่งสินค้าทั่วประเทศ การขนส่งทางรถประจำทางที่มีการขนส่งระยะไกลไปยังจังหวัดต่าง ๆ มีการใช้รถจักรยานยนต์เพื่อใช้การเดินทางระยะสั้นแทนการใช้จักรยาน การใช้รถยนต์ส่วนตัวซึ่งมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมีส่วนทำให้การจราจรเกิดความแออัดทั้งในกรุงเทพมหานครและเมืองสำคัญต่าง ๆ นอกจากนี้ ยังมีการขนส่งระบบรางที่เชื่อมต่อไปยังภูมิภาคต่าง ๆ แต่ยังมีความล่าช้า ถึงแม้จะมีแผนขยายการให้บริการที่มีรถไฟความเร็วสูงไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศก็ตาม การขนส่งทางอากาศภายในประเทศ ซึ่งในปัจจุบันยังมีสายการบินไม่มากนัก แต่ยังมีความโดนเด่นด้วยวิธีการขนส่งที่มีความแปลกใหม่จากสายตาของชาวต่างประเทศ เช่น รถตุ๊กตุ๊ก รถสองแถว เป็นต้น ทั้งนี้ สถาบันการจัดการนานาชาติ (International Institute for Management Development: IMD) ได้จัดอันดับความสามารถในการแข่งขันด้านโครงสร้างพื้นฐานการคมนาคมให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 28 จาก 64 เขตเศรษฐกิจ[1] ทางราง[แก้]รถไฟทางไกล[แก้]การรถไฟแห่งประเทศไทยเปิดให้บริการเดินรถในความยาวเส้นทางทั้งสิ้น 4,507 กิโลเมตร จำนวน 666 สถานี/ที่หยุดรถ ในรางขนาด 1 เมตร (เป็นทางเดี่ยว 4,097 กิโลเมตร ทางคู่ 303 กิโลเมตร และทางสาม 107 กิโลเมตร) รายชื่อจังหวัดที่มีทางรถไฟทางไกล การเชื่อมต่อกับประเทศเพื่อนบ้านในปัจจุบัน
รถไฟความเร็วสูง[แก้]ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง โดยคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการสายแรกได้ภายใน พ.ศ. 2569[5] รถไฟฟ้าในเขตเมือง[แก้]ในปัจจุบัน ระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนมีให้บริการเฉพาะในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเท่านั้น โดยเปิดให้บริการเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2542 ในเส้นทางรถไฟฟ้าบีทีเอส สายสุขุมวิท (หมอชิต–อ่อนนุช) และสายสีลม (สนามกีฬาฯ–สะพานตากสิน)[6] ในปัจจุบันมีรถไฟฟ้าที่เปิดให้บริการแล้วทั้งสิ้น 5 สาย สายล่าสุดที่เปิดให้บริการคือ สายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ซึ่งเปิดให้บริการใน พ.ศ. 2559[7] นอกจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑลแล้ว ยังมีโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนในเมืองใหญ่อื่น ๆ อาทิ ขอนแก่น[8] ภูเก็ต[9][10] นครราชสีมา[11] เชียงใหม่ หาดใหญ่ รถราง[แก้]ดูบทความหลักที่: รถรางในประเทศไทย ในอดีตประเทศไทยก็เคยมีการใช้รถราง โดยรถรางกรุงเทพเปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2431 โดยเปิดสายบางคอแหลมเป็นสายแรกเมื่อเริ่มแรกใช้กำลังม้าลากรถไปตามราง ทำให้ใช้เวลาการเดินทางมาก จึงไม่เป็นที่นิยม ภายหลังเปลี่ยนมาใช้กำลังไฟฟ้าเมื่อ เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2437 และจนถึงวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2511 ได้ยกเลิกการเดินรถทุกเส้นทางอย่างถาวร ส่วนเส้นทางในต่างจังหวัดมีสองสายคือ รถรางลพบุรี และทางรถไฟสายปากน้ำ ที่ใช้รถรางวิ่งแทนรถไฟตั้งแต่ พ.ศ. 2468 ทางถนน[แก้]โครงข่ายถนน[แก้]ตรอกและซอย[แก้]ตรอก เป็นประเภทของถนนที่มีขนาดเล็กที่สุด ซึ่งบางครั้งยานพาหนะขนาดใหญ่อย่างรถยนต์ไม่สามารถเข้าถึงได้ มักจะพบการขนส่งโดยใช้วิธีเดินเท้า จักรยาน หรือรถจักรยานยนต์ ส่วนมากแล้วจะอยู่ในเขตเมือง ส่วนซอย จะเป็นถนนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาระดับหนึ่ง บางแห่งรถยนต์สามารถเข้าได้ แต่ไม่สามารถวิ่งสวนทางกันได้ จึงมีการจัดการจราจรให้เดินรถทางเดียว หรือบางแห่งเป็นซอยที่มีขนาดใหญ่เทียบเท่าถนน สำหรับชื่อของซอย มักจะตั้งชื่อตามถนนที่ซอยนั้นแยกออกมา เช่น ซอยสุขุมวิท 55 หรือ ถนนทองหล่อ เป็นซอยที่แยกออกมาจากถนนสุขุมวิท เป็นต้น ถนน[แก้]ถนนมีทั้งถนนในเมืองและถนนที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัด ถนนบำรุงรักษาโดยหน่วยงานท้องถิ่น หรือถนนในเมืองบางแห่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงข่ายทางหลวง ซึ่งจะมีการกำกับรหัสหมายเลขทางหลวงนั้น ๆ ในจังหวัดสุพรรณบุรีเป็นจังหวัดที่มีการลงทุนในเรื่องโครงข่ายถนนในเมืองและในจังหวัดเป็นเงินจำนวนมาก ทางหลวง[แก้]ทางหลวงในประเทศไทยมีหลายประเภท ได้แก่ ทางหลวงพิเศษ ทางหลวงแผ่นดิน ทางหลวงชนบท ทางหลวงท้องถิ่น ทางหลวงสัมปทาน ระบบทางหลวงในประเทศไทยมีความยาวรวม 64,600 กิโลเมตร ลาดยางแล้ว 62,985 กิโลเมตร และยังไม่ได้ลาดยาง 1,615 กิโลเมตร (ข้อมูลปี พ.ศ. 2539) ทางหลวงแผ่นดินสายหลักในประเทศไทย ได้แก่ ถนนพหลโยธิน ถนนมิตรภาพ ถนนสุขุมวิท และถนนเพชรเกษม ทางหลวงบางแห่งได้รับการกำหนดให้เป็นทางหลวงสายเอเชีย นอกจากนี้ยังมีทางหลวงพิเศษ ซึ่งเป็นทางหลวงประเภทหนึ่ง แต่มีการควบคุมการเข้าออก และเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ทางหลวงพิเศษและทางพิเศษ[แก้]ทางพิเศษเป็นถนนที่มีการควบคุมการเข้าออก และต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาจราจรติดขัดในเขตเมืองสำคัญต่าง ๆ แต่ได้ดำเนินการก่อสร้างเฉพาะกรุงเทพมหานครและปริมณฑลเท่านั้น ส่วนทางพิเศษในเมืองสำคัญต่าง ๆ ยังเป็นโครงการและยังไม่ได้ดำเนินการก่อสร้าง ส่วนทางหลวงพิเศษเป็นโครงข่ายทางหลวงที่เชื่อมโยงระหว่างเมืองในภูมิภาคต่าง ๆ ซึ่งในปัจจุบันมีทางหลวงพิเศษเพียง 2 สาย ได้แก่ ทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 และถนนกาญจนาภิเษก การขนส่งผู้โดยสารทางถนน[แก้]รถประจำทาง[แก้]ดูบทความหลักที่: รถโดยสารประจำทางในประเทศไทย รถโดยสารระหว่างจังหวัด[แก้]รถโดยสารระหว่างจังหวัดให้บริการโดย บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) และบริษัทเอกชนอีกหลายบริษัท โดยมีสถานีรถโดยสารในกรุงเทพมหานคร สามแห่ง คือ หมอชิต2 สถานีขนส่งสายใต้ และสถานีขนส่งเอกมัย รถโดยสารระหว่างประเทศ[แก้]บขส. ได้เปิดการเดินรถไปยังประเทศลาว และประเทศกัมพูชา นอกจากนี้ยังมีบริษัทเดินรถอีกหลายแห่งที่เปิดเส้นทางระหว่างประเทศ รถโดยสารประจำทาง[แก้]รถประจำทางเป็นระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่อย่างหนึ่งในไทย โดยเฉพาะในเมืองใหญ่เช่นกรุงเทพมหานคร ระบบรถเมล์ประจำทางให้บริการโดย องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก) ถือเป็นระบบที่ขนส่งผู้โดยสารระบบหนึ่ง และยังมีอีกหลายจังหวัดที่มีรถโดยสารประจำทาง รถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษ[แก้]ประจำทางด่วนพิเศษบริการเฉพาะกรุงเทพและปริมณฑลได้แก่ รถโดยสารประจำทางด่วนพิเศษในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล[12] รถโดยสารเข้าเมือง[แก้]เป็นรถโดยสารที่ขนส่งผู้โดยสารจากท่าอากาศยานเข้ามาในเขตเมือง รถประจำทางประเภทอื่น[แก้]ประเทศไทยยังมีรถประจำทางอีกจำนวนมากที่ให้บริการ เช่น สองแถว กระป้อ เป็นต้น รถวิ่งชมเมือง[แก้]กรุงเทพมหานคร เป็นเมืองเดียวที่มีรถวิ่งชมเมืองบริการนักท่องเที่ยว ซึ่งประกอบด้วย 2 เส้นทางคือ รถรางสายรอบกรุงรัตนโกสินทร์[13] และรถรางเยาวราช[14](ปิดบริการชั่วคราว) รถรับจ้าง[แก้]รถรับจ้างมีหลายประเภท เช่น รถแท็กซี่ ระบบมิเตอร์บริการในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล นครราชสีมา อุดรธานี ขอนแก่น ชลบุรี ภูเก็ต หาดใหญ่ นครศรีธรรมราช อุบลราชธานี และเชียงใหม่ รวมทั้งมอเตอร์ไซค์รับจ้างตามหน้าปากซอยและสถานที่สำคัญ ตุ๊กตุ๊กและรถสามล้อ มีให้บริการเช่นกัน อุบัติเหตุทางถนน[แก้]ทางอากาศ[แก้]ท่าอากาศยาน[แก้]ท่าอากาศยาน มีจำนวนทั้งสิ้น 106 แห่ง (ข้อมูลปี พ.ศ. 2542) ท่าอากาศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและรองรับผู้โดยสารได้มากที่สุดในประเทศไทย คือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นอกจากนี้ ยังมีท่าเฮลิคอปเตอร์ ซึ่งมีจำนวนทั้งหมด 17 แห่ง (ข้อมูลปี พ.ศ. 2550) จำนวนท่าอากาศยานในประเทศไทย จำแนกตามสภาพและความยาวของทางวิ่ง
ท่าอากาศยานนานาชาติ[แก้]ในปี พ.ศ. 2561 ท่าอากาศยานที่รับผู้โดยสารจากต่างประเทศมายังประเทศไทยมีทั้งหมด 11 ท่าอากาศยาน โดย ท่าอากาศยานหัวหินเป็นท่าอากาศยานล่าสุดที่ให้บริการใน เส้นทางระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย โดยท่าอากาศยานนานาชาติอุดรธานี และท่าอากาศยานนานาชาติอุบลราชธานี ยกเลิกการรับผู้โดยสารจากต่างประเทศในปีดังกล่าว ต่อไปนี้เป็นรายชื่อท่าอากาศยานที่การบินระหว่างประเทศในปี พ.ศ. 2561
ท่าอากาศยานในประเทศไทยที่สามารถรับเครื่องบิน ขนาดใหญ่ชนิด โบอิง 747 มีเพียง 6 ท่าอากาศยานโดยทั้งหมด การบินไทย เครื่องทำการบินทางพาณิชย์ ได้แก่
ท่าอากาศยานที่สามารถรับเครื่องบินขนาดใหญ่ แอร์บัส เอ380 มีเพียง 4 ท่าอากาศยาน แต่ให้บริการเชิงพาณิชย์ที่เดียวคือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
สายการบิน[แก้]ในประเทศไทยมีสายการบินจำนวนมาก โดยมีการบินไทยเป็นสายการบินที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติ ทางน้ำ[แก้]เส้นทางน้ำสายสำคัญ 3,999 กม. 3,701 กม. เป็นเส้นทางที่มีน้ำลึกไม่ต่ำกว่า 0.9 เมตรตลอดทั้งปี นอกจากนี้ยังมีเส้นทางเล็กๆ อีกจำนวนมาก ที่ใช้เรือขนาดเล็กเช่นเรือหางยาวในการเดินเรือ การขนส่งในแม่น้ำลำคลอง[แก้]มีเรือโดยสารให้บริการในแม่น้ำเส้นทางต่าง ๆ จำนวนมากมายหลายบริษัท เช่น เรือด่วนเจ้าพระยา หรือเรือหางยาว เรือข้ามฟาก ส่วนเรือโดยสารในคลอง เช่น เรือโดยสารคลองแสนแสบ ให้บริการในคลองแสนแสบ ซึ่งสามารถเดินทางได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย ท่าเรือและเมืองท่า[แก้]ปัจจุบันท่าเรือแหลมฉบังเป็นท่าเรือเดียวที่มีผู้โดยสารเดินทางไปกลับจากท่าเรือแหลมฉบังไปยังประเทศสิงคโปร์ และประเทศสิงคโปร์มายังท่าเรือแหลมฉบัง
เรือเดินสมุทร[แก้]เรือเดินสมุทรมีทั้งหมด 299 ลำ (ขนาดใหญ่เกิน 1,000 ตันกรอส) หรือคิดเป็นขนาด 1,834,809 ตันกรอส หรือ 2,949,558 DWT (ข้อมูลปี พ.ศ. 2542) แบ่งออกเป็น
ทางท่อ[แก้]
อ้างอิง[แก้]
แหล่งข้อมูลอื่น[แก้]
|