ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตอน 5 ยุทธหัตถี - King Naresuan 5 ดูหนังออนไลน์ | ภายหลังจากที่สมเด็จพระนเรศวร ทรงประกาศเอกราชที่เมืองแครง พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง ก็ให้จัดทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาเป็นหลายทัพ นักแสดง: พันโท วันชนะ สวัสดี, นพชัย ชัยนาม, ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ ผู้กำกับ: หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ประเภท: action 369movies เว็บไซต์ดูหนังออนไลน์ดูง่ายที่สุด ไม่ว่าจะเป็นหนังพากย์ไทย หนังซับไทย หนังอังกฤษ หนังฝรั่ง หนังมาสเตอร์ หนังเอเชีย ดูหนังออนไลน์ ดูหนังฟรี ไม่เสียเงินใดๆ ดูหนังไม่มีโฆษณา หนังเต็มเรื่อง หนังใหม่อัพเดททุกวัน ดูหนังจุใจไม่เสียเงิน ดูแบบVIP อ่านต่อดูหนัง หนังใหม่ออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นหนังแอคชั่น หนังเวทย์มนตร์ หนังบู๊ หนังรักโรแมนติก หนังมากมายให้เลือกดู ไม่ตัวเล่นหลัก ตัวเล่นสำรอง หนังผจญภัย หนังแฟนตาซี หนังเต็มเรื่องมาสเตอร์ ดูง่ายดูผ่านทุกระบบ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ ทีวีอื่นๆ
หากคุณไม่สามารถดูวิดีโอนี้เบราว์เซอร์ของคุณไม่สนับสนุนวิดีโอ HTML5 หากต้องการดูวิดีโอนี้โปรดเปิดใช้งานอัปเกรดเป็นเว็บเบราเซอร์ที่JavaScript supports HTML5 video #ดูหนังฟรี #ดูหนัง #ดู หนัง ออนไลน์ hd #หนังชนโรง #ซูม 33,152 Views ประเภท: ลักษณะ: ข่าวการผลัดแผ่นดินของอยุธยารู้ไปถึงพระเจ้านันทบุเรง พระองค์สำคัญว่าอาณาจักรสยามจะไม่เป็นปกติสุขเป็นช่องชวนชิงเชิงจึงให้มังสามเกียดอุปราชเจ้าวังหน้ากรีฑาทัพไปตีกรุงศรีอยุธยาอีก ข้างสมเด็จพระนเรศฯทรงโปรดให้พระราชมนูเป็นทัพหน้าขึ้นไปดูกำลังข้าศึกถึงหนองสาหร่าย ทัพหน้าพระราชมนูปะทะเข้ากับทัพพม่า แต่กำลังข้างพระราชมนูน้อยกว่าจึงแตกพ่ายถอยลงมา สมเด็จพระนเรศฯทราบความจึงออกอุบายให้ทัพข้าศึกไล่เตลิดลงมาจนเสียกระบวนแล้วจึงทรงนำกำลังออกยอทัพข้าศึก ครั้งนั้นช้างทรงของสมเด็จพระนเรศฯ นามเจ้าพระยาไชยานุภาพ และช้างทรงของสมเด็จพระเอกาทศรถคือเจ้าพระยาปราบไตรจักรต่างตกน้ำมัน วิ่งร่าเบกพลฝ่าเข้าไปในทัพพม่ารามัญกลางวงล้อมข้าศึกและหยุดอยู่หน้าช้างพระมหาอุปราชา สมเด็จพระนเรศฯ จึงประกาศท้าพระมหาอุปราชแห่งหงสาให้ออกกระทำยุทธหัตถีเป็นพระเกียรติยศแก่แผ่นดิน ด้วยขัตติยมานะพระมหาอุปราชาก็ไสพระคชาธารออกทำคชยุทธด้วยสมเด็จพระนเรศฯ ขณะที่มังจาปะโร พระพี่เลี้ยงองค์สมเด็จพระมหาอุปราชได้ออกทำยุทธหัตถีกับสมเด็จพระเอกาทศรถสัประยุทธ์กันเป็นสองคู่ สู่มหาศึกคชยุทธ์ที่มีแผ่นดินเป็นเดิมพัน ดูหนังฟรี เรื่อง King Naresuan 5 (2014) ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 5 ตอน ยุทธหัตถีชื่อภาพยนตร์ : King Naresuan 5 (2014) ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 5 ตอน ยุทธหัตถี แนว/ประเภท : History (ประวัติศาสตร์) ผู้กำกับภาพยนตร์ : หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล ผู้เขียนบทภาพยนตร์ : หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล นักแสดง : วันชนะ สวัสดี, จักรกฤษณ์ อำมะรัตน์, อินทิรา เจริญปุระ, นพชัย ชัยนาม, สรพงษ์ ชาตรี เรื่องย่อ : ยุทธหัตถี” มหาศึกสงครามแห่งประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่สุดของผืนแผ่นดิน ภายหลังจากที่ “สมเด็จพระนเรศวร” ทรงประกาศเอกราชที่เมืองแครง “พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง” ก็ให้จัดทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาเป็นหลายทัพ แต่ก็หามีทัพใดทำการสำเร็จไม่ พระเจ้านันทบุเรงเกรงว่าหากหงสาวดีมิอาจกำราบอยุธยาลงได้ นานไปเหล่าเจ้าประเทศราชอื่นจะเอาเยี่ยงพากันแข็งข้อต่อหงสา ในปีพุทธศักราช 2129 พระองค์จึงทรงยกทัพใหญ่เป็นทัพกษัตริย์ไพร่พลกว่า 2 แสนข้ามแดนเข้าตีกรุงศรีอยุธยาหมายชิงคืนเป็นประเทศราช ครั้งนั้นสมเด็จพระนเรศทรงใช้พระนครเป็นยุทธภูมิรับศึก และวางยุทธศาสตร์ตั้งรับในเชิงรุก คือมิทรงปล่อยให้ทัพหงสาที่ล้อมกรุงเป็นฝ่ายรุกรบแต่ฝ่ายเดียว แต่ทรงแต่งกองโจรบุกปล้นค่ายศัตรูให้ต้องตกเป็นฝ่ายรับจนมิอาจรุกเข้าเหยียบถึงคูพระนคร เมื่อล้อมกรุงนานเข้า ทัพหงสาวดีก็ขาดเสบียง สมเด็จพระนเรศก็ทรงนำเรือปืนขึ้นไปยิงถล่มค่ายหลวงพระเจ้านันทบุเรงจนพม่าแตกระส่ำระสาย จอมทัพพม่าบาดเจ็บสาหัสถึงกับเสียพระสิริโฉมและทุพพลภาพ พม่าต้องถอนทัพกลับหงสาวดี และขณะเมื่อค่ายหลวงพม่าแตกนั้น “แม่นางเลอขิ่น” ก็ได้ช่องช่วย “พระราชมนู” จากพันธนาการคืนเข้าอยุธยาได้ ประเทศ: ไทย วันเปิดตัว: May 29, 2014 ภาษา: ไทย ความยาว: 1 ชั่วโมง 34 นาที ผู้กำกับ: Chatrichalerm Yukol นักแสดง: Jukrit Ammarat, Nopachai Chaiyanam, Inthira Charoenpura, Sorapong Chatree, Komgrit Intrasawan
ตํานานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 5 ยุทธหัตถีเรื่องย่อ เรื่องย่อ ในปี พ.ศ. 2129 พระเจ้านันทบุเรงทรงแค้นเคืองที่ต้องปราชัยต่อสมเด็จพระนเรศฯ อย่างย่อยยับ ทั้งต้องเสียไพร่พลและพระสิริโฉม จึงระบายความแค้นนั้นไปที่องค์พระสุพรรณกัลยา เมื่อสมเด็จพระมหาธรรมราชาพระราชบิดาทราบความก็ให้โทมนัสด้วยสำนึกว่าชะตากรรมของพระราชธิดาและแผ่นดินอยุธยาที่ถูกกระทำการย่ำยีก็ด้วยเพราะพระองค์ทรงแปรพักตร์ไปเข้าข้างศัตรู จนตรอมพระทัยเสด็จสวรรคต สมเด็จพระนเรศฯ ทรงมีพระชนมายุ 31 พรรษา จึงเสด็จขึ้นเสวยราชสมบัติครองกรุงศรีอยุธยาสืบต่อจากพระราชบิดา สมเด็จพระมหาธรรมราชา หรือ (สมเด็จพระสรรเพ็ชญ์ที่ 1) ข่าวการผลัดแผ่นดินของกรุงศรีอยุธยารู้ไปถึงพระเจ้านันทบุเรง แห่งกรุงหงสาวดี พระเจ้านันทบุเรง พระราชโอรสในพระเจ้าบุเรงนอง สำคัญว่าราชอาณาจักรสยาม หรืออาณาจักรอยุธยาจะไม่เป็นปกติสุขเป็นช่องชวนชิงเชิง จึงโปรดให้พระราชบุตร พระมังสามเกียด หรือ(พระมังกะยอขวาที่ 1) พระมหาอุปราชเจ้าวังหน้ากรีฑาทัพไปตีกรุงศรีอยุธยาอีกคำรบ นำกองทัพทหาร 240,000 นาย (สองแสนสี่หมื่นนาย) มาตีกรุงศรีอยุธยาหมายจะชนะศึกในครั้งนี้ สมเด็จพระนเรศวร ทรงทราบว่า พม่ายกทัพใหญ่มาตี จึงทรงเตรียมไพร่พล มีกำลัง 100,000 นาย (หนึ่งแสนนาย) เดินทางออกจากบ้านป่าโมก อ่างทองไปสุพรรณบุรี ข้ามน้ำตรงท่าท้าวอู่ทอง ลพบุรี และตั้งค่ายหลวงบริเวณหนองสาหร่าย โดยสมเด็จพระนเรศวรโปรดให้พระราชมนูแต่งพลเป็นทัพหน้าขึ้นไปลองกำลังข้าศึกถึงหนองสาหร่าย ทัพหน้าพระราชมนูปะทะเข้ากับทัพพม่าถึงขั้นตะลุมบอน แต่กำลังข้างพระราชมนูน้อยกว่าจึงแตกพ่ายถอยลงมาเป็นอลหม่าน สมเด็จพระนเรศฯทราบความจึงออกอุบายให้ทัพข้าศึกไล่เตลิดลงมาจนเสียกระบวนแล้วจึงทรงนำกำลังออกยอทัพข้าศึก ครั้งนั้นพระคชสารทรงของสมเด็จพระนเรศฯ นามเจ้าพระยาไชยานุภาพ และพระคชสารทรงของสมเด็จพระเอกาทศรถคือเจ้าพระยาปราบไตรจักรต่างตกมัน วิ่งเตลิดแบกพลฝ่าเข้าไปในทัพพม่ารามัญกลางวงล้อมข้าศึก และหยุดอยู่หน้าช้าง พระมังสามเกียดพระมหาอุปราชา พระองค์ทรงทอดพระเนตรเห็นพระมหาอุปราชาทรงพระคชสารอยู่ในร่มไม้กับเหล่าพระยาขุนศึก จึงทราบได้ว่าพระคชสารทรงของสองพระองค์หลงถลำเข้ามาถึงกลางกองทัพข้าศึก และตกอยู่ในวงล้อมข้าศึกแล้ว แต่ด้วยพระปฏิภาณไหวพริบของสมเด็จพระนเรศวร ทรงเห็นว่าเป็นการเสียเปรียบข้าศึกจึงไสช้างเข้าไปใกล้ แล้วตรัสถามด้วยคุ้นเคยมาก่อนแต่วัยเยาว์ว่า “พระเจ้าพี่เราจะยืนอยู่ใยในร่มไม้เล่า เชิญออกมาทำยุทธหัตถีด้วยกัน ให้สมพระเกียรติยศไว้ในแผ่นดินเถิด ภายหน้าไปไม่มีพระเจ้าแผ่นดินที่จะได้ยุทธหัตถีแล้ว” พระมังสามเกียดพระมหาอุปราชาได้ยินดังนั้น จึงไสพระคชสารนามว่า พลายพัทธกอเข้าชนเจ้าพระยาไชยานุภาพเสียหลัก พระมังสามเกียดพระมหาอุปราชาทรงฟันสมเด็จพระนเรศวรด้วยพระแสงของ้าว แต่สมเด็จพระนเรศวรทรงเบี่ยงหลบทัน จึงฟันถูกพระมาลาหนังขาด จากนั้นเจ้าพระยาไชยานุภาพชนพลายพัทธกอเสียหลัก สมเด็จพระนเรศวรทรงฟันด้วยพระแสงของ้าวถูกพระมังสามเกียด พระมหาอุปราชาเข้าที่อังสะขวา สิ้นพระชนม์อยู่บนคอช้าง ส่วนสมเด็จพระเอกาทศรถทรงฟันเจ้าเมืองจาปะโรเสียชีวิตเช่นกัน พม่าจึงยกทัพกลับกรุงหงสาวดีไป นับแต่นั้นมาก็ไม่มีกองทัพใดกล้ายกมากล้ำกรายกรุงศรีอยุธยาอีกเป็นระยะเวลาอีกยาวนาน |