Show
MRI ย่อมาจาก Magnetic Resonance Imaging คือ การตรวจร่างกายโดยใช้สนามแม่เหล็กความเข้มสูงและคลื่นวิทยุความถี่จำเพาะร่วมกับการคำนวณด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ ทำให้ได้ภาพอวัยวะ เนื้อเยื่อ กระดูกและภาพเสมือนของส่วนต่างๆ ภายในร่างกายโดยไม่ต้องใช้รังสี จึงไม่ก่อให้เกิดอันตรายจากรังสีตกค้างและไม่สร้างความเจ็บปวดใดๆ ต่อผู้รับการตรวจ MRI เป็นการตรวจวินิจฉัยที่มีความถูกต้องและแม่นยำสูง เนื่องจากให้ความแตกต่างของเนื้อเยื่อได้ดี ทำได้หลายระนาบ สามารถใช้ตรวจได้ทุกระบบของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของระบบสมองและกระดูกสันหลัง เครื่อง MRI มีลักษณะคล้ายอุโมงค์ขนาดใหญ่ล้อมรอบด้วยสนามแม่เหล็กลึกประมาณ 1-2 เมตร และมีเตียงที่เลื่อนเข้าออกในอุโมงค์ได้ โดยเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้สร้างภาพเสมือนจะตั้งอยู่นอกห้องตรวจ MRI ควบคุมโดยนักรังสีเทคนิค และรังสีแพทย์ MRI ตรวจอะไรได้บ้างMRI of Nervous Systemตรวจความผิดปกติของระบบสมอง ไขสันหลัง เส้นประสาทในร่างกาย
MRI of Musculoskeletal Systemตรวจความผิดปกติของกระดูกสันหลัง ระบบกล้ามเนื้อและข้อต่อ
MRI มีข้อดีอย่างไร?
MRI กับ CT Scan ต่างกันอย่างไร?MRIการตรวจคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
CT SCANการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์
Home » Medical Technology and examination procedures » เครื่องตรวจวินิจฉัยโรคด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า MRI การสร้างภาพด้วยเรโซแนนซ์แม่เหล็ก หรือการตรวจเอกซเรย์ด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เรียกอีกชื่อหนึ่งได้ว่า MRI (ย่อมาจาก Magnetic resonance imaging, MRI) ซึ่งเครื่อง MRI คือเทคนิคการสร้างภาพทางการแพทย์ที่ใช้ในรังสีวิทยาเพื่อการตรวจทางกายวิภาคและสรีรวิทยาของร่างกายทั้งในด้านสุขภาพและโรคต่างๆ โดยเครื่องตรวจที่ใช้สนามแม่เหล็กและคลื่นวิทยุความเข้มสูงในการสร้างภาพเหมือนจริงของอวัยวะภายในต่างๆของร่างกาย โดยเฉพาะสมอง หัวใจ กระดูก-กล้ามเนื้อและส่วนที่เป็นมะเร็ง ด้วยคอมพิวเตอร์รายละเอียดและความคมชัดสูง เป็นภาพตามระนาบได้ทั้งแนวขวาง แนวยาวและแนวเฉียงเป็น 3 มิติ ภาพที่ได้จึงจะชัดเจนกว่า การถ่ายภาพรังสีส่วนตัดอาศัยคอมพิวเตอร์ หรือ CT Scan ทำให้แพทย์สามารถตรวจวินิจฉัยความผิดปกติในร่างกายได้อย่างแม่นยำ การตรวจทางการแพทย์ด้วยเครื่องมือชนิดนี้ไม่ก่อให้เกิดความเจ็บปวดใดๆแก่ร่างกายและไม่มีอันตรายจากรังสีตกค้าง ความผิดปกติของร่างกายที่เครื่อง MRI สามารถตรวจเจอได้ เช่น โรคหลอดเลือดสมอง เส้นเลือดหัวใจตีบ ภาวะหัวใจขาดเลือดและเนื้องอกในสมอง โดยเฉพาะโรคหลอดเลือดสมองซึ่งอาจจะเกิดจากความผิดปกติที่เห็นได้รอบศีรษะความจำเป็นของการตรวจโดยใช้เครื่องเอ็มอาร์ไอ MRI Magnetic Resonance Imaging ข้อพึงระวังก่อนเข้ารับการตรวจ
MRI
inquiries and service at : Chularat 3 International Hospital 88/8-9 Theparak Rd. Km.14.5 TumbonBangpla AmperPangplee Samutprakarn 10540 CT scan สมอง กับ MRI ต่างกันอย่างไรการตรวจ CT scan จะใช้วิธีการปล่อยลำแสง x-ray ผ่านลำตัวผู้รับการตรวจเพื่อให้เกิดเงาภาพบนฉากที่รองรับลำแสงที่อยู่อีกด้านหนึ่งของลำตัว ในขณะที่ MRI ใช้วิธีการสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้ารอบตัวผู้รับการตรวจ และคอยตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของพลังงานในสนามแม่เหล็กนั้น โดยไม่มีการใช้ลำแสง x-ray โดยการสัมผัสคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าดังกล่าว ใน ...
เพราะเหตุใด การทำ MRI จึงมีอันตรายน้อยกว่า CT Scan- การตรวจ CT ต้องมีการฉีดสารทึบแสงให้กับผู้ป่วยเพื่อเพิ่มความชัดเจนของภาพ ซึ่งมีส่วนประกอบของไอโอดีน และมีโอกาสทำให้เกิดพิษกับไตได้ - การตรวจ MRI สารเพิ่มความชัดของภาพ จะเป็น Gadolinium ไม่มีไอโอดีนเป็นส่วนประกอบ จึงไม่ทำให้เกิดพิษกับไต
ภาพที่ได้จากเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์แตกต่างจากภาพที่ได้จากเครื่องเอ็กซเรย์ทั่วไปอย่างไรความแตกต่างระหว่างการเอกซเรย์ธรรมดากับเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ คือเอกซเรย์ธรรมดา จะให้ภาพการตรวจเป็นภาพ 2 มิติ คือกว้าง และยาว ไม่สามารถบอกความลึกได้ และจะให้ภาพเป็นภาพรวมของทั้งอวัยวะ ดังนั้นจึงเป็นข้อจำกัดของเอกซเรย์ธรรมดา เมื่อเปรียบเทียบกับเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ซึ่งใช้เทคโนโลยีในการตรวจที่ซับซ้อนกว่าเอกซเรย์ธรรมดามาก ซึ่ง ...
CT brain Non Contrast คืออะไรCT brain (non-contrast) ใช้วินิจฉัยโรคหลอดเลือดสมองทั้งที่ตีบและแตก CTA brain and neck และ Multiphase CTA brain ใช้หาตำแหน่งของหลอดเลือดแดงที่ตีบหรืออุดตัน รวมทั้งยังสามารถคาดคะเนผลการรักษาภาวะลิ่มเลือดอุดตัน หลังการใส่สายสวนหลอดเลือดแดงเพื่อเอาลิ่มเลือดออก
|