หน้า ดุ ทํา ไง ดี

วันนี้พิมจะมีรีวิวตาสองชั้นสวยเป็นธรรมชาติที่ทำมากับ Someko ให้ทุกคนได้ดูแบบพลีชีพกันไปเลย (พลีชีพที่รูปก่อนทำตา OMG 555)

หน้า ดุ ทํา ไง ดี

ก่อนทำตา - ตาสองชั้นจะไม่เท่ากัน ชั้นตาหลบใน ทำให้หน้าดุ

โชว์รูปก่อนแล้ว 1 ภาพซ้ายมือจะเป็นตอนก่อนทำตาสองชั้นนะคะ จะเป็นคนที่หน้าตาดูดุตลอดเวลา ไม่มีความหวานเลย 555 ชั้นตาพอมีบ้าง แต่ว่าชั้นตาไม่ชัดและค่อนไปทางชั้นตาหลบใน เลยอยากทำตาสองชั้นให้หน้าดูหวานขึ้น ตาดูโตขึ้น

หน้า ดุ ทํา ไง ดี

ทำตาสองชั้นครบ 1 ปีกว่าๆ ค่ะ ให้ดูแบบหน้าสดเลย ชั้นตาสวยเนียนมาก

ตอนที่ตัดสินใจไปปรึกษาทำตาสองชั้นกับทาง  Someko ประทับใจที่คุณหมอให้คำปรึกษาได้ดีมากๆเลย บอกปัญหาชั้นตาของพิมได้อย่างตรงจุดตรงใจพิมมาก หมอบอกว่าถ้าทำตาสองชั้นแล้วยังไงหน้าหวานขึ้นแน่นอน ด้วยเทคนิคทำตาสองชั้น Diamind Fix ของหมอด้วย ชั้นตาจะยิ่งโค้งสวย คมชัด รับกับรูปตา คุณหมอบอกไม่ต้องกังวลเลยแล้วก็คุณหมอจะมีปรับแต่งไขมันเปลือกตาใหม่ กับปรับแต่งหนังตาส่วนเกินให้ด้วย ชั้นตาจะยิ่งสวยขึ้น เปลือกตาจะได้ไม่ตุ่ย

หน้า ดุ ทํา ไง ดี

อันนี้แบบรูปสุดท้ายก่อนทำตาสองชั้นค่ะ โชว์ชั้นตาชัดๆว่าไม่เท่ากันเยอะมาก

พิมกับคุณหมอก็ช่วยกันเลือกขนาดชั้นตาค่ะ คุณหมอก็ใช้เครื่องมือจำลองให้ดูว่าชั้นประมานไหนเป็นแบบไหน ดีมากๆเลย ทำให้พิมเห็นภาพชัดขึ้นว่าทำตาสองชั้นแล้วหน้าจะเป็นยังไง

ใครอยากดูแบบภาพเคลื่อนไหว จัดไปค่ะ อัพเดทหลังทำตารายวัน

ด้วยความที่ปรึกษาคุณหมอแล้วคลิ๊ก ใช่เลย ที่นัดปรึกษาทำตาคลินิกอื่นไว้พิมยกเลิกหมดเลยค่ะ จองคิวทำตาสองชั้นที่ someko เลย วันที่ผ่าตัดทำตาสองชั้นจริงๆก็ตื่นเต้นนะคะ เพราะเป็นการทำศัลยกรรมครั้งแรก แต่บรรยากาศดีมาก ทั้งคุณหมอที่เป็นกันเอง ใจดี พี่ๆพยาบาลที่ค่อยให้กำลังใจ ชวนคุย ชิลขึ้นเยอะเลยค่ะ 

หน้า ดุ ทํา ไง ดี

ทำตาสองชั้นเสร็จทันนี้ แผลเนียนประมาณนี้ 

ระหว่างผ่าตัดทำตาคุณหมอก็จะคอยถามตลอดว่าเจ็บรึเปล่า เจ็บแล้วบอกได้นะ หมอเติมยาชาเพิ่มให้ แล้วก็จะมีให้พิมหลับตา+ลืมตาเป็นระยะๆ ประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ เสร็จเรียบร้อยค่ะ ตาสองชั้นของพิม พี่พยาบาลปิดแผลให้แล้วก็พามาประคบเย็นต่อ 15 นาที ชั้นตาจะได้ไม่บวมช้ำมาก แล้วก็กลับบ้านได้เลยค่ะ (ยาและคำแนะนำต่างๆ พี่เซลล์เอาให้และแจ้งรายละเอียดไว้เรียบร้อยแล้วก่อนผ่าตัด) 

หน้า ดุ ทํา ไง ดี

หลังทำตาวันที่ 1 นะคะ บวมกรุบ

1 วัน หลังทำตาสองชั้น พอเอาที่แปะแผลออกปุ๊ป มองกระจกปั๊ป 555 บวมกรุบ แต่ช้ำพิมว่าช้ำไม่มาก มีแดงๆนิดหน่อย เคยเห็นของเพื่อนตอนทำตาสองชั้น โอโหม่วงอมเขียวมาตั้งแต่ระยะ 100 เมตร แต่ที่บวมเยอะ อันนี้คุณหมอก็บอกไว้ตอนผ่าตัดค่ะว่าอาจบวมเยอะนิดนึงน้า เพราะว่าหมอเติมยาชาไปเยอะ คือพิมขอเติมเองแหละ (พิมขี้กลัว คือรู้สึกเจ็บๆนิดนึงก็ขอยาชาเลยค่ะ 555 ทนบวมได้ แต่ทนเจ็บไม่ได้นะ) 

หน้า ดุ ทํา ไง ดี

sergica ตัวช่วยลดบวมของพิมค่ะ

แต่เรื่องอาการบวมช้ำไม่ค่อยห่วงค่ะ เพราะพิมเตรียมตัวมาดี มีตัวช่วยลดบวมช้ำหลังผ่าตัด คือตัว sergica ตัวนี้เลย คือจริงๆเสิชใน google เตรียมไว้แล้ว เล็งตัวนี้ไว้เรียบร้อย พอไปทำตาที่คลินิก อ้าวพี่ที่คลินิกก็แนะนำ sergica ตัวเดียวักบที่ดูไว้เลย ก็จัด sergica มาเลยค่ะ บวมช้ำต้องหายไว ทานก่อนอาหารครั้งละ 2 เม็ด เช้า และ เย็น 

หน้า ดุ ทํา ไง ดี

3 วัน หลังทำตาไป รอยช้ำแทบไม่มีแล้วน้า

อ่ะ ตอนนี้ทำตาสองชั้นครบ 3 วัน แล้วนะคะ บวมช้ำหายไวกว่าที่คิด happy สุด ตอนแรกคิดว่าต้องบวมเป็นเดือน เว่อร์ไปมาก 555 ต้องขอบคุณคุณหมอที่ทำตาให้แบบมือเบ๊าเบา แล้วก็ sergica ที่ซื้อมา เลิฟเลย 

หน้า ดุ ทํา ไง ดี

7 วันหลังทำตา ตัดไหมเรียบร้อย ก็แต่งหน้าเลยค่ะ

วันนี้เป็นวันที่ 7 หลังจากที่พิมทำตาสองชั้นไปนะคะ ก็ครบกำหนดตัดไหมพอดี รีบไป someko แต่เช้า ตอนตัดไหมแบบไม่เจ็บเลย ตัดด้วยความรวดเร็ว พี่พยาบาลก็บอกว่าหายบวมไว้มาก แผลสวย ติดสนิทดี ไม่มีปัญหาเลย หลังตัดไหมก็สลายตาขึ้นเยอะค่ะ โล่งเลยแหละ แต่ก็ทายาฆ่าเชื้อของคลินิกต่ออีก 2 วัน เบาๆ ก่อนเปลี่ยนไปทาตัวลดรอยแผลเป็น

หน้า ดุ ทํา ไง ดี

ทำตาสองชั้นครบ 1 เดือน ชั้นยังไม่เข้าที่ดี แต่ชอบมากๆ 555

ตอนนี้ตาสองชั้น 1 เดือน คือว่า happy แล้วนะ แต่เดี๋ยวจะเอารูปตอนครบ 1 ปีมาให้ดูด้วย คือชั้นตาสวยไม่มีตก ยิ่งนานยิ่งสวย จนพิมเปลี่ยนสีผมไปแล้วกี่รอบไม่รู้ ชั้นตาก็ยังสวยคม แต่งตาง่ายมาก หรือจะไม่แต่งเลยก็ยังไง ดีตรงนี้ แล้วที่สำคัญหลังทำตาสองชั้นไปก็มีแต่คนชมว่าหน้าหวานขึ้นมาก ดูสดใสขึ้น ต้องขอบคุณคุณหมอ และพี่ๆที่คอยดูแลพิมที่ someko ด้วยนะคะ ที่มองชั้นตาคู่นี้มาให้ โอ๊ย เลิฟมากก สถานีต่อไปทำศัลยกรรมตรงไหนเพิ่มดีนะ 555

หน้า ดุ ทํา ไง ดี

ตาที่ดูหยิ่งในวันนั้น กับตาหวานๆในวันนี้

ก่อนแยกย้ายพิมพ์เอารูปอัพเดทหลังทำตาสองชั้นครบ 1 ปีมาให้ดู พร้อมกับรูปพลีชีพ เปรียบเทียบก่อนหลังทำตาสองชั้นให้ดูไปเลยค่ะสาวๆ อยากเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่กำลังอยากทำตาสองชั้น บอกเลยว่าทำเถอะค่ะ ทำตาแล้วชีวิตดีมาก สวยขึ้น ใช้ชีวิตง่ายขึ้นมาก แต่งหน้าก็สนุกมากด้วย ^^

Home How to การใช้ชีวิต บอกลาหน้าเหวี่ยง! เป็นคน หน้าดุ หน้าเหวี่ยง หน้าตาไม่เป็นมิตร ก็สามารถสร้างมิตรภาพดีๆ ได้

account_circleMaLeSsAmm

event 7 November 2018

หน้า ดุ ทํา ไง ดี

หน้า ดุ ทํา ไง ดี

บอกลาหน้าเหวี่ยง! เป็นคน หน้าดุ หน้าเหวี่ยง หน้าตาไม่เป็นมิตร ก็สามารถสร้างมิตรภาพดีๆ ได้

เกิดมาเป็นคน หน้าเหวี่ยง แค่ทำหน้านิ่งๆ ก็ดูเหมือนเป็นผู้ร้าย แผ่รังสีอำมหิตออกจากตัวอยู่ตลอดเวลา ใครเห็นก็ไม่กล้าเข้าใกล้ มีแต่คนเห็นแล้วกลัว แล้วอย่างนี้ต้องทำยังไงดี? มาบอกลาความเหวี่ยง เปลี่ยนคนหน้าดุ ให้เป็นคนน่ารักกับเทคนิคดีๆ จาก Goodlifeupdate ค่ะ

 

แต่งหน้าให้อ่อนลง

บางคนไม่ได้เกิดมาหน้าเหวี่ยงหรอกค่ะ แต่เราชอบแต่งหน้าลุคร้ายๆ แรงๆ เช่น การทำ Smokey eye สีเข้มๆ กรีดอายไลเนอร์เน้นตาคม เข้ม เฉี่ยว คอนทัวร์หน้าหนักๆ ทาลิปสีแดงหรือสีเข้ม สายฝอ ประกอบกับลุคการแต่งตัวแซ่บๆ แรงๆ ยิ่งเสริมลุคความดุ บางทีอาจทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกกลัวเกรง ไม่กล้าคุยด้วยได้

หากเรารู้สึกว่าสิ่งนี้เป็นปัญหา เราสามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการเปลี่ยนการแต่งหน้าให้ดูเบาบางลง เลือกใช้สีอายแชโดว สีบลัชออน สีลิปสติกที่อ่อนโยนมากขึ้น เช่น สีโทนนู้ด โทนน้ำตาล โทนชมพู ส้มพีช ที่เหมาะกับสีผิวของเรา และตรงกับสไตล์ที่เราชอบ

แต่ถ้าเราชอบแต่งหน้าสไตล์นี้อยู่แล้ว นี่แหละคือตัวตน และสไตล์ของเราจริงๆ ก็ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงลุคในการแต่งหน้าก็ได้ เพราะยังมีวิธีอีกมากมายที่จะช่วยลดความหน้าเหวี่ยงของเราลงได้ค่ะ

 

เปลี่ยนรูปทรงคิ้ว

รูปทรงคิ้วก็เป็นส่วนสำคัญบนใบหน้าของเราที่สามารถบ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกได้ รูปทรงคิ้วที่โก่ง สูง หัวคิ้วต่ำกว่าหางคิ้วมากๆ อาจทำให้หน้าของเราดูดุอยู่ตลอดเวลาได้

เราสามารถแก้ไขรูปทรงคิ้ว ด้วยการกันคิ้ว แล้วเขียนให้เป็นรูปทรงตามที่ต้องการ เพื่อให้ได้รูปทรงที่เข้ากับใบหน้ามากยิ่งขึ้น ให้ความรู้สึกที่นุ่มนวลอ่อนโยนมากขึ้น และยังเป็นการปรับฮวงจุ้ยบนใบหน้าของเราได้อีกด้วยค่ะ

 

ยิ้มบ่อยๆ

รอยยิ้มที่แต่งแต้มบนใบหน้า ทำให้ใบหน้าของเราดูสวยงามยิ่งกว่าเครื่องสำอางใดๆ

ถ้าอยากเป็นมิตร ก็ลองยิ้มให้กับคนอื่นบ้าง นอกจากจะลดความหน้าเหวี่ยง หน้าดุลงได้แล้ว ยังเป็นวิธีการแสดงความเป็นมิตรที่ทำได้ง่ายที่สุดอีกด้วยค่ะ

 

สื่อสารอย่างจริงใจ

ต่อให้หน้าตาเราจะดูโหดเหี้ยม วีนเหวี่ยงขนาดไหน แต่ถ้าสีหน้า แววตา กริยาท่าทาง คำพูดคำจาของเรา แสดงถึงความเป็นมิตร มีอัธยาสัยที่ดี และแสดงถึงความจริงใจ คนอื่นก็สามารถสัมผัสถึงความอ่อนโยน (ที่ขัดกับหน้าตา) ของเราได้ค่ะ

เพราะฉะนั้น อย่าไปกลัวหรือเขินอายที่จะเริ่มต้นสร้างมิตรภาพดีๆ กับใคร ถ้าเราเป็นคนจริงใจ เป็นมิตร และมีเจตนาที่ดีจริงๆ ผู้อื่นย่อมสามารถรับรู้ถึงความน่ารักของเราได้ เพราะสุดท้ายแล้ว คนเราจะดีหรือไม่ ขึ้นอยู่กับภายในจิตใจของเรานี่เองค่ะ