หน้าติด ส เตี ย รอย ด์ รักษา ที่ไหน ดี

สเตียรอยด์ คือฮอร์โมนชนิดหนึ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นมาเพื่อควบคุมระบบการทำงานภายในร่างกาย ช่วยควบคุมสมดุลน้ำและเกลือแร่ ต้านอาการอักเสบ หรือกดภูมิคุ้ม แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ

1. สเตียรอยด์ธรรมชาติ ร่างกายของเราสร้างได้เอง ถูกสร้างจากต่อมหมวกไตชั้นนอก ควบคุมและบรรเทาอาการอักเสบของร่างกายได้ และยังมีผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด กล้ามเนื้อ ระบบกระดูก นี่แหละตัวช่วยที่ปรับความเครียด ต้านการอักเสบ ลดอาการปวดและยังทำให้ภูมิคุ้มกันเราทำงานปกติ
2. สเตียรอยด์สังเคราะห์ที่ถูกผลิตขึ้น มักมาจากบริษัทยา ทำการเลียนแบบสเตียรอยด์ที่ร่างกายสร้างขึ้น เพื่อใช้รักษาทางการแพทย์ จัดเป็นยาเคมีที่รักษาโรคได้ดีและรวดเร็ว แต่ต่างตรงที่เป็นเคมีสังเคราะห์ มีผลข้างเคียงที่อันตรายกว่ามากและมีหลายชนิด เช่น เดกซาเมธาโซน และเพรดนิโซโลน

ทุกวันนี้ยาสเตรียรอยด์ มีใช้อยู่ 2 แบบ นั่นก็คือการใช้ภายนอก จะเน้นออกฤทธิ์เฉพาะที่ เช่น ยาหยอดตา ยาพ่นจมูก ยาทาผิวหนัง และ ยาสูดพ่นทางปาก ในขณะที่อีกแบบคือ การใช้เพื่อออกฤทธิ์ทั่วร่างกาย เช่น ยาฉีดและยารับประทาน ลดการอักเสบภายใน หรือกดภูมิคุ้ม เช่น ผู้ป่วยข้ออักเสบรูมาตอยด์ โรคภูมิแพ้ตนเอง (SLE) หรือผู้ป่วยที่มีปัญหาทางเดินหายใจอักเสบเรื้อรัง และ อาการภูมิแพ้ทางผิวหนังหรือทางเดินหายใจรุนแรง

          อย่างที่รู้กันดีค่ะว่า “สิว” มีหลายประเภท แต่ถ้าพูดถึงประเภทของสิวที่ไม่ควรมองข้ามและจะต้องได้รับการรักษาที่ถูกต้องก็คงจะหนีไม่พ้น “สิวสเตียรอยด์” หรือที่หลายคนเรียกกันติดปากว่าสิวติดสาร ซึ่งเป็นสิวที่รักษายาก และใช้เวลาในการรักษาค่อนข้างนานเลยทีเดียว วันนี้ *Cosmenet เลยจะพาสาว ๆ ทุกคนมาทำความรู้จักกับเจ้าสิวสเตียรอยด์ พร้อมแนะวิธีรักษาสิวสเตียรอยด์ด้วยตัวเองกันค่าา~

สิวสเตียรอยด์ คืออะไร?

          เชื่อว่ามีหลายคนกำลังเข้าใจผิดว่าสิวสเตียรอยด์ หรือสิวติดสารคือ สิว แต่ความจริงแล้วคือโรคทางผิวหนังประเภทหนึ่งที่เกิดจากการใช้สารสเตียรอยด์ติดต่อกันเป็นเวลานาน ซึ่งสารสเตียรอยด์เหล่านี้มักผสมอยู่ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่ได้มาตรฐาน เพราะการสารสเตียรอยด์ลงไปจะทำให้เห็นผลไวทันใจแบบข้ามคืนเลยทีเดียวค่ะ

สิวสเตียรอยด์ เกิดจากอะไร?

• การใช้เครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ : เรียกได้ว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสิวสเตียรอยด์เลยก็ว่าได้ สำหรับการใช้เครื่องสำอาง หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ที่ทำให้หน้าขาวใส สิวหายวับเหมือนเสกได้ในข้ามคืน แต่ใช้เวลารักษานานข้ามปี!! เพราะเมื่อใช้สารสเตียรอยด์ติดต่อกันเป็นเวลานาน จะทำให้ผิวเกิดการติดสเตียรอยด์ ส่งผลให้ผิวบาง แพ้ง่าย แถมสิวหนอง สิวอักเสบแย่งกันขึ้นจนไม่มีที่ว่างเลยทีเดียว

• การใช้ยารักษาสิวบางประเภทที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ : นอกจากครีมหน้าขาวจะมีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์แล้ว ยารักษาสิวก็มีเช่นเดียวกันค่ะ โดยจะใช้ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อบรรเทาอาการให้ทุเลาลงเท่านั้น แต่หากสาว ๆ ใช้ต่อเนื่องโดยไม่ลดปริมาณลงก็จะทำให้ผิวติดสเตียรอยด์ และเกิดสิวสเตียรอยด์นั่นเองค่ะ เพราะฉะนั้นต้องใช้ยารักษาสิวอย่างระมัดรังวัง และปฎิบัติตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัดนะคะ

• การฉีดสิว : เคยสงสัยกันมั้ยคะว่าเวลาไปฉีดสิวทำไมมันถึงยุบไวกว่าทายา เฉลยย…เพราะเค้าใช้สเตียรอยด์ในการฉีดสิวนั้นเองค่ะ ฉีดนาน ๆ ทีไม่เป็นไร แต่ถ้าฉีดบ่อย ๆ หรือเสพติดการฉีดสิวก็อาจจะทำให้ผิวติดสเตียรอยด์ได้นะคะ

สิวสเตียรอยด์ มีอาการอย่างไร?

          เริ่มแรกมักจะมีผื่นลักษณะคล้ายสิวอักเสบเม็ดเล็ก ๆ หรือเป็นผื่นแดงปื้น ค่อย ๆ ทยอยขึ้น โดยจะเห็นเส้นเลือดฝอยชัดเจนกว่าปกติจากการขยายตัวของเส้นเลือด ซึ่งผิวของสาว ๆ จะไวต่อการกระตุ้นมากกว่าปกติ ทำให้ผิวแพ้ง่าย หรือบางเคสอาจมีอาการผิวหนังเหี่ยวย่นร่วมด้วย เกิดจากสารสเตียรอยด์เข้าไปทำลายคอลลาเจนในชั้นผิวนั้นเองค่ะ

วิธีรักษาสิวสเตียรอยด์ด้วยตัวเอง

          ต้องมาทำความเข้าใจให้ตรงกันก่อนนะคะสาว ๆ ว่าสิวสเตียรอยด์ด้วยตัวเองได้ แต่ต้องเป็นในกรณีที่เป็นไม่มากเท่านั้นนะคะ หากใครรู้สึกว่าสิวเห่อหนักมาก ๆ แนะนำให้รีบเข้าไปปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อทำการรักษาอย่างถูกต้องตามขั้นตอนจะดีกว่านะคะ

1. หยุดใช้ผลิตภัณฑ์ทุกประเภทที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์

          สเต็ปแรกของการรักษาสิวสเตียรอยด์ หรือสิวติดสารคือการหยุดใช้ผลิตภัณฑ์ทุกประเภทที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ ไม่ว่าจะเป็น การใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์, การใช้ยารักษาสิวที่มีส่วนผสมของสารสเตียรอยด์ ไปจนถึงการฉีดสิว เป็นต้น

2. เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยน

          อย่างที่รู้กันค่ะว่าคนที่สิวสเตียรอยด์ หรือสิวติดสารมักจะมีผิวที่บางลง และแพ้ง่ายกว่าปกติ เพราะฉะนั้นสาว ๆ จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสูตรอ่อนโยน แนะนำให้เลือกใช้เป็นเจลล้างหน้าเลยยิ่งดีค่ะ เพราะจะช่วยลดการระคายเคืองจากการเสียดสีได้ดี และต้องไม่มีพวกเม็ดบีชนะคะ เพราะอาจจะทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้

3. เลือกใช้สกินแคร์ที่ช่วยให้ผิวแข็งแรง

          ใครบอกว่าคนที่เป็นสิวสเตียรอยด์ หรือสิวติดสารห้ามใช้สกินแคร์ทุกชนิด ขอบอกตรงนี้เลยค่ะว่าไม่จริง แต่แนะนำให้ใช้สกินแคร์สูตรอ่อนโยนและไม่มีส่วนผสมของสารที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น พาราเบน แอลกอฮอล์ น้ำหอม สารแต่งสีและกลิ่น เป็นต้น หรือใครจะเลือกใช้มอยส์เจอไรเซอร์เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น และช่วยเสริมชั้นผิวให้แข็งแรงขึ้นก็ได้เช่นเดียวกันค่าา

4. งดสครับผิว ขัดหน้า หรือนวดหน้า

          สำหรับใครที่เป็นสิวสเตียรอยด์ หรือสิวติดสาร อย่าหาสครับผิว ขัดหน้า หรือนวดหน้าเด็ดขาดเลยนะคะ เพราะกิจกรรมเหล่านี้เป็นการรบกวนผิวมากเกินไป อาจะทำผิวเกิดการระคายเคืองและทำให้การอักเสบลุกลามได้จ้าา

5. ซื้อยามาทา หรือรับประทานเพื่อบรรเทาอาการ

          หากสาว ๆ รู้สึกระคายเคืองผิวมาก ๆ อย่าใช้มือแคะ แกะ เกาผิวที่เป็นสิวเด็ดขาดเลยนะคะ แต่แนะนำให้เดินตรงไปที่ร้านขายยาเพื่อปรึกษาเภสัชกรให้เค้าจ่ายยาทาแก้คัน หรือยาลดผดผื่น นอกจากจะช่วยบรรเทาอาการคันและระคายเคืองผิวได้แล้ว ยังทำให้ผดผื่นยุบไวขึ้นด้วยน้าา

          หากใครมีอาการเข้าข่ายเป็นสิวสเตียรอยด์ หรือสิวติดสาร ควรรีบรักษาโดยด่วนเลยนะคะ ห้ามปล่อยไว้เด็ดขาด เพราะอาจจะทำให้เป็นอันตรายต่อผิวได้ สำหรับใครที่มีอาการไม่มากก็สามารถรักษาด้วยตัวเองได้ตามวิธีรักษาสิวสเตียรอยด์ด้วยตัวเองที่เรานำมาฝากกันในวันนี้ได้เลยน้าา ถึงแม้จะต้องใช้เวลาในการรักษา แต่รับรองว่าผิวจะต้องดีขึ้นอย่างแน่นอนค่าา

การล้างหน้าตามแนวขนก็ถือเป็นอีกหนึ่งเคล็ดลับหน้าใสที่สาว ๆ ไม่ควรพลาด ถ้าอยากรู้ว่าต้องทำอย่างไร คลิ๊กเลยย!!

หน้าติดสเตียรอยด์ รักษายังไง

หน้าติดสารกี่ปีหาย

ผื่นสเตียรอยด์ รักษายังไง

สิวติดสารแก้ยังไง