ปีก ซ้าย ที่ ดี ที่สุด

ซาก้า โชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจในทุกรายการให้กับทัพ "ไอ้ปืนใหญ่" และยังสร้างผลงานดีมีคุณภาพให้กับ "สิงโตคำราม" ในเกมรอบคัดเลือก ศึกยูโร 2024 ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา 

ล่าสุด ซาก้า ทำแอสซิสต์ และยิงประตูสุดสวยช่วย อังกฤษ ทุบ ยูเครน 2-0 ที่สนามเวมบลีย์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดย ซัตตัน เชื่อว่าตอนนี้ไม่มีใครเก่งกว่า ดาวเตะวัย 21 ปีแม้แต่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ ริยาด มาห์เรซ ก็เทียบไม่ได้แล้ว

- เพื่ออันดับท็อปโฟร์!การบ้าน 5 ข้อ สเตลลินี่ ต้องพา สเปอร์ส บรรลุเป้าหมาย

- ว่าที่นายใหม่คลับไก่!สื่อยัน สเปอร์ส ทาบทาม นาเกิ้ลส์มันน์ แล้ว

- ไม่ได้แรงแค่ปาก! 5 เหตุผลที่ คอนเต้ อาจไม่ได้คุมทีมชั้นนำหลังแยกทาง สเปอร์ส

"ลองนึกถึงชื่อปีกขวาที่เก่งที่สุดในโลกฤดูกาลนี้เหนือกว่า บูกาโย่ ซาก้า หน่อยซิ ผมคิดว่าคุณคงแทบนึกไม่ออกแหงๆ ซาก้า เอาชนะคู่แข่งทางปีกขวาได้หมด ซาลาห์ไม่ได้เล่นฟุตบอลที่เต็มไปด้วยพลังเหมือนเดิมให้กับลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้"

"ส่วน มาห์เรซ เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์อย่างน่าเหลือเชื่อสำหรับ แมนฯ ซิตี้ แต่ผมมองว่า ซาก้า อยู่เหนือกว่าเขา ผมไม่มีอะไรจะพูดถึง อันโตนี่ บางทีแข้งแมนยูคนนี้ควรจะมีโปรสเตอร์ของ ซาก้า แปะเอาไว้ที่ผนังห้องนอนของเขา !" อดีตหัวหอกเลือดผู้ดี ระบุ

ถ้าจะพูดถึงเสื้อเบอร์ 2 หรือ เบอร์ 3 ในวงการฟุตบอลแล้ว เราจะต้องนึกถึงในตำแหน่งแบ็คซ้ายหรือแบ็คขวา ซึ่งคุณสมบัติที่สำคัญของคนที่เล่นในตำแหน่งฟูลแบ็คนั้นคือเล่นเกมส์รับได้ดีเติมเกมส์รุกได้ยอด ซึ่งสมัยก่อนมองได้อีกมุมหนึ่งก็คือ คนที่เล่นฟูลแบ็คนั้นเป็นพวกที่เล่นกองหลังตัวกลางไม่ได้หรือเล่นปีกไม่ดีนั้นเอง 555+ (เป็นเรื่องที่ตลกร้ายครับ) แต่ฟุตบอลในปัจจุบันตำแหน่งฟูลแบ็คเป็นตำแหน่งที่สำคัญมาก ถ้าทีมไหนมีฟูลแบ็คเก่งก็สามารถประกบปีกทีมคู่แข่งให้ทีมบุกทีมนั้นเป็นง่อยได้เลย อีกทั้งเมื่อถึงเวลาบุกฟูลแบ็คนั้นสามารถเพิ่งมิติในเกมส์บุกได้อย่างมหาศาลอย่างเช่น Dani Alves ที่แสดงผลงานออกมาได้อลังการงานสร้างมาก

ในวันนี้เราจะมาพูดถึง 10 สุดยอดแบ็คซ้าย / ขวาที่ดีที่สุดตลอดกาล กันนะครับ

หนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลของประเทศอิตาลี  Paolo Maldini ค้าแข้งอยู่ในวงการลูกหนังมาอย่างยาวนานถึง 25 ปี และที่น่าทึ่งไปกว่านั้น Maldini เล่นให้กับทีมเดียวตลอดอาชีพนั้นก็คือทีม AC Milan อีกทั้งยังกลายเป็นผู้เล่นเพียงคนเดียวที่ได้แชมป์ Uefa Champion League ถึง 5 สมัย ไม่เพียงแค่นั้นยังสามารถคว้าแชมป์กัลโช่ ซีรีย์อา ได้อีก 7 สมัย เมื่อรวมทุกถ้วยเค้าสามารถคว้าแชมป์ได้ถึง 26 รายการกับ AC Milan

Paolo Maldini  เริ่มต้นค้าแข้งเมื่อปี 1985 จนถึงปี 2009 ตัวเขานั้นทำสถิติติดทีมชาติอีตาลีไป 126 นัด โดยเริ่มแรกนั้น Paolo Maldini ถนัดเท้าขวาและเริ่มต้นเล่นในตำแหน่งแบ็คขวา แต่ Arrico Sacchi อดีตกุนซือทีมเอซีมิลานในขณะนั้นจับมัลดินี่เล่นในตำแหน่งแบ็คซ้าย ซึ่งนั้นคือจุดเริ่มต้นของประวัติศาสตร์ ด้วยสภาพร่างกาย, ทักษะความสามารถ, การแท็คเกิ้ล และความแน่นอน ทำให้เจ้าตัวสามารถที่จะเล่นตรงไหนก็ได้ในตำแหน่งแบ็คโฟร์ ช่วงสมัยรุ่งๆ มัลดินี่ยังได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง Ballon D’or ถึง 2 ครั้ง แล้วก็ยังสามารถคว้ารางวัลส่วนตัวได้อีกมากมายหลายสถาบัน ตลอดการเล่นฟุตบอลอาชีพ 25 ปี มัลดินี่ได้รับใบแดงไปแค่ 3 ครั้งเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสุขุม นุ่มลึก และกลายเป็นเสาหลักของความยิ่งใหญ่ให้กับ AC Milan มาอย่างยาวนาน

คาร์ลอส อัลแบร์โต้ ได้ชื่อว่าเป็นกองหลังจอมเทคนิคที่มีทักษะอันสุดยอดหาตัวจับได้ยากในยุคนั้น อีกทั้งยังเป็นเจ้าของลูกยิงอันสวยสดงดงามมากที่สุดในประวัติศาสตร์ฟุตบอลโลก เลยก็ว่าได้ ซึ่งลูกยิงนั้นเกิดขึ้นในนัดชิงฟุตบอลโลกปี 1970 ที่พบกับทีมชาติอิตาลี

สำหรับในสโมสร คาร์ลอส อัลแบร์โต้อยู่ทีม Santos ซึ่งในทีมก็มี เปเล่รวมทีมอยู่ด้วย เค้ากับเปเล่ก็ผนึกกำลังกวาดแชมป์มากมาย

นอกจากเทคนิคแล้วที่มีความโดดเด่น เจ้าตัวยังมีความแข็งแรงที่เป็นเลิศบวกกับขยันหมั่นเพียรที่หาใครเทียมได้ ทำให้ Carlos Alberto มีทุกองค์ประกอบที่สุดยอดนักเตะพึงมี

นี้ก็เป็นอีกหนึ่งผลผลิตจากประเทศบราซิล Robert Carlos ได้รับการยกย่องให้เป็นต้นตำรับของตำแหน่งฟูลแบ็คสมัยใหม่ โดยเจ้าตัวเริ่มค้าแข้งให้กับทีม Palmiras ก่อนที่ในปี 1995 ทีม Inter Milan ก็ได้ซื้อตัว Roberto Carlos มาร่วมทีม แต่เพียงแค่ฤดูกาลเดียวก็ถูกขายต่อไปให้ทีม Real Madrid  และสถานที่นี้นี่เองทำให้เค้าได้กลายเป็นหนึ่งในสุดยอดผู้เล่นตลอดกาล ด้วยคุณลักษณะพิเศษที่เค้าเล่นเกมส์รุกได้อย่างยอดเยี่ยม ช่วยให้ทีม Real Madrid ฟาดแชมป์ Uefa Champion League ไปได้ถึง 3 สมัย บวกกับแชมป์ La Liga อีก 4 ภายในระยะเวลา 11 ปี

ลูกฟรีคิกก็เป็นอีกจุดเด่นหนึ่งของ Roberto Carlos  โดยเฉพาะลูกยิงฟรีคิกอันทรงพลัง จนได้รับฉายาว่า El Hombre Bala หรือ Bullet Man …

ตำนานทีมอินเตอร์ มิลาน และ ทีมชาติอิตาลี อย่าง Giacinto Facchetti เป็นฟูลแบ็คในอิตาเลียนสไตร์ขนานแท้ ที่มีความแข็งแกร่งและเคี้ยวลากดิน แต่ที่ตัวเค้านั้นแตกต่างจากคนอื่นก็คือการที่เค้าเป็นคนที่เล่นเกมส์รุกได้สุดยอดคนเหนึ่งเลย ด้วยสมรรถภาพทางร่างกาย, ความเร็ว และความแข็งแกร่ง ผสมผสานกัน และยังเป็นฟังเฟืองสำคัญที่พาทีม Inter Milan ครองความยิ่งใหญ่ในยุค 60 โดยได้แชมป์กัลโช่ ซีรีอาร์ได้ 4 สมัยในปี 1963-1971 และแชมป์ยูโรเปี่ยนคัพ 2 สมัยติดต่อกัน ในปี 1964-65

ตลอดอาชีพการเล่นเค้าลงเล่นไป 475 นัดและยิงประตูไปได้ถึง 59 ประตู

ส่วนทีมชาติ Giacinto Facchetti ติดทีมชาติทั้งหมด 94 นัด และพาทีมคว้าแชมป์ยูโรได้ในปี 1968 อีกทั้งยังพาทีมเข้าชิงฟุตบอลโลกปี 1970 แต่ได้เพียงแค่รองแชมป์ โดยพ่ายแพ้ให้กับทีมชาติบราซิล

อีกหนึ่งนักเตะบราซิเลี่ยน ที่ได้รับยกย่องให้เป็นสุดยอดแบ็คจอมบุกที่ดีที่สุดตลอดกาล ในช่วงที่ค้าแข้งให้กับ Barcelona เค้าเป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ทีมฟาดแชมป์ Uefa Champion League ได้ถึง 3 สมัย, แชมป์ La Liga สเปน 7 สมัย และ แชมป์ Copa Del Rey 4 สมัย ทุกท่านคงทราบกันดีว่า Dani Alves ชอบเล่นเกมส์รุกชีวิตจิตใจเติมได้อย่างเมามันเอามากๆ ในขณะเดียวกันเกมส์รับก็แข็งแกร่งมิใช้น้อย ความสามารถของ Dani Alves นั้นเทียบเท่าได้กับสุดยอดปีกในยุคนี้ และเกมส์รับก็สุดยอดมากๆ เช่นกัน แถมมีพลังอันเหลือเฟือที่จะวิ่งขึ้นลงได้ตลอด 90 นาที

ถ้ายังจำกันได้ ทีมชาติ Brazil ในยุค 90 ถึง ยุค 2000 เราจะเห็น Roberto Carlos อยู่ทางซ้าย และ Cafu อยู่ทางขวา เป็นยุคที่ทีมชาติ Brazil เล่นกันได้ Classic มากๆ  โดย Cafu นั้นเริ่มต้นชีวิตค้าแข้งทีม Sao Paolo แล้วย้ายไปอยู่กับ Real Zaragoza ที่ๆซึ่งเค้าเป็นหนึ่งในขุนพลที่ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ Cup Winner Cup แต่อยู่ได้เพียงฤดูกาลเดียวก็ย้ายกลับประเทศ Brazil ไปอยู่กับ Palmiras 3 ฤดูกาล ก่อนกลับมาเผชิญโชคที่ยุโรปอีกครั้งกับทีม Roma โดยใช้เวลาอยู่ที่นี่นานถึง 7 ปี ช่วยให้ทีม Roma คว้าแชมป์ Seria A ได้ 1 สมัย และย้ายทีมอีกครั้งโดยคราวนี้ไปร่วมทีมคู่ปรับร่วมลีคอย่าง AC Milan ที่ที่ซึ่งเค้าก็เป็นฟังเฟืองสำคัญช่วยให้ทีม คว้าแชมป์ Uefa Champion League กับแชมป์ Seria A อย่างละ 1 สมัย แล้วในระดับชาติ Cafu ติดทีมชาติ Brazil ไปทั้งหมด 143 นัด ได้แชมป์ฟุตบอลโลก 2 สมัย ในปี 1994 กับ ปี 2002

อีกหนึ่งตำนานของทีม Inter Milan ผู้นี้ก็เป็นอีกหนึ่งนักเตะจาก อเมริกาใต้ ที่ติดอยู่ในทำเนียบ Javier Zanetti ย้ายเข้าสู่ทีม Inter Milan ในปี 1995 และอยู่กับมาอย่างยาวนานถึง 19 ปี ฉายาของ Javier Zanetti คือ “EL Tractor” ซึ่งหมายความว่า วิ่งได้ไม่มีเหนื่อยเหมือนเครื่องจักรอะไรทำนองนั้น แต่สิ่งสำคัญที่เค้าได้รับการเชิดชูให้อยู่ในทำเนียบ ก็คือ เกมส์รับที่ทำให้เค้ากลายเป็นปรมาจารย์ทางด้านนี้ไม่ว่าจะเป็นการอ่านเกมส์ เข้าแท็คเกิล หรือการตามประกบคู่แข่งไม่ให้กระดิกไปไหน และที่สำคัญเค้าสามารถเล่นได้ทั้งสองเท้า ให้เล่นตำแหน่งแบ็คซ้ายก็ได้ แบ็คขวาก็ดี หรือจะเล่นในกองกลางก็ได้อย่างไม่ขะเขิน

Ashley Cole ถือได้ว่าเป็นตำนานแบ็คซ้ายที่หาคนเทียบได้ยากจริงๆ ในวงการฟุตบอลอังกฤษ ยิ่งในช่วงที่พีคที่สุดเค้าคือหนึ่งในแบ็คซ้ายที่ดีที่สุดในโลก ณ ขณะนั้น

Ashley Cole เริ่มค้าแข้งกับ Arsenal โดยไต่เต้าตัวเองจากทีมเยาวชนขึ้นเป็นกำลังสำคัญของทีม Arsenal และเป็นส่วนสำคัญให้ทีมคว้าแชมป์ Premire League  2 สมัย บวกกับอีกแชมป์ FA Cup 3 สมัย ก่อนที่ย้ายมาอยู่กับ Chelsea ที่เป็นข่าวอื้อฉาวไปทั่ว ที่บรรดาแฟน Arsenal ต่างสาปส่งตราหน้าว่าเห็นแก่เงิน พอมาอยู่กับ Chelsea เค้าก็แสดงให้เห็นว่าเป็นแบ็คที่ครบเครื่องอยู่เช่นเดิมมีความเร็ว ความแข็งแกร่ง เติมเกมส์บุกดี บรรดาปีกระดับท็อปทั้งหลายต่างไม่สามารถที่จะผ่าน Ashley Cole ไปได้ง่ายๆเลย เป็นตัว Shut Down ปีกระดับท็อปได้อย่างชะงักงัน การที่เค้าย้ายมาอยู่ที่ Chelsea ยิ่งทำให้เค้าประสบความสำเร็จมากขึ้นไปอีกกวาดทุกแชมป์ที่มีไม่ว่าจะเป็น Premier League 1 สมัย FA Cup 4 สมัย และ แชมป์ Uefa Champion League และ Europa League อีกอย่างละสมัย

อีกหนึ่งตำนานของวงการฟุตบอลเยอรมันที่เพิ่งแขวนสตั๊ดไปเมื่อไม่นานนี้เอง Philip Lahm ผู้นี้ประสบความสำเร็จอย่างมากมาย คว้าแชมป์บุนเดสลีก้า 7 สมัย เดเอฟเบ โพคาล 6 สมัย และแชมป์ Uefa Champion League อีก 1 สมัย

Philip Lahm เป็นโคตรนักเตะพรสรรค์ที่เล่นได้ทุกตำแหน่งในเกมส์รับ หรือจะให้ไปเล่นปีก หรือ มิดฟิลด์ตัวกลางก็ยังได้

ไม่เพียงแค่ในระดับสโมสรที่ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลาม แต่กับทีมชาติเยอรมันก็ประสบความสำเร็จ ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน โดยสามารถพาทีมชาติเยอรมันเป็นแชมป์โลกได้ในปี 2014

นี้คือสุดยอดกองหลังที่สามารถเล่นได้ทั้งแบ็คขวาและปราการหลังตัวกลาง ลิลิยอม ตูราม เริ่มค้าแข้งกับทีมโมนาโก ในประเทศฝรั่งเศสในปี 1990 หลังจากนั้นในปี 1996 ตูรามก็ได้ย้ายทีมไปอยู่กับทีม Parma ในประเทศอิตาลี ที่ที่ซึ่งเค้าประสบความสำเร็จอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็น แชมป์ Uefa Cup , Copa Italia และ Italia Supar Cup จนถึงปี 2001 ตูรามก็ได้ย้ายทีมอีกครั้งซึ่งคราวนี้ย้ายไปอยู่กับยักษ์ใหญ่อย่างทีม Juventus และเค้าก็เป็นก็ประสบความสำเร็จเช่นเดิมฟาดแชมป์ Seria A 2 สมัย แต่พอเจอกับคดี Calciopoli ทำให้เจ้าตัวต้องระเห็จไปอยู่กับ Barcelona ที่เล่นได้สองฤดูกาลก็แขวนสตั๊ด เนื่องจากตรวจพบว่ามีปัญหาเกี่ยวกับหัวใจ

แต่ที่เด็ดไปกว่านั้นคือการเล่นฟุตบอลในระดับทีมชาติ ที่เค้ากำลังสำคัญพาทีมชาติฝรั่งเศษเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกในปี 1998 และแชมป์ยูโร 2000 โดยโมเม้นแห่งตำนานของตูรามก็คือการยิงสองประตูใส่ทีมชาติโครเอเชียในรอบรองฟุตบอลโลก 1998 พาทีมเข้าชิงและเป็นแชมป์ในท้ายที่สุด

บอลที่เก่งที่สุดในโลกคือใคร

ใครคือกองหลังที่เก่งที่สุดในโลก

ใครค่าตัวแพงที่สุดในโลก

ใคร ทำประตู มากที่สุดในโลก