งบดุล คือ งบการเงินที่แสดงข้อมูลเกี่ยวกับฐานะการเงินของกิจการ ณ วันใดวันหนึ่ง ประกอบด้วย สินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้าของ (ทุน) Show
เปรียบเสมือนเป็นภาพถ่ายของกิจการ ณ วันต้นงวด กับปลายงวด เช่น ตอนต้นปีโรงงานนำสินทรัพย์ หนี้สิน ทุน ทั้งหมดมากองหน้าโรงงานแล้วถ่ายภาพ 1 ภาพ ตอนปลายปี ก็ทำเช่นเดียวกัน ภ่ายภาพอีก 1 ภาพ ดังนั้น งบดุล จะเป็นการเปรียบเทียบ 2 ภาพนี้ ว่าปลายปีบริษัทเจริญก้าวหน้ากว่าต้นปีหรือไม่ มี สมการบัญชี เป็น
สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของซึ่งทั้ง 2 ฝั่ง ต้องเท่ากัน
เช่น หากกิจการต้องการเงินมาเปิดร้าน รวมๆ แล้วต้องมีสินทรัพย์ทั้งหมด 200,000 บาท นายทุนเอาเงินมาลงในกิจการรวม 120,000 บาท ซึ่งไม่พอเลยต้องกู้อีก 80,000 บาท จะเป็นได้ว่า ฝั่งซ้าย ต้องเท่ากับ ฝั่งขวา ต่อจากนี้มาดูรายละเอียดแต่ละประเภท ว่ามีอะไรบ้าง
สินทรัพย์ (Assets)หมายถึง ทรัพยากรที่มีอยู่ในความควบคุมของกิจการ ทรัพยากรดังกล่าวเป็นผลของเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งกิจการคาดว่าจะได้รับประโยชน์เชิงเศรษฐกิจจากทรัพยากรนั้นในอนาคต แต่ในการอ่านงบการเงินไม่ต้องกังวล เพราะ เค้าจะแยกมาให้ว่าอะไรคือ สินทรัพย์ แล้ว สินทรัพย์แบ่งได้ 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้1. สินทรัพย์หมุนเวียน (Current Assets)หมายถึง สินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงสามารถแปลงเป็นเงินสดได้เร็ว ถือไว้ภายในระยะสั้น ไม่เกิน 1 ปี เช่น เงินสดหรือเทียบเท่า ลูกหนี้การค้า สินค้าคงเหลือ ฯลฯ 2. สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (Non-Current Assets)หมายถึง สินทรัพย์ที่กิจการมีไว้ในครอบครองในระยะยาว เกินกว่า 1 ปี รวมถึงสินทรัพย์ที่มีตัวตนและสินทรัพย์ไม่มีตัวตน เช่น ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ลิขสิทธิ์ สัมปทาน ฯลฯ การเรียงลำดับรายการสินทรัพย์จะเรียงตามสภาพคล่องสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงจะเรียงไว้ด้านบน (สภาพคล่องก็หมายถึง ความสามารถในการเปลี่ยนเป็นเงินสด ยิ่งง่ายก็ยิ่งคล่อง) มาลงรายละเอียดแต่ละรายการกัน สินทรัพย์หมุนเวียนเงินสดหรือเทียบเท่า
เงินลงทุนชั่วคราว
ลูกหนี้การค้า
เงินให้กู้ยืมระยะสั้น
สินค้าคงเหลือ
สินทรัพย์หมุนเวียนอื่น
สินทรัพย์ไม่หมุนเวียนเงินลงทุนระยะยาว
ที่ดิน อาคารและอุปกรณ์
สินทรัพย์ไม่มีตัวตน
สรุปฝั่ง สินทรัพย์ สินทรัพย์หมุนเวียน + สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน = สินทรัพย์รวมหนี้สิน (Liabilities)หมายถึง ภาระผูกพันในปัจจุบันของกิจการ ภาระผูกพันดังกล่าวเป็นผลของเหตุการณ์ในอดีต ซึ่งการชำระภาระผูกพันนั้นคาดว่าจะส่งผลให้กิจการสูญเสียทรัพยากรที่มีประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ แต่ในการอ่านงบการเงินไม่ต้องกังวล เพราะ เค้าจะแยกมาให้ว่าอะไรคือ หนี้สิน บ้าง หนี้สินแบ่งได้ 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้1. หนี้สินหมุนเวียน (Current Liabilities)หมายถึง หนี้สินระยะสั้นที่ ต้องชำระภายใน 1 ปี เช่น เงินเบิกเกินบัญชี เจ้าหนี้การค้า ค่าใช้จ่ายค้างจ่าย ฯลฯ 2. หนี้สินไม่หมุนเวียน (Non-Current Liabilities)หมายถึง หนี้สินระยะยาวที่ ต้องจ่ายชำระเกินกว่า 1 ปี เช่น เงินกู้ยืมระยะยาว หุ้นกู้ ฯลฯ มาลงรายละเอียดแต่ละรายการกัน หนี้สินหมุนเวียนเงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากธนาคาร
เจ้าหนี้การค้า
ตั๋วเงินจ่าย
เงินปันผลค้างจ่าย
เงินกู้ยืมระยะยาวที่ถึงกำหนดชำระภายใน 1 ปี
หนี้สินหมุนเวียนอื่น
หนี้สินไม่หมุนเวียนเงินกู้ยืมระยะยาว
หุ้นกู้ระยะยาว
หนี้สินภาระผูกพันผลประโยชน์พนักงาน
หนี้สินอื่น
สรุปฝั่ง หนี้สิน หนี้สินหมุนเวียน + หนี้สินไม่หมุนเวียน = หนี้สินรวมส่วนของเจ้าของ (Owner’s Equity) หรือ ทุนหมายถึง ส่วนของเจ้าของกิจการที่มีสิทธิหรือส่วนได้เสียคงเหลือในสินทรัพย์ของกิจการภายหลังหักหนี้สินออกแล้ว |