�ٻẺ��������������͢���
Show 1. Ẻ��� (StarNetwork) ��鹨����ѡɳТͧ��õ�����͢��·�� Work station ���е�ǵ������������ٹ���ҧ��Ե�� ������Ѻ���˹觢ͧ��鹷ҧ�ͧ������� � ��к� �ѧ���� ������ Ẻ��� ����������еԴ��͡ѹ��� 1 ���� ��� 1 ���ʶҹ���ҹ�� �����ʶҹ�㴵�ͧ����觢�ͧ����ѹ���觢�������ѧ�ٹ���ҧ��Է��� ���ͺ͡����ٹ���ҧ ��Ե���ѹ��Ѻ���˹觢ͧ���ʶҹ���ѧʶҹշ���ͧ��õԴ��ʹ��� �ѧ��鹢����Ũ֧����Դ��ê��ѹ�ͧ �����������������Ǵ���������ʶҹ��ʶҹ�˹������ ����к��֧�ѧ����ҹ�� 㹡�ä��Ң�ͺ����ͧ�ش���µ�ҧ� �֧������µ��仴��� ����բ�����·����ҵ�ͧ�駺����ҳ�٧㹡�õԴ��駤����á �ѡɳС���������ͨ��繴ѧ�ٻ ��ʹ� 2. Ẻ ǧ��ǹ (Ring Network) ��١�͡Ẻ����� Media Access Units (MAU) �������ѹẺ���§�ӴѺ��ǧ��ǹ ���Ǩ֧��� ���������� (PC) ����� Workstation ���� Server ��ҡѺ MAU �
MAU 1 ��Ǩ�����ö����͡���֧ 8 ʶҹ� �����ʶҹնѴ仹���Ѻ�����ҵ�ͧ�Ѻ������ �����ѹ�֧�觢����š�Ѻ �繡�õͺ�Ѻ �����ʶҹշ����觢�����������ѭ�ҳ�ͺ�Ѻ �����ѹ�֧�觢����Ť����á �����ѹ��ź�������͡�ҡ�к� �������������������� ���� �ѧ��鹷ءʶҹպ� ������ ǧ��ǹ����ӧҹ��������觨Ф���繼���Ѻ��м���������ѧ���վշ����㹵���ա���� �����ŷ���ҹ�����ʶҹ� ��� �����ŷ���繵��˹觷������ç�Ѻ ʶҹ�� ʶҹչ�鹨��Ѻ����������� ���ѹ�����ź�������͡�ҡ�к� �ѹ�ѧ���觢����ŵ��� �ѧ��鹼���觢����Ť����á��ҹ�鹷����繼��ź�������͡�ҡ�к� ���������ʶҹ��� TOKEN �Ҷ��ʶҹնѴ��������Ѻ������Ѻ�ӵͺ ʶҹ��� TOKEN
�зǹ��Ӣ������繤��駷���ͧ ����ѧ��������Ѻ�ӵͺ �֧�觢������͡��� �˵ء�ó�ѧ����ǹ�� ���ա�Ƿҧ˹��㹡����ѭ�ҷ���������к���ش�Чѡ��÷ӧҹŧ�ͧ�к� ���ͧ�ҡʶҹ�˹���Դ���������� ���ͪ��ش �к��֧�ѧ������ö�ӧҹ������ �ѡɳС���������ͨ��繴ѧ�ٻ ��ʹ� 3. Ẻ��� (BusNetwork) ���ѡɳТͧ��ù�����ͧ�������������������� ���к����͢��� �������������ǵ�����ͧ�ѹ������� � ���դ������㹡���������� ���ѡɳТͧ����������Ѻ������ ���繡���觢����� ��������ͧ㹪�ǧ����˹�� � ��ҹ�鹨ҡ�������ͧ���·ҧ ������ѭ�ҳ�����š�Ѻ�� ���㹡������������к� Bus ���е�ͧ�� T-Connector ����繵�ǡ�ҧ㹡���������� ����� Terminator ���ػ�ó�Դ��������ѭ�ҳ �ͧ����к� ��� Terminaltor �Ф���繵�Ǵٴ�Ѻ�ѭ�ҳ�������ա����šѺ� �ǹ�Ѻ�к��ѭ�ҳ������� ����·���� ���դ�Ҥ�����ҹ�ҹ����ҳ 50 ����� �ҧ���駶������� Terminator �������ö����� R ����价������ػ�ó�����礷�Ԥ�좹Ҵ 50 �����᷹�������ѹ �ѡɳС���������͡���繴ѧ�ٻ ��ʹ� � 4. Ẻ��� (Hybrid Network) ตัวชี้วัด ง 3.1 ม.2/1 อธิบายหลักการเบื้องต้นของการสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1) อธิบายลักษณะรูปแบบการเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์แต่ละรูปแบบได้ (K) 2) มีทักษะวิเคราะห์ข้อดี – ข้อเสีย ของรูปแบบการเชื่อมต่อเครือข่ายคอมพิวเตอร์แต่ละรูปแบบได้ (P) 3) มีสนใจใฝ่รู้
และมุ่งมั่นในการปฏิบัติกิจกรรม (A) —————————————————————————————————————————— เป็นโทโปโลยีที่ได้รับความนิยมใช้กันมากที่สุดมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ลักษณะการทำงานของเครือข่าย โทโปโลยีแบบบัส คืออุปกรณ์ทุกชิ้นหรือโหนดทุกโหนด ในเครือข่ายจะต้องเชื่อมโยงเข้ากับสายสื่อสารหลักที่เรียกว่า “บัส” (BUS) เมื่อโหนดหนึ่งต้องการจะส่งข้อมูลไปให้ยังอีกโหนด หนึ่งภายในเครือข่าย จะต้องตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าบัสว่างหรือไม่
ถ้าหากไม่ว่างก็ไม่สามารถจะส่งข้อมูลออกไปได้ ทั้งนี้เพราะสายสื่อสารหลักมีเพียงสายเดียว ในกรณีที่มีข้อมูลวิ่งมาในบัส ข้อมูลนี้จะวิ่งผ่านโหนดต่างๆ ไปเรื่อยๆ ในขณะที่แต่ละโหนดจะคอยตรวจสอบข้อมูลที่ผ่านมาว่าเป็นของตนเองหรือไม่ หากไม่ใช่ ก็จะปล่อยให้ข้อมูลวิ่งผ่านไป แต่หากเลขที่อยู่ปลายทาง ซึ่งกำกับมากับข้อมูลตรงกับเลขที่อยู่ของของตน โหนดนั้นก็จะรับข้อมูลเข้าไป รูปแสดงตัวอย่างโทโปโลยีแบบบัส ข้อดี
ข้อเสีย
โทโปโลยีแบบดาว (Star Topology) เป็นรูปแบบที่เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องที่เชื่อมต่อเข้าด้วยกันในเครือ ข่าย จะต้องเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ตัวกลางตัวหนึ่งที่เรียกว่า ฮับ (HUB) หรือสวิตช์ (Switch) หรือเครื่อง ๆ หนึ่ง ซึ่งทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของการเชื่อมต่อสายสัญญาญที่มาจากเครื่องต่าง ๆ ในเครือข่าย และควบคุมเส้นทางการสื่อสาร ทั้งหมด เมื่อมีเครื่องที่ต้องการส่งข้อมูลไปยังเครื่องอื่น ๆ ที่ต้องการในเครือข่าย เครื่องนั้นก็จะต้องส่งข้อมูลมายัง HUB หรือเครื่องศูนย์กลางก่อน แล้ว HUB ก็จะทำหน้าที่กระจายข้อมูลนั้นไปในเครือข่ายต่อไป รูปแสดงตัวอย่างโทโปโลยีแบบดาว ข้อดี – การติดตั้งเครือข่ายและการดูแลรักษาทำ ได้ง่าย หากมีเครื่องใดเกิดความเสียหาย ก็สามารถตรวจสอบได้ง่าย และศูนย์ กลางสามารถตัดเครื่องที่เสียหายนั้นออกจากการสื่อสาร ในเครือข่ายได้เลย โดยไม่มีผลกระทบกับระบบเครือข่าย ข้อเสีย – เสียค่าใช้จ่ายมาก ทั้งในด้านของเครื่องที่จะใช้เป็น เครื่องศูนย์กลาง หรือตัว HUB เอง และค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสายเคเบิลในเครื่องอื่น ๆ ทุกเครื่อง การขยายระบบให้ใหญ่ขึ้นทำได้ยาก เพราะการขยายแต่ละครั้ง จะต้องเกี่ยวเนื่องกับเครื่องอื่นๆ ทั้งระบบ
เป็นรูปแบบที่ เครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในระบบเครือข่าย ทั้งเครื่องที่เป็นผู้ให้บริการ( Server) และ เครื่องที่เป็นผู้ขอใช้บริการ(Client) ทุกเครื่องถูกเชื่อมต่อกันเป็นวงกลม ข้อมูลข่าวสารที่ส่งระหว่างกัน จะไหลวนอยู่ในเครือข่ายไปใน ทิศทางเดียวกัน โดยไม่มีจุดปลายหรือเทอร์มิเนเตอร์เช่นเดียวกับเครือข่ายแบบ BUS ในแต่ละโหนดหรือแต่ละเครื่อง จะมีรีพีตเตอร์ (Repeater) ประจำแต่ละเครื่อง 1 ตัว ซึ่งจะทำหน้าที่เพิ่มเติมข้อมูลที่จำเป็นต่อการติดต่อสื่อสารเข้าในส่วนหัวของแพ็กเกจที่ส่ง และตรวจสอบข้อมูลจากส่วนหัวของ Packet ที่ส่งมาถึง ว่าเป็นข้อมูลของตนหรือไม่ แต่ถ้าไม่ใช่ก็จะปล่อยข้อมูลนั้นไปยัง Repeater ของเครื่องถัดไป รูปแสดงตัวอย่างโทโปโลยีแบบวงแหวน ข้อดี 1.ผู้ส่งสามารถส่งข้อมูลไปยังผู้รับได้หลาย ๆ เครื่องพร้อม ๆ กัน โดยกำหนดตำแหน่งปลายทางเหล่านั้นลง ในส่วนหัวของแพ็กเกจข้อมูล Repeaterของแต่ละเครื่องจะทำการตรวจสอบเองว่า ข้อมูลที่ส่งมาให้นั้นเป็น ตนเองหรือไม่
ของ สัญญาณข้อมูลที่ส่งออกไป 3.คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องในเน็ตเวิร์กมีโอกาสที่จะส่งข้อมูลได้อย่างทัดเทียมกัน ข้อเสีย 1.ถ้ามีเครื่องใดเครื่องหนึ่งในเครือข่ายเสียหาย ข้อมูลจะไม่สามารถส่งผ่านไปยังเครื่องต่อ ๆ ไปได้ และจะทำ ให้เครือข่ายทั้งเครือข่าย หยุดชะงักได้ 2.ขณะที่ข้อมูลถูกส่งผ่านแต่ละเครื่อง เวลาส่วนหนึ่งจะสูญเสียไปกับการที่ทุก ๆ Repeater จะต้องทำการตรวจ สอบตำแหน่งปลายทางของข้อมูลนั้น ๆ ทุก ข้อมูลที่ส่งผ่านมาถึง
มีลักษณะเชื่อมโยงคล้ายกับโครงสร้างแบบดาวแต่จะมีโครงสร้างแบบต้นไม้ โดยมีสายนำสัญญาณแยกออกไปเป็นแบบกิ่งไม่เป็นวงรอบ โครงสร้างแบบนี้จะเหมาะกับการประมวลผลแบบกลุ่มจะประกอบด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ระดับต่างๆกันอยู่หลายเครื่องแล้วต่อกันเป็นชั้น ๆ ดูราวกับแผนภาพองค์กร แต่ละกลุ่มจะมีโหนดแม่ละโหนดลูกในกลุ่มนั้นที่มีการสัมพันธ์กัน การสื่อสารข้อมูลจะผ่านตัวกลางไปยังสถานีอื่นๆได้ทั้งหมด เพราะทุกสถานีจะอยู่บนทางเชื่อม และรับส่งข้อมูลเดียวกัน ดังนั้นในแต่ละกลุ่มจะส่งข้อมูลได้ทีละสถานีโดยไม่ส่งพร้อมกัน รูปแสดงตัวอย่างโทโปโลยีแบบต้นไม้
เป็นเครือข่ายที่ผสมผสานโทโพโลยีแบบต่างๆ เข้าด้วยกัน เป็นเครือข่ายขนาดใหญ่เพียงเครือข่ายเดียว เช่น การเชื่อมเครือข่ายแบบวงแหวน แบบดาว และแบบบัสเข้าเป็นเครือข่ายเดียวกัน เครือข่ายบริเวณกว้าง (WAN) เป็นตัวอย่างที่ใช้ลักษณะโทโพโลยีแบบผสมที่พบเห็นมากที่สุด เครือข่ายแบบนี้จะเชื่อมต่อทั้งเครือข่ายขนาดเล็กและขนาดใหญ่ หลากหลายที่เข้าด้วยกัน ซึ่งอาจจะถูกเชื่อมต่อจากคนละจังหวัด หรือคนละประเทศก็ได้ ตัวอย่างเช่น บริษัทที่มีสาขาแยกย่อยตามจังหวัดต่าง ๆ สาขาที่หนึ่งอาจจะใช้โทโพโลยีแบบดาว อีกสาขาหนึ่งอาจใช้โทโพโลยีแบบบัส การเชื่อมต่อเครือข่ายเข้าด้วยกันอาจใช้สื่อกลางเป็นไมโครเวฟ หรือดาวเทียม เป็นต้น รูปแสดงตัวอย่างโทโปโลยีแบบผสม 6. โทโพโลยีแบบเมช (Mesh Topology)มีการทำงานโดยเครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะมีช่องสัญญาณจำนวนมาก เพื่อที่จะเชื่อมต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆทุกเครื่องโครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์นี้เครื่องคอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องจะส่งข้อมูลได้อิสระไม่ต้องรอการส่งข้อมูลระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องอื่นๆ ทำให้การส่งข้อมูลมีความรวดเร็ว แต่ค่าใช้จ่ายสายเคเบิ้ลก็สูงด้วยเช่นกัน เป็นรูปแบบที่ถือว่าสามารถป้องกันการผิดพลาดที่อาจจะเกิดขึ้นกับระบบได้ดีที่สุด เป็นรูปแบบที่ใช้วิธีการเดินสายของแต่เครื่องไปเชื่อมการติดต่อกับทุกเครื่องในระบบเครือข่าย คือเครื่องทุกเครื่องในระบบเครือข่ายนี้ ต้องมีสายไปเชื่อมกับทุก ๆ เครื่อง ระบบนี้ยากต่อการเดินสายและมีราคาแพง จึงมีค่อยมีผู้นิยมมากนัก รูปแสดงตัวอย่างโทโปโลยีแบบเมซ ข้อดี
ข้อเสีย ค่าใช้จ่ายสายเคเบิ้ลสูง เช่น ถ้าในกรณีที่จำนวนโหนดมากเช่นถ้าจำนวนโหนดทั้งหมด ในเครือข่ายมีอยู่ 100 โหนด จะต้องมีจำนวนจุดเชื่อมต่อถึง 4,950 เส้น เป็นต้น แหล่งเรียนรู้เพิ่มเติม เว็บไซต์ครูณัฐชา http://www.datacom2u.com/Worksheet/Doc7_5.pdf โครงสร้างเครือข่ายแบบดาว star topology มีข้อดี1. แบบดาว (Star Topology) เป็นการเชื่อมต่อระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องจะต่อผ่านอุปกรณ์ที่เรียกว่า ฮับ ( Hub ) ซึ่งเป็นจุดกลางในการติดต่อ เป็นเครือข่ายที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันเพราะติดตั้งและ ดูแลรักษาระบบง่าย ราคาวัสดุอุปกรณ์ก็ไม่แพง ข้อดีคือ เมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่งมีปัญหา จะไม่ส่งผล ...
รูปแบบเครือข่ายแบบดาวมีข้อเสียอย่างไรข้อเสียของการเชื่อมแบบดาว คือ ต้องใช้สายสัญญาณจำนวนมาก เพราะแต่ละสถานีมีสายสัญญาณของตนเองเชื่อมต่อกับศูนย์กลางจึงเหมาะสมกับเครือข่ายระยะใกล้มาก กว่าการเชื่อมต่อเครือข่ายระยะไกล การขยายระบบก็ยุ่งยากเพราะต้องเชื่อมต่อสายจากศูนย์กลางออกมา ถ้าศูนย์กลางเสียหายระบบจะใช้การไม่ได้
รูปแบบเครือข่ายแบบดาวมีข้อดีอย่างไร1. เป็นระบบที่ง่ายต่อการติดตั้ง 2. เนื่องจากการรับ – ส่งข้อมูลขึ้นอยู่กับเครื่องคอมพิวเตอร์ศูนย์กลางทั้งหมดจึงทำให้การรับ – ส่งข้อมูลทำได้ง่าย 3. หากอุปกรณ์ชิ้นใดเสียหายก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบ เพราะมีการใช้อุปกรณ์ที่แยกออกจากกัน 4. การตอบสนองที่รวดเร็วเพราะไม่ต้องแย่งกันใช้สายสื่อสาร
เครือข่ายแบบดาวคืออะไร1. แบบดาว (StarNetwork) นั้นจะเป็นลักษณะของการต่อเครือข่ายที่ Work station แต่ละตัวต่อรวมเข้าสู่ศูนย์กลางสวิตซ์ เพื่อสลับตำแหน่งของเส้นทางของข้อมูลใด ๆ ในระบบ ดังนั้นใน โทโปโลยี แบบดาว คอมพิวเตอร์จะติดต่อกันได้ใน 1 ครั้ง ต่อ 1 คู่สถานีเท่านั้น เมื่อสถานีใดต้องการส่งข้องมูลมันจะส่งข้อมูลไปยังศูนย์กลางสวิทซ์ก่อน เพื่อบอก ...
|