ขนาด ความกว้าง เครื่องซักผ้า

ในวิถีชีวิตที่เร่งรีบ ทำงานแข่งกับเวลา เครื่องใช้ไฟฟ้าจำนวนไม่น้อยได้ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่ต้องการความสะอาดและสะดวกสบายในเวลาเดียวกัน รวมถึงเครื่องซักผ้าด้วย และ เครื่องซักผ้าแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อก็มีความแตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยี โปรแกรมหรือฟังก์ชั่นใหม่ๆรวมถึงขนาดและความจุของถังคุณก็สามารถเลือกได้ว่าจะใช้สำหรับผ้ากองเล็กหรือผ้ากองใหญ่ จริง ๆ แล้วขนาดของเครื่องซักผ้ามีกี่แบบ และ แต่ละแบบใช้งานแตกต่างกันอย่างไร วันนี้เราจะไป รู้จัก ขนาด เครื่องซักผ้า และความจุของถังซักผ้า ไปดูกันเลยค่ะ

บ้านอะไหล่ สนใจติดต่อสอบถาม ไลน์แอด

แอดไลน์สอบถาม

ดูสินค้าภายในเว็บ

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักกับประเภทของเครื่องซักผ้ากันก่อนนะคะว่าในท้องตลาดบ้านเรามีกี่ประเภท และแต่ละประเภทมีความแตกต่างกันอย่างไร มีข้อดี ข้อจำกัดในการใช้งานอย่างไรบ้าง

เครื่องซักผ้าฝาหน้า (Front Load)

เครื่องซักผ้าประเภทฝาหน้า มีข้อดีคือสามารถซักผ้าได้ทีละมากๆ ดังนั้นจึงเหมาะกับครอบครัวใหญ่ ซักได้สะอาดเหมือนซักด้วยมือและสามารถถนอมเนื้อผ้าได้ด้วย แถมยังประหยัดพลังงานได้มากกว่า แต่ก็มีราคาสูงกว่าเครื่องซักผ้าฝาบน

เครื่องซักผ้าฝาบน 1 ถัง (Top Load 1 Tub)

เครื่องซักผ้าประเภทฝาบน 1 ถังเป็นที่นิยมต่อเนื่องมายาวนานเพราะเป็นระบบทำงานแบบอัตโนมัติ มีโปรแกรมการทำงานที่หลากหลาย เหมาะกับคนที่ต้องการความรวดเร็วในการซักผ้า เน้นผ้าที่ไม่สกปรกมากนัก ที่สำคัญราคาไม่แพงมาก สามารถซื้อหาได้ง่ายค่ะ

เครื่องซักผ้าฝาบน 2 ถัง (Top Load 2 Tubs)

เครื่องซักผ้าแบบฝาบน 2 ถัง แบ่งเป็นถังซักและถังปั่นหมาด โดยทั้งสองถังแยกนั้นจะมีฝาปิดอยู่ข้างบน เป็นเครื่องซักผ้ากึ่งอัตโนมัติที่ต้องอาศัยผู้ใช้ช่วยควบคุมโปรแกรมต่างๆ และเมื่อซักเสร็จแล้ว ผู้ใช้จะต้องเป็นคนที่ย้ายผ้าจากถังซักไปปั่นในถังแห้งที่อยู่ข้างๆ ราคาย่อมเยาวกว่าเครื่องซักผ้าประเภทอื่นๆ ซึ่งอาจจะเนื่องด้วยไม่ได้มีโปรแกรมอะไรที่ซับซ้อน ใช้งานได้ง่าย

เครื่องซักผ้าอบผ้า (Washers and Dryers)

แถมให้อีกประเภทหนึ่งเป็นเครื่องฝาหน้าที่มีทั้งระบบซักผ้าและระบบอบผ้าแห้งด้วยไอน้ำ เหมาะสำหรับปริมาณผ้าน้อยๆ แต่ละรุ่นก็จะมีฟังก์ชั่นเสริมที่แตกต่างกัน เช่นกำจัดแบคทีเรีย ฆ่าเชื้อโรค ผ้านุ่มฟู หรือถนอมผ้าได้มากกว่า เป็นต้น เครื่องซักผ้าประเภทนี้จะมีราคาสูงกว่าเครื่องซักผ้าทุกประเภทค่ะ

การเลือกเครื่องซักผ้า ต้องเลือกให้เหมาะกับลักษณะการใช้งานของเราและขนาดของพื้นที่ในการจัดวาง ว่าเครื่องซักผ้าที่เราต้องการนั้นเหมาะสำหรับพื้นที่แคบหรือกว้าง เพื่อให้เกิดประโยชน์ใช้สอยสูงสุดสำหรับทุกการใช้งานค่ะ

ขนาดและตำแหน่งของพื้นที่ในการจัดวางเครื่องซักผ้า

ก่อนซื้อเครื่องซักผ้าสักเครื่อง เราต้องรู้จักพื้นที่ห้องหรือพื้นที่ว่างที่เราจะวางเครื่องซักผ้าเสียก่อน เรามาดูกันค่ะว่าขนาดพื้นที่เท่าไรเหมาะกับเครื่องแบบไหน

• พื้นที่ 60 – 48 เซนติเมตร เหมาะสำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้า
• พื้นที่ 48 – 34 เซนติเมตร เหมาะสำหรับเครื่องซักผ้าฝาหน้าขนาดย่อม
• พื้นที่ 45 – 40 เซนติเมตร เหมาะสำหรับเครื่องซักผ้าฝาบน

ขนาดและความจุของถังซักสำคัญอย่างไร

ขนาดและความจุของเครื่องซักผ้าสำคัญมากค่ะเพราะจะเป็นตัวกำหนดปริมาณของเสื้อผ้าที่คุณจะซักในแต่ละครั้งที่ไม่มากเกินไปจนก่อให้เกิดปัญหาตามมา

• ความจุขนาด 5-7 กิโล สามารถซักเสื้อผ้าได้25-30 ชิ้น ส่วนใหญ่จะเป็นกรณีที่ซักผ้าน้อยกว่า 4 ครั้งต่อสัปดาห์
• ความจุขนาด 7-9 กิโล สามารถซักเสื้อผ้าได้ 36-45 ชิ้น ในกรณีที่ซักผ้า 4-6 ครั้งต่อสัปดาห์
• ความจุขนาด 9-11 กิโล สามารถซักเสื้อผ้าได้ 46-65 ชิ้น ในกรณีที่ซักผ้า 6 ครั้งขึ้นไปต่อสัปดาห์
• ความจุขนาด 11 กิโล ขึ้นไป สามารถซักเสื้อผ้าได้จำนวน 56 ชิ้นขึ้นไป

การแบ่งเครื่องซักผ้าตามมาตรฐานขนาดและความจุของเครื่อง

ขนาดของเครื่องซักผ้าส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับความจุของถังซัก ซึ่งมีหน่วยวัดเป็นกิโลกรัม วัดตามน้ำหนักผ้า โดยวัดจากปริมาณของผ้าแห้งที่จะนำเข้าเครื่องหรือถังซักในแต่ละครั้ง และจะใช้เกณฑ์การแบ่งน้ำหนักตามประเภทของผ้า ซึ่งได้กำหนดตามมาตรฐานสากลเอาไว้ดังต่อไปนี้

1. ประเภทเสื้อบุรุษและสตรี

• 25 -30 ชิ้น น้ำหนักก็จะอยู่ที่ 5 – 6.9 กิโลกรัม
• 36 – 45 ชิ้นน้ำหนักก็จะอยู่ที่ 7 – 8.9 กิโลกรัม เป็นต้น

1. ประเภทกางเกงบุรุษและสตรี

• 9 – 12 ชิ้น น้ำหนักก็จะอยู่ที่ 5 – 6.9 กิโลกรัม
• 13 – 16 ชิ้นน้ำหนักก็จะอยู่ที่ 7 – 8.9 กิโลกรัม เป็นต้น

1. ประเภทผ้าปูที่นอน

• 10 – 13 ชิ้น น้ำหนักก็จะอยู่ที่ 5 – 6.9 กิโลกรัม
• 14 – 17 ชิ้นน้ำหนักก็จะอยู่ที่ 7 – 8.9 กิโลกรัม เป็นต้น

1. ประเภทปลอกหมอน

• 25 -35 ชิ้น น้ำหนักก็จะอยู่ที่ 5 – 6.9 กิโลกรัม
• 36 – 45 ชิ้นน้ำหนักก็จะอยู่ที่ 7 – 8.9 กิโลกรัม เป็นต้น

1. ประเภทผ้านวม สามารถซักได้เฉพาะเครื่องที่มีขนาดถังซักความจุ 11 กิโลกรัมขึ้นไปเท่านั้น

เมื่อเราคำนวณถึงปริมาณของเสื้อผ้าที่ต้องการซักในแต่ละครั้งแล้ว เราก็จะสามารถเลือกขนาดเครื่องซักผ้าและความจุของถังซักได้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น ซึ่งทั้งสองสิ่งนี้จะต้องสัมพันธ์กัน ปริมาณผ้ามากให้ใช้ถังที่มีความจุมาก เสื้อผ้าปริมาณที่น้อยกว่า สามารถใช้ถังซักที่มีความจุที่พอดีกันได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อให้คุณสามารถใช้งานเครื่องซักผ้าได้อย่างสะดวก ไม่เสียเวลา และประหยัดพลังงานได้มากขึ้นด้วยค่ะ