น้อง คน ดี ลูก ใคร pantip

การยอมแพ้บ้างนั้นมีข้อดีมากกว่าข้อเสีย เพราะทำให้เราได้ทบทวนปรับปรุงตัวเอง ได้เห็นข้อผิดพลาดและแก้ไขให้ดีขึ้น ชีวิตมีการพัฒนาในทางที่ดี เป็นการเปิดใจรับฟัง ไม่เป็นคนปิดกั้น และก็จะเป็นคนน่ารักน่าคบหาในสายตาคนอื่นอีกด้วย การรู้จักความพ่ายแพ้คือการอยู่กับความเป็นจริงของชีวิตว่าไม่มีใครได้เป็นที่หนึ่งตลอดเวลา ถ้าใช้ชีวิตอยู่กับความจริงก็จะใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขมากยิ่งขึ้น


กลายเป็นเรื่องช็อกวงการส่งท้ายปีเก่าเลยทีเดียวเมื่อจู่ๆ นักแสดงสาวเซ็กซี่ "แวร์ โซว" ก็เดินท้องโย้ออกมาเปิดเผยความจริงว่าตอนนี้ "ท้องแล้วจ้า..." ซ้ำยังทำลึกลับไม่บอกว่า ท้องกับใคร?

เรื่องแบบนี้รู้ ๆ กันอยู่ว่า สังคมไทยยอมรับไม่ค่อยได้ แต่สำหรับแวร์ โซวนั้น เธอกับเข้มแข็งและยืนยันที่จะเลี้ยงลูกของตัวเองให้ดีที่สุด ประมาณว่า “ท้องไม่ง้อผัว” เก๋สุด ๆ

“ก่อนหน้านี้ประมาณ 6 – 7 ปีแวร์เคยมีความรักมาแล้ว และก็เป็นการอกหักครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต เค้าเป็นรุ่นพี่แวร์ แวร์รักเค้ามาก พอเลิกกันก็เฮิร์ตก็เสียใจมาก จากนั้นมาแวร์ก็ค่อนข้างปิดตัวเอง มีคนมาขอแต่งงานนะไม่ใช่ไม่มี แต่ด้วยความที่เรายังไม่เปิดใจก็เลยไม่เอาดีกว่า”

“จนกระทั่งมาพบกับเค้า เรารู้จักกันได้ 1 ปี เค้าเป็นคนที่แวร์รักมาก เห็นกระด้าง ๆ แบบนี้เวลาที่แวร์รักใคร แวร์รักหมดใจเลยนะ ซึ่งมันทำให้เวลามีอะไรเข้ามาเรามองข้ามมันไป เออ…เรารักเค้านะ จนกระทั่งมีปัญหามากขึ้นเรื่อย ๆ เราก็ค่อยมาคิดได้ แต่ปัญหาอะไรคงบอกไม่ได้ แวร์ไม่อยากฟื้นฝอยหาตะเข็บ แต่สุดท้ายก็เลยเลิกกันไป”

มีข่าวว่าแวร์มีปัญหากับญาติผู้ใหญ่ฝ่ายชาย….
“ญาติเค้าแวร์ไม่ได้ซีเรียส แวร์ไม่ค่อยไปยุ่งกับครอบครัวเค้า เราไม่เกี่ยวข้องกันตัวใครตัวมัน เราคบกันในระดับหนึ่ง เราทำดีที่สุด แต่แวร์ไม่สามารถพูดอะไรให้ละเอียดได้ สิ่งที่เค้าพูดออกมาทำให้แวร์รู้ว่า อ้อ ! เค้าคิดอย่างนี้เองเหรอ….โอเค แวร์ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว คือแวร์ก็เข้าใจนะว่า ช่วงนั้นเค้าอาจจะตัดสินใจแบบนั้น เราคงไม่อะไรกับเค้าหรอก”

พอเลิกกันไปซักพักจู่ ๆ เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นมา “แวร์ โซวท้อง”
“ตอนแรกไม่คิดว่าจะท้อง รอบเดือนขาดก็ไม่ได้คิดเพราะปกติแวร์ก็ไม่ได้มานั่งเฝ้าว่ามันจะมาเมื่อไหร่ ก็คิดว่าเราคงจะเครียดเพราะพึ่งเลิกกับแฟน รอบเดือนก็เลยมาไม่ปกติ จนกระทั่งมีอาการปวดท้องผิดปกติก็เลยไปเช็คปรากฎว่าท้อง”

“พอรู้ว่ามีท้องรู้สึกตกใจเพราะแวร์เลิกกับแฟนไปแล้ว ตายแล้วชั้นจะมีลูกแฟนก็ไม่มี แต่อีกในใจก็คิดเออก็ดีเหมือนกันจะได้มีลูกซักที จากนั้นแวร์ก็เลยโทรหาน้องแหม่ม วิชุดา แหม่มเค้าตกใจมากบอกว่าจะแวะมาหาที่บ้านให้ทำใจเย็น ๆ ไว้นะ”

“เราก็เฮ้ย…ทำไมเค้าตกใจขนาดนี้ ตรงนี้แวร์ถือว่าไม่ใช่ข้อผิดพลาดเพราะแวร์เป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่แวร์ตกใจที่เราจู่ ๆ ก็มีน้อง ถามว่าสภาพจิตใจแย่ไหม ก็แย่พอสมควรเพราะพึ่งเลิกกับแฟนมา พอมีน้องก็สับสน สังคมจะมองยังไง ไม่ใช่ไม่แคร์นะ แต่เราต้องดำเนินชีวิตต่อไป “

“แวร์ตั้งมั่นว่าจะเอาไว้ แวร์ตัดสินใจแน่วแน่เลยว่าจะเลี้ยงเค้า ไม่เคยคิดว่าจะไปเอาออกก็เลยไม่เครียด ต่อจากนั้นก็เลยมาคิดต่อว่าเราจะทำไงต่อดี เราต้องทำงานให้หนักขึ้น เราต้องทำธุรกิจ เรามองไปถึงความมั่นคงของชีวิตเพื่อลูก มันกลายเป็นว่าเรามองเลยไปถึงเรื่องอนาคตไปโน่น”

“แต่อย่างไรก็ตาม แวร์ก็ต้องบอกฝ่ายชายให้รับ ที่บอกนี่ไม่ใช่ว่าคาดหวังว่าจะให้เค้ามารับผิดชอบ แวร์รู้อยู่แล้วว่าเค้าจะต้องตอบปฏิเสธ แต่ยังไงเราก็ต้องบอกเค้าตามมารยาท อย่างน้อย ๆ น้องคนดีก็เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเค้า”

“แต่พอบอกว่ามีน้องนะ เค้าบอกว่าแล้วจะให้ทำไงเหรอ เอ้าเราก็เลยพูดเลยว่า แล้วคนที่มีลูกเค้าควรจะทำยังไงล่ะ จริง ๆ แวร์ก็ถามไปแบบนั้นแหละเพราะรู้อยู่แล้วว่าคำตอบเป็นไง แล้วเค้าก็บอกว่าไม่รู้ แวร์ก็เลยบอก ไม่รู้ได้ไงล่ะ ตามมารยาทสังคมทั่วไปถ้าท้องก็ต้องแต่งงาน หรือทำอะไรก็ได้ที่ไม่ทำให้ผู้หญิงเค้าขายหน้า ไม่ให้ผู้หญิงเค้าอับอาย จะทำอะไรได้ก็ต้องแต่งงานสิคุณ”

“จะให้ชั้นไปหลบซ่อนๆ ได้ไง ทำไมชั้นต้องหลบ ๆ ซ่อน ๆ ถ้ากลัวคนข้างนอกรู้ชั้นไปเอาออกดีกว่า ลูกแวร์ต้องอยู่อย่างมีเกียรติ เค้าบอก… เค้าแต่งงานไม่ได้เค้ายังไม่พร้อมรับผิดชอบอะไร และก็จะไม่ทำอะไรทั้งสิ้น แวร์อยากจะทำอะไรก็เป็นเรื่องของแวร์”

“แวร์ก็โอเคงั้นจบ คือเราก็รู้อยู่แล้วว่าเค้าเป็นคนนิสัยยังไง แต่เค้าจะไม่มีสิทธิ์เกี่ยวข้องกับลูก จบแล้วจบเลยไม่ต้องมายุ่งกัน”

แม้จะถูกปฏิเสธความรับผิดชอบ แต่แวร์ก็ไม่ได้คิดว่าเป็นความผิดของฝ่ายชาย…
“ไม่หรอก…แวร์จะไปโกรธเค้าฝ่ายเดียวไม่ได้ ไม่งั้นคนเราทุกคนจะมีคนอกหักเหรอ แต่คงเป็นเพราะเราไม่รู้จักเค้าลึกซึ้งพอ และพอวันหนึ่งเรารู้ว่าเค้าเป็นไง เข้ากันไม่ได้ก็อย่าฝืน แวร์เป็นประเภทไม่ทนที่จะคบ ถ้ามันบั่นทอนจิตใจก็ไม่รู้จะอยู่ด้วยกันทำไม”

ตัวเองอาจพอรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าครอบครัวของแวร์จะว่าอย่างไรบ้าง…
“ก่อนหน้านี้แม่ก็เคยถามอยู่บ่อย ๆ ว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน เค้าค่อนข้างเป็นห่วง เราก็บอกว่ายังหรอกยังไม่เจอคนที่ถูกใจ พอมีน้องก็ค่อย ๆ บอกเค้า พี่สาวแวร์เป็นคนบอก แต่ไม่บอกเองไม่ใช่ว่าไม่กล้านะ แต่แวร์เป็นคนพูดตรงและพูดชัดมาก ๆ จะใส่ตู้เดียวเลย”

“พี่สาวเค้าก็เลยกลัวว่าแวร์จะพูดแรงเพราะแม่แวร์ไม่ค่อยสบาย เค้าก็เลยบอกว่า เดี๋ยวเค้าจะค่อย ๆ บอกให้ แวร์ว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่เรื่องโต ที่ผ่านมา แวร์ก็รับผิดชอบเค้า รับผิดชอบตัวเองมาตลอด แม่แวร์ก็เข้าใจแต่เค้าจะห่วงเรื่องเลี้ยงลูกมากกว่า เค้ากลัวว่าแวร์จะเลี้ยงลูกไม่ได้ เพราะแวร์เป็นคนที่ไม่ค่อยกล้าจับเด็กทารก หลานคลอดก็ไม่กล้าแตะ เพื่อนคลอดลูกก็ไม่กล้าแตะ”

ทุกวันนี้แวร์อยู่คนเดียวไม่มีใครดูแล ไปหาหมอไปฝากท้องก็ต้องไปคนเดียว
“แวร์อยู่คนเดียวไม่รู้สึกกลัวหรือต้องการให้ใครมาดูแล เพราะที่ผ่านมาก็อยู่คนเดียวมาตลอด พึ่งจะมีปีนี้ที่หลานมาอยู่ด้วย เราอยู่อย่างนี้มานานแล้ว เราผ่านอะไรมาเยอะ เรามีประสบการณ์เยอะพอสมควร แต่บางทีมันก็แว๊บเข้ามาเหมือนกัน วันที่ไปฝากท้องครั้งแรก 12 สิงหาคม แวร์ไปอัลตร้าซาวนด์ก็ห็นน้องแล้วน้ำตาคลอเบ้าเลยดีใจมาก ตอนนั้นเค้าเหมือนลูกอ๊อดเลย คุณหมอก็ให้ฟังเสียงหัวใจ มันทำให้เราน้ำตาไหลเลย”

“แว๊บนึงมันคิดขึ้นมาว่า ถ้ามีอีกคนมานั่งอยู่ข้าง ๆ เราก็คงจะดีเนอะ แวร์เองก็โตมาจากครอบครัวแตกแยก ก็อยากจะมีครอบครัวที่อบอุ่น มันเป็นเหมือนความฝันของเรา แต่พอเป็นแบบนี้ทำไงได้ เราก็ต้องแก้ไขเหตุการณ์มันไม่ได้เป็นอย่างที่เราคาดคิดไว้ เราก็ต้องเข้มแข็งและทำใจให้ได้ ไม่ใช่ไม่เสียใจ แต่เวลาจะทำให้เราผ่านพ้นมันไปด้วยดี เด็กไม่ผิดเราจะมานั่งเครียดทำไม”

ท้อง 3 เดือนแรกไม่ค่อยได้ดูแลตัวเองมากนัก…
“ตอนท้อง 3 เดือนแรกแวร์ก็ยังรับละครอยู่เพราะเรารับปากเค้าไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ตอนนั้นแวร์ก็เลยบำรุงอะไรได้ไม่มากทั้งที่ 3 เดือนแรกเป็นช่วงที่ควรบำรุงให้มากที่สุด สรุปว่าช่วงนั้นก็ขาดสารอาหารพอสมควร แวร์ก็จะคุยกับเค้าว่า ขอม่ามี๊ทำงานก่อนนะ ถ่ายละครเสร็จแล้วจะกินให้เต็มคาบเลย”

“พอปิดกล้องแวร์ก็อัดนมอัดผลไม้บำรุงทุกอย่างสุดฤทธิ์ เพื่อน ๆ ก็เอาหนังสือเกี่ยวการเลี้ยงลูกมาให้อ่าน ใครที่แต่งงานไปแล้วมีลูกแล้ว ของเค้าไม่ใช้พวกเตียงรถเข็นเค้าก็เอามาให้ แวร์ก็โอเคเพราะไม่ได้ฟุ้งเฟ้อ ขอแค่ให้สะอาดปลอดภัยสำหรับลูกเราก็พอแล้ว”

“แต่ด้วยความที่เราเป็นคนที่พักนาน ๆ ไม่ได้ รู้สึกว่าตัวเองดูไร้ค่า วัน ๆ นอนดูทีวีรดน้ำต้นไม้ มันน่าเบื่อน่ะ เราน่าจะหาอะไรเบา ๆ ทำดีกว่า ก็เลยไปขายชาเชียวโออิชิที่ประตูน้ำเซ็นเตอร์ ทีนี้ช่วงกลางวันพี่สาวกับหลานก็ไม่อยู่ เราอยู่คนเดียวก็ไม่มีคนยกลังน้ำให้ จะรอให้เค้ากลับมาก็ไม่ได้ จะไปเรียกเด็กข้าง ๆ ร้านมาช่วยยกก็เกรงใจเค้า ก็เลยยกลังเองเพราะเห็นว่ามันเบาน่าจะยกได้”

“จนมีอยู่วันหนึ่งกลับมานอนดูทีวีอยู่ที่บ้าน จู่ ๆ ก็รู้สึกว่ามันมีอะไรเหนียว ๆ ไหลออกมา ตอนแรกก็คิดว่าเป็นตกขาว แต่เอ…ทำไมมันรู้สึกแปลก ๆ พอลองไปดูในห้องน้ำ ปรากฎว่าเป็นเลือดออก แวร์ตกใจมากเพราะเคยอ่านในหนังสือเค้าบอกว่า ถ้ามีเลือดออกเป็นสัญญาณที่ไม่ดี”

“จากนั้นก็เลยโทรไปโรงพยาบาล พยาบาลเค้าก็พูดจาดีมาก เค้าบอกว่าจะคลอดก่อนกำหนดหรือเปล่าคะ เราก็บอกจะบ้าเหรอท้อง 4 เดือนเนี่ยนะจะคลอดก่อนกำหนดได้ไง คือจริง ๆ น่ะเค้าคงตั้งใจอยากจะบอกว่า แท้งแต่ก็ไม่กล้าบอก”

“พอคุยเสร็จแวร์ก็เรียกแท็กซี่ไปคนเดียวเลย นั่งรถไปก็ร้องไห้ไป รู้สึกน้อยใจว่าทำไมชีวิตเราต้องเป็นแบบนี้ ทำไมไม่มีคนมาดูแลเรา พอไปถึงแผนกฉุกเฉินปกติเค้าจะต้องนั่งรถเข็นกัน แต่แวร์ก็ไม่รู้ไงเดินไปที่เคาน์เตอร์แล้วก็เอากระดาษทิชชู่มาเช็ดหน้าแล้วก็ร้องไห้ต่อ แล้วก็ไปอัลตร้าซาวนด์”

“หมอก็บอกว่า สาเหตุที่เป็นแบบนี้ก็เพราะว่า 1.ได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรง อาจจะโดนตีท้อง 2.มีเพศสัมพันธ์ 3.ยกของหนัก แต่จะให้ไปบอกหมอว่ายกของหนักก็ไม่กล้า ก็เลยเลี่ยง ๆ ว่าคงเป็นเพราะยกของหนักมั๊งคะ เค้าก็เลยพาไปอัลตร้าซาวนด์ปรากฎว่าในภาพรกมันเคลื่อนมาจนจะถึงช่องคลอดอยู่แล้ว และถ้าหลุดออกมาเด็กก็หลุดด้วย จากนั้นมาแวร์ก็เลยเลิกยกของหนักไปเลย”

หลาย ๆ คนสงสัยว่าในช่วงที่ท้องและต้องอยู่คนเดียว แวร์ดูแลตัวเองอย่างไร เดือดร้อนเรื่องเงินเรื่องทองไหม เพราะก่อนหน้านี้เจ้าตัวเคยออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ค่อยมีงานแสดงและวิงวอนให้ผู้จัดยื่นงานให้ตนเองบ้าง
“แวร์ก็มีตังค์นะเพราะเป็นคนที่เก็บตังค์ ไม่ใช้ของแบรนด์เนม ไม่ใช่ของฟุ่มเฟือย ก็เลยไม่ค่อยเดือดร้อน จริงอยู่แวร์อาจไม่ค่อยมีงานละคร แต่แวร์ก็มีงานอย่างอื่นเช่นงานถ่ายแบบหรืองานโชว์ตัว เพียงแต่อาจจะไม่ได้ออกหน้าจอเท่านั้นเอง”

“พอท้องแวร์ก็ต้องเอาเงินเก็บส่วนนี้มาใช้ แต่จะรอให้คลอดลูกแล้วค่อยไปหางานทำมันก็ไม่ใช่ แวร์ต้องหาธุรกิจทำเพื่ออนาคตของตัวเองและลูก หลังจากเลิกขายโออิชิแวร์ก็มาปรึกษากับเพื่อน ๆ ว่าจะทำะไรดี สรุปก็เลยได้ไอเดียว่า แวร์เป็นคนชอบแต่งตัวและเบื่อที่จะใส่เสื้อผ้าซ้ำ ๆ ก็เลยคิดว่า เราน่าจะทำเครื่องประดับนะเพราะสามารถใส่ได้นาน ๆ “

“ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงตกแต่งร้าน และก็หาวัสดุพวกหินมาร้อยเป็นเครื่องประดับ แวร์คิดว่าน่าจะไปได้นะเพราะคนไทยสมัยนี้ก็นิยมหินมานานแล้ว เราสามารถใส่เล่นก็ได้ใส่ไปทำงานก็ได้”

“อีกอย่างหนึ่งที่อยากจะบอกก็คือ เงินที่แวร์เอามาลงทุนทำธุรกิจนี่เป็นเงินเก็บของแวร์ล้วน ๆ แวร์ไม่ได้มีเสี่ยเลี้ยงเหมือนที่เป็นข่าว เกลียดมากคนที่คิดว่าแวร์มีเสี่ยเลี้ยง ทำไมเค้าไม่มองคนอื่นในแง่ดีบ้าง ทำไมไม่ให้เกียรติกันหน่อย ถ้าแวร์มีเสี่ยเลี้ยงจะมาทำงานให้เหนื่อยทำไม หนังสือที่เขียนว่าแวร์แบบนี้ ถือว่าเป็นการหมิ่นประมาทอย่างแรง แต่เรามันเบี้ยน้อยหอยน้อยจะไปสู้กับนักข่าวได้ไง จะไปสู้กับปากกาเค้าได้เหรอ”

“แวร์เป็นคนที่กล้าทำก็กล้ารับ ถ้ามีจริงแวร์บอกเลยว่ามี แต่นี่เราทำงานปากกัดตีนถีบตั้งแต่เด็กแทบตาย สุดท้ายไอ้เสี่ยเนี่ยมันก็มาชุบมือเปิบเอาความดีไป อยากจะรู้เหมือนกันว่า เสี่ยนี่มันเป็นใคร หน้าตาแบบไหน”

“ถ้าแวร์จะอยู่กับใครแวร์อยู่ด้วยความรักไม่ใช่อยู่ด้วยเงิน โอเคเงินอาจจะเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต แต่แวร์มีวิธีการหาโดยไม่ต้องขอใครหรือให้ใครมาเลี้ยง”

แต่พอมันมีข่าวออกมาแบบนี้ และจู่ ๆ แวร์ก็เกิดท้องโตโดยไม่ยอมบอกว่า ใครเป็นพ่อเด็ก ก็เลยทำให้หลาย ๆ คนเข้าใจว่า แวร์น่าจะท้องกับเสี่ยแล้วโดนทิ้ง
“ว่าแล้วว่าคนต้องคิดว่าแวร์มีลูกกับเสี่ยแล้วโดนทิ้ง แต่จะให้แวร์บอกว่าเค้าเป็นใครแวร์ก็บอกไม่ได้ แวร์ไม่อยากพูด พูดแล้วมันแรง เค้าฟ้องกลับจะทำไง เราไม่มีเงินถุงเงินถังที่จะไปสู้กับเค้านะ"

แล้วถ้าเกิดว่าแวร์คลอดลูก แล้วแฟนเก่าดันสำนึกดี คิดรักรักลูกรักเมีย พ่อแม่ฝ่ายโน้นก็อยากเอ็นดูหลานขึ้นมากะทันหัน ไม่ทราบว่าแวร์จะทำไง?
"เค้าไม่มีสิทธิ์ เราคุยกันเรียบร้อยแล้ว มันจบแล้ว เค้าไม่มีสิทธิ์มายุ่ง ลูกคลอดออกมาแวร์ก็ใช้ชื่อคนอื่นเป็นพ่อ อาจจะเป็นพี่แวร์ก็ได้ ทางโน้นไม่มีสิทธิ์เกี่ยวข้อง”

“แวร์เองก็ไม่ได้อยากเรียกร้องให้เค้ามารับผิดชอบ ไม่ได้อยากให้เค้ามายุ่งวุ่นวาย แต่ที่แวร์ออกมาพูดก็เพราะอยากให้ทุกคนยอมรับลูกของแวร์ แวร์ท้องแวร์ไม่ได้ทำอะไรแวร์ไม่ได้ฆ่าคนตาย ลูกแวร์ควรที่จะได้รับเกียรติ เค้าต้องเกิดมาแล้วทุกคนยอมรับ”

“ถึงไม่มีเค้าแวร์เลี้ยงลูกเองได้ ถ้าลูกแวร์โตขึ้นแวร์ก็จะบอกเค้าว่า คุณพ่อเค้าไปอยู่ที่อื่น แวร์คงไม่สอนให้เค้าเกลียดพ่อหรอก แต่แวร์จะบอกว่าทุกคนรักเค้านะ แต่บางทีคนเรามันอยู่ด้วยกันไม่ได้ แวร์ไม่ชอบพูดโกหกถึงเวลาต้องใช้เหตุผลพูดกัน”

เป็นอันว่าคุณพ่อนิรนามคงจะหมดสิทธิ์ข้องเกี่ยวกับ “น้องคนดี” อย่างแน่นอน พูดถึงชื่อน้องคนดีแล้วก็อดที่แซวแวร์ไม่ได้ว่า ทำไมถึงตั้งชื่อลูกได้แปลกจัง หรือว่าต้องการประชดใครหรือเปล่า?
“เปล่าเลย(ร้องเสียงหลง) คนเค้าคิดกันไปขนาดนั้นเหรอเนี่ย จริง ๆ แล้วแวร์อยากให้เค้าเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่าย ไม่ใช่ว่าจะไปประชดใคร คนเรามันก็ต้องมีทั้งข้อดีข้อเสีย เพียงแต่เราอาจจะไปเจอด้านที่ไม่ดีของเค้ามากไปหน่อย แต่ยืนยันเลยว่าไม่ได้ประชดเค้า แค่เป็นเคล็ดให้เลี้ยงง่ายไม่ดื้อไม่สนเท่านั้นเอง”

ส่วนชื่อจริงแวร์บอกว่าเตรียมไว้แล้วหลายชื่อ….
“ชื่อจริงเนี่ยแวร์เข้าเว็บไซต์หนึ่งเพื่อไปตรวจชื่อ ถ้าเป็นลูกผู้หญิงเกิดวันนี้ชื่อดีนี้จะดีไหม ซึ่งแวร์ก็ยังไม่รู้ว่าลูกแวร์จะเกิดวันไหน ตอนนี้ก็เลยตั้งไว้ 8 ชื่อเลยเพราะมันมีวันพุธกลางคืนด้วย”

ส่วนเรื่องที่มีข่าวออกมาว่าแวร์จะออกพ็อกเก็ตบุคแฉอดีตแฟนตัวเองนั้น เจ้าตัวบอกว่า…
“เรื่องพ็อกเก็ตบุคนี่คุยกันมานานแล้ว คุยกันก่อนที่จะเป็นข่าวอีก คือตอนแรกแวร์คิดว่าจะเปิดตัวยังไงดี ก็เลยคิดว่าเออเขียนพ็อกเก็ตบุคดีกว่า แต่บังเอิญว่าเราจะทำธุรกิจเราต้องเปิดร้าน เราก็ต้องออกงานเพื่อโปรโมตร้านตัวเอง”

“วันที่ไปงานเปิดตัวครีมของโก้ ธีระศักดิ์ ก็ยังลุ้นกับโก้เลยว่าจะมีนักข่าวเข้ามาถามไหม ถ้าถามก็จะได้ตอบไปเลย ปรากฎว่าไม่มีใครถามเลย ก็ไม่รู้จะทำไงดีเพราะเราเองก็ไม่อยากหลบ ๆ ซ่อน ๆ แต่จะให้เดินออกไปประกาศเอง มันก็ยังไงอยู่ จนกระทั่งแวร์ไปงานเปิดอัลบั้มของโอ๊ต สุรชัย นักข่าวถึงเข้ามาถามข่าวก็เลยออกมาตั้งแต่วันนั้น”

“แต่พ็อกเก็ตบุคตอนนี้ก็ยังทำอยู่ ตอนนี้ก็เริ่ม ๆ คุยรายละเอียดกันบ้างแล้ว แต่จะออกมาแนวแฉหรือเปล่าแวร์ยังตอบไม่ได้ แต่แวร์ก็ไม่อยากออกมากระหน่ำเค้ามาก ไม่อยากออกมาพูดจาสาดเสียเทเสีย เพราะอย่างน้อย ๆ เค้าก็ยังมีความเป็นสุภาพบุรุษนิดนึงที่กล้ายอมรับว่าไม่พร้อมที่จะมีครอบครัว”

“ตรงนี้แวร์ถือว่าโอเคเพราะเค้ากล้าพูด แต่บอกไว้เลยว่า แวร์ไม่ใช่ตัวเลือก แต่เค้าต่างหากที่เป็นตัวเลือกสำหรับเรา ถ้าจะบังคับแต่งแวร์ก็ทำได้ แต่แวร์ไม่เอา แต่งไปก็มีปัญหา ทุกอย่างมันไม่ใช่ว่าแต่งงานแล้วจบ สังคมยอมรับแล้วจบ ถ้าแต่งแล้วไม่ดีสังคมจะมาทุกข์กับเราหรือเปล่า สังคมจะมาเป็นโรคจิตกับเราหรือเปล่า”

“แต่ที่ต้องเขียนพ็อกเก็ตบุคนี่ก็ไม่ใช่ว่าอยากจะแฉ แต่นี่เป็นวิธีทางของแวร์ที่แวร์จะต้องทำมาหากินและเลี้ยงลูกต่อไป เราจบกันแล้วก็จบกันไป ในพ็อกเก็ตบุคของแวร์รับรองว่าไม่มีสาดโคลน แต่ยังไงก็คงต้องคุยกับทีมที่ผลิตอีกทีว่าเค้าต้องการแค่ไหน ถ้ามันอยู่ในลิมิตที่รับได้แวร์ทำ แต่ถ้าไม่ได้แวร์ก็ไม่ทำ”

“แวร์อยากให้เรื่องของแวร์เป็นอุทาหรณ์สำหรับผู้หญิงทุกคน ใครที่เจอเรื่องแบบนี้แวร์อยากให้เค้าผ่านมันไปได้ด้วยดี สำหรับแวร์เองอย่างแรกเลยก็คือ ยอมรับความเป็นจริงก่อน เราต้องรู้จักตัวเองก่อน ถ้ามองมันเป็นปัญหาเล็กทุกอย่างมันก็เล็ก แต่ถ้ามองเป็นเรื่องคอขาดบาดตายเรื่องเล็ก ๆ ก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ จากนั้นก็แก้ปัญหาไปทีละจุด”

“อีกอย่างแวร์เป็นคนที่อยู่คนเดียวมานานด้วย แก้ปัญหาด้วยตัวเองมานานแล้ว แวร์เผชิญปัญหามาหลายอย่าง ถ้าเกิดอะไรขึ้นเราต้องมีสติ อยู่บนความเป็นจริง และสร้างกำลังใจให้กับตัวเองจะรอรับแต่กำลังใจคนอื่นไม่ได้หรอก”

“ผู้ชายถ้าเค้าไม่ดีก็ปล่อยเค้าไปเถอะ…อยู่คนเดียวสบายใจกว่า”