หลายคนอาจคิดว่า โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สามารถเกิดขึ้นได้ระหว่างหญิงกับชาย หรือชายกับชายเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หญิงรักหญิง ก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม การรู้เท่าทันโรค เช่น ปัจจัยเสี่ยง วิธีป้องกัน อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ Show โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หญิงรักหญิงการมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะแบบผู้หญิงกับผู้หญิง หรือผู้หญิงกับผู้ชาย ก็อาจเสี่ยงเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ทั้งสิ้น สำหรับการมีเพศสัมพันธ์หรือการทำกิจกรรมทางเพศระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิง อาจมีพฤติกรรมเสี่ยงจากการใช้เซ็กส์ทอย (Sex toy) ร่วมกับผู้อื่น หรือการเคยมีคู่นอนเป็นผู้ชาย โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบในความสัมพันธ์ระหว่างหญิงกับหญิง สามารถติดต่อได้ทั้งจากผู้หญิงด้วยกันเองหรือจากผู้ชาย ดังนี้
โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หญิงรักหญิง ที่พบบ่อยการมีเพศสัมพันธ์แบบผู้หญิงกับผู้หญิง อาจทำให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ดังนี้
นอกจากเริมจากอวัยวะเพศสู่อวัยวะเพศแล้ว พฤติกรรมทางเพศระหว่างหญิงกับหญิง เช่น การใช้ปากกับอวัยวะเพศ การใช้อวัยวะเพศถูไถกัน ก็อาจทำให้เป็นโรคเริมได้เช่นกัน โดยเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ (Herpes simplex virus) ที่ทำให้เกิดโรคเริม สามารถเข้าสู่ร่างกายได้จากการสัมผัสโดยตรงกับผู้ที่ติดเชื้อ ซึ่งอาจแสดงอาการหรือไม่ก็ได้ โดยหลังจากเชื้อไวรัสจะเข้าสู่ร่างกาย จะมีระยะฟักตัวประมาณ 3-7 วันหลังได้รับเชื้อ
ภาวะตกขาวมีกลิ่นเหม็นเป็นภาวะที่พบได้บ่อย มักเกิดจากแบคทีเรียในช่องคลอดเสียสมดุล โดยปกติในช่องคลอดจะมีแบคทีเรียหลายชนิด ชนิดดี คือ กลุ่มแลคโตแบซิลไล (Latobacilli) ซึ่งสร้างสภาวะกรดในช่องคลอดเพื่อควบคุมไม่ให้แบคทีเรียกลุ่มไม่ดีคือกลุ่มที่ไม่ใช้ออกซิเจนเพิ่มจำนวนขึ้น เพราะหากในช่องคลอดมีแบคทีเรียชนิดไม่ดีมากเกินไป อาจทำให้เกิดตกขาวมีกลิ่นเหม็น โดยอาการนี้อาจเกิดจากการใช้ปากและลิ้นสัมผัสภายในบริเวณช่องคลอด ทำให้น้ำลายในปากไปทำลายความเป็นกรดในช่องคลอด
โรคหูดหงอนไก่ หรือหูดอวัยวะเพศ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีสาเหตุหลักมาจากเชื้อฮิวแมนแปปิโลมาไวรัส หรือเชื้อเอชพีวี (HPV) โรคนี้สามารถแพร่กระจายและติดต่อกันได้ง่าย ผู้แพร่เชื้อและและผู้รับเชื้ออาจไม่แสดงอาการใด ๆ หรืออาจติดเชื้อนานเป็นปีกว่าอาการจะปรากฏ แม้จะไม่ใช่โรคที่อันตรายถึงชีวิต แต่ก็อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หรือชีวิตคู่ได้ การป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทั้งผู้ที่มีเพศสัมพันธ์แบบผู้หญิงกับผู้หญิง และผู้หญิงกับผู้ชาย อาจลดความเสี่ยงในการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีเยอะแยะมากมาย ทั้งสามารถรักษาให้หายขาดและไม่หายขาดได้ บางโรคจะสร้างความเจ็บปวดทรมานให้กับผู้ที่เป็นอย่างมาก ลองมาศึกษาดูว่ามีโรคอะไรบ้างและมีความรุนแรงมากแค่ไหน 1.โรคเอดส์ (AIDS) เกิดจากเชื้อ HIV ที่เข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาวในร่างกาย ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันโรคน้อยลง ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ง่าย เช่น วัณโรค และมะเร็ง เป็นต้น โรคเอดส์เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ปัจจุบันก็มียารักษาที่ช่วยให้อาการคงที่มากขึ้น 2.ซิฟิลิส เป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากเชื้อโรคที่มีระยะเวลานานถึง 2 ปี การติดเชื้อระยะแรกจะมีก้อนแข็งบริเวณอวัยวะเพศและไม่เจ็บ ถ้าหากทิ้งไว้นานจนเริ่มเข้าสู้ระยะที่ 2 ที่เรียกว่า ออกดอกหรือเข้าข้อ ก็สามารถส่งผลต่อระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายได้ ถือเป็นโรคอันตรายมากอีกชนิดหนึ่ง นอกจากนี้ ยังสามารถถ่ายทอดโรคไปสู่ทารกในครรภ์ได้อีกด้วย 3.หนองในแท้ เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้มีอาการแสบขัดปัสสาวะและมีหนองไหลออกจากท่อปัสสาวะ ในระยะที่รุนแรงจะทำให้เกิดการอักเสบบริเวณช่องท้องและเป็นหมันได้ ถ้าหากไม่ได้รับการรักษา 4.หนองในเทียม เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีอาการปวดแสบปัสสาวะ ปัสสาวะขัด และมีหนองไหลออกมา โดยในผู้หญิงจะเกิดอาการตกขาวผิดปกติร่วมด้วย 5.หูดหงอนไก่ เกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งจะทำให้เกิดติ่งเนื้อที่บริเวณอวัยวะเพศและมีรูปร่างคล้าย ๆ กับหงอนไก่ สามารถเกิดได้ทั่วบริเวณอวัยวะเพศทั้งชายและหญิง และอาจจะลามไปบริเวณรูทวารได้ หูดสามารถมีขนาดใหญ่ขึ้นได้เรื่อย ๆ ถ้าไม่รีบรักษาอาจเกิดการติดเชื้อที่รุนแรงได้ 6.หูดข้าวสุก เป็นตุ่มนูนขนาดเล็ก ถ้าหากมีการบีบดูจะพบว่ามีเนื้อหูดสีขาวคล้ายกับข้าวสุกออกมา ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นที่บริเวณหัวเหน่า อวัยวะเพศภายนอกและแถวโคนขาด้านใน ปริมาณของหูดจะมีมากน้อยขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย ถ้าร่างกายอ่อนแอจะมีหูดเกิดขึ้นมาก 7.หิด โรคนี้จะมีตุ่มใส ๆ และตุ่มหนองขึ้นตามร่างกาย เช่น ข้อมือทั้งสองข้าง รักแร้ ข้อศอก อวัยวะเพศ เป็นต้น ผู้ที่เป็นโรคหิดจะมีอาการคันมาก ๆ ในเวลากลางคืน 8.แผลริมอ่อน มีลักษณะเป็นตุ่มบวมแดงที่บริเวณอวัยวะเพศ ขอบแผลนุ่ม ไม่เรียบ มีเลือดออกได้ง่าย และจะเจ็บปวดอย่างมากเมื่อมีการสัมผัส ในบางรายอาจมีต่อมน้ำเหลืองที่บริเวณขาหนีบบวมร่วมด้วย เมื่อต่อมน้ำเหลืองบวมอาจทำให้เกิดฝีได้ 9.เริมที่อวัยวะเพศ มีลักษณะเป็นตุ่มใส ๆ ที่อวัยวะเพศและมีอาการปวดแสบร่วมด้วย สามารถหายได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่เชื้อยังคงอยู่ในร่างกาย อย่างไรก็ตาม โรคนี้ก็สามารถกลับมาเป็นใหม่ได้ หากร่างกายอ่อนแอ 10.เชื้อราในช่องคลอด มีอาการคันและระคายเคืองในช่องคลอดและบริเวณปากช่องคลอด มีตกขาวมากผิดปกติและจับตัวกันเป็นกลุ่มก้อน บางรายอาจมีปัสสาวะแสบขัดและรู้สึกเจ็บในขณะมีเพศสัมพันธ์ 11.อุ้งเชิงกรานอักเสบ เกิดจากการติดเชื้อของมดลูก รังไข่ ท่อรังไข่ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า โรคปีกมดลูกอักเสบ หากเกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรงอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนและเสียชีวิตได้ 12.พยาธิในช่องคลอด ผู้ที่เป็นจะมีตกขาวมากผิดปกติ ลักษณะของตกขาวจะมีสีออกขุ่น ๆ หรือสีเขียวและเหลือง มีกลิ่นเหม็นรุนแรง ส่งผลให้เกิดการคันระคายเคืองที่บริเวณอวัยวะเพศ 13.แผลกามโรคเรื้อรังที่ขาหนีบ เป็นโรคที่ไม่มีในประเทศไทย ส่วนใหญ่มักเกิดกับชาวต่างชาติที่มีผิวสีมากกว่า อาการโดยทั่วไปคือจะมีแผลตามอวัยวะเพศ ขาหนีบและซอกขา 14.โลน เป็นแมลงตัวเล็ก ๆ ที่ชอบเกาะและชอนไชอยู่ตามขนหัวเหน่าทำให้มีอาการคันยุบยิบ สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าซึ่งจะเห็นเป็นไข่สีขาว ๆ วงรีเกาะตามขน ส่วนตัวโลนจะมีสีน้ำตาลและดูดเลือดเป็นอาหาร สามารถรักษาได้โดยการทายาและโกนขนบริเวณนั้นออกให้เกลี้ยง เมื่อได้ทราบถึงความน่ากลัวของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่าง ๆ แล้วจึงอยากแนะนำให้ป้องกันทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ จะได้ห่างไกลจากโรคที่น่ากลัวต่าง ๆ เหล่านี้ |