โรคติดต่อทางเพสสัมพันธุ์ ผู้หญิง

หลายคนอาจคิดว่า โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ สามารถเกิดขึ้นได้ระหว่างหญิงกับชาย หรือชายกับชายเท่านั้น แต่ในความเป็นจริง โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หญิงรักหญิง ก็สามารถเกิดขึ้นได้เช่นกัน อย่างไรก็ตาม การรู้เท่าทันโรค เช่น ปัจจัยเสี่ยง วิธีป้องกัน อาจช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หญิงรักหญิง

การมีเพศสัมพันธ์ไม่ว่าจะแบบผู้หญิงกับผู้หญิง หรือผู้หญิงกับผู้ชาย ก็อาจเสี่ยงเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ทั้งสิ้น สำหรับการมีเพศสัมพันธ์หรือการทำกิจกรรมทางเพศระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิง อาจมีพฤติกรรมเสี่ยงจากการใช้เซ็กส์ทอย (Sex toy) ร่วมกับผู้อื่น หรือการเคยมีคู่นอนเป็นผู้ชาย

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่พบในความสัมพันธ์ระหว่างหญิงกับหญิง สามารถติดต่อได้ทั้งจากผู้หญิงด้วยกันเองหรือจากผู้ชาย ดังนี้

  • โรคติดเชื้อระหว่างผู้หญิงกันเองโรคที่เกิดจากการติดเชื้อระหว่างผู้หญิงกันเอง มักแพร่เชื้อผ่านการสัมผัสเป็นหลัก ได้แก่ ไวรัสเอชพีวีที่ทำให้เกิดหูดหงอนไก่ เริม และตกขาวกลิ่นเหม็นในช่องคลอด นอกจากนี้ หากใช้เซ็กส์ทอยร่วมกันหลายคนโดยไม่ทำความสะอาดให้ดี หรือป้องกันการติดเชื้อด้วยการหุ้มด้วยถุงยางอนามัย และเปลี่ยนถุงยางอนามัยทุกครั้งที่แบ่งปันกันใช้ ก็อาจก่อให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
  • โรคที่เกิดจากอดีตคู่นอนที่เป็นผู้ชาย เช่น โรคหนองใน โรคหนองในเทียม โรคซิฟิลิส

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หญิงรักหญิง ที่พบบ่อย

การมีเพศสัมพันธ์แบบผู้หญิงกับผู้หญิง อาจทำให้เกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ดังนี้

  • โรคเริม

นอกจากเริมจากอวัยวะเพศสู่อวัยวะเพศแล้ว พฤติกรรมทางเพศระหว่างหญิงกับหญิง เช่น การใช้ปากกับอวัยวะเพศ การใช้อวัยวะเพศถูไถกัน ก็อาจทำให้เป็นโรคเริมได้เช่นกัน โดยเชื้อไวรัสเฮอร์พีส์ ซิมเพล็กซ์ (Herpes simplex virus) ที่ทำให้เกิดโรคเริม สามารถเข้าสู่ร่างกายได้จากการสัมผัสโดยตรงกับผู้ที่ติดเชื้อ ซึ่งอาจแสดงอาการหรือไม่ก็ได้ โดยหลังจากเชื้อไวรัสจะเข้าสู่ร่างกาย จะมีระยะฟักตัวประมาณ 3-7 วันหลังได้รับเชื้อ

  • ตกขาวมีกลิ่นเหม็น

ภาวะตกขาวมีกลิ่นเหม็นเป็นภาวะที่พบได้บ่อย มักเกิดจากแบคทีเรียในช่องคลอดเสียสมดุล โดยปกติในช่องคลอดจะมีแบคทีเรียหลายชนิด ชนิดดี คือ กลุ่มแลคโตแบซิลไล (Latobacilli) ซึ่งสร้างสภาวะกรดในช่องคลอดเพื่อควบคุมไม่ให้แบคทีเรียกลุ่มไม่ดีคือกลุ่มที่ไม่ใช้ออกซิเจนเพิ่มจำนวนขึ้น เพราะหากในช่องคลอดมีแบคทีเรียชนิดไม่ดีมากเกินไป อาจทำให้เกิดตกขาวมีกลิ่นเหม็น โดยอาการนี้อาจเกิดจากการใช้ปากและลิ้นสัมผัสภายในบริเวณช่องคลอด ทำให้น้ำลายในปากไปทำลายความเป็นกรดในช่องคลอด

  • หูดหงอนไก่

โรคหูดหงอนไก่ หรือหูดอวัยวะเพศ เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีสาเหตุหลักมาจากเชื้อฮิวแมนแปปิโลมาไวรัส หรือเชื้อเอชพีวี (HPV) โรคนี้สามารถแพร่กระจายและติดต่อกันได้ง่าย ผู้แพร่เชื้อและและผู้รับเชื้ออาจไม่แสดงอาการใด ๆ หรืออาจติดเชื้อนานเป็นปีกว่าอาการจะปรากฏ แม้จะไม่ใช่โรคที่อันตรายถึงชีวิต แต่ก็อาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน หรือชีวิตคู่ได้

การป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

ทั้งผู้ที่มีเพศสัมพันธ์แบบผู้หญิงกับผู้หญิง และผู้หญิงกับผู้ชาย อาจลดความเสี่ยงในการเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ ด้วยวิธีดังต่อไปนี้

  • ฉีดวัคซีนป้องกันเกิดโรคหูดหงอนไก่ ซึ่งร้อยละ 90 ของหูดหงอนไก่เกิดจากเชื้อไวรัสเอชพีวีชนิด 6 และ 11 โดยวัคซีนที่ป้องกันหูดหงอนไก่ได้อยู่ในรูปวัคซีนเอชพีวี (HPV) ชนิดที่มี 4 สายพันธุ์ (สายพันธุ์ 6, 11, 16, 18) ซึ่งปัจจุบันได้รับการรับรองให้ใช้ได้ทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย โดยไวรัสเอชพีวี (HVP) สายพันธุ์ที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก เช่น HPV 16 และ 18 ยังสามารถติดต่อได้เช่นกันระหว่างหญิงกับหญิง แม้จะเสี่ยงน้อยกว่าการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงก็ตาม
  • ทำความสะอาดเซ็กส์ทอยทุกครั้งทั้งก่อนและหลังใช้งาน ทางที่ดี ไม่ควรใช้เซ็กส์ทอยร่วมกับผู้อื่น และควรหุ้มเซ็กส์ทอยด้วยอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ถุงยางอนามัย
  • เลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์โดยการใช้ปากกับอวัยวะเพศ หรือใช้เครื่องป้องกันการติดเชื้อจากการทำออรัลเซ็กส์ เช่น แผ่นยางอนามัย
  • เข้ารับการตรวจภายใน การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก (Pap Smear) และการตรวจหาเชื้อไวรัส HPV เป็นประจำ

Hello Health Group ไม่ได้ให้คำแนะนำด้านการแพทย์ การวินิจฉัยโรค หรือการรักษาโรคแต่อย่างใด

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์มีเยอะแยะมากมาย ทั้งสามารถรักษาให้หายขาดและไม่หายขาดได้ บางโรคจะสร้างความเจ็บปวดทรมานให้กับผู้ที่เป็นอย่างมาก ลองมาศึกษาดูว่ามีโรคอะไรบ้างและมีความรุนแรงมากแค่ไหน

1.โรคเอดส์ (AIDS)

เกิดจากเชื้อ HIV ที่เข้าไปทำลายเม็ดเลือดขาวในร่างกาย ส่งผลให้ภูมิคุ้มกันโรคน้อยลง ทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ง่าย เช่น วัณโรค และมะเร็ง เป็นต้น โรคเอดส์เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ปัจจุบันก็มียารักษาที่ช่วยให้อาการคงที่มากขึ้น

2.ซิฟิลิส

เป็นโรคเรื้อรังที่เกิดจากเชื้อโรคที่มีระยะเวลานานถึง 2 ปี การติดเชื้อระยะแรกจะมีก้อนแข็งบริเวณอวัยวะเพศและไม่เจ็บ ถ้าหากทิ้งไว้นานจนเริ่มเข้าสู้ระยะที่ 2 ที่เรียกว่า ออกดอกหรือเข้าข้อ ก็สามารถส่งผลต่อระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายได้ ถือเป็นโรคอันตรายมากอีกชนิดหนึ่ง นอกจากนี้ ยังสามารถถ่ายทอดโรคไปสู่ทารกในครรภ์ได้อีกด้วย

3.หนองในแท้

เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้มีอาการแสบขัดปัสสาวะและมีหนองไหลออกจากท่อปัสสาวะ ในระยะที่รุนแรงจะทำให้เกิดการอักเสบบริเวณช่องท้องและเป็นหมันได้ ถ้าหากไม่ได้รับการรักษา

4.หนองในเทียม

เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่มีอาการปวดแสบปัสสาวะ ปัสสาวะขัด และมีหนองไหลออกมา โดยในผู้หญิงจะเกิดอาการตกขาวผิดปกติร่วมด้วย

5.หูดหงอนไก่

เกิดจากเชื้อไวรัส ซึ่งจะทำให้เกิดติ่งเนื้อที่บริเวณอวัยวะเพศและมีรูปร่างคล้าย ๆ กับหงอนไก่ สามารถเกิดได้ทั่วบริเวณอวัยวะเพศทั้งชายและหญิง และอาจจะลามไปบริเวณรูทวารได้ หูดสามารถมีขนาดใหญ่ขึ้นได้เรื่อย ๆ ถ้าไม่รีบรักษาอาจเกิดการติดเชื้อที่รุนแรงได้

6.หูดข้าวสุก

เป็นตุ่มนูนขนาดเล็ก ถ้าหากมีการบีบดูจะพบว่ามีเนื้อหูดสีขาวคล้ายกับข้าวสุกออกมา ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นที่บริเวณหัวเหน่า อวัยวะเพศภายนอกและแถวโคนขาด้านใน ปริมาณของหูดจะมีมากน้อยขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย ถ้าร่างกายอ่อนแอจะมีหูดเกิดขึ้นมาก

7.หิด

โรคนี้จะมีตุ่มใส ๆ และตุ่มหนองขึ้นตามร่างกาย เช่น ข้อมือทั้งสองข้าง รักแร้ ข้อศอก อวัยวะเพศ เป็นต้น ผู้ที่เป็นโรคหิดจะมีอาการคันมาก ๆ ในเวลากลางคืน 

8.แผลริมอ่อน

มีลักษณะเป็นตุ่มบวมแดงที่บริเวณอวัยวะเพศ ขอบแผลนุ่ม ไม่เรียบ มีเลือดออกได้ง่าย และจะเจ็บปวดอย่างมากเมื่อมีการสัมผัส ในบางรายอาจมีต่อมน้ำเหลืองที่บริเวณขาหนีบบวมร่วมด้วย เมื่อต่อมน้ำเหลืองบวมอาจทำให้เกิดฝีได้

9.เริมที่อวัยวะเพศ

มีลักษณะเป็นตุ่มใส ๆ ที่อวัยวะเพศและมีอาการปวดแสบร่วมด้วย สามารถหายได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่เชื้อยังคงอยู่ในร่างกาย อย่างไรก็ตาม โรคนี้ก็สามารถกลับมาเป็นใหม่ได้ หากร่างกายอ่อนแอ

10.เชื้อราในช่องคลอด

มีอาการคันและระคายเคืองในช่องคลอดและบริเวณปากช่องคลอด มีตกขาวมากผิดปกติและจับตัวกันเป็นกลุ่มก้อน บางรายอาจมีปัสสาวะแสบขัดและรู้สึกเจ็บในขณะมีเพศสัมพันธ์

11.อุ้งเชิงกรานอักเสบ

เกิดจากการติดเชื้อของมดลูก รังไข่ ท่อรังไข่ หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า โรคปีกมดลูกอักเสบ หากเกิดการติดเชื้ออย่างรุนแรงอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนและเสียชีวิตได้ 

12.พยาธิในช่องคลอด

ผู้ที่เป็นจะมีตกขาวมากผิดปกติ ลักษณะของตกขาวจะมีสีออกขุ่น ๆ หรือสีเขียวและเหลือง มีกลิ่นเหม็นรุนแรง ส่งผลให้เกิดการคันระคายเคืองที่บริเวณอวัยวะเพศ

13.แผลกามโรคเรื้อรังที่ขาหนีบ

เป็นโรคที่ไม่มีในประเทศไทย ส่วนใหญ่มักเกิดกับชาวต่างชาติที่มีผิวสีมากกว่า อาการโดยทั่วไปคือจะมีแผลตามอวัยวะเพศ ขาหนีบและซอกขา

14.โลน

เป็นแมลงตัวเล็ก ๆ ที่ชอบเกาะและชอนไชอยู่ตามขนหัวเหน่าทำให้มีอาการคันยุบยิบ สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าซึ่งจะเห็นเป็นไข่สีขาว ๆ วงรีเกาะตามขน ส่วนตัวโลนจะมีสีน้ำตาลและดูดเลือดเป็นอาหาร สามารถรักษาได้โดยการทายาและโกนขนบริเวณนั้นออกให้เกลี้ยง

เมื่อได้ทราบถึงความน่ากลัวของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่าง ๆ แล้วจึงอยากแนะนำให้ป้องกันทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ จะได้ห่างไกลจากโรคที่น่ากลัวต่าง ๆ เหล่านี้