บทที่ 1 บทนำ 1.1 ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1.2 ความสำคัญ 1.3 ที่มาของเทียนเจล 1.4 แนวคิด ” เทียนเจล ” ผลิตภัณฑ์ที่ได้จาการนำเจลสังเคราะห์มาผ่านความร้อนให้หลอมละลายเป็นของเหลว ใส อาเติมสี นำมันหอมระเหย แล้วตักใส่ภาชนะรูปทรงตามต้องการ เช่น แก้วใส เซรามิก ดินเผา อาจตกแต่งเพื่อให้เกิดความสวยงาม เช่น เปลือกหอย ปลาเรซิน ทรายสี กิ่งไม้แห้ง มีไส้เทียนสำหรับจุดไฟ ทำเป็นของประดับตกแต่งและของที่ระลึก บทที่ 2 ในการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย WordPress 2.1
ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและอินเทอร์เน็ต ความสำคัญของอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันอินเทอร์เน็ตมีบทบาทและมีความสำคัญต่อชีวิตประจาวันของคนเราเป็นอย่างมาก เพราะทำให้วิถีชีวิตเราทันสมัยและทันเหตุการณ์อยู่เสมอ เนื่องจากอินเทอร์เน็ตจะมีการเสนอข้อมูลข่าวปัจจุบัน และสิ่งต่าง ๆ
ที่เกิดขึ้นให้ผู้ใช้ทราบเปลี่ยนแปลงไปทุกวัน สารสนเทศที่เสนอในอินเทอร์เน็ตจะมีมากมายหลายรูปแบบเพื่อสนองความสนใจและความต้องการของผู้ใช้ทุกกลุ่ม อินเทอร์เน็ตจึงเป็นแหล่งสารสนเทศสำคัญสำหรับทุกคนเพราะสามารถค้นหาสิ่งที่ตนสนใจได้ในทันทีโดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปค้นคว้าในห้องสมุด หรือแม้แต่การรับรู้ข่าวสารทั่วโลกก็สามารถอ่านได้ในอินเทอร์เน็ตจากเว็บไซต์ต่างๆ ของหนังสือพิมพ์ ดังนั้นอินเทอร์เน็ตจึงมีความสำคัญกับวิถีชีวิตของคนเราในปัจจุบันเป็นอย่างมากในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นบุคคลที่อยู่ในวงการธุรกิจ
การศึกษา ต่างก็ได้รับประโยชน์จากอินเทอร์เน็ตด้วยกันทั้งนั้น 2.1.1. ด้านการศึกษา อินเทอร์เน็ตมีความสำคัญ ดังนี้ สามารถใช้เป็นแหล่งค้นคว้าหาข้อมูล ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลทางวิชาการ ข้อมูลด้านการบันเทิง ด้านการแพทย์ และอื่น ๆ ที่น่าสนใจ 2. ระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จะทำหน้าที่เปรียบเสมือนเป็นห้องสมุดขนาดใหญ่ 3. นักเรียนนักศึกษาสามารถใช้อินเทอร์เน็ตติดต่อกับมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนอื่น ๆ เพื่อค้นหาข้อมูลที่กำลังศึกษาอยู่ได้ ทั้งที่ข้อมูลที่เป็นข้อความเสียง
ภาพเคลื่อนไหวต่าง ๆ 2.1.2. ด้านธุรกิจและการพาณิชย์ อินเทอร์เน็ตมีความสำคัญดังนี้ ค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อช่วยในการตัดสินใจทางธุรกิจ สามารถซื้อขายสินค้า ทำธุรกรรมผ่านระบบเครือข่าย เป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์ โฆษณาสินค้า ติดต่อสื่อสารทางธุรกิจ ผู้ใช้ที่เป็นบริษัท หรือองค์กรต่าง ๆ ก็สามารถเปิดให้บริการ และสนับสนุนลูกค้าของตนผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ เช่น การให้คาแนะนา สอบถามปัญหาต่าง ๆ ให้แก่ลูกค้า แจกจ่ายตัวโปรแกรมทดลองใช้
(Shareware) โปรแกรมแจกฟรี (Freeware) 2.1.3. ด้านการบันเทิง อินเทอร์เน็ตมีความสำคัญดังนี้ การพักผ่อนหย่อนใจ สันทนาการ เช่น การค้นหาวารสารต่าง ๆ ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่เรียกว่า Magazine Online รวมทั้งหนังสือพิมพ์และข่าวสารอื่น ๆ โดยมีภาพประกอบที่จอคอมพิวเตอร์เหมือนกับวารสารตามร้านหนังสือทั่ว ๆ ไป 3.2 สามารถฟังวิทยุหรือดูรายการโทรทัศน์ผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ สามารถดึงข้อมูล (Download) ภาพยนตร์มาดูได้ 2.2 ข้อมูลเกี่ยวกับสื่อสังคม
Social Media คำว่า “Social” หมายถึง สังคม ซึ่งในที่นี้จะหมายถึงสังคมออนไลน์ ซึ่งมีขนาดใหม่มากในปัจจุบัน คำว่า “Media”
หมายถึง สื่อ ซึ่งก็คือ เนื้อหา เรื่องราว บทความ วีดีโอ เพลง รูปภาพ เป็นต้น ดังนั้นคำว่า Social Media จึงหมายถึง สื่อสังคมออนไลน์ที่มีการตอบสนองทางสังคมได้หลายทิศทาง โดยผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต พูดง่ายๆ ก็คือเว็บไซต์ที่บุคคลบนโลกนี้สามารถมีปฏิสัมพันธ์โต้ตอบกันได้นั่นเอง พื้นฐานการเกิด Social Media ก็มาจากความต้องการของมนุษย์หรือคนเราที่ต้องการติดต่อสื่อสารหรือมีปฏิสัมพันธ์กัน จากเดิมเรามีเว็บในยุค 1.0 ซึ่งก็คือเว็บที่แสดงเนื้อหาอย่างเดียว บุคคลแต่ละคนไม่สามารถติดต่อหรือโต้ตอบกันได้
แต่เมื่อเทคโนโลยีเว็บพัฒนาเข้าสู่ยุค 2.0 ก็มีการพัฒนาเว็บไซต์ที่เรียกว่า web application ซึ่งก็คือเว็บไซต์มีแอพลิเคชันหรือโปรแกรมต่างๆ ที่มีการโต้ตอบกับผู้ใช้งานมากขึ้น ผู้ใช้งานแต่ละคนสามารถโต้ตอบกันได้ผ่านหน้าเว็บ พัฒนาการของ Social Media พูดถึงกันมากเหลือเกินสำหรับ สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นตัวกลาง เป็นเครื่องมือ สำหรับการสื่อสารระหว่างกัน โดยปัจจุบันได้ขยายผลกว้างครอบคลุมไปถึง
การทำงานร่วมกัน ทั้งภายใน และ ภายนอกองค์กร โดยอาศัยเว็บ และ โมบายเทคโนโลยี เป็นตัวช่วย ถ้าจะเปรียบเทียบก็น่าจะเป็นคู่แฝดแห่งยุคดิจิตอล อย่างเมื่อกว่า 200 ปีก่อน มีแฝดอินจัน ที่ไปสร้างชื่อเสียงในต่างประเทศ จนมีการตั้งชื่อแฝดลักษณะที่มีลำตัวติดกันเช่นนี้ว่า แฝดสยาม ถ้าว่าไปแล้ว แฝดสยามในยุคดิจิตอล ก็คงหนีไม่พ้น สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) กับ สมาร์ทโฟน (Smartphone) ที่มักจะไปเป็นคู่ยากที่จะแยกออกจากกันได้ เมื่อศึกษาถึงคาจากัดความของ สังคมออนไลน์ (Social Media) จะพบว่าคือกลุ่มของแอพพลิเคชั่น บนอินเทอร์เน็ต ที่สร้างขึ้นมาบนพื้นฐานแนวคิด และเทคโนโลยี Web 2.0 ซึ่งรองรับให้มีการสร้าง และ แลกเปลี่ยน คอนเทนต์ที่ผู้ใช้เป็นผู้สร้างเอง (User-generated content) เมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว สามารถเรียกได้ว่า สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เป็นการผสมผสานกันระหว่าง เทคโนโลยี กับ การสื่อสารระหว่างกันในสังคม เพื่อสร้างเสริมมูลค่าให้เพิ่มขึ้น เมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป โดยเฉพาะยุคดิจิตอลอย่างทุกวันนี้ การแสดงความคิดเห็นดูจะเป็นเรื่องง่าย บนสื่อสังคมออนไลน์ เป็นหนึ่งตัวอย่างที่ทาให้พนักงานรายหนึ่งในอเมริกา ถูกไล่ออกหลังจากที่เธอได้วิจารณ์เจ้านายของเธอบน เฟชบุ๊ก (Facebook) เรื่องเกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา พนักงานหญิงรายนี้ได้เขียนข้อคิดเห็นของเธอ บนหน้าเฟชบุ๊ก ด้วยคาพูดที่หยาบคาย คดีนี้ถูกจับตามองทั่วจากทุกวงการ ด้วยความกังขาว่า นายจ้างมีสิทธิที่จะลงโทษพนักงานที่เขียนข้อคิดเห็นบน สังคมออนไลน์ หรือไม่ เท่าที่ทราบในเมืองไทยเรายังไม่เคยได้ยิน เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้น เกมในเฟซบุ๊ก น่าจะเป็นตัวสร้างความสัมพันธ์ได้อย่างดี ด้วยกลยุทธ์ว่าใครมีเพื่อนเยอะก็จะได้อะไรเพิ่มขึ้นในเกม นอกจากนั้น ยังมีการหลอกล่อให้ต้องมีเพื่อนมาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งในเกม ปลูกผักเลี้ยงปลากันใหญ่ วันก่อนมีโอกาสไปบรรยายเรื่องสังคมออนไลน์ให้กับกรมส่งเสริมการเกษตร ก็เล่าไปว่าบ้านเราน่าจะทาเกมลักษณะนี้ในรูปแบบไทยๆ บ้านเรามีเกษตรกร กว่าครึ่งค่อนประเทศ นี่ยังไม่นับรวมท่านที่ชอบทาการเกษตรบนโลกออนไลน์ ในทางกลับกัน บางประเทศกลับห้ามใช้งานเว็บนี้ บางบริษัทก็ห้ามใช้เนื่องจากเสียเวลาการทางานของพนักงาน เฟซบุ๊คได้รับการจัดอันดับเป็นเว็บสังคมออนไลน์ที่มีผู้ใช้มากที่สุดในปี ค.ศ. 2009 จำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว และที่น่าสนใจก็คือจานวนผู้เล่นอินเทอร์เน็ตในสหรัฐฯ เข้าใช้งานมากกว่า Google เป็นครั้งแรกช่วงต้นปี 2010 อีกด้วย ล่าสุดมีข่าวการใช้เฟซบุ๊ก เพื่อช่วยเหลือชีวิต ปกติเรามักจะได้ยินการใช้สังคมออนไลน์ เป็นสื่อ เป็นเครื่องมือทางการตลาด แต่ล่าสุดมีข่าวจากสานักข่าวต่างประเทศได้รายงานเกี่ยวกับการประกาศรับบริจาคไตในเฟซบุ๊ก เรื่องเกิดที่สหรัฐฯ มีผู้ป่วยที่ต้องการปลูกถ่ายไต ต้องเปลี่ยนไตใหม่ภายในเวลาจากัด เมื่อปรึกษากับแพทย์ที่ดูแลอยู่ จึงได้ตัดสินใจลองประกาศลงในเฟซบุ๊ก แล้วก็มีผู้ที่ประสงค์จะบริจาคไตให้โดยไม่ได้มีความสนิทสนมกันเป็นพิเศษแต่อย่างใดเป็นเพียงเพื่อนใน เฟซบุ๊ก ผู้รับบริจาคเมื่อได้รับข้อความแสดงความจำนงจะบริจาคไตให้ ในตอนแรกยังคิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่นกัน แต่เมื่อต้นเดือนเมษายน 2010 แพทย์ก็ได้เปลี่ยนไตที่บริจาคให้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วการศึกษาล่าสุดพบว่าหญิงสาววัยรุ่น ที่นั่งจ้องเฟชบุ๊คทั้งวัน อาจเป็นสาเหตุให้เกิดอาการผิดปกติในเรื่องการทานอาหาร จากการศึกษาพบว่าสองสาเหตุหลักที่ทาให้เกิด อาการการทานอาหารผิดปกติ คือ การใช้เวลามากเกินไปกับ พฤติกรรมการบริโภคสื่อ และการเป็นตัวของตัวเองมากเกินไปผล จากการสำรวจเด็กวัยรุ่นช่วงอายุ 12 ถึง 19 ปี พบว่าพฤติกรรมการบริโภคสื่อ อินเทอร์เน็ต และ โทรทัศน์ มีผลกระทบต่อพฤติกรรมของแต่ละคนโดยตรง จากผลการสำรวจพบว่า ยิ่งใช้เวลากับเฟชบุ๊ก มากเท่าไหร่ ก็จะมีโอกาสจะพบอาการอยากอาหารมากผิดปกติ ภาวะเบื่ออาหาร ไม่พึงพอใจในสรีระของตัวเอง และ ความต้องการอยากลดน้าหนัก มากขึ้น เมื่อมีจานวนผู้ใช้ สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) มากขึ้นเท่าไร ย่อมเป็นโอกาสในการทาธุรกิจ จึงเกิดคาว่า Social Commerce ขึ้น และได้รับความสนใจมากในช่วงนี้ หรือถ้าลองค้นหา คาว่า “e-mail vs. Social Media” ในgoogle จะพบผลลัพธ์มากเป็นหลายหมื่น จึงเป็นสิ่งที่ชัดเจนว่าเป็นหัวข้อร้อน จนบางที คนนิยามว่าเป็นการทาสงครามบนโลกดิจิตอล บ้างก็กล่าวว่าคงเป็นจุดจบของ อีเมล์ และคลื่นลูกใหม่ที่มาก็คือ สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) อีกแง่มุมหนึ่งที่ดูเข้าท่าก็คือ ทั้งอีเมล์ และ สื่อสังคมออนไลน์ จะเป็นตัวเสริมกันและกัน เพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจ เราควรที่จะโฟกัสสองเรื่องใหญ่ๆ คือ กลุ่มเป้าหมาย และ เจตนา มาเริ่มด้วยกลุ่มเป้าหมาย * ถ้ากลุ่มเป้าหมายอายุต่ำกว่า 20 ปี น่าจะค่อนข้างชัดเจนว่า การใช้สื่อสังคมออนไลน์ จะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด *ถ้ากลุ่มธุรกิจเป็นกลุ่มเป้าหมายของเรา การใช้อีเมล์ ถูกมองว่าเราจะได้ผลเร็วกว่า ในทางกลับกันถ้าลูกค้าทั่วไปเป็นกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจ การใช้ สื่อสังคมออนไลน์ น่าจะได้ผลที่ดีกว่า เนื่องจากลูกค้าจะเชื่อ และฟัง ความเห็นของคนอื่นๆ ที่ให้ไว้บนสื่อสังคมออนไลน์ *สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่อยู่ที่ทำงาน อีเมล์เป็นคำตอบของเรา แต่ถ้าต้องการมุ่งไปที่อยู่ที่บ้าน สื่อสังคมออนไลน์ น่าจะให้ผลตอบรับที่ดีกว่า จะเห็นได้ว่าการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายทั้งทาง ประชากรศาสตร์ (Demographic) และเชิงจิตวิทยา เป็นสิ่งที่สำคัญทั้งคู่ ในการเลือกว่า อีเมล์ หรือ สื่อสังคมออนไลน์ จะเหมาะสมกับธุรกิจ อย่างไรก็ตามในหลายกรณี เราควรใช้ทั้งสองช่องทาง ในการติดต่อสื่อสาร ส่วนเจตนา หรือ รูปแบบของธุรกิจ ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรนามาพิจารณา * ถ้าต้องการทาธุรกิจแบบ ขายตรง สื่อสังคมออนไลน์ อาจจะไม่ค่อยเหมาะสมนัก อีเมล์ น่าจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า * เมื่อมีความต้องการที่จะสร้างความสัมพันธ์ ในระยะยาว การเริ่มต้นด้วย สื่อสังคมออนไลน์ ในช่วงแรก แล้วปรับมาใช้อีเมล์ น่าจะเป็นแนวทางที่ดี * หากธุรกิจของเราต้องการ การตอบรับที่รวดเร็ว สำหรับกลุ่มวัยรุ่นแล้ว สื่อสังคมออนไลน์ เป็นทางเลือกที่เหมาะสม ส่วนกลุ่มวัยทางานที่ทางานมาพอสมควร การตอบรับอีเมล์ ของคนกลุ่มนี้ ก็จะค่อยข้างเร็ว * เมื่อเราต้องการที่จะทาธุรกิจ ผ่านการสื่อสาร อีเมล์ ยังคงเป็นสิ่งที่เราต้องใช้ เราต้องจัดการกับ อีเมล์ที่เข้ามาอย่างมีประสิทธิภาพ และรวดเร็ว ถ้าไม่สามารถโต้ตอบด้วยความรวดเร็วแล้ว ธุรกิจของเราอาจจะมีปัญหาได้ ต่างกับถ้าเราไม่ ทวิต ทุกวัน คงจะไม่มีผลกระทบต่อธุรกิจมากเท่าไหร่นัก เราจึงยังเห็นว่า นักธุรกิจส่วนใหญ่ ยังคงให้ความสำคัญกับ อีเมล์ ดังนั้นถ้าต้องการทาธุรกิจกับใครก็ตาม เราควรเริ่มด้วย สื่อสังคมออนไลน์ เป็นตัวนำ ให้เราสามารถเจาะเข้าถึงอีเมล์ของกลุ่มเป้าหมายให้ได้ อย่างไรก็ตามเมื่อยุค สมัย เปลี่ยนไป การใช้อีเมล์ สำหรับคนรุ่นใหม่ อาจจะไม่สำคัญเท่ากับ การมีตัวตนบน สื่อสังคมออนไลน์ จนกลายเป็นวิวัฒนาการ บนโลกออนไลน์ ไม่ใช่เป็นสงครามบนโลกออนไลน์ก็ว่าได้ 2.2.3 ประเภทเว็บไซต์ที่ให้บริการ Social Media 2.2.3.1. wordpress 2.2.3.2. Wikipedia – เว็บไซต์ในรูปแบบข้อมูลอ้างอิง 2.2.3.3. Facebook -เว็บไซต์ในรูปแบบ Social Networking 2.2.3.4. YouTube – เว็บไซต์ Social Networking และ แชร์วิดีโอ 2.3 เว็บบล็อก (WebBlog) บล็อกเป็นเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลายขึ้นอยู่กับเจ้าของบล็อก โดยสามารถใช้เป็นเครื่องมือสื่อสาร การประกาศข่าวสาร การแสดงความคิดเห็น การเผยแพร่ผลงาน ในหลายด้านไม่ว่า อาหาร การเมือง เทคโนโลยี หรือข่าวปัจจุบัน นอกจากนี้บล็อกที่ถูกเขียนเฉพาะเรื่องส่วนตัวหรือจะเรียกว่าไดอารีออนไลน์ซึ่งไดอารีออนไลน์นี่เองเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้บล็อกในปัจจุบัน นอกจากนี้ตามบริษัทเอกชนหลายแห่งได้มีการจัดทาบล็อกของทางบริษัทขึ้น เพื่อเสนอแนวความเห็นใหม่ให้กับลูกค้า โดยมีการเขียนบล็อกออกมาในลักษณะเดียวกับข่าวสั้น และได้รับการตอบรับจากทางลูกค้าที่แสดงความเห็นตอบกลับเข้าไป เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ 2.3.2 ประเภทของเว็บบล็อก บล็อกที่เราเห็นอยู่ในปัจจุบันนี้ ใช่มีเพียงแค่บล็อกที่เป็นตัวหนังสือและรูปภาพเท่านั้น หรือ มีแค่ออนไลน์ไดอารี่ เราแบ่งบล็อกออกได้ ดังต่อไปนี้ แบ่งตามลักษณะของมีเดียที่มีในบล็อก ได้แก่ Linklog บล็อกแบบนี้น่าจะเป็นบล็อกรุ่นแรก ๆ เป็นบล็อกที่รวมลิ๊งก์ที่เจ้าของบล็อกสนใจเอาไว้ ถ้าคุณยังจำผู้ให้กำเนิดคำว่า “บล็อก” ที่ชื่อ จอห์น บาจเจอร์ได้ นั่นแหล่ะครับ robotwisdom.com ของเขาคือตัวอย่างของ linklog นั่นเอง แม้ว่าจะบล็อกแบบนี้จะเป็นการรวมลิ๊งก์เท่านั้น แต่ก็ไม่เรียงเหมือนว็บไดเร็กทอรี่ เพราะเจ้าของบล็อกจะโพสต์ลิ๊งก์ของเขา 1 – 2 ลิ๊งก์ต่อโพสต์เท่านั้นครับ ใครที่อยากมีบล็อกเป็นของตนเองแต่ยังนึกไม่ออกว่าจะทาบล็อกแบบไหน linklog น่าจะเป็นการเริ่มต้นการทาบล็อกได้เป็นอย่างดี Photoblog ชื่อก็บอกอยู่แล้วครับว่า Photo บล็อกประเภทนี้เน้นใน โพสต์ภาพถ่ายที่เจ้าของบล็อกอยากนาเสนอ และมักจะไม่เน้นที่จะเขียนข้อความมากนัก บางบล็อกเรียกได้ว่าภาพโดยเจ้าของบล็อกล้วน ๆ เลยครับ Vlog ย่อมาจาก Videoblog เป็นบล็อกที่รวมวิดีโอคลิปไว้ในบล็อก Vlog เป็นบล็อกที่เรียกได้ว่าเป็นบล็อกที่นิยมทากันมากในอนาคต เพราะการเจริญเติบโตของไฮสปีด อินเตอร์เน็ต หรือ อินเตอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ ที่ทาให้การถ่ายทอดเสียง ภาพเคลื่อนไหว movie แบ่งตามประเภทเนื้อหาได้แก่ บล็อกส่วนตัว(Personal Blog) นำแสนอความคิดเห็น กิจวัตรประจาวันของเจ้าของบล็อกเป็นหลัก บล็อกข่าว(News Blog) บล็อกที่นาเสนอข่าวเป็นหลัก บล็อกกลุ่ม(Collaborative Blog) เป็นบล็อกที่เขียนกันเป็นกลุ่ม เช่น blognone.com บล็อกการเมือง(Politic Blog) ว่าด้วยเรื่องการเมืองล้วน ๆ บล็อกเพื่อสิ่งแวดล้อม(Environment Blog) พูดถึงเรื่องราวของธรรมชาติและการรักษาสิ่งแวดล้อม มีเดียบล็อก(Media Blog) เป็นบล็อกที่วิเคราะห์สื่อต่างๆ สารคดีและสิ่งที่เกี่ยวกับสื่อ เช่น oknation.net/blog/black ของสุทธิชัย หยุ่น บล็อกบันเทิง(Entertainment Blog) บล็อกที่นำเสนอเรื่องราวบันเทิงทั้งทางจอแก้ว และจอเงิน เรื่องซุบซุดารา กองถ่าย ฯลฯ บล็อกเพื่อการศึกษา(Educational Blog) ในโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัยในต่างประเทศมักจะใช้บล็อกเป็นสื่อในการสอนหรือ แลกเปลี่ยนความคิดกัน ติวเตอร์บล็อก(Tutorial Blog) เป็นบล็อกที่นำเสนอวิธีการต่าง 2.3.3 เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก 2.3.3.1 www.wordpress.com 2.3.3.2 www.google.com 2.3.3.3 www.facebook.com 2.3.4 ประวัติของเว็บไซต์ WordPress ความเป็นมาของ wordpres เริ่มจาก B2 หรือ cafelog คือผู้ที่ให้กำเนิดการทำงานของเว็บบล๊อกที่ชื่อว่า wordpress ได้การผลิตบล็อกชนิดนี้ขึ้นครั้งแรกประมาณปี 2003 ตอนนั้นมีบล็อก wordpress อยู่ประมาณ 2000 บล็อก บล็อกที่ชื่อว่า wordpress นี้ เขียนด้วยภาษา PHP เพื่อที่จะใช้กับ MySQL โดยผู้เขียน wordpress ก็คือ Michel Valdrighi เป็นผู้ร่วมพัฒนา wordpress ตอนนั้น wordpress ยังอยู่ใน B2evolution wordpress ได้ปรากฏสู่โลกในปี 2003 โดยเป็นความพยายามของ Matt Mullenweg และ Mike little ในปี 2004 ได้ถูกเปลี่ยนแปลงโดย six apart ทำให้มีผู้งาน wordpress จำนวนมากขึ้น และเริ่มก่อเกิดแบรนด์ wp หรือ wordpress ขึ้นมาและมีการใช้งานมากขึ้นและการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนมาถึงปัจจุบัน ในปี 2007 wordpress ได้รับรางวัลชนะเลิศในเรื่องของ Packt open source CMS award WordPress คือ โปรแกรมสำเร็จรูปตัวหนึ่ง ที่เอาไว้สาหรับสร้าง บล็อก หรือ เว็บไซต์ สามารถใช้งานได้ฟรี ถูกจัดอยู่ในประเภท CMS (Contents Management System) ซึ่งหมายถึง โปรแกรมสำเร็จรูปที่มีไว้สำหรับสร้างและบริหารจัดการเนื้อหาและข้อมูลบนเว็บไซต์ WordPress ได้รับการพัฒนาและเขียนชุดคาสั่งมาจากภาษา PHP (เป็นภาษาโปรแกรมมิ่งตัวหนึ่ง) ทางานบนฐานข้อมูล MySQL ซึ่งเป็นโปรแกรมสาหรับจัดการฐานข้อมูล มีหน้าที่เก็บ เรียกดู แก้ไข เพิ่มและลบข้อมูล การใช้งาน WordPress ร่วมกับ MySQL อยู่ภายใต้สัญญาอนุญาตใช้งานแบบ GNU General Public License ปัจจุบันนี้ WordPress ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนมีผู้ใช้งานมากกว่า 200 ล้านเว็บบล็อกไปแล้ว แซงหน้า CMS ตัวอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Drupal , Mambo และ Joomla สาเหตุเป็นเพราะ ใช้งานง่าย ไม่จาเป็นต้องมีความรู้ในเรื่อง Programing มีรูปแบบที่สวยงาม อีกทั้งยังมีผู้พัฒนา Theme (รูปแบบการแสดงผล) และ Plugins (โปรแกรมเสริม) ให้เลือกใช้ฟรีอย่างมากมาย นอกจากนี้ สาหรับนักพัฒนา WordPress ยังมี Codex เอาไว้ให้เราได้เป็นไกด์ไลน์ เพื่อศึกษาองค์ประกอบส่วนต่าง ๆ ที่อยู่ภายใน สำหรับพัฒนาต่อยอด หรือ นาไปสร้าง Theme และ Plugins ขึ้นมาเองได้อีกด้วย ยังมีรุ่นพิเศษ คือ WordPress MU สำหรับไว้ให้ผู้นาไปใช้ สามารถเปิดให้บริการพื้นที่ทำเว็บบล็อกเป็นของตนเอง เพื่อให้ผู้อื่นมาสมัครขอร่วมใช้บริการในการสร้างเว็บบล็อก ภายใต้ชื่อโดเมนของเขา หรือที่เรียกว่า Sub-Domain บทที่ 3 วิธีดำเนินงานโครงงาน ในการจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์ การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย WordPress 3.1 วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนา 3.1.2 เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก คือ www.wordpress.com 3.2 ขั้นตอนการดำเนินงาน บทที่ 4 การจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย WordPress เรื่อง Fancy Cendle นี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย WordPress และค้นคว้าเรื่องที่สนใจเกี่ยวกับการทำเทียนเจล เพื่อให้ผู้จัดทำโครงงานสามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับการเรียนรู้ของตนเองมากยิ่งขึ้น ตลอดจนสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ระหว่างครู เพื่อนและผู้สนใจทั่วไป ซึ่งมีผลการดำเนินงานโครงงาน ดังนี้ 4.1 ผลการพัฒนาเว็บบล็อก การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย WordPress เรื่อง Fancy Candle นี้ ผู้จัดทำได้เริ่มดำเนินงานตามขั้นตอนการดำเนินงานที่เสนอในบทที่ 3 แล้ว แล้วได้สมัครเป็นสมาชิกเว็บบล็อกที่ชื่อ http://www.wordpress.com จากนั้นได้นำเสนอเผยแพร่ผลงานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ที่สามารถเข้าถึงได้ทุกที่ทุกเวลา โดยได้นำเผยแพร่ที่เว็บบล็อกชื่อ http:// Fancycandle.wordpress.com ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับสื่อสังคมในรูปแบบของ Social Media ประเภทเว็บไซต์ facebook ของผู้จัดทำที่ชื่อ (http:// Fancy candle.com) ทั้งนี้เว็บบล็อกดังกล่าว สามารถจัดการและเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อื่นๆ ได้เป็นอย่างดี โดยทั้งครูที่ปรึกษา เพื่อนๆในห้องเรียนได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ โดยแสดงความเห็นในเนื้อหาและรูปแบบของการนำเสนออย่างหลากหลาย ซึ่งทำให้เกิดการเรียนรู้และเป็นแหล่งเรียนรู้ในโลกออนไลน์อย่างหลากหลายและรวดเร็ว 4.2 การนำเสนอหน้าเว็บบล็อก บทที่ 5
การจัดทำโครงงานคอมพิวเตอร์การพัฒนาเว็บบล็อก (WebBlog) ด้วย WordPress 5.1 การดำเนินงานจัดทำโครงงาน 5.1.2 วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือหรือโปรแกรมหรือที่ใช้ในการพัฒนา 5.2.1.2 เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก คือ
www.wordpress.com 5.2 สรุปผลการดำเนินงานโครงงาน การพัฒนาเว็บบล็อก
(WebBlog) ด้วย WordPress เรื่อง Fancy candle นี้ ผู้จัดทำได้เริ่มดำเนินงานตามขั้นตอนการดำเนินงานที่เสนอใน บทที่3 แล้วได้สมัครเป็นสมาชิกเว็บบล็อกที่ชื่อ http://www.wordpress.com จากนั้นได้นำเสนอเผยแพร่ผลงานผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต 5.3 ข้อเสนอแนะ 5.3.1 ข้อเสนอแนะทั่วไป 5.3.1.1 เว็บไซต์ที่ให้บริการเว็บบล็อก คือ WordPress เป็นเว็บบล็อกสำเร็จรูปที่ใช้ทำเว็บไซต์ได้ง่าย และรวดเร็ว แต่ถ้าเราใช้ประโยชน์ในทางที่ไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม ก็จะส่งผลต่อการละเมิดลิขสิทธิ์และได้รับความรู้ที่ไม่ถูกต้อง เพราะฉะนั้นผู้จัดทำควรเผยแพร่สิ่งที่ดี ๆ
ให้บุคคลที่เข้ามาเยี่ยมหรือศึกษาได้ความรู้และสิ่งดี ๆ นำไปเผยแพร่ต่อให้ผู้อื่นมาศึกษาความรู้ที่เป็นประโยชน์ต่อไป 5.3.2 ปัญหา อุปสรรค และแนวทางในการพัฒนา |