เงินเดือน 9000 ซื้อรถอะไร ได้บ้าง


เชื่อว่าเด็กจบใหม่ และคนที่เพิ่งเริ่มทำงานได้ 1-2 ปี หรือเหล่า First Jobber น่าจะกำลังวางแผนซื้อรถยนต์คันแรก เพื่อใช้ในการเดินทางไปทำงาน หรือเพื่อใช้ประกอบอาชีพหารายได้ แต่หลายคนอาจจะมีคำถามอยู่ในใจว่าการยื่นกู้ซื้อรถหรือขอสินเชื่อรถยนต์ใหม่จะต้องมีฐานเงินเดือนอยู่ที่เท่าไร และต้องมีเงินเดือนมากแค่ไหนถึงจะยื่นกู้ได้ วันนี้ เราจึงนำข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับการกู้ซื้อรถและการขอสินเชื้อรถยนต์ใหม่มาฝากกัน 


ก่อนอื่นสิ่งที่ควรรู้ก่อนจะกู้ซื้อรถ เราควรจะพิจารณาสถานะทางการเงิน และสภาพคล่องของตนเองเป็นอันดับแรก เพื่อจะได้ประเมินความเป็นไปได้ ในการผ่อนชำระค่างวดต่อเดือน ซึ่งการยื่นกู้ซื้อรถและขอสินเชื่อรถยนต์นั้น ผู้กู้จะต้องเป็นผู้บรรลุนิติภาวะตามกฎหมาย คือมีอายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และจะต้องมีหลักฐานรายรับที่ชัดเจนด้วย
ใครที่เป็นพนักงานบริษัทก็สามารถใช้สลิปเงินเดือน พร้อมด้วยหลักฐานการเงินอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อยื่นดำเนินเรื่องได้ แต่หากใครทำงานอิสระ ก็จำเป็นต้องรวบรวมหลักฐานรายรับที่ได้รับในแต่ละเดือนเอาไว้ เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่ามีรายรับต่อเนื่องในทุกเดือน หรือมีเงินเข้าบัญชีจากหลายทาง เพียงพอที่จะดูแลหนี้สินใหม่ได้
ทั้งนี้ การคิดยอดผ่อนชำระนั้นจะไม่เกิน 50 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือน นั่นหมายความว่า หากคุณมีรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ 15,000 บาท คุณจะสามารถจ่ายค่าผ่อนชำระงวดรถได้สูงสุด 7500 บาท/เดือนนั่นเอง แต่ถ้าต้องการผ่อนชำระต่อเดือนให้น้อยลง ก็ควรวางเงินดาวน์ให้มากยิ่งขึ้น อย่างน้อย 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะช่วยให้การขอกู้สินเชื่อรถยนต์ใหม่ผ่านการอนุมัติได้ง่ายขึ้น 


อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าเมื่อถอยรถใหม่ป้ายแดงมาใช้งานแล้ว ไม่ได้มีเฉพาะค่างวดรถเท่านั้นที่คุณต้องรับผิดชอบ แต่ยังมีค่าน้ำมันรถ ค่าประกันภัยรถ ค่าบำรุงรักษาต่าง ๆ จากการนำรถเข้าเช็กระยะด้วย เพราะฉะนั้นถ้าคิดจะมีรถใหม่ก็ต้องวางแผนการเงินให้ดี แม้ว่าเงินเดือนจะไม่ถึง 20,000 บาท ก็ยังสามารถมีรถได้โดยที่ยังมีสภาพคล่องทางการเงิน เพียงแต่ต้องมีเงินก้อนสำหรับการดาวน์รถที่มากพอ เพื่อที่จะได้ไม่มีภาระผ่อนค่างวดที่มากเกินไปนั่นเอง 


หากยังนึกภาพไม่ออกว่าควรวางเงินดาวน์สักเท่าไร ควรผ่อนนานแค่ไหนดี และกำลังตามหาสินเชื่อสำหรับรถโตโยต้าอยู่แล้วนั้น สามารถมาทดลองประเมินสินเชื่อรถยนต์เบื้องต้นได้เลยที่ https://www.tlt.co.th/calculator/car_model ซึ่งจะช่วยให้คุณเห็นภาพได้ชัดยิ่งขึ้นว่าหากต้องการผ่อนค่างวดไม่เกิน 7,000-8,000 บาท ต่องวด ควรจะวางดาวน์เงินเท่าไร และควรผ่อนกี่งวด ถ้าได้ราคาประเมินที่ต้องการแล้วก็สามารถขอสินเชื่ออนไลน์ผ่านทางลิงก์ https://www.tlt.co.th/onlineapp ได้เลย

การออกรถสักคันไม่ว่าจะเป็นมือหนึ่งป้ายแดงหรือแบบมือสอง ที่ต้องมีเรื่อง กู้ยืมเงิน เพื่อมาซื้อ เกิดหนี้สิน ผลกระทบที่อาจไม่สวยงามเหมือนตอนที่คิดอยากจะได้รถในตอนแรก มีมากมายจนคิดไม่ถึง และวันนี้กับข้อคิดเตือนใจสำหรับใครที่เงินเดือนน้อยหรือแค่รู้สึกว่าเงินเดือนยังไม่มากพอแล้วคิดจะซื้อรถ ต้องรู้!

 

1.รถมาพร้อมกับค่าใช้จ่าย

 

เมื่อซื้อรถนอกจากค่าใช้จ่ายต้องผ่อนชำระในแต่ละงวด ยังมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามมาอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ค่าประกัน ค่าน้ำมัน ค่าบำรุงรักษาต่างๆ ค่าภาษี ซึ่งบางคนอาจยังนึกไม่ถึงในข้อนี้ แต่ก็เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องจ่ายถ้าต้องการใช้รถ อีกทั่งจะค่าใช้จ่ายที่ตามมาในด้านอื่นๆ ซึ่งอาจไม่จำเป็นที่จะต้องเสีย แต่เมื่อมีรถ การเดินไปไหน มาไหนสะดวกยิ่งขึ้นก็พาให้อยากออกนอกบ้าน มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมาอีก

 

เงินเดือน 9000 ซื้อรถอะไร ได้บ้าง

ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะตามมาเมื่อซื้อรถ

2.รถก็คือ “ลด” ไม่ใช่ทรัพย์สินเพิ่มมูลค่า

 

รถยนต์ไม่ใช่ทรัพย์สินที่เวลาผ่านไปมีจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้น รถทุกคันมีค่าเสื่อมราคา แม้เพิ่งขับออกจากศูนย์วันแรกป้ายแดงแล้วเอาไปขาย ราคาที่ได้ก็น้อยกว่าที่จ่ายซื้อมาแล้วแม้ในวันเดียวกัน ราคาของรถมีแต่จะลดลงทุกปี ตามรุ่น ตามยี่ห้อ ตามความนิยม อย่าคิดว่าซื้อรถรุ่นใหม่มาแล้วจะช่วยทำกำไรได้ในเวลาขาย ถ้าไม่ได้ถูกนำไปสร้างรายได้หรือความสุขให้กับคนในครอบครัว ก็มีแต่ขาดทุนอย่างเดียวเท่านั้นแหละเมื่อมีรถ

 

เงินเดือน 9000 ซื้อรถอะไร ได้บ้าง

ความสุขของครอบครัวคือสิ่งทดแทน ค่าเสื่อมสภาพที่เสียไปจากราคาขายต่อ

 

3.ดาวน์น้อย ดอกเยอะ

 

อัตราการคิดดอกเบี้ยจะแปลผันตรงกับเงินดาวน์ที่จ่ายให้กับราคาตัวรถ เช่น ดาวน์สูงหน่อย 50% ของราคาตัวรถ อัตราดอกเบี้ยจะคิด 2.59% ต่อปี แต่ถ้าดาวน์น้อย 20%-25% อัตราดอกเบี้ยจะสูง แพงกว่าเป็น 3%-4% ต่อปี ดอกเบี้ย ส่วนที่คุณต้องจ่ายไปเพื่อทดแทนจำนวนเงินดาวน์ที่มีไม่มากพอ ดอกเบี้ยคือสิ่งที่ต้องเสียไปโดยใช้เหตุ ไม่ได้อุปกรณ์หรือควาสะดวกสบายอะไรเพิ่มขึ้นจากรถที่ซื้อ ลองรอเก็บเงินอีกสักหน่อย ทดลองนำเงินเก็บไปฝากธนาคารจำนวนเท่าค่างวดของแต่ละงวดเป็นเวลาสัก 1-2 ปีเป็นการทดลองเสมือนจริงให้เหมือนกับตอนเป็นหนี้ไฟแนนซ์ แล้วลองดูว่ายังสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ไม่ติดขัดในการใช้เงินได้ไหม ถ้าทำได้แสดงว่าก็พร้อมที่จะซื้อรถได้แล้ว แถมยังมีเงินดาวน์เพิ่มขึ้นจากเงินเก็บอีกด้วย

 

4.อย่าซื้อรถรุ่นเกินตัว

 

ใครที่ต้องการจะมีรถจะด้วยเหตุผลเพื่อความสะดวกสบายในครอบครัวหรือการใช้ชีวิต ซึ่งไม่ผิดที่จะปรารถนาคาดหวัง แต่สิ่งสำคัญที่ต้องไม่ลืมก่อนตัดสินใจซื้อรถสักคันนั่นคือ “ความพอดี” ความพอดีในที่นี้คือ พอดีกับกำลังการจ่ายค่างวด พอดีที่จะผ่อนไหวในแต่ละเดือนแล้วยังมีเงินเหลือพอดีสำหรับค่าใช้จ่ายต่างๆ พอดีที่จะใช้แค่เดินทางไปไหนมาไหนสะดวก บางคนบวก ลบ คูณ หาร ด้วยเงื่อนไขโปรโมชั่นและอุปกรณ์พิเศษเพิ่มเติมอย่างไม่จำเป็น ไปจนถึงการข้ามไปซื้อรุ่นอื่นๆ ที่แพงมากเกินไป จนเกินกำลังตัวเองจ่ายไหวในแต่ละงวด อย่ามั่นใจมากเกินไปกับชีวิตที่ไม่มีอะไรแน่นอน เห็นได้ง่ายๆ ในเรื่องของความเกินตัวจากรถมือสองสภาพใหม่ป้ายแดง ที่ถูกขายให้กับเต้นท์รถเพราะเจ้าของเก่าผ่อนไม่ไหว โฟกัสที่รายได้และสิ่งที่ต้องการจริงๆ จากรถคันที่จะซื้อเพื่อไม่ให้ต้องจ่ายเงินไปกับในสิ่งที่ไม่จำเป็นโดยใช้เหตุ

 

เงินเดือน 9000 ซื้อรถอะไร ได้บ้าง

อย่าเลือกรถเกินตัว หรือเกินกำลังจ่ายในแต่ละงวดแต่ไฟแนนซ์ก็จะเป็นคนประเมินด้วยอีกขั้น

ว่ารถคันที่คุณกู้ซื้อ กับรายได้ของคุณนั้นเกินตัวไปหรือเปล่า

 

5.การไม่เป็นหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ

 

เมื่อเงินเดือนน้อยแล้วจะซื้อรถ ก็ต้องกู้ไฟแนนซ์ เป็นหนี้ เชื่อเถอะว่าตลอดระยะเวลา 4,5,6 ปีที่จ่ายค่างวด แล้วเงินเดินไม่ได้ขึ้นมากจนแบบก้าวกระโดด ทุกครั้งที่ยิ้มยังไงก็ไม่สุขที่สุด แม้ว่าค่างวดเดือนล่าสุดจะจ่ายไปแล้ว แต่เงินที่เหลือก็ไม่สามารถนำไปสร้างความสุขด้านอื่นๆ ได้อย่างเพียงพอ ไหนจะต้องแบ่งเก็บเพื่อเตรียมจ่ายค่าประกันรถในปีหน้า ค่าบำรุงรักษาที่กำลังจะมาถึงตามระยะ ค่าน้ำมันที่ผันผวนไม่คงที่ ล้วนแต่สร้างความกังวลใจให้ตลอดระยะการเป็นหนี้รถยนต์ ดังนั้นการไม่เป็นหนี้ก็เหมือนลาภอันประเสริฐ คือความจริงที่สุดที่เลือกเองได้ว่าจะยอมรับทุกข์จากภาระหนี้รถยนต์ที่ตามมาได้หรือไม่ ถ้ายอมทุกข์กับการเป็นหนี้ เพื่อไปสร้างความสุขจากประโยชน์ของรถยนต์ที่ซื้อมา หัก ลบกันและยอมรับได้ก็ไม่ผิดที่จะซื้อรถยนต์มาใช้สักคัน

 

เงินเดือน 9000 ซื้อรถอะไร ได้บ้าง

การไม่เป็นหนี้จากการกู้ซื้อรถยนต์เป็นลาภอันประเสริฐ

 

เตือนใจเอาไว้สำหรับใครผู้มีรายได้น้อยแล้วกำลังจะตัดสินใจครั้งสำคัญ กับของขวัญให้ตัวเองซึ่งน่าจะเป็นชิ้นใหญ่ที่สุด แต่อย่าให้ของขวัญมาทำให้เกิดความทุกข์ ลองใช้วิธีต่างๆ รวมถึงการทบทวนถึงความสำคัญจริงๆ ที่จะต้องมีรถ ตามคำแนะนำถ้าคำตอบสุดท้ายนั้น รถยังเป็นอีกปัจจัยในชีวิตคุณที่จำเป็นต้องมีจริงๆ แล้วละก็ การที่ตัดสินใจจะซื้อรถก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร