นักศึกษามหาวิทยาลัยรามคำแหง จะมีสถานภาพการเป็นนักศึกษาจนครบระยะเวลาตามหลักสูตรเมื่อลงทะเบียนเรียนอย่างสม่ำเสมอ หากนักศึกษาต้องการลาออกจากการเป็นนักศึกษา สามารถดำเนินการได้ดังนี้ นักศึกษาส่วนกลาง: ดำเนินการได้ที่
ฝ่ายทะเบียนประวัติ อาคาร สวป. ชั้น 2 นักศึกษาที่ต้องการลาออกจากการเป็นนักศึกษาผ่านทางไปรษณี ให้แนบหลักฐานต่อไปนี้ จากนั้นนำเอกสารใส่ซอง ส่งมาถึงมหาวิทยาลัย
ดำเนินการผ่านทางอีเมลนักศึกษาที่ต้องการลาออกจากการเป็นนักศึกษาผ่านทางอีเมล ให้แนบหลักฐานต่อไปนี้
ตรวจสอบรายชื่อการลาออกเมื่อนักศึกษายื่นแบบคำร้องขอลาออกจากการเป็นนักศึกษาไว้ สามารถตรวจสอบรายชื่อการลาออกจากการเป็นนักศึกษาได้ตั้งแต่หลังจากวันที่ 7 ของเดือนถัดไป ได้ที่ บัตรประจำตัวนักศึกษาหาก จะลาออกได้ไหม ?ตามที่สำนักบริการทางวิชาการกำหนดให้แนบหลักฐานที่ต้องใช้คู่กับแบบฟอร์มการลาออกได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาบัตรประจำตัวนักศึกษา หากนักศึกษาทำบัตรประจำตัวนักศึกษาหาย ให้แนบสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนเพียงอย่างเดียว (เล่า) ลาออกจากมหาวิทยาลัย by A.i.Firstออก… ความจริงแล้ว ก่อนที่ผมจะเริ่มต้นเขียนบทความนี้ ก็ลองค้นหาสิ่งอ้างอิงที่เกี่ยวข้องมากมายตามเว็บไซต์ต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “อัตราการ “ซิ่ว” ของนศ. ไทย”ผิดคาด! ไม่น่าเชื่อเลยว่าอัตราจะสูงมากขนาดนี้… สูงเกินกว่าที่คาดไว้มากนัก จนทำให้เกิดความรู้สึกปวดใจเกินกว่าจะรับไหว…
หนึ่งในตัวอย่างที่พบเห็นได้ทั่วไปครับ ลองอ่านกันดูได้นะ ^ ^ เอาล่ะ เกริ่นมามากพอแล้ว เข้าเรื่องกันเถอะ ^ ^ แน่นอนว่าการซิ่ว สิ่งที่ต้องทำอย่างแน่นอนก็คือ “การลาออก” จากที่เก่า เพื่อไปเรียนต่อที่ใหม่นั่นเอง ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็น่าจะไม่เคยลาออกจากที่ไหนมาก่อน บทความนี้จึงเกิดขึ้น เพื่อต้องการไกด์ “น้องๆ” รุ่นหลัง ที่จนแล้วจนรอด ก็เลือกที่จะซิ่ว ได้ลองอ่านบทความนี้ดูเป็นแนวทางครับ ^ ^ สิ่งที่ต้องทำอันดับแรกสุด! คือไปรับใบ “คำร้องขอลาออก” จากสำนักทะเบียน นำมันกลับมาบ้านก่อนได้ เพราะจำเป็นต้องให้ผู้ปกครองเซ็นต์ยินยอมพร้อมใจด้วย ขอแนะนำว่าให้ทำใน วัน-เวลา ราชการจะดีที่สุด (ปิดเทอมก็ได้นะ เผื่อใครอายเพื่อนๆ ก็สามารถ) เตรียมตัวก่อนดำเนินการ ทำตามซะ!
ถึงตอนสำคัญแล้ว! นั่นคือ ขั้นตอนการ “วิ่งเต้น” ขอบอกเลยว่า หากมหาลัยใหญ่มากเท่าใด การวิ่งเต้นเพื่อลาออกของท่านก็จะใช้ “กำลังกาย” มากขึ้นเท่านั้น สิ่งเดียวที่ช่วยให้ผ่านพ้นไปได้ก็คงจะเป็น “กำลังใจ” หรือที่เขามักพูดกันว่า “กายพร้อม ใจพร้อม เราทำได้!” เพราะงั้น สู้ๆ นะครับ ^ ^ ตัวผม เลือกมามหาลัยตอนเที่ยง จะได้มีเวลารับประทานข้าวด้วยเลย หากใครยังไม่รู้จะดำเนินการช่วงเวลาใด ผมก็คงจะแนะนำช่วงเวลาเดียวกันนี่แหละครับ เพราะจะได้มาชมการฝึกซ้อมต่างๆ ของนศ. มหาลัยนี้เป็นครั้งสุดท้าย… หลักๆ แล้ว ก็จะมีด้วยกัน 3 สถานที่ ที่ต้องไป
:3
:3
:3
|