งานวิจัยสเปรย์แอลกอฮอล์สมุนไพร

มหาวิทยาลัยทักษิณสร้างสังคมวิถีใหม่ ด้วยการนำผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์เชิงสังคม ด้วยศักยภาพองค์ความรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยที่จะพัฒนาต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์หน้ากากอนามัยทางการแพทย์เคลือบซิลเวอร์นาโนและสเปรย์แอลกอฮอล์สมุนไพร จากองค์ความรู้และนวัตกรรม

      มหาวิทยาลัยทักษิณสร้างสังคมวิถีใหม่ ด้วยการนำผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์เชิงสังคม ด้วยศักยภาพองค์ความรู้เทคโนโลยีและนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยที่จะพัฒนาต่อยอดสู่ผลิตภัณฑ์หน้ากากอนามัยทางการแพทย์เคลือบซิลเวอร์นาโนและสเปรย์แอลกอฮอล์สมุนไพร จากองค์ความรู้และนวัตกรรม
     การผสมผสานบูรณาการวิทยาการสมัยใหม่กับภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อสามารถตอบสนองความต้องการผู้บริโภคทุกระดับในสังคมยุควิถีใหม่ และการรณรงค์ป้องกันโรคตามตามแนวทาง D-M-H-T-T
     รองศาสตราจารย์ ดร.วิชัย ช านิ อธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การ ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นอย ่างหนักหน่วงและรุนแรง มหาวิทยาลัยทักษิณ ได้ตระหนักและแสดงเจตนารมณ์ที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคม ตามปณิธาน “มหาวิทยาลัย เพื่อสังคม” ด้วยการน าองค์ความรู้ ผลงานวิจัยและนวัตกรรมในการช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟูสังคม ชุมชน ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การขับเคลื่อนผลงานวิจัยและนวัตกรรม การต่อยอดผลงานวิจัยสู่การใช้ประโยชน์เชิง สังคม การถ ่ายทอดเทคโนโลยีป้องกันโรค การจัดท าโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมแบบบูรณาการ
     อาจา รย์ ดร.ก รกนก อุบล ชล เข ต อ าจารย์ป ระจ าส าข าวิช าวิศว กรรมย างแล ะพ อลิเมอ ร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ ผู้วิจัยผลิตภัณฑ์หน้ากากอนามัยทางการแพทย์เคลือบซิลเวอร์นาโน TSU NANOMASK กล่าวว่า หน้ากากอนามัย TSU NANOMASK เป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบที่จะน าไปสู่ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์ จากการ พัฒนาต่อยอดผลงานอนุสิทธิบัตร เรื่องกรรมวิธีการผลิตกระดาษส าหรับท าบรรจุภัณฑ์เพื่อยืดอายุผักและผลไม้ อนุสิทธิบัตรเลขที่ 12183 โดยมีแนวคิดในการน า นวัตกรรมกรีนซิลเวอร์นาโนมาใช้ส าหรับหน้ากากอนามัย ความพิเศษของงานวิจัยนี้คือการผลิตซิลเวอร์นาโนด้วยกระบวนการสีเขียว ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้สารจาก ธรรมชาตินั้นก็คือน้ าตาลเป็นวัสดุหลักในการสังเคราะห์ อีกทั้งได้พัฒนาขั้นตอนในการผลิตให้ท าง่าย ไม่ยุ่งยาก ซับซ้อน มีความปลอดภัย และต้นทุนต่ า โดยมีส่วนประกอบหลัก คือ น้ า น้ าตาล และเกลือของเงินหรือซิลเวอร์ ไนเตรท นวัตกรรมสารเคลือบวัสดุด้วยซิลเวอร์นาโนที่ผลิตได้นอกจากมีประสิทธิภาพในการต่อต้าน และลด การติดเชื้อโรคต่างๆ ทั้งรูปแบบของสารคัดหลั่งหรือการสัมผัส และป้องกันเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ ในขณะที่หน้ากากอนามัยทั่วไปจะท าไม่ได้อีกทั้งสามารถน ามาประยุกต์ใช้ได้หลากหลาย เช่น การเคลือบหน้ากากอนามัย ลดการติดเชื้อโรคต่าง ๆได้ เช่น แบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัส เป็นต้น อาจารย์ ดร.จิราพ ร ช่อมณี อาจารย์ป ระจ ำสาขาวิชาวิทยาศาสตร์และคณิต ศาส ตร์พื้นฐาน คณ ะวิทยาศาสตร์ กล่าววว่า ในส่วนของ TSU Herbal Alcohol Spray เป็นผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากการ ผสมผสานสมุนไพรภูมิปัญญาท้องถิ่น กับองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยเลือกใช้ว่านหาง จระเข้ ซึ่งเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยในการบ ารุงผิว ท าให้หลังใช้สเปรย์แอลกอฮอล์มือจะมีความนุ่ม ชุ่มชื้น ประกอบกับผู้วิจัยได้เลือกใช้น้ ามันหอมระเหย (Essential Oil) จากตะไคร้ และมะกรูด เพื่อช่วยเพิ่มกลิ่นหอม ตามธรรมชาติให้กับผลิตภัณฑ์ และช่วยผ่อนคลายให้กับผู้บริโภคในสถานการณ์ดังกล่าวได้ดีอีกด้วย ที่สำคัญ
     ผลิตภัณฑ์ TSU Herbal Alcohol Spray ใช้กรรมวิธีการผลิตที่ได้มาตรฐาน Primary GMP จึงเป็นผลิตภัณฑ์ ที่มีคุณภาพ ปลอดภัยส าหรับผู้บริโภค พกพาง่าย ใช้สะดวก ช่วยลดปริมาณเชื้อโรค สร้างความมั่นใจในการใช้ ชีวิตประจ าวันและการท ากิจกรรมต่างๆ ส าหรับสังคมวิถีใหม่
รายละเอียดผลิตภัณฑ์ มี 2 แบบ
* TSU NanoMask บรรจุกล่องละ 50 ชิ้น ราคา 120 บาท
* TSU Herbal Alcohol Spray มี 2 ขนาด
   - ขนาด 20 ml ราคา 25 บาท
   - ขนาด 30 ml ราคา 30 บาท
     ผลิตภัณฑ์หน้ากากอนามัยทางการแพทย์เคลือบซิลเวอร์นาโน และสเปรย์แอลกอฮอล์สมุนไพร ภายใต้แบรนด์ TSU NanoMask และ TSU Herbal Alcohol Spray เป็นผลิตภัณฑ์ต้นแบบเพื่อตอบสนองแก่ผู้บริโภค ประชาชนทั่วไป องค์กร หน่วยงานภาครัฐ เอกชนและท้องถิ่น ผู้ที่สนใจสามารถร่วมสมทบทุนเพื่อสนับสนุน การผลิตและการศึกษาวิจัยในเชิงนวัตกรรมในอนาคต โดยสั่งจองหรือสอบถามรายละเอียดได้ที่คุณพิมพ์ณดา มณีวงค์ สถาบันวิจัยและพัฒนา โทร. 09 5629 4415 หรือคุณปาจรีย์ เรืองคล้าย สำนักส่งเสริมการบริการ วิชาการและภูมิปัญญาชุมชน โทร. 08 8760 1006

ดูแล้ว: 12,629

การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 (COVID-19) ได้กลายเป็นกระแสคลื่นลูกมหึมาที่พัดถล่มเศรษฐกิจอย่างไม่อาจต้านทานได้  ส่งผลให้หลายธุรกิจที่ถูกกระทบอย่างหนักต้องปิดกิจการลง 

  • งานวิจัยสเปรย์แอลกอฮอล์สมุนไพร

ขณะที่อีกหลายธุรกิจก็กำลังพยายามดิ้นหาทางพาตนเองให้สามารถอยู่รอดได้ และอีกหลายธุรกิจที่พลิกวิกฤติให้กลายเป็นโอกาสด้วยการปรับเปลี่ยนไลน์การผลิตของตนเองไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่เป็นความต้องการของตลาด เช่น หน้ากากอนามัยแบบผ้า เป็นต้น

“ณัฐวี บัวแก้ว” เป็นเด็กหนุ่มที่ไม่เคยหยุดนิ่งทางความคิดในการสร้างธุรกิจ โดยล่าสุดได้มีแนวคิดไอเดียในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่กำลังเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างสูง อย่างสเปรย์แอลกอฮอล์ผสมสารสกัดจากสมุนไพรขึ้นมา เพื่อช่วยยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19 และเริ่ม “Startup” ธุรกิจขึ้นมาใหม่อีกครั้ง

-จุดกำเนิดสเปรย์แอลกอฮอล์สมุนไพร

“ณัฐวี” บอกว่า ไอเดียนี้ได้มาจากกระแสของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้ผู้บริโภคมีความต้องการใช้เจลแอลกอฮอล์ในการล้างมือเพื่อฆ่าไวรัสในการดำเนินชีวิตประจำวัน แต่ด้วยความที่โดยส่วนตัวแล้วเป็นผู้ที่ไม่ชอบกลิ่นของแอลกอฮอล์ และมองว่าการล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อยครั้งทำให้ผิวแห้ง เพราะแอลกอฮอล์จะดูดความชุ่มชื้นออกจากผิว โดยมองว่าจะเป็นการดีหรือไม่ หากมีผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกันแต่สามารถตอบโจทย์ได้มากกว่า

ทั้งนี้ ตนจึงเดินทางไปที่คณะเภสัชศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) ทำให้ได้พบว่ามีสมุนไพร 3 ชนิดที่มีสรรพคุณในการต่อต้านไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา และอนุมูลอิสระ เป็นต้น ประกอบด้วย มังคุด ,ทองพันชั่ง และพญายอ ตนจึงมองว่าน่าจะนำข้อดีของสมุนไพรดังกล่าวเหล่านี้มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการนำมาผสมกับแอลกอฮอล์ทำเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อทำความสะอาด และยับยั้งเชื้อไวรัสโควิด-19

งานวิจัยสเปรย์แอลกอฮอล์สมุนไพร

เมื่อแนวคิดดังกล่าวตกผลึกดีแล้ว จึงก่อให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่า สเปรย์แอลกอฮอล์ผสมสารสกัดจากสมุนไพร ภายใต้แบรนด์“พี เฮิร์บ พลัส” (P Herb plus) ที่หมายถึงการเพิ่มมูลค่าของสมุนไพร โดยเป็นสเปรย์ที่ไม่มีกลิ่นแอลกอฮอล์ แต่จะมีกลิ่นหอมสดชื่นของ มะนาว ลาเวนเดอร์ และเปเปอร์มินท์ให้ผู้บริโภคได้เลือก ซึ่งการนำเสนอผลิตภัณฑ์ดังกล่าวตนได้ดำเนินการก่อตั้งบริษัทใหม่ขึ้นมาในชื่อ ห้างหุ้นส่วนจำกัด เอ็นเฮอร์บานซ์

-ยับยั้งแบคทีเรียยาวนาน

ณัฐวี กล่าวต่อไปอีกว่า จุดเด่นของผลิตภัณฑ์ พี เฮิร์บ พลัส มาจากการที่มีส่วนผสมของสารสกัดสมุนไพรทั้ง 3 ชนิด ซึ่งจะมีฤทธิ์ในการช่วยยับยั้งแบคทีเรียได้อย่างยาวนานแม้ว่าแอลกอฮอล์จะระเหยไปเลย เนื่องจากสารสกัดจะยังคงอยู่ที่ผิว และกระบวนการการผลิตที่ทำให้ผิวของผู้ใช้งานมีความชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน และที่สำคัญคือการไม่มีกลิ่นแอลกอฮอล์

“สารสกัดสมุนไพรที่เลือกใช้เป็นองค์ประกอบในสูตรตำรับ ได้แก่ ทองพันชั่ง เปลือกผลมังคุด และพญายอ ซึ่งเป็นสารสกัดสมุนไพรไทยที่มีรายงานว่ามีฤทธิ์ต้านแบคทีเรีย รา และไวรัส นอกจากนี้ในสารสกัดยังมีสารกลุ่มกรดฟีนอลลิกในธรรมชาติหลายชนิดที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์ลดการอักเสบ ดังนั้นการเพิ่มสารสกัดสมุนไพรเหล่านี้ในสูตรตำรับโลชันแอลกอฮอล์ล้างมือจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อและถนอมผิว เพราะสารสกัดเหล่านี้จะยังคงอยู่ที่ผิวหลังจากที่แอลกอฮอล์ระเหยจากผิวไปแล้ว”

-เน้นจำหน่ายพื้นที่ภาคใต้ก่อน

สำหรับช่องทางการจำหน่ายนั้น ปัจจุบัน พี เฮิร์บ พลัส ได้ดำเนินการผลิตสเปรย์แอลกอฮอล์ผสมสารสกัดจากสมุนไพร กลิ่นมะนาว และลาเวนเดอร์จำหน่ายเรียบร้อยแล้ว บนช่องทางของร้านขายยาในมหาวิทยาลัยของจังหวัดนครศรีธรรมราช และสงขลา และจะขยายไปยังร้านขายยาทั่วภาคใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่ของ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ยังคงขาดแคลนผลิตภัณฑ์เพื่อป้องกันไวรัวโควิด-19 อยู่ นอกจากนี้ พี เฮิร์บ พลัส ยังทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อกระจายผลิตภัณฑ์ไปทั่วประเทศ

แอลกอฮอล์ล้างมือที่มีในท้องตลาด ณ ขณะนี้ มักอยู่ในรูปแบบของเจลแอลกอฮอล์ โดยผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมักจะต้องมีความเข้มข้นของเอทานอล (ethanol)ไม่น้อยกว่า 70% โดยปริมาตร จึงจะมีประสิทธิภาพครอบคลุมในการฆ่าเชื้อหลายชนิด มีรายงานการวิจัยพบว่าความเข้มข้นของเอทานอลเริ่มต้นในผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ล้างมือที่ 42.6% โดยน้ำหนักหรือประมาณ 54% โดยปริมาตรสามารถฆ่าเชื้อไวรัสโคโรนา ซารส์ (SARS coronavirus) และไวรัสโคโรนา เมอรส์ (MERS coronavirus) ได้ภายในเวลา 30 วินาที และผลิตภัณฑ์จะมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้นเมื่อมีการเติมกรดที่ปลอดภัยลงในผลิตภัณฑ์ (อ้างอิง: Journal of Hospital Infection (2018) 98, 331-338)

งานวิจัยสเปรย์แอลกอฮอล์สมุนไพร

อย่างไรก็ดี การใช้ผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ล้างมือที่มีความเข้มข้นสูง อาจทำให้เกิดการระคายเคืองผิวหนังหรือทำให้ผิวหนังแห้งแตกได้เมื่อใช้บ่อยหรือใช้ติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ดังนั้น พี เฮิร์บ พลัส จึงถูกพัฒนาขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ 3 ประการ คือ 1.เพิ่มประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ในการฆ่าเชื้อไวรัสจากสารสกัดสมุนไพรซึ่งมีฤทธิ์ต้านไวรัสและกรดฟีนอลลิกจากธรรมชาติ ,2.เพิ่มคุณสมบัติการการถนอมผิวจากสารต้านอนุมูลอิสระจากสารสกัดสมุนไพรและสารให้ความชุ่มชื้นกับผิว(moisturizer) ในสูตรตำรับ และ3.ลดการใช้สารก่อเจลคาร์โบพอล (carbopol) ที่กำลังขาดตลาดในปัจจุบันและลดการใช้ด่างในสูตรตำรับ 

“สเปรย์แอลกอฮอล์ผสมสารสกัดจากสมุนไพร พี เฮิร์บ พลัส มีองค์ประกอบหลักที่สำคัญคือ เอทานอล (72% โดยปริมาตร) สารสกัดสมุนไพร และกลีเซอริน (glycerin)”