วันนี้พี่ทุยไปเจอประสบการณ์เกี่ยวกับการติดเครดิตบูโรที่น่าประทับใจ เลยอยากหยิบขึ้นมาแชร์ให้เพื่อน ๆ ได้อ่าน อย่างเคสนี้ตั้งใจที่จะกู้เครดิตทางการเงินของตัวเองให้ฟื้นกลับมาดี หลังจาก ติดบูโร มานาน เพื่อสมัครบัตรเครดิตไว้ใช้ในยามจำเป็น จากที่ติดเครดิตบูโรถึง 14 บัญชี นานกว่า 10 ปี ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลยนะ Show
เจ้าของเคสนี้สมัยยังเป็นวัยรุ่น ได้เงินมาเยอะ ก็ใช้จ่ายเกินตัว พอมีช่วงหนึ่งชีวิตเกิดหักเหขึ้นมา ทำให้ไม่สามารถชำระค่าบัตรเครดิตได้ ทำให้ติดเครดิตบูโรไปทั้งหมด 14 บัญชี (โอ้โหพี่ทุยขอตีได้ไหม 14 บัญชีเนี่ย เรียกได้ว่าเยอะมาก) ตั้งแต่ประมาณปี 2550 จากนั้นความเครียดก็เข้ามาแบบเต็มรูปแบบไปเลย ทั้งบริษัทบัตรเครดิตเอย สำนักงานกฎหมายเอย รับโทรศัพท์กันสายไหม้ไปเลยวันวันหนึ่ง แต่รับโทรศัพท์นี่ไม่เท่าไหร่นะ แต่อายคนที่ทำงานนี่ละ (ตอนใช้ไม่ทันคิด) พอเจ้าของเคสเริ่มมีสติคิดได้ ตั้งตัวได้ ก็เริ่มทยอยปิด หาทางเจรจากับสำนักงานกฎหมายขอส่วนลด นู้นนี่นั่น เพื่อทำการค่อย ๆ ปิดบัญชีไปทีละบัญชี แต่ต้องขอจดหมายยืนยันการปิดบัญชีทุกครั้งนะ เพราะเคยมีบริษัทหนึ่งที่เคยลองขอส่วนลดปิดบัญชี และขอจดหมายปิดยอดไป แต่พอไปเช็คเครดิตบูโรดู อ้าว! ยอดไม่หายอย่างที่คิดไว้ ก็ต้องวิ่งไปทำเรื่องที่ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติเลย ยื่นเรื่องพร้อมเอกสารที่มีให้ดำเนินการแก้ไขให้ข้อมูลสมบูรณ์ที่สุด พี่ทุยขอเสริมว่า บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด คืออะไร ?บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด เป็นศูนย์กลางรวบรวมข้อมูลเครดิตของลูกค้าหรือผู้กู้ช่วยลด ความเสี่ยง เพิ่มประสิทธิภาพของการให้สินเชื่อ และป้องกันการเกิดปัญหาหนี้เสีย หรือ NPL2 ของสถาบัน การเงินต่าง ๆ เป็นการรักษาระบบเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งให้บริการข้อมูลแก่หน่วยงานภาครัฐ และสถาบันการเงิน เป็นบริษัทที่มีหน้าที่เก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลเครดิตที่ได้รับจากสถาบันการเงินที่เป็นสมาชิก เพื่อให้สถาบันการเงินสมาชิก ใช้เป็นข้อมูลในการวิเคราะห์สินเชื่อ หรือ ออกบัตรเครดิต โดยบันทึกข้อมูลเป็นรายเดือนทุกเดือน เหมือนกับการเก็บประวัติการเรียนที่มีอยู่ในสมุดพกของนักเรียนนั่นแหละ กลับมาต่อที่เจ้าของเคสนี้ เค้าก็ได้ทยอยปิดจนครบแต่ใช้เวลาเนิ่นนานมาก ประมาณ 3-4 ปี พอเริ่มจะกู้เครดิตกลับมา ก็หาความปวดหัวให้ตัวเองเพิ่มด้วยการ ออกมอเตอร์ไซค์ให้น้อง (อ้าวเฮ้ยไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หน่า) โอเคไม่เป็นไรต้องทนกันต่อไป เหลือยอดค้างชำระพร้อมดอกเบี้ยอีกประมาณ 2 หมื่นกว่าบาท จากนั้นสำนักงานกฎหมายแรกโทรมา ก็เจรจาขอแบ่งชำระและส่วนลด แต่พอเค้าไม่ให้ก็เลยบอกว่าคงไม่มีเงินจ่ายแน่เลย ให้มายึดรถละกัน ผ่านไปอีกสักพัก สำนักงานกฎหมายที่ 2-3 โทรมา ไม่ให้ช่องทางการปลดหนี้เช่นเคย ก็หมดหวังแล้วว่า ชาตินี้จะกู้เครดิตเงินคืนได้มั้ย พอสำนักงานกฎหมายที่ 4 โทรมาเจรจาเหมือนเดิม เขาอนุโลมให้ แต่ไม่ได้ส่วนลด ผ่อนจ่ายไปเดือนละ 1,500 บาท ประมาณ 2 ปี ก็เพิ่งจะจ่ายหมดไปเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2562 หลังจากชำระไปแล้ว ประมาณต้นเดือน ม.ค. 2563 ลองไปเช็คเครดิตบูโร ปรากฏว่า ยอดมันขึ้นว่าปิดว่าชำระครบตั้งแต่เดือน ม.ค. 2562 แล้ว แล้วที่จ่ายเกินไป ตั้งแต่เดือน ก.พ. – พ.ย. 2562 คืออะไร คิดซะว่าไม่รอบคอบเอง ไม่ยอมเช็คเอง ก็ได้แต่ช้ำในเบา ๆ (เรื่องเงินเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ควรเช็คกันอย่างรอบคอบน้า) ปิดฉากหนี้ ติดบูโร 14 บัญชี กว่า 10 ปีปี 2547 มหกรรมเปิดบัตรเครดิต …. ถึงเวลาที่คิดไว้เจ้าของเคสเลยตั้งใจลองสมัครบัตรเครดิตดูเพราะอยากเก็บไว้ใช้ยามจำเป็นจริง ๆ แบบไม่วู่วามเหมือนที่ผ่านมา อยากจะบอกธนาคารว่าเข็ดแล้ว จะวางแผนอย่างดีที่สุด ลองยื่นเอกสารดู 1. สมัครบัตรเครดิต KTC ไม่ผ่าน เจ้าของเคสบอกว่า นี่เป็นกระทู้แรกของเค้า เลยอยากแชร์ประสบการณ์ให้คนเป็นหนี้ ว่ามีหนี้ต้องจ่าย ติดเครดิตบูโรไม่ได้สนุกเลยนะ ควรวางแผนการเงินให้ดีแล้วใช้เงินอย่างรอบคอบด้วย ขอบคุณประสบการณ์การปลดหนี้บัตรเครดิตครั้งนี้ จาก สมาชิกหมายเลข 2006558 บนเว็บไซต์ Pantip.com ใครมีประสบการณ์การปลดหนี้ดีดีอยากจะแชร์ สามารถส่งเรื่องมาที่อีเมลล์ [email protected] ได้เลย อ่านเพิ่ม
รูปบน ของ desktop
การปรับโครงสร้างหนี้แต่ละแบบเหมาะกับสถานการณ์ทางการเงินที่แตกต่างกัน ถ้าอยากรู้ว่าเราเหมาะกับการปรับโครงสร้างหนี้แบบไหน ต้องถามตัวเองก่อนว่า...เรายังจ่ายหนี้ไหวแค่ไหนโดยมี 2 เรื่องที่ต้องคำนึงถึง คือ จำนวนเงินและระยะเวลา
หากคิดดูแล้วว่าเราจ่ายไม่ไหวตามที่สถาบันการเงินเสนอมา ควรขอให้สถาบันการเงินพิจารณาวิธีจ่ายคืนในแบบอื่น เช่น หากสถาบันการเงินให้จ่ายทั้งหมดครั้งเดียว (กรณี 3) แต่เราคิดแล้วว่าเราไม่น่าจะหาเงินก้อนมาจ่ายได้ในเวลาที่สถาบันการเงินแจ้งมา อาจขอจ่ายเป็นแบบเฉลี่ยผ่อนชำระตามงวดที่เหลือ (กรณี 2) แทน 2.3) ขยายเวลาชำระหนี้ เหมาะสำหรับคนที่รายรับลดลงในระยะยาว เช่น เปลี่ยนงานใหม่ที่รายรับน้อยกว่าเดิม ทำให้ไม่สามารถจ่ายหนี้ในจำนวนเท่าเดิมได้ "การขยายเวลาชำระหนี้" เป็นการเพิ่มระยะเวลาในการจ่ายหนี้ วิธีนี้จะทำให้เราเป็นหนี้นานขึ้น แต่จำนวนผ่อนต่อเดือนจะลดลง ซึ่งเราสามารถขอขยายเวลาชำระหนี้ได้เป็นปี เช่น บางรายขอเพิ่มได้ 5 ปี (ขึ้นอยู่กับยอดหนี้ ประเภทหนี้ รวมถึงฐานะการเงินของลูกหนี้) ข้อควรคิด การขยายเวลาชำระหนี้เป็นการขยายเวลายืมเงิน ยิ่งยืมเงินนาน เรายิ่งต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ดังนั้น หากไม่จำเป็นก็ไม่ควรขยายเวลานานเกินไป เพราะการผ่อนน้อย ๆ แต่ผ่อนนาน ๆ จะทำให้เราต้องจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้นหรือทำให้เราชะล่าใจเอาเงินไปซื้อในสิ่งที่ไม่จำเป็น ให้ขอขยายเท่าที่เราจ่ายไหวและใช้เวลาน้อยจะดีกว่า นอกจากนี้ สถาบันการเงินอาจต้องดูอายุของลูกหนี้เพื่อพิจารณาการขยายเวลาชำระหนี้ด้วย เพราะจะบอกถึงความสามารถในการจ่ายหนี้คืน เช่น ลูกหนี้ที่ใกล้เกษียณอาจขอขยายเวลาได้ไม่นานเท่าลูกหนี้ที่เพิ่งเริ่มทำงาน (มีความเสี่ยงที่ลูกหนี้จะไม่มีรายรับเพื่อจ่ายหนี้หลังเกษียณ)
เราจะเห็นได้ว่า การปรับโครงสร้างหนี้แต่ละแบบเหมาะกับสถานการณ์ทางการเงินที่แตกต่างกัน สิ่งสำคัญที่สุดในการปรับโครงสร้างหนี้ คือ เราต้องประเมินสถานการณ์ของเราก่อน เช่น รายได้ของเราลดลงมากน้อยแค่ไหนหรือเราขาดรายได้ และระยะเวลาที่รายได้ของเราลดลงหรือขาดรายได้จะนานแค่ไหน แล้วค่อยพิจารณาความคุ้มค่าของแต่ละทางเลือก บางทางเลือกอาจดูคุ้มค่า เช่น โดยรวม ๆ แล้วเราจะเสียดอกเบี้ยน้อยกว่า แต่ค่างวดในแต่ละเดือนอาจทำให้เราเหลือเงินไม่พอใช้จนต้องกู้เงินมาใช้จ่ายอีก พอเรารู้แล้วว่าแบบไหนที่เราจ่ายไหว
ให้รีบทำหนังสือขอปรับโครงสร้างหนี้เป็นลายลักษณ์อักษรไปถึงสถาบันการเงิน ไม่ควรรอจนอาการหนักหรือจ่ายไม่ไหว เพราะการค้างชำระจะทำให้ทางเลือกในการช่วยเหลือจากสถาบันการเงินน้อยลงไปอีก เมื่อทำหนังสือขอปรับโครงสร้างหนี้ส่งไปแล้ว สถาบันการเงินก็อาจพิจารณาตามแบบที่เราขอหรืออาจเสนอเงื่อนไขอื่นมาให้ หากเราจ่ายไม่ไหวตามเงื่อนไขของสถาบันการเงิน ให้เจรจากับสถาบันการเงินอีกครั้ง ไม่ควรลงนามในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ที่เราจ่ายไม่ไหว เพราะอาจต้องเจอปัญหาจ่ายหนี้ไม่ได้อีกและการปรับโครงสร้างหนี้อีกครั้งอาจทำได้ยากขึ้น ในกรณีที่เจรจากับสถาบันการเงินแล้วยังไม่ได้ข้อสรุปที่เราทำได้ สามารถติดต่อ "ทางด่วนแก้หนี้" ซึ่งเป็นช่องทางเสริมของธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีขึ้นสำหรับประชาชนในการแจ้งขอความช่วยเหลือในการผ่อนชำระหนี้ได้ที่ https://www.1213.or.th/App/DebtCase หรือขอคำแนะนำได้ที่โทร. 1213
ในวันทำการจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 – 16.30 น. หากการปรับโครงสร้างหนี้เป็นการเปลี่ยนเงื่อนไขการจ่ายหนี้เพื่อให้เราสามารถจ่ายหนี้ได้โดยไม่ผิดนัดชำระ การปรับโครงสร้างหนี้ที่เหมาะกับเราก็คือ เงื่อนไขการจ่ายหนี้ใหม่ที่ทำให้เราจ่ายหนี้ได้เต็มจำนวนและตรงเวลาตามที่ตกลงกันทุกงวดต่อจากนี้ไป พูดง่าย ๆ ก็คือ การปรับโครงสร้างหนี้แบบที่เราจ่ายไหวไปตลอดจนครบสัญญานั่นเอง หมายเหตุ:
การปรับโครงสร้างหนี้อาจส่งผลต่อการขอกู้ใหม่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ เพราะการปรับโครงสร้างหนี้สะท้อนถึงความสามารถในการชำระหนี้ที่น้อยลง ดังนั้น เมื่อปรับโครงสร้างหนี้แล้ว ควรชำระให้ได้ตามกำหนดเพื่อไม่ให้เกิดประวัติค้างชำระในข้อมูลเครดิตบูโรและเป็นการสร้างประวัติที่แสดงถึงวินัยทางการเงินที่ดีอีกด้วย |