ออมสินออกมาตรการปรับลดเงินงวด“ผ่อนบ้านดี..มีเฮ”แบ่งเบาภาระลูกหนี้ผ่อนดี ผ่อนต่ำล้านละ 5 พันบาท/เดือน นาน 1 ปี ลงทะเบียน ภายใน 30 กันยายน นี้ Show
วิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การชะลอตัวของเศรษฐกิจในปัจจุบัน ธนาคารออมสินในฐานะธนาคารเพื่อสังคม ตระหนักถึงความเดือดร้อนและความยากลำบากในการดำเนินชีวิตของลูกค้าและประชาชน เพื่อเป็นการบรรเทาภาระและเพิ่มสภาพคล่องค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน ธนาคารจึงได้ออกมาตรการปรับลดเงินงวด “ผ่อนบ้านดี มีเฮ” เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้สินเชื่อเคหะเดิมที่มีประวัติการผ่อนชำระหนี้ดี โดยการปรับลดเงินงวดต่อเดือนให้น้อยลงจากเดือนละ 6,000-7,000 บาท เหลือผ่อนชำระเพียงล้านละ 5,000 บาทต่อเดือน เป็นระยะเวลา 1 ปี หรือ 12 เดือน แก่ผู้กู้ที่ไม่มีหนี้ค้างชำระ ไม่เคยทำการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ และไม่อยู่ระหว่างเข้าร่วมมาตรการช่วยเหลืออื่นๆ ของธนาคาร หรือไม่เป็นผู้กู้สินเชื่อเคหะเพื่อซื้อที่ดินเพื่อเตรียมปลูกสร้างอาคาร โดยผู้กู้หลักที่มีคุณสมบัติดังกล่าวสามารถตรวจสอบสิทธิ์หรือลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการได้ที่เว็บไซต์ของธนาคารออมสิน www.gsb.or.th เมื่อได้รับสิทธิ์แล้ว ให้ติดต่อธนาคารออมสินสาขาเจ้าของบัญชีสินเชื่อเคหะ เพื่อจัดทำนิติกรรมสัญญาให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 30 กันยายน 2565 ซึ่งหลังจากครบกำหนดมาตรการปรับเงินงวดฯแล้ว ให้ชำระเงินงวดเดิมตามสัญญาเดิม ภายใต้หลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือประชาชนและไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมขอเข้าร่วมมาตรการอาจมีมิจฉาชีพแอบอ้างเชิญชวนให้ลงทะเบียนผ่านลิงค์หรือแอปพลิเคชั่นไลน์โปรดอย่าได้หลงเชื่อ หากมีข้อสงสัยขอให้สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ GSB Contact Center โทร.1115 และที่ GSB Society
การปรับโครงสร้างหนี้แต่ละแบบเหมาะกับสถานการณ์ทางการเงินที่แตกต่างกัน ถ้าอยากรู้ว่าเราเหมาะกับการปรับโครงสร้างหนี้แบบไหน ต้องถามตัวเองก่อนว่า...เรายังจ่ายหนี้ไหวแค่ไหนโดยมี 2 เรื่องที่ต้องคำนึงถึง คือ จำนวนเงินและระยะเวลา
หากคิดดูแล้วว่าเราจ่ายไม่ไหวตามที่สถาบันการเงินเสนอมา ควรขอให้สถาบันการเงินพิจารณาวิธีจ่ายคืนในแบบอื่น เช่น หากสถาบันการเงินให้จ่ายทั้งหมดครั้งเดียว (กรณี 3) แต่เราคิดแล้วว่าเราไม่น่าจะหาเงินก้อนมาจ่ายได้ในเวลาที่สถาบันการเงินแจ้งมา อาจขอจ่ายเป็นแบบเฉลี่ยผ่อนชำระตามงวดที่เหลือ (กรณี 2) แทน 2.3) ขยายเวลาชำระหนี้ เหมาะสำหรับคนที่รายรับลดลงในระยะยาว เช่น เปลี่ยนงานใหม่ที่รายรับน้อยกว่าเดิม ทำให้ไม่สามารถจ่ายหนี้ในจำนวนเท่าเดิมได้ "การขยายเวลาชำระหนี้" เป็นการเพิ่มระยะเวลาในการจ่ายหนี้ วิธีนี้จะทำให้เราเป็นหนี้นานขึ้น แต่จำนวนผ่อนต่อเดือนจะลดลง ซึ่งเราสามารถขอขยายเวลาชำระหนี้ได้เป็นปี เช่น บางรายขอเพิ่มได้ 5 ปี (ขึ้นอยู่กับยอดหนี้ ประเภทหนี้ รวมถึงฐานะการเงินของลูกหนี้) ข้อควรคิด การขยายเวลาชำระหนี้เป็นการขยายเวลายืมเงิน ยิ่งยืมเงินนาน เรายิ่งต้องจ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ดังนั้น หากไม่จำเป็นก็ไม่ควรขยายเวลานานเกินไป เพราะการผ่อนน้อย ๆ แต่ผ่อนนาน ๆ จะทำให้เราต้องจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้นหรือทำให้เราชะล่าใจเอาเงินไปซื้อในสิ่งที่ไม่จำเป็น ให้ขอขยายเท่าที่เราจ่ายไหวและใช้เวลาน้อยจะดีกว่า นอกจากนี้ สถาบันการเงินอาจต้องดูอายุของลูกหนี้เพื่อพิจารณาการขยายเวลาชำระหนี้ด้วย เพราะจะบอกถึงความสามารถในการจ่ายหนี้คืน เช่น ลูกหนี้ที่ใกล้เกษียณอาจขอขยายเวลาได้ไม่นานเท่าลูกหนี้ที่เพิ่งเริ่มทำงาน (มีความเสี่ยงที่ลูกหนี้จะไม่มีรายรับเพื่อจ่ายหนี้หลังเกษียณ)
เราจะเห็นได้ว่า การปรับโครงสร้างหนี้แต่ละแบบเหมาะกับสถานการณ์ทางการเงินที่แตกต่างกัน สิ่งสำคัญที่สุดในการปรับโครงสร้างหนี้ คือ เราต้องประเมินสถานการณ์ของเราก่อน เช่น รายได้ของเราลดลงมากน้อยแค่ไหนหรือเราขาดรายได้ และระยะเวลาที่รายได้ของเราลดลงหรือขาดรายได้จะนานแค่ไหน แล้วค่อยพิจารณาความคุ้มค่าของแต่ละทางเลือก บางทางเลือกอาจดูคุ้มค่า เช่น โดยรวม ๆ แล้วเราจะเสียดอกเบี้ยน้อยกว่า แต่ค่างวดในแต่ละเดือนอาจทำให้เราเหลือเงินไม่พอใช้จนต้องกู้เงินมาใช้จ่ายอีก พอเรารู้แล้วว่าแบบไหนที่เราจ่ายไหว
ให้รีบทำหนังสือขอปรับโครงสร้างหนี้เป็นลายลักษณ์อักษรไปถึงสถาบันการเงิน ไม่ควรรอจนอาการหนักหรือจ่ายไม่ไหว เพราะการค้างชำระจะทำให้ทางเลือกในการช่วยเหลือจากสถาบันการเงินน้อยลงไปอีก เมื่อทำหนังสือขอปรับโครงสร้างหนี้ส่งไปแล้ว สถาบันการเงินก็อาจพิจารณาตามแบบที่เราขอหรืออาจเสนอเงื่อนไขอื่นมาให้ หากเราจ่ายไม่ไหวตามเงื่อนไขของสถาบันการเงิน ให้เจรจากับสถาบันการเงินอีกครั้ง ไม่ควรลงนามในสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ที่เราจ่ายไม่ไหว เพราะอาจต้องเจอปัญหาจ่ายหนี้ไม่ได้อีกและการปรับโครงสร้างหนี้อีกครั้งอาจทำได้ยากขึ้น ในกรณีที่เจรจากับสถาบันการเงินแล้วยังไม่ได้ข้อสรุปที่เราทำได้ สามารถติดต่อ "ทางด่วนแก้หนี้" ซึ่งเป็นช่องทางเสริมของธนาคารแห่งประเทศไทยที่มีขึ้นสำหรับประชาชนในการแจ้งขอความช่วยเหลือในการผ่อนชำระหนี้ได้ที่ https://www.1213.or.th/App/DebtCase หรือขอคำแนะนำได้ที่โทร. 1213
ในวันทำการจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.30 – 16.30 น. หากการปรับโครงสร้างหนี้เป็นการเปลี่ยนเงื่อนไขการจ่ายหนี้เพื่อให้เราสามารถจ่ายหนี้ได้โดยไม่ผิดนัดชำระ การปรับโครงสร้างหนี้ที่เหมาะกับเราก็คือ เงื่อนไขการจ่ายหนี้ใหม่ที่ทำให้เราจ่ายหนี้ได้เต็มจำนวนและตรงเวลาตามที่ตกลงกันทุกงวดต่อจากนี้ไป พูดง่าย ๆ ก็คือ การปรับโครงสร้างหนี้แบบที่เราจ่ายไหวไปตลอดจนครบสัญญานั่นเอง หมายเหตุ:
การปรับโครงสร้างหนี้อาจส่งผลต่อการขอกู้ใหม่ระหว่างการปรับโครงสร้างหนี้ เพราะการปรับโครงสร้างหนี้สะท้อนถึงความสามารถในการชำระหนี้ที่น้อยลง ดังนั้น เมื่อปรับโครงสร้างหนี้แล้ว ควรชำระให้ได้ตามกำหนดเพื่อไม่ให้เกิดประวัติค้างชำระในข้อมูลเครดิตบูโรและเป็นการสร้างประวัติที่แสดงถึงวินัยทางการเงินที่ดีอีกด้วย |