จากบทความก่อนหน้าเราได้สรุปไปแล้วว่าต่างชาติที่เข้ามาทำงานที่ไทย จะต้องเสียภาษีอย่างไร (สามารถอ่านต่อได้ ที่นี่) ในวันนี้เราจะมาพูดถึงกรณีที่ชาวต่างชาติที่ที่ต้องการทำธุรกิจและถือหุ้นในประเทศไทย จะต้องทำอย่างไร และมีข้อกำหนดอะไรบ้าง วันนี้เรามีข้อมูลและข้อแนะนำให้กับผู้ศึกษาและชาวต่างชาติที่สนใจจะทำธุรกิจและจดทะเบียนบริษัทในประเทศไทย Show กรณีที่ 1 ชาวต่างชาติที่ต้องการเปิดบริษัทในประเทศไทยไทย อาจเป็นการเปิดคนเดียวหรือหลายคนรวมกัน จะสามารถถือหุ้นรวมกันได้ไม่เกิน 49 เปอร์เซ็นต์ของทุนจดทะเบียน โดยจะต้องมีบุคคลสัญชาติไทย 1 คนหรือหลายคนรวมกันถือหุ้นหรือเป็นหุ้นส่วนไม่ต่ำกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ ของทุนจดทะเบียนบริษัท การจดทะเบียนแบบนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นบริษัทสัญชาติไทย ซึ่งสามารถประกอบกิจการทางธุรกิจได้ทุกอย่างตามกฎหมายกำหนด กรณีที่ 2 การจดทะเบียนบริษัท สัญชาติอื่น ซึ่งมีชาวต่างชาติ ถือหุ้น 50-100% กรณีนี้จะต้องขอเป็นใบประกอบธุรกิจต่างด้าวแทน จึงจะสามารถดำเนินการทางธุรกิจในประเทศไทยต่อไปได้ โดยสามารถเรียกบริษัทที่ดำเนินการจดทะเบียนแบบนี้อีกอย่างได้ว่าเป็น บริษัทต่างด้าว โดยมีข้อจำกัดดังนี้
ถึงแม้ว่าชาวต่างชาติจะสามารถเปิดบริษัทที่ไทยได้ และสามารถถือหุ้นได้ 100 % แต่ก็ยังมีกิจการบางประเภทที่ทางรัฐบาลไทยได้จำกัด ไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติเป็นเจ้าของกิจการโดยเด็ดขาด ซึ่งประเภทธุรกิจที่ห้ามมีอยู่ 3 บัญชี ดังต่อไปนี้
ข้อควรรู้ : ชาวต่างชาติที่ต้องการมาเปิดบริษัทในประเทศไทยและถือหุ้นเกิน 50% ขึ้นไปนั้น ถ้าเป็นโรงงานผลิต ไม่ว่าจะผลิตเพื่อจำหน่ายภายในประเทศ หรือส่งออกต่างประเทศ ต่างชาติสามารถถือหุ้นในบริษัทได้ 100% แต่กำหนดทุนจดทะเบียนขั้นต่ำต้องไม่น้อยกว่า 2 ล้านบาท โดยในกรณีทุนจดทะเบียนเกิน 5 ล้านบาท เมื่อทราบประเภท รายละเอียด และข้อกำหนดแล้ว ต่อมาเราจะมาดูกันว่าการเปิดบริษัทต่างด้าวมีขั้นตอนอย่างไร บริษัทต่างด้าวมีขั้นตอนการดำเนินการจัดตั้งที่ยุ่งยาก ซับซ้อน และค่าธรรมเนียมสูงกว่าการจัดตั้งบริษัททั่วไป เราจึงได้สรุปขั้นตอนคร่าว ๆ ในการยื่นขอจดบริษัทต่างด้าว ดังนี้ค่ะ การขอประกอบธุรกิจ
กรณีไม่อนุญาตจะแจ้งผลให้ทราบภายใน 15 วัน โดยระบุเหตุผลที่ไม่อนุญาตและมีสิทธิยื่นอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีได้ภายใน 30 วัน ซึ่งสามารถทำเป็นหนังสือยื่นได้ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า การพิจารณาคำขออุทธรณ์ใช้เวลา 30 วัน โดยคำวินิจฉัยของรัฐมนตรีให้เป็นที่สุด ระยะเวลาดำเนินการรวมระยะเวลาทั้งสิ้นประมาณ 3-6 เดือน หรือมากกว่า ขึ้นอยู่กับความพร้อมของบริษัทและการลำดับคิวการพิจารณาเพื่ออนุมัติและออกใบอนุญาตของคณะกรรมการ จะเห็นได้ว่าจากข้อมูล ชาวต่างชาติที่ต้องการเข้ามาลงทุนเปิดกิจการในประเทศไทย สามารถเปิดได้โดยการร่วมลงทุนกับคนไทย ในสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 49 ซึ่งจะสามารถยื่นจดทะเบียนเป็นบริษัทสัญชาติไทยได้ตามกฎหมาย หากแต่ชาวต่างชาติที่ต้องการถือสัดส่วนกิจการในอัตราร้อยละ 50-100 ก็สามารถทำได้ เช่นกัน แต่จะต้องยื่นขอบริษัทต่างด้าว ซึ่งมีขั้นตอนที่ซับซ้อนและยุ่งยากและมีค่าธรรมเนียมที่สูงกว่า อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะยื่นขอเปิดกิจการในรูปแบบไหน ย่อมมีทั้งข้อดีและข้อเสียต่างกันไป จึงควรทำการศึกษาอย่างรอบคอบก่อนการตัดสิน หรือปรึกษา CHIC เพิ่มเติมได้ค่ะ ปัจจุบันเราให้บริการรับจดทะเบียนบริษัทต่างชาติจำนวนมาก เนื่องมีชาวต่างชาติสนใจมาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทยมากขึ้น ซึ่งการเพิ่มขึ้นดังกล่าว อาจมาจากปัจจัยที่ช่วยกระตุ้นในการลงทุนของชาว ต่างชาติประกอบด้วย นโยบายสำคัญของรัฐบาลในการส่งเสริม การลงทุน อาทิ นโยบาย Thailand 4.0 ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ด้วยนวัตกรรม แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้ระบบเศรษฐกิจมีความเข้มแข็ง และแข่งขันได้รวมถึงยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีในการสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศ โดยมีการลงทุนในบริการฐานความรู้ขั้นสูงใหม่ที่เอื้อต่อการขยายตัวของภาคการผลิตและบริการ และส่วนหนึ่งอาจมาจากปัจจัยที่นักลงทุนต่างชาติประสงค์จะเข้ามาประกอบธุรกิจบริการที่เกี่ยวเนื่องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะในเขตพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ ภาคตะวันออก (EEC) เป็นต้น ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้มีส่วนช่วยในการตัดสินใจของนักลงทุนที่จะเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยให้เพิ่มมากขึ้น ช่องทางที่ชาวต่างชาติสามารถยื่นขออนุญาตประกอบธุรกิจในไทย1. ยื่นขอ Foreign Business Licenses (FBL) คือ การขอใบอนุญาตประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติ ตามพระราชบัญญัติประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติ พุทธศักราช 2542 แบ่งประเภทธุรกิจออกเป็น 3 บัญชี มีดังนี้ บัญชี 1 ธุรกิจที่ไม่อนุญาตให้ต่างชาติประกอบกิจการ1. ธุรกิจหนังสือพิมพ์ สถานีวิทยุกระจายเสียง หรือสถานีวิทยุโทรทัศน์ บัญชี 2 ธุรกิจที่มีผลกระทบกับประเทศไทยคนต่างชาติที่ต้องการใช้บริการรับจดทะเบียนบริษัทต่างชาติตามบัญชีสอง ต้องได้รับอนุญาตจากคณะรัฐมนตรี โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะนำเสนอเพื่ออนุมัติ ใช้เวลาพิจารณาภายใน 60 วันนับตั้งแต่วันที่ยื่นเอกสาร และสามารถขยายระยะเวลาพิจารณาออกไปอีกตามความจำเป็น แต่ไม่เกิน 60 วัน 1. ผลิต จัดจำหน่าย และซ่อมบำรุง อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน ส่วนประกอบของอาวุธปืน ส่วนประกอบอุปกรณ์สงคราม วัตถุที่ทำระเบิด อาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ และเรือ อากาศยาน หรือยานพาหนะทางทหารทุกประเภท บัญชี 3 ธุรกิจที่คนไทยไม่พร้อมที่จะแข่งขันกับชาวต่างชาติชาวต่างชาติที่จะประกอบธุรกิจตามบัญชี 3 จะต้องได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) ซึ่งใช้เวลาในการพิจารณาภายในกำหนด 60 วันนับแต่วันที่ยื่นเอกสารขออนุญาตประกอบธุรกิจ และอธิบดีจะออกใบอนุญาตภายใน 15 วันนับแต่วันที่อนุญาตชาวต่างชาติมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งไม่อนุญาตให้ประกอบธุรกิจบัญชี 3 ต่อรัฐมนตรีได้ภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง และรัฐมนตรีจะวินิจฉัยเสร็จภายใน 30 วันนับแต่วันที่ยื่นอุทธรณ์ 1. ทำธรุกิจสีข้าว และผลิตแป้งจากข้าว และพืชไร่ จากที่กล่าวมาการรับจดทะเบียนบริษัทต่างชาติ (บริษัทที่มีผู้ถือหุ้นเป็นชาวต่างชาติเกิน 49% ขึ้นไป) จะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนกว่าการจดทะเบียนบริษัทที่คนต่างชาติถือหุ้นไม่เกิน 49% ซึ่งต้องมีการยื่นขออนุญาตกับหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง โดยขั้นตอนดังกล่าวต้องอาศัยผู้มีประสบการณ์และ ความชำนาญในการดำเนินการ ติดต่อรับคำปรึกษาหากท่านต้องการจดทะเบียนบริษัทที่มีผู้ถือหุ้นเป็นชาวต่างชาติเกิน 49% ***แต่ละประเภทธุรกิจที่ต้องการใช้บริการรับจดทะเบียนบริษัทต่างชาติกับเรา ทางกรีนโปร เคเอสพีจะคิดราคาค่าจดทะเบียนที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความยากง่าย สามารถสอบถามราคาค่าบริการรับจดทะเบียนบริษัทต่างชาติ ได้ที่เบอร์ 02 210 0281 หรือ 094 864 9799 |