เมื่อพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดลพบุรี หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่ใคร ๆ ต้องนึกถึงก็คือเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ที่ตั้งอยู่ในอำเภอพัฒนานิคม ซึ่งหลายคนน่าจะเคยไปเที่ยวตั้งแต่ยังเป็นเด็ก แต่เพื่อน ๆ รู้ไหมว่าใกล้กับเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกหลายแห่ง วันนี้แอดจะพาไปดูว่า ใน 1 วัน เราจะไปเที่ยวที่ไหนกันได้บ้าง Show แม้ว่าหลายคนอาจจะต้องชะลอการเดินทางท่องเที่ยวไว้ก่อน เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 แต่เพื่อน ๆ สามารถเก็บข้อมูลเส้นทางนี้ไว้ แล้วค่อยไปเที่ยวทีหลังได้ค่ะ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาขับรถประมาณ 2-3 ชั่วโมง สามารถท่องเที่ยวแบบไปเช้า-เย็นกลับได้สบาย ๆ ทริปนี้แอดแนะนำให้ขับรถไปเที่ยว เพราะสถานที่ท่องเที่ยวบางแห่งไม่มีรถโดยสารหรือรถประจำทางเข้าถึงค่ะ
ไร่ทรัพย์ประยูร เป็นสวนเฟิร์นขนาด 4 ไร่ ที่เกิดจากความชื่นชอบเฟิร์นของคุณโย เจ้าของร้าน จึงค่อย ๆ ศึกษา จนเกิดเป็นธุรกิจจำหน่ายเฟิร์นทั้งในและต่างประเทศ ที่นี่มีเฟิร์นหลายขนาดให้ชม รวมทั้งยังมีต้นไม้ที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเคราฤาษีขนาดใหญ่ สับปะรดอากาศ และกระบองเพชร ในช่วงประมาณเดือนตุลาคม – พฤศจิกายน จะมีทุ่งดอกคอสมอสและดอกทานตะวันบานสะพรั่งสวยงาม มีฉากหลังเป็นทางรถไฟ ถ้าโชคดีอาจได้เห็นรถไฟวิ่งผ่านด้วย ใครเป็นสายถ่ายรูปต้องไม่พลาดค่ะ ถึงตอนนี้ไร่ทรัพย์ประยูรจะยังไม่เปิดให้บริการเต็มรูปแบบ เนื่องจากกำลังปรับปรุงส่วนของร้านอาหารและคาเฟ่อยู่ ซึ่งคาดว่าจะเปิดภายในเดือนธันวาคมนี้ แต่เพื่อน ๆ ยังสามารถไปซื้อต้นไม้และชมทุ่งดอกคอสมอสได้ค่ะ นอกจากนี้ ภายในสวนมีฟาร์มสัตว์ขนาดเล็ก เช่น หมู กระต่าย นกแก้ว และปลาคาร์ฟด้วยนะ น่ารักสุด ๆ
บ้านกล้วย & ไข่ คาเฟ่ ก่อนจะไปเที่ยวกันต่อ เราแวะหาของอร่อยกินที่ ร้านบ้านกล้วย & ไข่กัน คาเฟ่นี้มีรูปปั้นผลไม้หลากชนิดอยู่หน้าร้านเป็นจุดสังเกต เรียกว่า ไม่ต้องกลัวหาร้านไม่เจอเลยล่ะ ร้านกาแฟตกแต่งแบบเรียบง่าย มีทั้งอาหารไทย อาหารฝรั่ง และเครื่องดื่มให้บริการ นอกจากนี้ ยังมีผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรและผักปลอดสารพิษที่ทางร้านปลูกเองวางจำหน่ายอีกด้วย เมื่อเดินไปหลังร้าน จะพบกับบ่อปลาขนาดใหญ่ มีสวนร่มรื่น เหมาะกับการนั่งพักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้ยังมีสวนผัก และสวนผลไม้นานาชนิด เช่น สวนกล้วย ลำไย และมะม่วง ที่เพื่อน ๆ สามารถไปเดินชมได้
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เขื่อนป่าสักฯ เป็นเขื่อนดินที่สร้างขึ้นเพื่อป้องกันอุทกภัย และกักเก็บน้ำจากแม่น้ำป่าสัก เอาไว้ให้ประชาชนใช้ในการอุปโภค บริโภค และทำการเกษตร กิจกรรมที่น่าสนใจภายในเขื่อน นั่งรถรางชมทัศนียภาพรอบเขื่อน ใช้เวลาไป-กลับรอบละประมาณ 40 นาที ระหว่างทางจะมีมัคคุเทศก์น้อยคอยบรรยายประวัติความเป็นมา และเกร็ดความรู้เกี่ยวกับเขื่อน รถรางจะวิ่งไปตามสันเขื่อน และสิ้นสุดที่องค์พระพุทธรัตนมณีมหาบพิตรชลสิทธิ์มงคลชัย หรือหลวงปู่ใหญ่ป่าสัก ซึ่งเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่บริเวณท้ายสันเขื่อน พระพุทธรูปองค์นี้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2554 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา นอกจากนี้ ยังมีหอคอยเฉลิมพระเกียรติ ที่สามารถขึ้นไปชมวิวด้านบนได้ และมีพิพิธภัณฑ์ลุ่มแม่น้ำป่าสักที่จัดแสดงความรู้ด้านธรรมชาติและวัฒนธรรมในพื้นที่กักเก็บน้ำเขื่อนป่าสักฯ อีกหนึ่งกิจกรรมที่เป็นที่นิยมคือ การนั่ง “รถไฟลอยน้้ำ” ชมวิวเขื่อนป่าสักฯ ซึ่งขบวนรถไฟลอยน้ำนี้ เป็นขบวนรถไฟนำเที่ยวเส้นทาง กรุงเทพฯ – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ซึ่งมีช่วงที่รถไฟวิ่งข้ามเขื่อน และจะจอดแวะให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปและชมวิวกลางเขื่อน ขบวนรถไฟนำเที่ยว กรุงเทพฯ – เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปกติจะให้บริการในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เดือนมกราคมของทุกปี สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การรถไฟแห่งประเทศไทย โทร. 1690 หรือ https://www.facebook.com/pr.railway
ถ้ายังไม่สามารถมูฟออนจากการชมวิวสวย ๆ ของเขื่อนป่าสักฯ ได้ บริเวณท้ายเขื่อนมีจุดชมวิวที่น่าไปนั่งชิลล์ นั่นคือ ทะเลน้ำจืดมะนาวหวานและหน่วยพิทักษ์ป่าท่าฤทธิ์ ทะเลน้ำจืดมะนาวหวานและหน่วยพิทักษ์ป่าท่าฤทธิ์ เป็นทุ่งหญ้าโล่งกว้างริมเขื่อนป่าสักฯ จะปรากฎขึ้นประมาณ เดือนมีนาคม-เดือนกันยายน ซึ่งเป็นช่วงที่น้ำในเขื่อนลดระดับลง นักท่องเที่ยวนิยมมานั่งปิกนิคหรือตั้งแคมป์ตอนแดดร่มลมตก และถ้าไปตอนเย็นจะได้เห็นบรรยากาศพระอาทิตย์ตก ซึ่งเป็นภาพที่สวยงามมาก ๆ เลยล่ะ ทะเลน้ำจืดมะนาวหวาน หน่วยพิทักษ์ป่าท่าฤทธิ์ น้ำตกวังก้านเหลือง ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของสวนรุกขชาติวังก้านเหลือง เป็นน้ำตกที่มีจุดกำเนิดที่แปลกและไม่ค่อยได้พบเห็นกันบ่อยในบ้านเรา โดยน้ำตกวังก้านเหลืองเกิดจากแหล่งน้ำผุดจำนวนหลายจุด ที่ผุดขึ้นมาจากลำห้วยมะกอก น้ำผุดในหลาย ๆ จุดนี้ไหลลงมารวมกันบริเวณสันหินปูน ทำให้เกิดเป็นน้ำตกกว้างประมาณ 20 เมตร ไหลลดหลั่นกันไปเป็นชั้น ๆ และด้วยจุดกำเนิดจากแหล่งน้ำผุดทางธรรมชาตินี้ ทำให้น้ำตกวังก้านเหลืองมีน้ำให้เล่นตลอดทั้งปี นอกจากนี้ ในบริเวณสวนรุกขชาติวังก้านเหลืองยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ มีพื้นที่สำหรับนั่งปิกนิก พื้นที่สำหรับกางเต็นท์ รวมทั้งมีร้านค้า และร้านอาหารให้บริการ ถือเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการมาพักผ่อนหย่อนใจกับครอบครัวและเพื่อนฝูงมากค่ะ
จุดชมวิวเขาพระยาเดินธง เป็นที่ตั้งของสำนักสงฆ์ซึ่งอยู่ในความดูแลของวัดหนองนา และเป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นวิวของเขื่อนป่าสักได้อย่างสวยงาม ที่นี่สามารถมาเที่ยวได้ทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็น ถ้ามาตอนเช้าจะได้เห็นวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอก ถ้ามาตอนเย็นจะได้เห็นแสงแดดยามเย็นและท้องฟ้าที่กลายเป็นสีชมพูระเรื่อ ขอบคุณรูปภาพจาก ททท.ลพบุรี เราสามารถขับรถตรงไปยังจุดชมวิวได้เลย เส้นทางเป็นถนนลาดยาง บางจุดเป็นถนนคอนกรีต ขับได้สะดวก ไปจอดใกล้ ๆ จุดชมวิวได้เลย ไม่ต้องเดินให้เหนื่อย เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ล่าสุด เปิดไหมเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 06.00 – 18.00 / รถรางเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น.
เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ไปช่วงไหนดีจากโคกสลุงไปต่อยัง ทะเลน้ำจืดมะนาวหวาน สถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ริมเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตั้งอยู่ในอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ในช่วงเดือนมีค – กย ซึ่งเป็นช่วงที่นำ้ในเขื่อนลดระดับ สามารถมองเห็นผืนหญ้าสีเขียวเป็นลานกว้าง กลายเป็นทัศนียภาพที่สวยงาม มองแล้วสบายตา แถมพื้นที่ค่อนข้างโล่งกว้างสูดอากาศได้แบบเต็มปอด ...
รถไฟเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ออกกี่โมงขบวนรถไฟออกจาก สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 06.00 น. จากนั้นหยุดรับ-ส่ง ผู้โดยสารตามสถานีต่างๆ คือ สถานีสามเสน ชุมทางบางซื่อ บางเขน หลักสี่ ดอนเมือง รังสิต อยุธยา สระบุรี ชุมทางแก่งคอย ถึง จุดชมวิว รถไฟลอยน้ำ กลางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ขบวนรถจะหยุดกลางสันเขื่อนมีเวลาให้นักท่องเที่ยวได้ชื่นชม ดื่มด่ำกับความงดงาม 20 นาที
รถไฟเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์นั่งฝั่งไหนดี4. เลือกนั่งฝั่งไหนวิวดี
ทิศทางที่วิวสวยและดีงามตอนมองจากหน้าต่างรถไฟลอยน้ำ เขื่อนป่าสักฯ ปี 2564 ให้เลือกด้านขวาเมื่อเราหันหน้าไปทางหัวขบวนรถไฟขาไป แต่จะโดนแดดทั้งขาไปและขากลับ งบเยอะหน่อยเลือกรถแอร์จ้า จะมีม่านบังแดดให้ด้วย
|