รัช ศก เฉิ ง ฮว่าปีที่สิบสี่ นิยาย Pantip

เป็นอีกหนึ่งซีรีส์แนวมิตรภาพลูกผู้ชายสร้างจากนิยายวายจีน  ที่ได้รับกระแสการตอบรับอย่างล้นหลามสำหรับเรื่อง ‘The Sleuth of Ming Dynasty’ ชื่อไทย “รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่” เรื่องราวอ้างอิงจากประวัติศาสตร์ย้อนไปในปีที่ 14 แห่งราชวงศ์หมิง นำแสดงโดย “ดาร์เรน เฉิน” หนุ่มหล่อ หน้าใส ที่มีรอยยิ้มละลายใจสาว รับบท “ถังฟั่น” มาคู่กับ “ฟู่เมิงป๋อ” รับบท “สุยโจว” และ “วังกงกง” หรือ “วังจื๋อ” รับบทโดย “หลิวเหยาหย่วน” ซึ่งแต่ละคนก็มีผลงานให้ได้ชมมาแล้วหลายเรื่อง   นอกจากด้านการแสดงที่เป็นเลิศนักแสดงยังงานดีสุดๆ เห็นแค่นี้ก็ชวนจิ้นกันแล้วใช่ไหมล่ะ

การันตีการสร้างจากนักแสดงบู๊ชื่อดังอย่าง ‘เฉินหลง’ ผู้เคยฝากทั้งผลงานเบื้องหน้าและเบื้องหลังในวงการบันเทิงให้ผู้คนชมมาแล้วทั่วโลกมาเป็นผู้อำนวยการสร้าง รับรองได้ว่าคิวบู๊ที่จะได้รับชมในเรื่องคุณภาพคัพแน่นแน่นอน

เนื้อเรื่องจะเป็นแนวสืบสวนสอบสวนอิงประวัติศาสตร์ในสมัยราชวงศ์หมิง ในช่วงระหว่างปีที่สิบสี่ของรัชศกเฉิงฮว่า ดำเนินเรื่องโดย ‘ถังฟั่น’ ผู้พิพากษาแห่งศาลซุ่นเทียน และ ‘สุยโจว’ องครักษ์เสื้อแพร ที่ภายหลังกลายมาเป็นคู่หูของถั่งฟั่นที่ร่วมกันไขคดีต่างๆ  ระหว่างคนทั้งสอง กลายเป็นความสัมพันธ์แบบเติมเต็มซึ่งกันและกัน ในด้านการทำงานและนิสัย ต่างมีจุดเด่นและจุดด้อยอย่างชัดเจน ความแตกต่างนี้ ทำให้พวกเขาเติมเต็มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

และอีกหนึ่งตัวละครอันเป็นสีสันของเรื่องที่ไม่กล่าวถึงไม่ได้เลยก็คือ วั่งกงกง หรือ วั่งจื่อ ขันทีผู้เรืองอำนาจมีความโหดเหี้ยมคนหนึ่งแห่งราชสำนัก และเป็นบุคคลสำคัญของเรื่องที่ชักนำถังฟั่นให้เข้าไปสู่วังวนแห่งเกมการเมืองและคดีปริศนาที่ยากจะไขได้ 

กลวิธีการเล่าเรื่องมีเอกลักษณ์ ซีรีส์นำเสนอฉากในการดำเนินเรื่องได้น่าติดตาม มีการลดทอนภาพที่หรูหราและสีสันฉูดฉาดที่มักเห็นตามซีรีส์ของจีนเรื่องอื่น ๆ โทนสีของเรื่องจึงค่อนข้างมืดครึ้ม เข้ากับลักษณะการเล่าเรื่องที่ต้องโยงไปหาสิ่งลึกลับ และปริศนามากมาย 

ด้านความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครหลักทั้งสองค่อยๆ พัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไป มีความละมุนอยู่ในคำพูดและการกระทำ  การดูเรื่องนี้จำเป็นต้องตั้งใจดูเพราะนอกจากตัวละครหลักหลายตัวแล้ว บางตัวละครที่อยู่ในช่วงแรกๆ อาจมีผลกับช่วงหลัง หรือบางตัวละครก็ค่อยๆ มีบทบาทมากขึ้น 

นอกจากความเป็นซีรีย์แอคชั่นสืบสวนแล้ว ยังมีการหักเหลี่ยมคมทางการเมือง ทั้งยังสอดแทรกเกี่ยวกับวัฒนธรรมต่างๆ ไว้ด้วย จากคดีเล็กน้อยสู่เรื่องราวเหตุการณ์ที่ยากยิ่งต่อการสืบสวนและการตัดสินใจ เพราะเบื้องลึกเบื้องหลังของคดีต่างยึดโยงกับกลุ่มคนอันตราย ที่เกี่ยวข้องกับขั้วอำนาจสำคัญ ทำให้เราได้ลุ้นไปกับตัวละครว่าจะมีวิธีรับมือและแก้ไขกับสถานการณ์ที่ยากยิ่งได้อย่างไร

ภาพรวมถือว่าทำได้ดีมาก ภาพฉากสวยงาม คิวบู๊ยอดเยี่ยมมีความสมจริง ถ่ายทอดฉากต่อสู้ด้วยลักษณะท่าทางในแบบของผู้ที่ฝึกฝนมาจนเป็นกระบวนท่า การแคสติ้งนักแสดงถือว่าเหมาะสมตรงคาร์แรคเตอร์ตัวละครเหมือนในนิยายทุกประการ ทำให้อินไปกับเรื่องราวได้ไม่ต่างจากนิยาย แม้ทางซีรีส์จะดัดแปลงเยอะไปหน่อยแต่ก็คงความฟินให้ได้เสพกันอยู่บ้าง

ในช่วงที่ต้องอยู่บ้านเพื่อสังคมกันไปพักใหญ่นี้ ใครที่กำลังมองหาซีรีส์ไว้ดูคลายเหงา รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่อยากให้ลองเปิดใจดูกัน ใครอยากติดตามเรื่องราวของถังฟั่นและคู่หูอย่างสุยโจวว่าจะจับมือฟันฝ่าเรื่องราวต่าง ๆ ไปได้อย่างไรไปรับชมได้ทาง iQiyi มีทั้งหมด 48 ตอนจบ หนึ่งตอนความยาวประมาณ 50 นาที

รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ (7+1 เล่มจบ) เมิ่งซีสือ เขียน อัญชลี เตยะธิติกุล แปลเล่ม 1 ถึง 3 เซียงเซียง แปลเล่ม 4...

มาตามสัญญาแล้วค่ะทุกคน ที่เคยบอกว่าจะทำสรุปเรื่องทั้งหมดคร่าวๆสำหรับคนที่ไม่ต้องการหรือหลีกเลี่ยงการสปอยให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เราก็จะพยายามเลี่ยงไม่ให้สปอยมากที่สุดเท่าที่ทำได้ ถ้าใครอยากอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถคลิ๊กได้ที่ชื่อเล่มเลยนะคะ เราลิงค์ไว้ให้แล้ว เข้าเรื่องเลยดีกว่าค่ะ 

รัชศกเฉิงฮว่าปีที่สิบสี่ เป็นนิยายแนวสืบสวนสอบสวนที่มีธีมเป็นจีนโบราณ เล่าเรื่องของถังฟั่น ผู้พิพากษาเล็กๆ ค่อยๆไต่เต้าด้วยความสามารถของตน จนกลายเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่งในราชสำนัก โดยมีเพื่อนรู้ใจอย่าง สุยโจว นายกององค์รักษ์เสื้อแพร และ วังจื๋อ คนที่ไม่สามารถเรียกได้อย่างเต็มปากว่าเป็นเพื่อน คอยใช้ความสนับสนุนช่วยเหลือเขาอยู่บ้าง

เดิมทีเรื่องนี้มี 5 เล่มค่ะ ในส่วนของแปลไทยได้มีการแบ่งออกมาอีก 2 เล่ม กลายเป็น 7 เล่ม ซึ่งปกอีกสองเล่มที่เหลือใช้นักวาดคนเดิมค่ะ

เล่มหนึ่ง : จะพูดถึงความสัมพันธ์ของคนในเรื่องก่อนค่ะว่าใครเป็นอะไรกับใคร ดำรงตำแหน่งอะไรบ้าง เล่มนี้มีคดี 3 คดีค่ะ ทั้งสามคดีล้วนแต่เป็นคดีการตายทั้งสิ้น เพราะคดีแรกที่ค่อนข้างซับซ้อนนิดๆทำให้ถังฟั่นได้พบกับสุยโจวที่เป็นนายกอง ทั้งสองจึงได้คบหาเป็นเพื่อนกัน เล่นนี้พี่สุยยังไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไหร่ค่ะ มาแป๊ปๆก็หายไป โผล่มาอีกทีก็ท้ายเล่ม

เล่มสอง : เล่มนี้มีคดี 2 คดีค่ะ คดีแรกเป็นคดีที่ดำเนินต่อมาจากเล่ม 1 ส่วนคดีที่สองเป็นคดีค่อนข้างใหญ่เนื่องจากเกิดขึ้นในวันเทศกาล เล่มนี้ถังฟั่นได้พบกับวังจื๋อ คนที่ต้องคอยต่อปากต่อคำกันอยู่เรื่อย ความสัมพันธ์ของถังฟั่นและสุยโจวก็แนบชิดกันมากขึ้นจนสนิทกัน

เล่มสาม : มีแค่คดีเดียวเท่านั้นค่ะ แต่เล่มนี้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่าง ต้องเข้าไปพบเจอกับความยุ่งยาก ถ้าพูดถึงความสัมพันธ์ของถังฟั่นกับสุยโจว พูดได้เลยว่าเริ่มมีสายใยบางอย่างก่อตัวขึ้นแล้วค่ะ สุยโจวเหมือนจะเริ่มรู้ตัว แต่ถังฟั่นดูเหมือนจะยังไม่รู้ตัวสักเท่าไหร่

เล่มสี่ : เล่มนี้มีคดี 2 คดีค่ะ จะเรียกสองคดีก็ไม่เต็มปากมากนักเพราะทั้งสองเป็นสับเซ็ตของคดีที่เกิดขึ้นในตระกูลขุนนางสกุลหนึ่ง ถังฟั่นมีโอกาสได้ไปเยี่ยมเยียนพี่สาวทำให้ต้องห่างกับสุยโจว แต่ก็ห่างกันได้ไม่นานหรอกค่ะ พี่สุยก็รีบตามมาหาถึงที่เลยทีเดียว ตัวติดกันอย่างกับคู่แต่งานใหม่ เล่มนี้เกิดอะไรขึ้นหลายๆอย่างเลยค่ะ บางอย่างก็ทำให้เราสะเทือนใจไม่น้อย

เล่มห้า : จะว่ายังไงดี เล่มนี้มี 1 คดีกับอีก 1 เหตุการณ์ใหญ่ๆค่ะ เล่มห้านี้เป็นเล่มที่ค่อนข้างวุ่นวายเลยทีเดียวค่ะ คนที่อยู่เบื้องหลังเหมือนจะเป็นตัวใหญ่ เหตุการณ์พลิกไปพลิกมา คนนี้หักหลังคนนั้น คนนั้นก็หักหลังคนนู้นน วุ่นวายมากๆ ชะตาชีวิตถังฟั่นนี่น่าสงสาร เดี๋ยวขึ้น เดี๋ยวลง ความสัมพันธ์ของสุยโจวกับถังฟั่นก็คืบหน้าพอสมควรเลยค่ะ มีฉากให้ฟินอยู่ไม่น้อย

เล่มหก : เล่มนี้มีคดี 2 คดีค่ะ เล่มนี้สำหรับเรา เราว่าเป็นเล่มที่สนุกและน่าตื่นตาตื่นใจอยู่พอสมควร คดีที่ถังฟั่นสืบในเล่มนี้เป็นคดีที่ค่อนข้างใหญ่ และเกี่ยวพันกับคนหลายคนมากๆ ทั้งลึกลับซับซ้อน เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในเล่มนี้ ซึ่งจะส่งผลต่ออนาคตของถังฟั่นมากๆ

เล่มเจ็ด : เล่มนี้ไม่มีอะไรมากค่ะ ส่วนใหญ่ก็อยู่ในวังหลวง เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในวังหลวง ความวุ่นวายต่างๆที่สะสมมาค่อยๆคลี่คลายไปทีละนิด ครึ่งเล่มแรกเป็นเนื้อเรื่องหลัก ส่วนครึ่งเล่มหลังเป็นตอนพิเศษ

เราชอบมากค่ะ เรื่องนี้ค่อนข้างถูกจริตกับเรามาก ถึงแม้ว่าบางคดีจะยืดเยื้อเกินความจำเป็นก็ตาม ฉากต่อสู้ยังไม่ค่อยเห็นภาพมากเท่าไหร่ พูดถึงความเปลี่ยนแปลงของตัวละคร ที่เห็นได้มากสุดคือ วังจื๋อ ค่ะ วังจื๋อเปลี่ยนไปมากถ้าเทียบจากตอนแรกๆ รอบคอบมากขึ้น สุขุมมากขึ้น 

ในด้านความสัมพันธ์ของพระเอกนายเอกเป็นอะไรที่เรารู้สึกว่า มันอบอุ่นมากๆ ความสัมพันธ์เกิดขึ้นจากการเป็นเพื่อน ค่อยๆพัฒนาการเป็นคนรัก ความจริงแล้วสองคนนี้ผ่านอะไรด้วยกันมามากมายค่ะ ร่วมเป็นร่วมตายกันไม่น้อย เหมือนเป็นคู่ชีวิตกันซะมากกว่า 

ความสัมพันธ์ของทั้งสองคน แม้จะไม่ได้แสดงออกมามากแต่มันทำให้เรารับรู้นะคะว่า ทั้งสองคนนี้รักและผูกพันธ์กันมากจริงๆ สุยโจวแม้จะไม่ได้พูดว่ารัก แต่ทุกการกระทำของเขาบ่งบอกว่าถังฟั่นนั้นสำคัญต่อตัวเองขนาดไหน ถังฝั่นแม้จะชอบตีมึนไปบ้าง แต่ก็ไม่เคยผลักไสสุยโจวเลย ซ้ำยังคอยอยู่กับ

สุยโจว คอยเป็นที่ปรึกษาต่างๆนา บ้านของสุยโจวคือถังฟั่น บ้านของถังฟั่นก็คือสุยโจวค่ะ 

เราว่าเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทุกคนควรอ่านค่ะ ยิ่งใครที่ชอบนิยายสืบสวนสอบสวนและนิยายจีนโบราณด้วยแล้วยิ่งพลาดไม่ได้ แม้ว่าในส่วนของราชสำนักอาจจะยังไม่เข้มข้นมากนัก แต่ในส่วนของการสืบคดีนับว่าค่อนข้างดีเลยทีเดียวค่ะ บางคดีก็ลุ้นมากๆ ตื่นเต้นสุดๆ