โปรแกรมหรือเครื่องมือที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมภาษาไพทอน ได้แก่ บอกมา 3 โปรแกรม

Python (ไพทอน) เป็นภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ระดับสูง โดยถูกออกแบบมาให้เป็นภาษาสคริปต์ที่อ่านง่าย ไม่เหมือนภาษาพูดของมนุษย์ มีการตัดความซับซ้อนของโครงสร้างและไวยากรณ์ของภาษาออกไป เพื่อเอาไว้แปลงเป็นชุดคำสั่ง สั่งการใช้งานต่ออุปกรณ์เทคโนโลยีหลาย ๆ อย่าง ซึ่งการสั่งงานด้วยภาษา Python เรามักจะเขียนให้มีการทำงานแบบ Interpreter คือเป็นการแปลชุดคำสั่งทีละบรรทัด เพื่อป้อนเข้าสู่หน่วยประมวลผลให้คอมพิวเตอร์ทำงานตามที่เราต้องการ

นอกจากนี้ภาษาโปรแกรม Python ยังสามารถเขียนโปรแกรมได้หลากหลายมาก โดยไม่ได้จำกัดอยู่ที่งานเฉพาะทางใดทางหนึ่ง (General-purpose language) จึงทำให้มีการนำไปใช้กันแพร่หลายในหลายองค์กรใหญ่ระดับโลก เช่น Google, YouTube, Instagram, Dropbox และ NASA เป็นต้น 

ประวัติของภาษาโปรแกรม Python

สำหรับประวัติของภาษาโปรแกรม Python ได้เริ่มต้นขึ้นในเดือนธันวาคมปี 1989 โดยนาย Guido van Rossum โปรแกรมเมอร์ชาวดัตช์ ในตอนนั้นทำงานอยู่ที่สถาบันวิจัยแห่งชาติ Centrum Wiskunde & Informatica (CWI) ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยทางด้านคณิตศาสตร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์ในเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในเวลานั้น Guido ต้องพัฒนาโปรแกรมสำหรับผู้ดูแลระบบ เพื่อใช้ในโครงการ Amoeba ซึ่งเป็นโครงการเกี่ยวกับระบบปฏิบัติการแบบกระจาย (Distributed operating system) อย่างไรก็ตามเขารู้สึกว่าภาษาโปรแกรม ABC, C และ Bourne shell มีข้อจำกัดมากมาย ทั้งเรื่องใช้เวลาในการพัฒนานานมากและไม่สามารถตอบโจทย์หลายประการ ดังนั้น Guido จึงได้ตัดสินใจเริ่มพัฒนาภาษาโปรแกรมระดับสูงขึ้นมาใหม่เพื่อใช้งานเองเป็นงานอดิเรก โดยนำเอาสิ่งที่ชอบในภาษา ABC มาพัฒนาลงไปในภาษาโปรแกรม Python รวมถึงได้พัฒนาส่วนอื่น ๆ เพิ่มเติมเข้าไป และในเวลาต่อมาจึงได้เผยแพร่ Python 1.0 เวอร์ชันแรกในปี 1994 ถ้าลองเทียบกับภาษา Java ที่ได้ทำการเผยแพร่เวอร์ชันแรกในปี 1996 จะเห็นได้ว่าภาษา Python มีอายุมากกว่าภาษา Java ถึง 2 ปี

ส่วนที่มาของชื่อภาษาโปรแกรม Python ชื่อแรกที่เข้ามาในความคิดของ Guido ก็คือ มอนตี้ ไพธอน: ละครสัตว์เหินหาว (Monty Python’s Flying Circus) ซึ่งเป็นชื่อรายการโทรทัศน์ทางช่อง BBC แนวตลกชื่อดังจากฝั่งอังกฤษที่เขาชื่นชอบมาก ๆ โดยเขาให้เหตุผลว่า “Python” เป็นชื่อที่สั้น จำได้ง่าย ฉีกแนวนิดๆ และดูลึกลับ ในตอนนั้นโดยทั่วไปมักจะนิยมเอาชื่อของบุคคลที่มีชื่อเสียงมาใช้เป็นชื่อภาษาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ เช่น Ada, Pascal และ Eiffel ถึงแม้ว่าทีมนักแสดงในรายการจะไม่ได้มีชื่อเสียงทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีก็ตาม นี่คือเหตุผลที่มาที่ไปของชื่อภาษา Python นอกจากนั้น Guido ยังใช้ชื่อของนักแสดงตลกชาวอังกฤษชื่อดังและเป็นหนึ่งในสมาชิกผู้ก่อตั้งทีม Monty Python ที่ชื่อ Eric Idle มาใช้เป็นชื่อ IDE หรือเครื่องมือที่ใช้ในการพัฒนาโปรแกรมว่า “IDLE” อีกด้วย 

เราควรจะเลือกศึกษาเวอร์ชัน Python 2.x หรือ Python 3.x?

           นับจากวันนั้นถึงวันนี้ Python ได้มีการพัฒนาภาษาขึ้นมาเรื่อย ๆ ในปัจจุบันภาษาโปรแกรม Python มีเวอร์ชันให้เลือกใช้งานคือ Python 2.x และ Python 3.x ซึ่งเผยแพร่มาตั้งแต่ในปี 2000 และ 2008 ตามลำดับ ซึ่งปัญหาทั่วไปของผู้เริ่มต้นศึกษาการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python คือการตัดสินใจเลือกใช้งานระหว่างเวอร์ชัน Python 2.x หรือ Python 3.x ควรใช้เวอร์ชั่นไหนดีกว่ากัน?

จากข้อมูลเบื้องต้น Python 2.x จะไม่มีการเพิ่มเติมฟีเจอร์และฟังก์ชันใหม่ใด ๆ และไม่ได้รับการสนับสนุนไปตั้งแต่วันที่ 1 เดือนมกราคมปี 2020 แล้ว

ดังนั้นผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นศึกษาการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python จึงขอแนะนำให้ตัดสินใจเลือกเวอร์ชัน Python 3.x ไปเลย ยิ่งไปกว่านั้น Python 3.x จะมีการพัฒนาฟีเจอร์และฟังก์ชันใหม่เพิ่มเติมอีกในอนาคต ส่วนโมดูลและไลบรารีต่าง ๆ ในปัจจุบัน สามารถรองรับการทำงานของเวอร์ชัน Python 3.x ได้แล้ว

ทำไมต้องเรียน Python?

           อย่างที่บอกไปว่า Python เป็นภาษาที่บริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ หลายบริษัทได้นำภาษานี้มาใช้ในการพัฒนาระบบต่าง ๆ ต่อองค์กร และเทคโนโลยีหลาย ๆ อย่างที่อยู่รอบตัวเราส่วนใหญ่ก็มาจากคำสั่ง Python เพื่อให้รับมือและเท่าทันเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต การเรียนรู้ Python ไว้จะทำให้เราเข้าใจและเท่าทันกับเรื่องเทคโนโลยีได้เป็นอย่างดี อีกทั้งภาษา Python จะช่วยฝึกฝนการใส่ชุดคำสั่งอย่างเป็นระบบ ฝึกกระบวนการคิด ที่แม้ว่าคุณจะไม่ได้เก่งเทคโนโลยีก็สามารถเริ่มต้นได้

บทความนี้ได้อธิบายเกี่ยวกับภาษาโปรแกรม Python ว่าคืออะไร? รวมถึงเรื่องราวเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับที่มาของชื่อ “Python” และ “IDLE” ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ส่วนผู้ที่สนใจอยากรู้ว่าว่ารายการ Monty Python’s Flying Circus มีความตลกมากแค่ไหนถึงทำให้ Guido ชื่นชอบมากจนนำเอามาตั้งเป็นชื่อของภาษา ได้ก็สามารถเข้าไปชมได้ที่ Netflix ได้นะครับ

อ้างอิง

http://python-history.blogspot.com/2009/01/personal-history-part-1-cwi.html

Show

Python ภาษาคอมพิวเตอร์อันดับแรกๆ ของโลก ที่ใครๆ ก็พูดถึง มาเรียนรู้กันว่า Python คืออะไร? ทำอะไรได้บ้าง และอะไรที่ทำให้ Python ถูกมองว่าเป็นทักษะพื้นฐานแห่งอนาคต

โปรแกรมหรือเครื่องมือที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมภาษาไพทอน ได้แก่ บอกมา 3 โปรแกรม

Python คืออะไร? ทำอะไรได้? ทำไมต้องเรียน? จบในบทความเดียว

หัวข้อในบทความนี้

  • Python คืออะไร?

  • บทเรียนฟรี Python คืออะไร?

  • ทำไมต้องเป็น Python

  • บทเรียนฟรี ทำไมต้องเป็น Python?

  • Python ทำอะไรได้บ้าง?

Python คืออะไร?

Python คือ ภาษาคอมพิวเตอร์หรือชุดคำสั่งที่ใช้เขียนเพื่อสั่งงานคอมพิวเตอร์ให้ทำตามคำสั่งต่างๆ โดย Python ถูกสร้างโดย คุณ Guido Van Rossum ในช่วงทศวรรษ ค.ศ.1990 โดยมีจุดเด่นที่เน้นให้ใช้งานได้ง่าย สร้างการทำงานต่างๆ ได้รวดเร็ว และมีโครงสร้างที่เรียนรู้ได้ง่าย

โปรแกรมหรือเครื่องมือที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมภาษาไพทอน ได้แก่ บอกมา 3 โปรแกรม

คุณ Guido Van Rossum ผู้สร้างภาษา Python

เรียนรู้ว่า Python คืออะไร? กับบทเรียนฟรี

บทเรียนฟรี Python คืออะไร พร้อมปูพื้นฐานการสร้าง Bot ด้วย Python บน Jupyter Notebook ฉบับรู้พื้นฐาน ใช้งานได้จริงทันที

ทำไมต้องเป็น Python

Python เป็นภาษาที่ถูกออกแบบเพื่อให้เรียนรู้ อ่าน ใช้งานได้ง่ายตั้งแต่เริ่มต้นออกแบบบบ นอกจากนี้ Python ยังเป็นภาษาในตระกูล Interpreted Language ซึ่งมีโครงสร้างที่ไม่ซับซ้อน กล่าวคือ เป็นภาษาที่ใช้เพื่อเขียนไฟล์คำสั่ง และจึงนำไฟล์คำสั่งไปใช้งาน

แตกต่างจาก Compiled Language ที่เมื่อเขียนโค้ดเสร็จ จะต้องผ่านกระบวนการ Compile เพื่อสร้างโปรแกรมจากคำสั่ง ก่อนจะนำโปรแกรมไปใช้งาน

โครงสร้างนี้ ประกอบกับชุดคำสั่งสำเร็จรูปที่ช่วยให้การประยุกต์ใช้ทำได้หลากหลาย ทำได้แทบทุกอย่าง ทำให้ Python กลายเป็นภาษาที่ได้รับความนิยมในการเป็นภาษาแรกในการเรียนการเขียนโปรแกรม และการสร้างโปรแกรมระดับย่อย ช่วยทำงานต่างๆ ให้ง่ายขึ้น

เรียนรู้ว่า Python เจ๋งอย่างไร ผ่านการใช้ชุดคำสั่งสำเร็จรูป PyautoGui กับบทเรียนฟรี

Python ทำอะไรได้บ้าง?

ความหลากหลายของชุดคำสั่งสำเร็จรูป การออกแบที่มือใหม่เรียนรู้ได้ง่าย และโครงสร้างที่สามารถใช้สร้างโปรแกรมเล็กๆ ได้ง่าย ทำให้ Python เป็นภาษาที่สามารถใช้งานได้หลากหลายมากที่สุดภาษาหนึ่ง วันนี้เรามาดูกันว่า Python ทำอะไรได้บ้าง

สร้างเครื่องมือ, ระบบทำงานออฟฟิศ

ในทุกอาชีพมีงานบางงานที่มีร่วมกัน ที่มีขั้นตอนง่ายๆ แต่ต้องทำบ่อยๆ ซ้ำๆ ทำให้เมื่อมองภาพรวมแล้วงานเหล่านี้กินเวลาการทำงานไม่ใช่น้อยเลย

ไม่ว่าจะเป็นการดึงข้อมูล การทำรายงานจากข้อมูล Excel, การนำข้อมูลไปสร้างเอกสารใน Words, การกรอกข้อมูลลงบนเวปไซต์, การอัพโหลด ดาวน์โหลดเอกสาร, การย้ายไฟล์ หรือแม้แต่งานใหม่ๆ อย่างการเก็บข้อมูลบนหน้าเวปเพื่อนำข้อมูลมาวิเคราะห์

งานเหล่านี้ เราสามารถใช้ Python สร้างเครื่องมือ หรือแม้แต่ออกแบบเป็นระบบเพื่อทำงานที่มีหลายขั้นตอนได้ทันที

ใช้ในการคำนวน

หนึ่งในเครื่องมือที่มีให้หยิบใช้ได้ทันที คือ เครื่องมือที่ใช้ในการคำนวนต่างๆ โดยเฉพาะในเชิงสถิติ และการแสดงผลการคำนวนเป็นกราฟ

ความนิยมและเครื่องมือที่มีหลากหลายทำให้การศึกษาในระดับมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้องกับการคำนวนมีการบรรจุ Python เข้าเป็นส่วนหนึ่งของการเรียน และรวมไปถึงการใช้ในการวิจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นในสาขาวิศวกรรม, เศรษฐศาสตร์, การเงิน และด้านวิทยาศาสตร์

ทำให้ Python ยิ่งเข้าถึงคนทั่วไปยิ่งขึ้น และกำลังกลายเป็นทักษะที่หลายคนมีติดตัวในลักษณะเดียวกันกับทักษะในการใช้งานโปรแกรมเอกสารอย่าง Words, Excel และอื่นๆ

ใช้เกี่ยวกับ ข้อมูล, Data, AI

หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ Python ถูกถึงมากที่สุดนั่นคือการประยุกต์ใช้เพื่อทำงานเกี่ยวกับข้อมูลตั้งแต่การเก็บข้อมูล จัดการข้อมูล และนำไปใช้ในศาสตร์ของ Data Science, AI

ข้อมูลทำให้เราสามารถวัดผล และช่วยพัฒนาประสิทธิภาพในสิ่งที่เราต้องการทำได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการเก็บข้อมูลการซื้อของลูกค้าเพื่อปรับสินค้าให้ตอบโจทย์ลูกค้ายิ่งขึ้น, การเก็บข้อมูลการใช้งานเวปไซต์เพื่อออกแบบหน้าเวปให้ดึงดูดการใช้งานมากยิ่งขึ้น

ตัว Python มีความเกี่ยวข้องกับทุกขั้นตอนตั้งแต่เก็บข้อมูลจนนำไปใช้ นอกจากนี้ยังสามารถสร้างโปรแกรมทำความเข้าใจข้อมูล รวมไปถึงโปรแกรมที่เรียนรู้จากข้อมูลที่เรียกว่า AI อีกด้วย

ใช้สร้างเวปไซต์

การสร้างเวปไซต์ประกอบด้วยหลายส่วนตั้งแต่ หน้าเวป ระบบจัดการข้อมูล จนไปถึงการคำนวนต่างๆ ซึ่ง Python เองมีเครื่องมือหลายตัวที่นำมาใช้งานประกอบขึ้นเป็นเวปไซต์ที่สมบูรณ์ได้

ไม่ว่าจะเป็นเวปไซต์ชื่อดังอย่าง Facebook, Google, Netflix, Instagram ก็มีการใช้งาน Python เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างเวปไซต์ของพวกเขา

ทำ IoT

เป็นอีกหนึ่งสาขาที่น่าสนใจว่าด้วยเรื่องการทำงานร่วมกันของสิ่งของต่างๆ รอบตัวที่มีพื้นฐานจากการเชื่อมต่อกันของอุปกรณ์แต่ละชิ้น พร้อมการประมวลผลตีความข้อมูลต่างๆ

ในปัจจุบันการเรียนรู้เกี่ยวกับ IoT ทำได้ง่ายยิ่งขึ้นเนื่องในอุปกรณ์อย่างเช่น Raspberry Pi ที่เป็นหน่วยประมวลผลที่สามารถเชื่อมต่อเซนเซอร์ เขียนโปรแกรมสั่งงานด้วย Python ได้ด้วย

จุดเด่น = ช่วยเสริมงานอื่น

ด้วยความแพร่หลายของ Python ทำให้มีการสร้างคำสั่งสำเร็จรูปที่ประยุกต์ใช้งานไว้หลากหลาย แทบจะมากที่สุดของทุกภาษา ดังนั้นไม่ว่าคุณจะทำงานอะไรอยู่ คุณสามารถเรียนรู้เครื่องมือเหล่านี้ และประยุกต์ใช้งานได้ทันที

เมื่อเครื่องมือมีความแพร่หลายมาก ถ้าจะบอกว่าการประยุกต์ใช้ Python มีข้อจำกัดอยู่ที่ความคิดสร้างสรรค์นั่นก็อาจจะไม่ใช่เรื่องเกินจริงมากนัก

เรียนเรียน Python จาก 0 พร้อมการดูแลจาก 0

เรียนจาก 0 ปูพื้นฐานแบบใช้งานได้จริง พร้อมเรียนสร้างบอทรอบตัว เรียนกับ Bootcamp 8 สัปดาห์ Bootcamp ลดงานด้วย Python

ดูรายละเอียด Bootcamp ได้ที่นี่

https://upython.co/p-bootcamp

โปรแกรมหรือเครื่องมือที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมภาษาไพทอน ได้แก่ บอกมา 3 โปรแกรม

#UltimatePython #ลดงานด้วยPython #อัพทักษะยุคหุ่นยนต์

โปรแกรมหรือเครื่องมือที่ใช้ในการเขียนโปรแกรมภาษาไพธอนได้แก่อะไรบ้าง

เครื่องมือสำหรับเขียน ภาษา Python Editor. การทำซ้ำลูป for ในไพทอน Python for Loop Statements. การสร้างฟังก์ชั่น ในไพทอน Python Defining function โดยมี Keyword Arguments. ฟังก์ชั่น globals() locals() ในไพทอน Python มีฟังก์ชั่นไว้เช็ค namespaces.

การเขียนโปรแกรมด้วยภาษาไพทอน(Python) คืออะไร

Python เป็นภาษาการเขียนโปรแกรมที่ใช้อย่างแพร่หลายในเว็บแอปพลิเคชัน การพัฒนาซอฟต์แวร์ วิทยาศาสตร์ข้อมูล และแมชชีนเลิร์นนิง (ML) นักพัฒนาใช้ Python เนื่องจากมีประสิทธิภาพ เรียนรู้ง่าย และสามารถทำงานบนแพลตฟอร์มต่างๆ ได้มากมาย ทั้งนี้ซอฟต์แวร์ Python สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ผสานการทำงานร่วมกับระบบทุกประเภท และเพิ่มความเร็วใน ...

โปรแกรมPythonมีความสามารถทําอะไรได้บ้าง

ด้วยความสามารถของ Python ที่สามารถประมวลผลและถ่ายทอดงานที่ซับซ้อนออกมาได้เป็นอย่างดี และยังมี Library ที่สนับสนุนอยู่มาก จึงเป็นภาษาที่คนส่วนใหญ่นิยมนำไปประยุกต์ใช้กับศาสตร์แขนงอื่นๆได้อย่างง่ายดาย เช่น Machine learning Project อย่างการสร้าง emoji หน้าตัวเองด้วย Python หรือการ run code AI ก็จะมีประสิทธิภาพและรวดเร็วมาก ...