Professional profile แปลว่า

โดยปกติแล้วในการเขียน Resume สมัครงาน ของผู้สมัครงานนั้นจะมีรูปแบบ ที่หลากหลาย แตกต่างกันไปอย่างมาก ขึ้นอยู่ว่า ผู้สมัครงานได้ศึกษาการเขียน Resume สมัครงานมาอย่างไร แบบไหน รวมถึงการนำเสนอตัวเองออกไปในการเขียน Resume สมัครงาน

โดยตลอดระยะเวลาที่พี่เบ็น ในฐานะผู้มีประสบการณ์ Headhunter ทั้งในประเทศไทย และสิงค์โปร ที่มีโอกาสได้อ่าน Resume สมัครงาน มามากกว่า 2,000 ฉบับต่อปี จะมี 1 สิ่ง ที่สำคัญมาก ๆ ที่ทำให้ Resume สมัครงาน ของผู้สมัครงานหลาย ๆ ท่าน ไม่ผ่านการคัดเลือก หรือถูกปัดตกไป ภายในระยะเวลาไม่กี่วินาที

Professional profile แปลว่า

คือการที่ผู้สมัครงาน ไม่สามารถนำเสนอประวัติการทำงาน ลงในกาเขียน Resume สมัครงานได้อย่างไม่ถูกต้อง ไม่มีท่อนใจความที่สำคัญที่สุดของ Resume นั่นก็คือ “ท่อนสรุป หรือ Profile/Summary” นั่นเองครับ

ทำความเข้าใจ ถึงเปิดรับสมัครงาน ใน 1 ตำแหน่งงาน

ก่อนอื่น พี่เบ็นอยากให้ผู้อ่าน ทำความเข้าใจถึงสิ่งที่ บริษัทที่เปิดรับสมัครงานต้องการกันก่อน สำหรับการเปิดรับสมัครงานใหม่ ในแต่ละครั้ง

โดยปกติแล้วของทางฝ่ายบุคคล (HR) หรือ หัวหน้างาน (Hiring Manager) จะมีสิ่งที่พวกเขามองหาสำหรับ ผู้สมัครงาน (candidate) ในตำแหน่งงานนั้น ๆ ประกอบไปด้วย ประสบการณ์การทำงานของผู้สมัครงาน รวมถึงความสามารถต่าง ๆ ที่ตรงกับ ตำแหน่งงานที่เปิดรับสมัคร

ปกติ HR หรือหัวหน้างาน มักจะใช้เวลาเฉลี่ยนเพียงแค่ 10-15 วินาทีเท่านั้น ต่อการอ่านประวัติการทำงานของเราใน Resume (กล่าวคือ การอ่าน Resume แบบ Skim คือการอ่านคร่าว ๆ) และบางครั้งอาจใช้เวลาไม่ถึง 5 วินาทีด้วยซ้ำ

นั่น หมายความว่า หากผู้สมัครงาน ไม่สามารถเขียน Resume สมัครงาน ให้ตรงจุด กับสิ่งที่ HR หรือ หัวหน้างานกำลังมองหา ที่ทำให้สามารถอ่านเจอได้ง่าย ภายใน 10-15 วินาที ก็มีโอกาสสูงมาก ที่จะไม่ได้ถูกคัดเลือก เข้าสัมภาษณ์งาน ในลำดับต่อไป

ทำไม HR ถึงใช้เวลาน้อยมากในการอ่าน Resume?

เหตุผลที่ ฝ่าย HR และหัวหน้างาน ใช้เวลาน้อยมากในการอ่าน Resume ที่ถูกส่งเข้ามา เพราะในการเปิดรับสมัครงาน 1 ตำแหน่งงานนั่น หากเป็นบริษัทใหญ่ จะมีการได้รับ Resume สมัครงานเข้ามา ไม่ต่ำกว่า 300 ฉบับ (และบางครั้งอาจถึง 500 ฉบับ)

ซึ่งทำให้ HR หรือหัวหน้างาน ที่มีหน้าที่คัดเลือกผู้สมัครที่ตรงกับตำแหน่งงาน มาสัมภาษณ์งาน (Job Interview) ต้องใช้เวลาในการคัดเลือกที่น้อยลง ด้วยจำนวนใบสมัครงานที่มากขขึ้นนั่นเองครับ

ท่อน Profile/Summary ในการเขียน Resume สมัครงาน

จากที่เราอ่านมาข้างต้น กล่าวได้ว่า ท่อน Profile/Summary คือ การสรุปเนื้อหาสำคัญของ ประสบการณ์ทำงาน (Work Experience), ประวัติการศึกษา (Education), เพิ่มเติมด้วยความสามารถต่าง ๆ (Technical Skill) เพื่อบ่งบอกว่าเราคือใคร ? ทำงานสายงานอะไรได้เป็นพิเศษ? และมีความสามารถที่โดดเด่น แตกต่างอย่างไร?

ดังนั้น สิ่งที่ผู้สมัครงาน ควรทำมากที่สุดคือ ในการเขียน Resume สมัครงาน ก็คือ “ท่อนสรุป หรือ Profile Summary” ให้โดดเด่นมากกว่าผู้สมัครท่านอื่น ๆ ด้วยสรุปเนื้อหา ประสบการณ์ ความสามารถต่าง ๆ สิ่งที่ประสบความสำเร็จ (Achievement) ให้ตรงกับตำแหน่งงานที่สมัครให้มากที่สุด โดยอย่าลืมว่า

“1 Resume ที่เราเขียนขึ้น สามารถใช้สมัครงานได้แค่ 1 ตำแหน่งงาน เท่านั้น”

เพราะการเขียน Resume สมัครงาน จะต้องประกอบไปด้วย คำสำคัญต่างๆ (Keywords) ในตำแหน่งงานที่เราสมัคร รวมถึงการสรุปประสบการณ์งานของเรา โดยใช้ภาษาเดียวกัน กับบริษัทที่เราสมัครงาน (Hiring Manager Language) และเพื่อที่จะให้ Resume ของเราโดดเด่น และเป็นที่จับตามองของ HR และ หัวหน้างาน

พี่เบ็นเลยได้สรุปออกมาเป็น เทคนิคเขียน Resume สมัครงาน ให้ HR สนใจใน 5 วินาที โดยพี่เบ็นจะแบ่งออกเป็น 3 เทคนิคด้วยกัน

เทคนิคที่ 1 การใช้ Bullet Point ในท่อน Profile/Summary ของการเขียน Resume สมัครงาน

การเขียนเนื้อหา ด้วยการใช้เทคนิค Bullet Point จะสามารถทำให้ผู้อ่านเนื้อหา สามารถอ่านได้อย่างสบายตา รู้จุดเริ่มต้น และจุดจบของเนื้อหา ทำให้สามารถเก็บข้อมูล และเรียบเรียงเนื้อหาได้อย่างเป็นระบบมากกว่าการเขียนเนื้อหาแบบเป็น parahraph

Professional profile แปลว่า

โดยเบ็นแนะนำ ให้เราเขียน Profile Summary ด้วย 3-4 bullet points และในแต่ละ Bullet Point จะต้องมีการนำเสนอข้อมูลประวัติของเรา แบบมีกลยุทธิ์ (Strategy) ด้วยครับ เช่น

  • เน้นประสบการณ์งานที่สำคัญ (Professional Experience),
  • เน้นในเรื่องความความสามารถ
  • เน้นประวัติการศึกษา

โดยให้เราต้องเขียนออกมาให้เชื่อมโยงกับตำแหน่งงานที่เราสมัคร (Job Position) โดยให้มองลึกลงไปถึงหน้าที่ และความรับผิดชอบต่าง ๆ (Job Description) ของตำแหน่งงานนั้น ๆ ครับ

เพื่อที่ ประวัติการทำงานของเราจะตรงกับ ตำแหน่งงานที่สมัคร มากที่สุด และ จะทำให้ HR และ หัวหน้างาน เห็นความเชื่อมโยงของเรา กับตำแหน่งที่เปิดรับ และอยากเรียกเราสัมภาษณ์งาน ในที่สุดนั่นเอง

เทคนิคที่ 2 การใส่ข้อมูล ความสามารถเฉพาะทาง ความสามารถอื่น ๆ ลงในการเขียน Resume สมัครงาน

ลำดับต่อ คือเนื้อหาที่พี่เบ็นเกริ่นไปในข้างต้น คือการใส่ความสามารถอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากตำแหน่งงานปัจจุบันของเราลงไปในการเขียน Resume สมัครงานในท่อน Profile Summary ด้วยยกตัวอย่างแบบชัดจน ให้กระชับ สั้น ที่สามารถแสดงความสามารถเราได้เป็นอย่างดี

เพิ่มเติม คือ เราสามารถใส่ข้อมูลทางโปรแกรม คอมพิวเตอร์ ต่าง ๆ (Software/ Computer Skill) ซึ่งหลาย ๆ ตำแหน่งงานที่สมัคร ก็มีการระบุถึงผู้สมัครงานจะต้องมีความสามารถด้านนี้ และถ้าเรามีใบรับรอง (Certification) รางวัล (Award) ร่วมถึงใบประกาศการเข้าอบรมคอร์ส ต่าง ๆ ก็สามารถที่จะใส่ลงในส่วนนี้ได้เช่นกันครับ

Professional profile แปลว่า

เทคนิคที่ 3 การใส่ความรู้ทางด้านภาษา และ ข้อมูลที่สำคัญเพิ่มเติม ลงในการเขียน Resume สมัครงาน

ถัดมา อาจจะเป็น Bullet สุด คือการใส่ความรู้ทางด้านภาษา ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ต่อการสมัครงานเช่นกันครับ โดยเราสามารถระบุลงไปใน ท่อน Profile/Summary ของการเขียน Resume ได้เลยครับ

โดยให้เราใส่ความสามารถทางด้านภาษา ด้วยการบอกเป็นระดับความสามารถทางภาษาของเราได้ (Level) หรือ คะแนนรับรองทางด้านภาษา (TOEIC, IELTS, TOEFL) เป็นต้น

โดยเฉพาะสำหรับ นิสิต นักศึกษา เด็กจบใหม่ เรายังสามารถใส่ข้อมูล การฝึกงาน (Internship Experience) กิจกรรม (Activity) และ การเป็นอาสาสมัครต่าง ๆ (Volunteer Experience) รวมถึง โปรเจคงานวิจัย และ รางวัล ที่ได้รับ ลงในท่อนนี้ได้เช่นกันครับ

Professional profile แปลว่า
Thank you word cloud on yellow sticky note paper with different or multi languages

ในส่วนของคนทำงาน ที่มีประสบการณ์ สามารถเน้นข้อมูลรางวัล (Award) ที่ได้รับต่าง ๆ และ ถ้ามีผลงานอะไรที่โดดเด่น พิสูจน์ได้ (Achievement) ก็สามารถใส่ลงมาด้วย ได้เช่นกัน

โดยพี่เบ็น อยากให้ผู้อ่านจำไว้ว่า สิ่งที่เราเขียนลงไปทั้งหมดนั้น เพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้ใบสมัครงาน หรือ Resume ของเราให้มากที่สุด มากกว่าผู้สมัครงานท่านอื่น ๆ ดังนั้น ข้อมูลจุดไหนที่คิดว่าใส่ลงไปแล้ว เราไม่มั่นใจว่า จะเป็นการเพิ่ม หรือลด ความโดดเด่นของเรา พี่เบ็นขอให้เลี่ยง ไม่ใส่ข้อมูลชุดนั้นจะดีกว่าครับ

ตัวอย่าง ท่อน Profile/Summary ในการเขียน Resume สมัครงาน

พี่เบ็น ได้ลองเขียนตัวอย่างการเขียน Profile/Summary ออกมา 2 ตัวอย่าง โดนทั้ง 2 ตัวอย่างนี้ จะเป็นตัวอย่างของผู้สมัครงาน ที่มีประสบการณ์งานประมาณ 2-3 ปี

โดยพี่เบ็น พยายามเขียนออกมาให้ กระชับ สั้น และ โดดเด่น ให้มากที่สุด เพื่อเป็นแนวทางการเขียน Profile/Summary ของผู้อ่านต่อไปครับ

(หมายเหตุ ถ้าเรามีประสบการณ์งานมากกว่า 5 ปีขึ้นไป ต้องเขียนเนื้อหา ท่อนสรุป Summary ของเรซูเม่ ให้เนื้อหามากกว่านี้ ตามเนื้องานและประสบการณ์งานของเราครับ)

ตัวอย่าง 1:  การเขียน Summary/Profile ของ ตำแหน่งงาน ฝ่ายขาย

PROFILE

  • Sales professional in the Automotive industry with proven strong delivery sales target and excellent in representing financial sales report.
  • Having a strong working knowledge of Sales Force Automation (SFA), Microsoft Office, and sales training programs.
  • Fluent in English and Thai both verbal and written communication with MBA background.

ตัวอย่าง 2:  การเขียน Summary/Profile ของ ตำแหน่งงาน ฝ่ายบัญชี

SUMMARY

  • Certified Public Accountant (CPA) student with 3 years of administrative professional in executing basic account duties within the education industry.
  • Skilled with Microsoft Excels (VLookup, VBA) and accounting concepts.
  • Having the knowledgeable in education services and products, and good communication in English.

จะเห็นว่า ถ้าเราสามารถสรุป ท่อน Profile/Summary ลงในการเขียน Resume สมัครงาน ได้ ก็จะเพิ่มความน่าสนใจ และความโดดเด่นของ Resume สมัครงาน ของเราได้เป็นอย่างมาก

ตาคุณแล้ว

พี่เบ็นขอให้ผู้อ่าน ได้ไปฝึกฝนการเขียน ท่อนสรุป Profile/Summary ของ Resume ของตนเองให้ดี และที่สำคัญ เราต้องสามารถสรุปข้อมูลให้ตรงกับ ตำแหน่งงาน ที่เปิดสมัครงาน ให้ได้มากที่สุดครับ และเราจะสามารถเป็นผู้สมัครงานที่โดดเด่น จน HR ต้องหยุดอ่าน Resume ของเราภายใน 5 วินาที แน่นอนครับ